Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1858 การเปลี่ยนแปลงสะเทือนใต้หล้าของดาบหัก

ในห้องรับรองอีกห้อง ชายชราเคร่งขรึมเสื้อคลุมแดงคนหนึ่งสีหน้าอึมครึมจนน่ากลัว

ปึง!

มือข้างหนึ่งของเขาตบโต๊ะที่อยู่ข้างหน้าจนละเอียด ทั่วร่างแผ่เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ลุกโหมชวนประหวั่น ส่วนจิตรับรู้ของเขาก็วาดกวาดออกไป

น่าเสียดายที่ห้องส่วนตัวซึ่งหลินสวินอยู่ถูกตัดขาดด้วยพลังผนึก จิตรับรู้ไม่อาจตรวจสอบได้

“ก็ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าสวะคนไหน ถึงกับกล้าแย่งสมบัติกับข้า!”

ชายชราเสื้อคลุมแดงสีหน้าอึมครึมจนน่ากลัว

ข้างกายเขามีชายหญิงมากมายห้อมล้อม ล้วนเงียบกริบดังจักจั่นเดือนหนาว ตื่นตระหนกไม่หยุด

ชายชราเสื้อคลุมแดงมีนามว่าซั่งซง มีสมญาที่โด่งดังในแคว้นเขียวว่า…

ผู้อาวุโสเพลิง!

ปฐมาจารย์สลักลายมรรคคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมานานปี เดินไปที่ไหนล้วนได้รับความเคารพ

ชายหญิงข้างกายพวกนั้นล้วนเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสเพลิง

“ผู้อาวุโส แค่หินวิญญาณเร้นฟ้าใสก้อนหนึ่งเท่านั้น ต่อให้มีค่ามากแค่ไหนก็ไม่ควรค่ากับเงินมากเช่นนั้น ท่านอย่าเดือดดาลเกินไปเลย”

หญิงสาวคนหนึ่งพูดปลอบใจด้วยเสียงอ่อนโยน

“พวกเจ้าจะไปเข้าใจอะไร!”

ผู้อาวุโสเพลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นัยน์ตาอึมครึมน่ากลัว “ด้วยประสบการณ์หลอมสมบัติหลายปีของข้า สมบัตินี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่พวกเจ้าเห็น”

ชายหญิงพวกนั้นเพิ่งเข้าใจว่าเหตุใดผู้อาวุโสถึงทุ่มสุดตัวเช่นนี้

“หนึ่งล้านแปดแสน!”

ทันใดนั้นผู้อาวุโสเพลิงเสนอราคาอีกครั้ง ราคานี้ทำให้ใจเขาเลือดหลั่งริน

ในลานประมูลบรรยากาศเงียบสงัดยิ่งกว่าเดิม

ยามนี้ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนถูกทำให้ตกตะลึง หนึ่งล้านห้าแสนก็ทำให้พวกเขาแทบเป็นบ้าอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กลับประชันราคาจนทะยานถึงหนึ่งล้านแปดแสนในชั่วขณะเดียว!

ใครก็คิดไม่ถึงว่าเจตวัตถุก้อนหนึ่งที่แม้จะหายากไร้ใดเปรียบ แต่เทียบกันแล้วดูไม่ได้รับความนิยม จะประมูลออกไปด้วยราคาสูงลิ่วที่สามารถทำให้คนตกตะลึงอ้าปากค้างได้ในชั่วขณะเดียว!

นี่ก็คือราคาที่สูงที่สุดในหมู่สมบัติที่ร่วมประมูลทั้งหมดในงานจนถึงตอนนี้

“หรือเจตวัตถุนี้จะไม่ธรรมดา”

“ตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งซิ”

ในห้องรับรองบางส่วน ผู้ยิ่งใหญ่บางคนที่มาจากแคว้นเขียวก็ถูกทำให้ตกใจ ตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่ชอบมาพากล เกรงว่าเรื่องนี้คงมีความลับอื่นอีก

พวกเขาก็เริ่มสนใจเจตวัตถุก้อนนี้ใหม่อีกครั้ง

บนแท่นประมูล ผูหลันจือก็เกิดความสงสัยเช่นกัน ความเป็นมาของหินวิญญาณเร้นฟ้าใสนี้นางรู้ดีนัก ทั้งผ่านการประเมินจากนักประเมินทรัพย์หลายคนด้วยกันแล้ว ก็ยังไม่พบว่ามีจุดที่ควรค่าแก่การสนใจอะไร

จากการคาดเดาของนาง เจตวัตถุก้อนนี้ประมูลได้ถึงแปดแสนก็กำไรมหาศาลแล้ว แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับเหนือการคาดเดาของนางอย่างสิ้นเชิง

ชั่วขณะบรรยากาศในลานงานประมูลเปลี่ยนเป็นหนักอึ้งและแปลกประหลาดขึ้นมา

แต่ไม่ว่าคนใหญ่คนโตเหล่านั้นจะตรวจสอบอย่างไรก็สังเกตความผิดแปลกอะไรไม่ได้ ในใจต่างคาดเดาไม่ถูกอยู่บ้าง

การประชันราคาครั้งนี้เป็นเพราะเจตวัตถุก้อนนี้มีความลับอื่นอีก หรือเป็นแค่การต่อสู้ด้วยอารมณ์กันแน่

สำหรับเรื่องพวกนี้ หลินสวินคล้ายไม่รับรู้อะไร เสนอราคาอีกครั้ง

“สองล้าน”

เพียงไม่กี่คำแต่ราวกับฟ้าผ่า ทำให้ทั้งที่นั้นปั่นป่วน ตกอยู่ในความโกลาหล

“ในห้องรับรองนั้นมีอริยเทพจากที่ใดนั่งอยู่กันแน่”

“สองล้านผลึกมรรคเชียวนะ… นี่สามารถซื้อสมบัติอริยะที่ระดับคุณภาพไม่ธรรมดาได้ตั้งเท่าไหร่”

“ช่างร่ำรวยเหนือจินตนาการจริงๆ!”

แต่ตอนนี้ผู้อาวุโสเพลิงกลับโมโหจนเส้นเลือดดำตรงหน้าผากปรินูน โกรธจนควันออกหู

สองล้านผลึกมรรค!

แน่นอนว่าเขาจ่ายได้ แต่หากตอนนี้จ่ายค่าตอบแทนมากเช่นนี้ ในการประมูลต่อไปเขาต้องข้นแค้นแน่

สุดท้ายผู้อาวุโสเพลิงก็กัดฟันกรอด ยอมแพ้ในการประชันราคา

เขาออกคำสั่ง “พวกเจ้าออกไปตอนนี้ ตรวจสอบให้ดีว่าคนที่อยู่ในห้องรับรองนั้นมีฐานะอะไรกันแน่ ถึงกล้าเป็นศัตรูกับข้า รอเมื่องานประมูลสิ้นสุดจะทำให้เขาได้เจอบทเรียนอย่างสาสม!”

น้ำเสียงเผยไอสังหารสายหนึ่ง

สุดท้ายหินวิญญาณเร้นฟ้าใสก้อนนี้ที่ถูกประมูลไปด้วยราคาสูงลิ่วถึงสองล้านผลึกมรรค ไม่นานก็ส่งมาถึงห้องรับรองที่หลินสวินอยู่

พอจ่ายผลึกมรรคหลินสวินก็นำสมบัตินี้มาไว้ในมือ นัยน์ตาฉายแววประหลาดวูบหนึ่ง สมบัตินี้มีความประหลาดอื่นอีกดังคาด!

หินแร่ที่มีขนาดเท่ากำปั้นปรากฏสีฟ้าใสราวภาพฝัน พื้นผิวมีลายมรรคสีเงินเจ็ดสิบสองสายตามธรรมชาติ แสงใสเย็นดั่งดวงดาวหลายสายอบอวลออกมา

จินเทียนเสวียนเยวี่ยพิจารณาอยู่ข้างๆ แต่ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษ

แต่ในร่างของหลินสวินยามนี้ ดาบหักที่กระเหี้ยนกระหือรืออยู่ก่อนแล้วส่งสัญญาณมุ่งหวังปรารถนา ร้อนรนและเร่งรีบออกมา

ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะหินวิญญาณเร้นฟ้าใสก้อนนี้!

“แม่นางเสวียนเยวี่ย ตอนนี้ข้ามีเรื่องต้องทำ เจ้าช่วยคุ้มกันข้าด้วย”

หลินสวินพูดพลางยกมือทำมุทรา

วู้ม!

กลางอากาศมีผนึกลายมรรคที่เร้นลับแน่นหนาแถบหนึ่งร้อยถักออกมา ปกคลุมหลินสวินรอบด้าน

ความเชี่ยวชาญด้านลายมรรคน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!

นัยน์ตากระจ่างของจินเทียนเสวียนเยวี่ยดูตกตะลึง แต่ไม่นานนางก็ผิดหวังอยู่บ้าง

เขาใช้กระบวนผนึกบดบังรอบด้าน เห็นชัดว่าไม่อยากให้ตนเห็นเรื่องที่เขาจะทำหลังจากนี้

‘เมื่อไหร่กันที่เจ้าจะเชื่อใจข้า…’ ในแววตากระจ่างดั่งดวงดาวของนางเผยความผิดหวังเสี้ยวหนึ่ง

แต่หลินสวินไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้

สาเหตุที่ทำเช่นนี้ก็ไม่ใช่เพื่อป้องกันจินเทียนเสวียนเยวี่ย แต่เพราะหากสมบัติอย่างดาบหักเผยออกมา ก็ไม่แน่ว่าอาจจะถูกจินเทียนเสวียนเยวี่ยมองฐานะของตนออก

ต้องรู้ว่าปีนั้นในแหล่งสถานคุนหลุน เขาสังหารคู่ต่อสู้ไปนับไม่ถ้วน สมบัติที่ใช้ทั้งหมดก็ถูกคนรู้จักคุ้นเคย!

ฟุ่บ!

ดาบหักพุ่งออกมาเหมือนหิวโหยมาหลายปี เปล่งแสงประกายเจิดจ้าออกมาปกคลุมหินวิญญาณเร้นฟ้าใสในมือของหลินสวินทันที

เปรี๊ยะๆๆ…

เสียงแตกหักถี่ๆ ดังขึ้น หินวิญญาณเร้นฟ้าใสที่ขนาดเท่ากำปั้นแตกละเอียด เศษหินดินทรายร่วงกราว หากภาพนี้ถูกผู้อาวุโสเพลิงเห็นเข้าจะต้องเจ็บปวดมากแน่นอน

เศษหินดินทรายพวกนั้นล้วนเป็นแก่นพลัง เป็นสิ่งสำคัญที่ใช้หลอมศาสตราอริยะบริสุทธิ์!

แต่ตอนนี้ดาบหักเหมือนไม่สนใจของพวกนี้เลย

ไม่ทันไรก็มีมุกวิญญาณขนาดเท่าไข่นกพิราบเม็ดหนึ่งที่เป็นสีเขียวมรกตถ้วนทั่ว บริสุทธิ์ไม่มีมลทินแม้แต่น้อยเผยออกมาท่ามกลางเศษหินดินทรายที่ร่วงหลุด

ฮูม…

แสงประกายสีเขียวเหลือคณาแผ่ออกมาจากไข่มุก

ในความรางเลือนหลินสวินประหนึ่งเห็นห้วงสมุทรสีเขียวมรกต ภายในนั้นเต็มไปด้วยพลังชีวิตมหามรรคที่เข้มข้น บริสุทธิ์ กว้างใหญ่ไพศาลโหมกระหน่ำ!

ความเข้มข้นของพลังชีวิตพวกนั้นทำเอาหลินสวินหยุดหายใจ ในหัวผุดนึกถึงวัตถุเทพอย่างหนึ่งที่บันทึกไว้ใน ‘คัมภีร์ร้อยสมุนไพรทั่วหล้า’ ขึ้นมา

‘แหล่งกำเนิดมรรควิญญาณเขียว ก่อเกิดในพื้นที่จักรวาลแรกกำเนิด เสมือนตัวอ่อนของโลก พลังชีวิตที่สะสมอยู่ภายใน คือแก่นแห่งสรรพชีวิต จุดเริ่มต้นแรกเริ่ม!’

สรุปง่ายๆ คือแหล่งกำเนิดมรรควิญญาณเขียวนี้ก็คือพลังชีวิตฟ้าประทานของโลกที่ถือกำเนิดในตอนแรกสุด ก็เหมือนไข่แดงในเปลือกที่เป็นแหล่งกำเนิดของชีวิต

จากบันทึกของคัมภีร์ร้อยสมุนไพรทั่วหล้า แหล่งกำเนิดมรรคฟ้าประทานเช่นนี้มีอยู่หลายประเภท โดยคร่าวแบ่งเป็นปัญจธาตุ หยินหยาง วาโยอสนีและคุณลักษณะดั้งเดิมอื่นๆ

แหล่งกำเนิดมรรควิญญาณเขียวก็เป็นหนึ่งในนั้น

นึกถึงตรงนี้หลินสวินก็อดสูดหายใจสะท้านไม่ได้ กำไรมหาศาลแล้ว!

แม้แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าในหินวิญญาณเร้นฟ้าใสก้อนหนึ่งจะซ่อน ‘แหล่งกำเนิดมรรควิญญาณเขียว’ เม็ดหนึ่งไว้เช่นนี้ มูลค่าของมันมหาศาล ไม่ใช่สิ่งที่ผลึกมรรคจะเทียบได้เลย!

ด้วยมันยากจะได้เห็นเกินไป ไม่อาจร้องขอ ไม่ว่าผู้ฝึกปราณคนไหนได้ไปก็ไม่มีทางนำออกมาขายแน่

ฮูม…

ดาบหักเปล่งประกาย กำลังดูดซับพลังของแหล่งกำเนิดมรรควิญญาณเขียวอย่างบ้าคลั่ง

มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ว่าพื้นผิวของดาบหักแผ่ลายมรรคบริสุทธิ์ดุจพญามังกรทองคำหลายสายออกมาอีกครั้ง

เดิมทีตอนอยู่ที่แหล่งสถานคุนหลุน ดาบหักดูดซับไอมรรคหลอมสมบัติไปมากจนมีลายมรรคบริสุทธิ์ถึงห้าสิบสี่สายแล้ว

และตอนนี้จำนวนของลายมรรคบริสุทธิ์ก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!

ทุกครั้งที่เพิ่มมาสายหนึ่ง กลิ่นอายของดาบหักก็แข็งแกร่งขึ้นช่วงหนึ่ง แสงขาวดุจหิมะที่แผ่ออกมาก็เหมือนภาพมายาและส่องประกายยิ่งกว่าเดิม

กระทั่งต่อมาดวงตาและจิตใจของหลินสวินก็ยังรู้สึกว่าปวดแสบ

ห้วงอากาศใกล้เคียงคล้ายว่าจะแบกรับไม่อยู่ ถูกฉีกกระชากเป็นรอยแยกนับไม่ถ้วนราวไหมทอ เสียงระเบิดดังอึกทึกสนั่นหู

หากไม่ใช่ว่าหลินสวินใช้พลังผนึกกันไว้ก่อนล่วงหน้า แค่เพียงลักษณ์ประหลาดนี้ก็ทำลายเครื่องประดับตกแต่งทุกอย่างในห้องรับรองนี้ได้หมดแล้ว!

‘แปดสิบเก้า เก้าสิบ เก้าสิบเอ็ด…’

หลินสวินจ้องมองการเปลี่ยนแปลงของดาบหัก ในใจก็เปลี่ยนเป็นเร่าร้อน

สมบัติอริยะบนโลกโดยคร่าวแบ่งเป็นสองประเภทใหญ่ อย่างแรกคือสมบัติอริยะทั่วไป อีกอย่างคือศาสตราอริยะบริสุทธิ์

สมบัติอริยะทั่วไปพบเจอได้บ่อย บุคคลระดับอริยะทั่วไปไม่มากก็น้อยล้วนมีสมบัติอริยะเช่นนี้ไว้ในครอบครอง ความแข็งแกร่งของอานุภาพเกี่ยวข้องกับระดับคุณภาพของสมบัติอริยะ

แต่ศาสตราอริยะบริสุทธิ์กลับพิถีพิถันอย่างมาก ไม่ใช่แค่หายาก ยามหลอมยังยากลำบากหาใดเปรียบ ทั้งต้องใช้วาสนาและจุดเปลี่ยนด้วย

โดยทั่วไปแล้ว อานุภาพของศาสตราอริยะบริสุทธิ์ย่อมแข็งแกร่งกว่าสมบัติอริยะทั่วไปที่อยู่ในระดับเดียวกันมาก ทั้งยังสามารถเข้าคู่กับศักยภาพแฝงทุกอย่างของผู้ฝึกปราณแล้วสำแดงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

จุดนี้คือสิ่งที่สมบัติอริยะอื่นไม่อาจเทียบอยู่โข

สิ่งสำคัญอยู่ที่ศาสตราอริยะบริสุทธิ์มี ‘ลายสมบัติบริสุทธิ์’ !

เมื่อลายสมบัติบริสุทธิ์ควบรวมออกมา อานุภาพของมันก็จะเกิดการแปรสภาพและเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกดิน!

เมื่อลายสมบัติบริสุทธิ์ควบรวมออกมาหนึ่งร้อยสาย พลังต่อสู้ของศาสตราอริยะบริสุทธิ์ก็จะแปรสภาพถึงขั้นสูงสุดใหม่ทั้งหมด เริ่มให้กำเนิด ‘ครรภ์วิญญาณอาวุธ’ ออกมา ทำให้พลังต่อสู้ของผู้ฝึกปราณยกระดับขึ้นเท่าตัว!

อันที่จริงก็คล้ายกับการฝึกทะลวงปราณของผู้ฝึกปราณมาก แค่วิวัฒนาการของศาสตราอริยะบริสุทธิ์ใช้ลายสมบัติบริสุทธิ์เป็นระดับขั้นเท่านั้น

เป้าหมายสุดท้ายคือควบรวม ‘วิญญาณอาวุธ’ ออกมา!

วิญญาณอาวุธมีสติปัญญา จิตใจ พลังปราณและพลังต่อสู้ แทบไม่ต่างอะไรกับผู้ฝึกปราณที่แท้จริงคนหนึ่ง

เพียงแต่วิญญาณอาวุธยากจะได้พบเห็นเกินไป ในหมู่ศาสตราอริยะบริสุทธิ์นับพัน ล้วนยากจะฟูมฟักวิญญาณอาวุธออกมา

แต่ขอแค่มีวิญญาณอาวุธ อานุภาพที่สำแดงออกมายามต่อสู้จะต้องน่ากลัวอย่างเหนือความคาดหมายแน่นอน!

เช่นวิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสารที่ชื่อว่าอู้เชวีย ตอนนั้นที่หุบเขาตะวันคล้อย ได้สังหารราชันอริยะอย่างง่ายดายราวเชือดไก่ อำมหิตหาใดเปรียบ

หรืออย่างเฟยหลันที่วิวัฒน์มาจากผีเสื้อราตรีสีเลือด จากคำพูดของอู้เชวีย เดิมทีก็เป็นวิญญาณอาวุธชิ้นหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘ระฆังมหามรรครวมศูนย์’

และเฟยหลันก็กำลังหาจุดเปลี่ยนของการแจ้งมรรคเพื่อบรรลุจักรพรรดิอยู่!

ตอนนี้ขณะที่ดาบหักแปรสภาพอย่างรวดเร็ว จำนวนของลายสมบัติบริสุทธิ์ของมันก็เริ่มเข้าใกล้หนึ่งร้อยเส้นแล้ว!

แต่สิ่งที่ทำให้หลินสวินผิดคาดคือ เมื่อจำนวนลายมรรคบริสุทธิ์ของดาบหักเพิ่มถึงเก้าสิบเก้าสายก็ไม่อาจยกระดับขึ้นอีก

เวลานี้พลังของแหล่งกำเนิดมรรควิญญาณเขียวเม็ดนั้นใกล้จะถูกดูดซับจนหมดแล้ว นี่ทำให้ในใจหลินสวินอดร้อนรนอยู่บ้างไม่ได้

เปรี๊ยะ!

ไม่ทันไรมุกที่วิวัฒน์จากแหล่งกำเนิดมรรควิญญาณเขียวก็แตกละเอียด กลายเป็นเถ้าละอองลอยล่อง

ในเวลานี้เอง ปลายยอดของดาบหักมีลายมรรคบริสุทธิ์ที่เลือนรางสายหนึ่งควบรวมออกมาทีละน้อย เพียงแต่เหมือนภาพมายาและเบาบางเป็นอย่างยิ่ง

แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ในชั่วขณะนี้จิตใจของหลินสวินก็ยังสั่นสะท้าน ในสมองมีเสียงดังตูม ภาพที่สั่นสะเทือนใจคนปรากฏออกมา…

ในความมืดมิดที่หนาแน่นไร้สิ้นสุด มีดวงตาคู่หนึ่งลืมขึ้นทันใด!

………………………

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset