Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1862 สังหารกึ่งจักรพรรดิติดต่อกัน

พร้อมกันนั้น

จินเทียนเสวียนเยวี่ยที่กำลังต่อสู้ดุเดือดอยู่กับพวกข่งอวี้ ภายในใจก็บีบรัด รู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายถึงขีดสุด

ในจิตรับรู้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายกระบี่สายนั้นของข่งอิน!

ใบหน้างามของนางพลันเปลี่ยนไป

แต่ยามนี้จะไปช่วยเหลือก็ไม่ทันแล้ว นางคนเดียว ใช้เขตแดนกระบี่เมืองจักรพรรดิขาวต่อสู้โรมรันกับมกุฎราชันอริยะหลายสิบคน เดิมก็เป็นขีดจำกัดแล้ว รู้สึกกินแรงหาใดเปรียบ

หนำซ้ำเหตุการณ์ยังเกิดกะทันหัน ต่อให้ร้อนรนและกังวลใจแค่ไหนก็เปลืองแรงเปล่า

พวกข่งอวี้เดิมทีสีหน้าไม่น่าดูยิ่ง

ถูกสตรีนางหนึ่งฉุดรั้งพวกเขาทั้งหมดเอาไว้ ทำเอาพวกเขาต่างตกใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกขายขี้หน้า

แต่เวลานี้ยามเมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายของกระบี่สายนี้ที่ข่งอินสำแดงออกมา นัยน์ตาของพวกเขาล้วนทอประกายพราวระยับ จิตใจไหวสะท้าน

กระบี่ที่น่ากลัวยิ่งนัก!

นี่จึงจะเป็นพลังอย่างแท้จริงของกึ่งจักรพรรดิ อยู่เหนือเหล่าอริยะ ครองอานุภาพน่าสะพรึงที่มีแต่ในระดับจักรพรรดิ!

ชวีเหราก็ลอบถอนหายใจโล่งอก

นางจำได้ นี่คือไพ่ตายของข่งอิน ชื่อว่า ‘เงากระบี่มหาสหัส’ หลอมรวมปราณกระบี่ทั่วร่างข่งอิน เคี่ยวกรำมาแปดพันปี สำแดงความสง่างามในกระบี่มรรคชัดเจน

แม้จะเป็นนาง ก็ยังทำได้เพียงหลบเลี่ยงประกายคมของกระบี่นี้!

‘เจ้าหนุ่มนี่ หากได้ตายภายใต้กระบี่นี้ก็คุ้มแล้ว…’

ขณะที่ในสมองชวีเหราเพิ่งจะปรากฏความคิดนี้

กระบี่สายนี้ของข่งอินก็ฟันลงไป

ตูม!

เงากระบี่นับพันก้องกระหึ่มครึกโครม ประหนึ่งนายกระบี่แห่งยุคนับพันคน ใช้อานุภาพหมื่นลักษณ์เซินหลัวกำราบลงมา

ฟ้าดินถูกแสงกระบี่ไพศาลส่องสะท้อน บาดตาไร้สิ้นสุด

ภูผาธาราในรัศมีสามพันลี้ ในเวลานี้ล้วนกลายเป็นเถ้าถ่านแหลกละเอียดอย่างไร้สุ้มเสียง ฝุ่นละอองปิดครอบเวิ้งฟ้า

แต่หลินสวินในเวลานี้กลับไม่สุขไม่ทุกข์ มีเพียงความคิดที่ไหวขยับ

ชิ้ง!

ดาบหักที่ดำทื่อไร้ประกาย ยามนี้ประหนึ่งตื่นขึ้นมา สาดแสงแพรวพราวถึงขีดสุดออกมาโดยพลัน พุ่งวาบขยับไหว

หนึ่งกระบวนวัฏจักรฟ้า!

เพียงแต่อานุภาพในเวลานี้กลับทะยานขึ้นหนึ่งเท่าตัว!

หนึ่งเท่า ดูแล้วไม่เท่าไร แต่กลับเทียบเท่าการผสานพลังต่อสู้พลิกฟ้าของหลินสวินสองคน

และนี่ก็คือการเปลี่ยนแปลงสะท้านโลกที่เกิดขึ้นหลังจากดาบหักดูดซับแหล่งกำเนิดมรรควิญญาณเขียว เป็นครั้งแรกที่ถูกหลินสวินปลดปล่อยพลังของมันออกมาถึงขีดสุด

ก็เห็นว่าดาบหักพุ่งโฉบ พริบวาบราวกับแสงเคลื่อน ปราดเปรียวดุจมายา

และทุกแห่งหนที่โฉบผ่าน ปราณกระบี่นับพันที่ปิดครอบเบียดเสียดนั้น ถูกซัดทลายแหลกกระจุยอย่างไร้สุ้มเสียงจนหมดสิ้น มลายหายลับไป

ปราณกระบี่เหล่านั้นแสบตายิ่งกว่าแสงอาทิตย์ สว่างไสวหาใดเปรียบ

ทว่าภายใต้การบั่นเฉือนของดาบหักนี้ กลับหม่นหมองสุดขีด!

พูดแล้วเหมือนช้า แต่ความจริงทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นในชั่วขณะ เร็วจนผู้คนมองไม่ถนัดตา

เคร้ง!

ท่ามกลางเสียงกระแทกที่สะเทือนฟ้าดิน กระบี่มรรคเล่มนั้นของข่งอินส่งเสียงครวญ ลอยคว้างออกไปอย่างจัง

ตัวข่งอวี้เองก็สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ถูกพลังย้อนกลับ หน้าเปลี่ยนสีทันควัน

เงากระบี่มหาสหัส นี่เป็นถึงทีเด็ดไม้ตายที่เขามั่นใจที่สุด เป็นวิชาชั้นยอดที่เขาเคี่ยวกรำมาแปดพันปีในระดับกึ่งจักรพรรดิ

แต่ยามนี้ ถึงกับถูกมกุฎราชันอริยะที่ไม่ได้ถูกเขาเห็นอยู่ในสายตาคนหนึ่งซัดทำลาย!

นี่เป็นไปได้อย่างไร

ประสบกับเหตุไม่คาดฝันเช่นนี้ทำเอาข่งอินไม่ทันตั้งตัว สภาวะจิตปรากฏอาการสั่นคลอนเสี้ยวหนึ่ง

และยามนี้ดาบหักโฉบพุ่งมาเยือนแล้ว

ไวจนไม่อาจจินตนาการ!

แสงที่ประหนึ่งสามารถเจิดจรัสในหมื่นกาล ฉีกทึ้งความมืดมิดชั่วนิจนิรันดร์มาเยือน กลิ่นอายที่แผ่ออกมาดุดันจนทำให้ผู้คนใจสั่นระรัว

สวบ!

ประกายคมพริบวาบ ข่งอินในฐานะกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง มีพลังป้องกันทั้งร่างแข็งแกร่งปานใด ทว่าเวลานี้กลับดุจดั่งกระดาษเปื่อย ถูกซัดทลายอย่างง่ายดาย

ฉัวะ!

ชั่วพริบตาเขาถูกแหวกอกทะลวงท้อง!

กลิ่นอายดุดันขึงขังหาใดเปรียบประหนึ่งเขื่อนแตกน้ำป่าไหลหลาก โถมเข้าสู่ร่างของเขาด้วยอานุภาพรุนแรง ร่างของกึ่งจักรพรรดิที่ราวกับโลหะไม่แตกสลายของเขายังเกิดเค้าลางแตกพังหักสลาย

หยาดเลือดและเศษเนื้อลอยกระเซ็น!

ในที่นั้นมีเสียงอุทานดังขึ้นระลอกหนึ่ง ไม่มีใครคาดคิด ไม้ตายของกึ่งจักรพรรดิอย่างข่งอิน ถึงกับกำลังถูกซัดทำลายตรงๆ

ยิ่งคิดไม่ถึงว่าข่งอินจะถึงกับประสบเคราะห์สังหาร!

ตูม!

ชวีเหราตอบสนองเป็นคนแรก โบกสะบัดแส้เหล็กสีเงิน ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังหลินสวินทันควัน แส้เหล็กที่เผด็จการไร้ทัดเทียมฟาดกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง

อานุภาพหนักอึ้งแข็งแกร่ง แส้หนักดุจภูผา!

หลินสวินไม่เบี่ยงหลบ พุ่งตรงตลอดทาง ในพริบตาก็มาอยู่เบื้องหน้าข่งอินที่เจ็บหนักปางตาย ซัดหมัดสังหาร

ดาบหักฟาดฟันร่างของข่งอินด้วยอานุภาพดุจผ่าลำไผ่ และหมัดนี้ของหลินสวินก็เหมือนเก้ากระถางควบรวม มีพลานุภาพสยบสรรพสิ่ง สะเทือนจักรวาล

ข่งอินหลบไม่ทันแล้ว

ทุกอย่างเกิดขึ้นไวเกินไป ด้วยประสบการณ์ต่อสู้ที่กรำศึกมาหลายปีของเขายังหลบไม่ทัน ได้แต่ฝืนเข้าปะทะ

ตูม!

ท่ามกลางเสียงกระแทกสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ก็เห็นร่างที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสเป็นทุนเดิมของข่งอินระเบิดกระจุยอย่างสิ้นเชิง พลังหมัดที่น่าสะพรึงและดาบหักที่พลังต่อสู้เพิ่มเป็นสองเท่าจับคู่กัน สังหารกึ่งจักรพรรดิคนนี้ตายคาที่!

ภาพนองเลือดระดับนั้นสะเทือนจิตใจผู้คน!

และพร้อมกันนั้น หลังของหลินสวินถูกแส้เหล็กสีเงินยวงฟาดใส่ อวัยวะภายในสะเทือนไหวรุนแรง กระดูกสันหลังยังเกิดการแตกร้าว

ปึง!

เงาร่างของเขาซวนเซกระเด็นออกไป อ้าปากกระอักเลือด สีหน้าซีดขาว

ในช่วงเวลาสำคัญดาบหักพุ่งโฉบ จึงต้านการไล่ล่าสังหารประหนึ่งพายุคลั่งที่มาจากชวีเหราเอาไว้ได้

ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตา จากนั้นก็ปิดม่านลง

และกึ่งจักรพรรดิอย่างข่งอินถูกฆ่าตายคาที่ เหตุการณ์นองเลือดนั้นพาให้ทุกคนในที่นี้ล้วนหน้าเปลี่ยนสี

“นี่…”

พวกผู้อาวุโสเพลิงปากอ้าตาค้าง รู้สึกเพียงสันหลังเสียววาบ หนาวเยือกกรีดกระดูก ทั่วร่างล้วนอดสั่นเทิ้มขึ้นมาไม่ได้

เผชิญหน้ากับการโจมตีร่วมกันของกึ่งจักรพรรดิสองคน ยังสามารถสังหารกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งได้อย่างเหี้ยมเกรียม ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคือ อวี่เสวียนนั่นเพิ่งจะอยู่แค่ระดับมกุฎราชันอริยะ!

‘หินลับมีด… พังไปแล้วหนึ่งชิ้น…’

หัวใจที่แต่เดิมหวั่นวิตกของจินเทียนเสวียนเยวี่ย เวลานี้ก็ถูกความสะท้านสะเทือนถึงขีดสุดอย่างหนึ่งท่วมท้น

ข้ามระดับใหญ่ฆ่ากึ่งจักรพรรดิ!

ทอดสายตาไปทั่วหล้า จะมีสักกี่คนที่ทำได้

พวกสิงหลิวสุ่ย ข่งอวี้ก็จิตใจปั่นป่วน แต่ละคนราวกับเห็นผีตัวเป็นๆ

พรวด!

หัวคนโชกเลือดจำนวนหนึ่งร่วงลงพื้น ถูกปราณกระบี่แพรวพราวขาวพิสุทธิ์ฟันเฉือน

คนที่ลงมือย่อมเป็นจินเทียนเสวียนเยวี่ย นางอาศัยจังหวะนี้พุ่งโจมตีเต็มกำลัง ขึงขังกร้าวแกร่งราวกับเทพเซียน ในเขตแดนกระบี่เมืองจักรพรรดิขาวอันกว้างใหญ่ สิ่งที่ส่งเสียงล้วนมีแต่ปราณกระบี่ที่สว่างไสว

“ฆ่า!”

ข่งอวี้คำรามเดือด พวกสิงหลิวสุ่ยก็ตระหนักถึงได้ถึงความหนักหน่วงของสถานการณ์ ลงแรงโจมตีเต็มกำลัง

และห่างออกไปหลินสวินกับชวีเหรากำลังโรมรันต่อสู้กันอยู่

ทั้งคู่คนหนึ่งเงาร่างแพรวพราว ประหนึ่งนภาครามหมื่นกาล สำแดงเก้ากระถาง มีอานุภาพสยบโลกไร้สิ้นสุด ดาบหักเล่มหนึ่งพุ่งวาบ แผ่ประกายคมกริบที่ดุดันหาใดเปรียบ

อีกคนโบกสะบัดแส้เหล็ก ชี้ฟ้าฟาดดิน เงาแส้สีเงินยวงเผยลักษณ์ประหลาดเป็นชั้นๆ พลังกฎเกณฑ์ทั้งปวงยิ่งหลั่งไหลทะลักออกมาดุจกระแสน้ำหลาก

เพียงแต่เวลานี้ในใจชวีเหราทั้งแตกตื่นเดือดดาลปะปนกัน หว่างคิ้วเปี่ยมแววขึงขัง

พลังต่อสู้ของข่งอินไม่ด้อยกว่านางสักนิด ทว่ายามสำแดงไพ่ตายที่เชื่อมั่นที่สุดออกมา กลับถูกอีกฝ่ายกำจัดทิ้งในอึดใจเดียว

ภาพเหตุการณ์นั้นทำให้ภายในใจชวีเหราขนพองสยองเกล้า แตกตื่นด้วยเช่นกัน

หลังจากบรรลุเป็นกึ่งจักรพรรดิ เป็นครั้งแรกที่นางอยู่ต่อหน้าระดับมกุฎราชันอริยะคนหนึ่งแล้วรู้สึกถึงอันตรายและหนาวเหน็บกรีดกระดูกเช่นนี้

และยามนี้หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กดเก็บอาการบาดเจ็บของตนเอาไว้ บุกโจมตีเต็มกำลัง

หากเปลี่ยนเป็นร่างเดิมลงมือ เป็นไปไม่ได้ที่จะบาดเจ็บเด็ดขาด แต่เพื่อปิดบังตัวตน หลินสวินก็ได้แต่จำใจทำ

สภาวะจิตของเขาใสพิสุทธิ์ แน่วแน่ปลอดโปร่ง สำแดงมรรคและวิชาแห่งตน ทั่วร่างเจิดจรัสราวกับอาทิตย์สีเขียวดวงใหญ่ ยิ่งดูดุจมายาขึ้นเรื่อยๆ

ตูม!

ชั่วขณะเดียวฟ้าดินพลิกตลบ สุริยันจันทราไร้แสง

“ตาย!”

ชวีเหราพุ่งมาข้างหน้าเต็มกำลัง ย่างฝีเท้ากลางห้วงอากาศเก้าหน แต่ละก้าวที่เหยียบลงไป กลางห้วงอากาศก็มีรุ้งวิเศษสีทองหนึ่งสายโรยลงมา

ยามเมื่อก้าวที่เก้าเหยียบย่างออกมา รุ้งวิเศษเก้าสายที่โรยลงควบรวมกันเป็นดอกบัวใหญ่สีทองอร่าม บัวบานสามสิบหกกลีบ หนึ่งกลีบหนึ่งโลก!

โลกบงกชสามสิบหกชั้น!

นี่คือยอดวิชาของชวีเหรา ใช้กฎเกณฑ์แห่งตนเป็นเขตแดน วิวัฒน์เป็นโลกแห่งหนึ่ง แบ่งออกเป็นสามสิบหกชั้น แต่ละชั้นล้วนบรรจุไอสังหารแตกต่างกัน

และชวีเหราที่อยู่ภายในนั้น ยามนี้ก็เหมือนนายเหนือหัวคนหนึ่ง ดอกบัวใหญ่ตั้งตระหง่าน ร่างกลายเป็นสามสิบหกโลก อานุภาพศักดิ์สิทธิ์ไร้สิ้นสุด!

กึ่งจักรพรรดิ คือผู้นำเหนือสรรพชีวิต กฎเกณฑ์มหามรรคที่ครอบครองก็เหนือกว่าระดับอริยะ เหมือนอย่างโลกบงกชสามสิบหกชั้นนี่ก็แปลงมาจากเขตแดนมรรค!

เมื่อตระหนักได้ว่าชวีเหราเริ่มสู้สุดชีวิต หลินสวินก็สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง นัยน์ตาดำฉายแววมาดมั่น

วู้ม!

รอบกายเขาปรากฏต้นแบบเขตแดนมรรคแห่งหนึ่ง ลึกล้ำราวหุบเหว เดือดพล่านดั่งเตาหลอม สีของมันคือสีเขียว ปลดปล่อยความอัศจรรย์แห่งเป็นตายร่วงโรยรุ่งโรจน์

นี่เป็นครั้งแรกที่หลินสวินใช้กายมรรคไม้เขียวสำแดงต้นแบบเขตแดนมรรค เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา แม้ลักษณะจะไม่เหมือนเดิม แต่อานุภาพกลับเรียกได้ว่าวิเศษอัศจรรย์สุดหยั่ง

ชั่วอึดใจฟ้าดินแถบนี้เกิดปรากฏการณ์อัศจรรย์อย่างหนึ่งขึ้น

โลกบงกชสามสิบหกชั้นสะท้อนนัยเร้นลับทั้งปวง มีประกายมงคลไหลเวียน มีเสียงมรรคกึกก้องอ้อยอิ่ง มีเสียงคำรามแห่งเทพมาร มีสุริยันจันทราโคจรหมุนเปลี่ยน…

แต่เมื่อต้นแบบเขตแดนมรรคของหลินสวินปรากฏ ก็เหมือนมรสุมโหมกระหน่ำที่เผด็จการไร้ทัดเทียมสายหนึ่ง ใช้อานุภาพดั่งพายุบดขยี้เมฆ ทำลายโลกบงกชแห่งแล้วแห่งเล่านั่น

ประกายมงคลระเบิดแหลก เสียงมรรคหยุดชะงัก เทพมารหวาดสะพรึงหนีเตลิด สุริยันจันทราพังทลายด้วยเหตุนี้…

เขตแดนมรรคของหลินสวินนั่น ก็เหมือนทุ่งแห่งการทำลายล้าง ช่วงชิงพลังชีวิต หมุนเปลี่ยนความร่วงโรยรุ่งโรจน์!

ตูม!

ภาพนี้ไม่อาจบรรยายได้สักนิด ก็เห็นกลางฟ้าดินสั่นสะเทือน เวิ้งว้างขาวโพลนทั้งแถบ เสมือนความว่างเปล่าโดยรอบล้วนถูกซัดทำลาย

การต่อสู้ในครั้งนี้ ถึงขั้นทำให้เมืองหลินอันที่อยู่ไกลโพ้นยังเกิดการสั่นสะเทือนไปด้วย ผู้ฝึกปราณที่กระจายตัวอยู่ในเมืองนับไม่ถ้วนสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง รู้สึกคล้ายมังกรพลิกตัวใต้ดิน เกิดแผ่นดินไหวฉับพลัน ต่างหน้าเปลี่ยนสีอย่างอดไม่ได้

และมีพวกที่ความแข็งแกร่งเหนือธรรมดา สัมผัสได้ถึงการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ไกลๆ ต่างก็อดหวาดผวาไม่ได้

การต่อสู้ครั้งใหญ่สะท้านโลกระหว่างระดับกึ่งจักรพรรดิหรือ

น่าเสียดายระยะทางห่างไกลเกินไป มองไม่ชัดสักนิด จึงไม่อาจรับรู้ว่านี่หาใช่การต่อสู้ของกึ่งจักรพรรดิ หากแต่เป็นศึกต่อสู้ข้ามระดับที่เรียกได้ว่าสะท้านโลกครั้งหนึ่ง!

ยามเมื่อฝุ่นควันหายลับไป

ภูผาธาราละแวกใกล้เคียงถึงกับอยู่ในสภาพยับเยินทั้งแถบ ทุกแห่งหนเป็นแอ่งเว้าพาดขวาง พลังชีวิตเหี่ยวแห้ง มีแต่ภาพแห่งการทำลายล้าง

พรวด!

กลางห้วงอากาศหลินสวินกระอักเลือด สีหน้าซีดขาว อาภรณ์ทั้งชุดอยู่ในสภาพขาดวิ่น ผมเผ้ายุ่งเหยิง ค่อนข้างสะบักสะบอม

แต่ไม่รอให้พวกข่งอวี้ลอบถอนหายใจโล่งอก ภาพที่ทำให้พวกเขาสะท้านไปทั้งร่างก็ปรากฏ…

ก็เห็นว่าตรงข้ามกับหลินสวิน กึ่งจักรพรรดิชวีเหราที่ดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บใด กลับคล้ายสูญสิ้นพลังชีวิตทั้งหมดไปในชั่วพริบตา

ทั่วทั้งตัวกลายเป็นเถ้าถ่านทั่วฟ้า!

ลมพัดระลอกหนึ่ง ก็พัดพาเอาเถ้าถ่านเหล่านั้นปลิวหายไป…

ทั้งที่นั้นเงียบกริบ เงียบสงัดไร้สุ้มเสียง

กึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง ร่างและจิตล้วนดับสูญด้วยวิธีน่ากลัวเช่นนี้ นี่คือสิ่งที่ก่อนหน้านี้ใครก็ไม่อาจจินตนาการ

ภาพเหตุการณ์ร่วงหล่นที่แปลกพิสดารเช่นนั้นน่าสยดสยองเกินไปแล้ว!

เป็นตายรุ่งโรจน์โรยร่วง เพียงชั่วดีดนิ้ว!

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset