ตอนที่ 1678-1
เมื่อคิดเช่นนั้น ทางตำรวจก็กระตุกแขนเสื้อป๋อจิ่ว “แน่ใจนะว่าหนังมีปัญหา”
“แน่” ป๋อจิ่วตอบเสียงเรียบ “ให้นักเรียนสลายตัวแล้วกลับห้องเรียนก่อน แล้วแจ้งให้จิตแพทย์ที่มีชื่อเสียงมาทำการตรวจสอบด้วย”
ทางตำรวจไม่พูดอะไรอีก เพราะเบื้องบนสั่งมาว่าให้เชื่อฟังคำสั่งป๋อจิ่ว แม้มาถึงตอนนี้ พวกเขายังไม่รู้เลยว่าเด็กนี่โผล่มาจากไหน แต่สถานการณ์ตรงหน้าคงทำให้พวกเขาต้องปฏิบัติตาม
พออธิบายให้ทางโรงเรียนฟัง ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
อันที่จริง เด็กๆ ต่างซ่อนความในใจไว้ ใช่ว่าจะไม่เห็นข่าวบนโลกออนไลน์ แค่มีปฏิกิริยาต่างกันเท่านั้น บ้างก็หาว่าหลีจิ่นเป็นคางคก ที่สั่งสอนไปก็ถือว่าให้เกียรติแล้ว จะมาทำอะไรพวกเขาอีก บ้างก็กลัวตาย เพราะบางคนก็เป็นพวกขี้ขลาด แค่อยากผสมโรงเท่านั้น คิดว่าต่อไปต้องดีต่อคนอื่นให้มากสักหน่อย บ้างก็ยังคงสวมหูฟัง หลับตาบอกตัวเองว่า ต่อไปจะไม่รังเกียจหรือบูลลี่ใครเขาอีก เวลาที่ออกโรงช่วยคนอื่นได้ก็ควรต้องออกมา ทว่าพวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่า อันตรายได้ถูกขจัดออกไปในภาวะที่เขาไม่รู้ตัว
แผ่นหนังมาถึงห้องประชุมแล้ว ป๋อจิ่วก็อยู่ในห้องดังกล่าวด้วย บวกกับนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงอีกสามท่าน ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า หนังเรื่องดังกล่าวไม่ได้มีปัญหาหรอก แต่หากพวกนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากกลุ่มเพื่อนได้ดู ก็จะก่อให้เปิดปัญหาใหญ่ขึ้น เพราะพวกเขาได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมในก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
คนรังแกกับคนที่ถูกรังแก
โดนรังเกียจ บ้าของนอกกาย อยากให้คนสนใจ อันเป็นสิ่งที่พวกเขาปรารถนามาตั้งแต่แรก ดังนั้น สิ่งเหล่านี้แหละที่เป็นปัญหา
เริ่มอธิบายจากภาพในหนังเรื่องนี้ได้กระตุ้นสภาพจิตใจ ง่ายนิดเดียว เมื่อเรื่องหนึ่งปรากฏออกมา ทุกคนต่างมีความเห็นต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นคนยังไง แล้วเชื่อมโยงความคิดไปที่ไหน
พวกเขาฉายหนังให้หลิวเจียหนิงดูไม่ถึงสามนาที เธอก็ระเบิดอารมณ์ขึ้นมา เพราะพวกเธอชอบเปรียบเทียบกัน อยากได้รับความสนใจมากๆ เมื่อเรากระตุ้นพวกเธอ พวกเธอก็จะอาละวาดอย่างรุนแรง
ไม่เพียงเท่านั้น เสียงในหนัง ฟังดูก็ไม่ได้มีอะไรหรอก แต่หากแยกให้เราฟัง ก็จะพบว่าเสียงของหนังกระแทกอารมณ์รุนแรง ทำให้อารมณ์ของเราเปลี่ยนแปลงไป หากหยุดไม่ทันเวลา ปล่อยให้ดูนานๆ เข้า ต้องเกิดผลที่ไม่อาจคาดคิดแน่
หลังจากที่สรุปได้เช่นนี้ นักจิตวิทยาทั้งสามท่านต่างช็อก คนที่เรียนด้านจิตวิทยาด้านอาชญากรรมมา ล้วนรู้จักคดีหนึ่งที่เกิดขึ้นที่ต่างประเทศ ทว่าคดีแบบนั้น เกิดขึ้นไม่มากนัก
เด็กคนนี้ยังอายุน้อยมาก รู้ได้อย่างไร?
ระหว่างที่นักจิตวิทยาทั้งสามท่านอยากจะถามเธอ ก็พบว่าเธอจากไปแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เงา
ในที่สุดก็รักษาความปลอดภัยให้เด็กพวกนั้นได้ คำสั่งที่แฝงทางจิตถูกขจัดแล้ว องค์กรด้านสุขภาพจิตจะมาคุยกับนักเรียนส่วนหนึ่ง สำหรับพวกที่มีนิยมความรุนแรง ชอบรังแกคนอื่นแล้วคิดว่าตัวเองยังไม่ผิดอีก ก็ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป จนไปอยู่ในสถานพินิจในที่สุด บางคนหาว่ารุนแรงไป เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว แถมอีกฝ่ายยังเด็กอยู่ จะไปรู้เรื่องอะไร
………………………………………………………………….
ตอนที่ 1678-2
ก่อนอื่น เด็กอายุเกินสิบขวบแล้ว แต่ยังไม่รู้จักแยกแยะถูกผิด ก็อย่าได้เรียกตัวเองว่าเด็กเลย เพราะน้องๆ ห้าขวบจะคงไม่ยอมแน่ ต่อมา ไม่ว่าจะอายุน้อยแค่ไหน ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะรู้สึกว่า การรังแกคนอื่นไม่ใช่เรื่องแปลก ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่พวกที่ไม่รู้จักคิดธรรมดาๆ แต่ยังรวมตัวกันไปแย่งชิง ครอบครอง รังแกคนอื่น ย่อมถึงเวลาแล้วที่ต้องรับผลกรรมของการกระทำตัวเอง ไม่มีใครหรอกที่เป็นฆาตกรมาตั้งแต่กำเนิด เพียงแต่หากไม่จัดการสักที นานวันเข้า ก็จะกล้าทำอะไรโดยไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด
พวกที่บอกว่าเรื่องมันผ่านไปแล้ว คงเพราะมีจิตใจดี แต่ บางครั้งความมีจิตใจดีอย่างโง่เขลา ก็เป็นการช่วยให้คนกลายเป็นคนร้ายอย่างเต็มรูปแบบ
การทำผิดแล้วโดนอบรมสั่งสอน ไม่กระไรหนักหนาหรอก ลองคิดถึงคนที่พวกเขารังแกสิ ทุกอย่างจะได้เป็นธรรม
ทว่าเมื่อไขคดีใหญ่อย่างนี้ได้ ย่อมต้องมีคนได้รับผลงาน แต่ใครจะคิดล่ะว่า เด็กคนนั้นหายไปตั้งแต่ตอนบ่ายในวันเดียวกันแล้ว
ซึ่งป๋อจิ่วในเวลานี้ กำลังก้มเอวถอดเสื้อนักเรียนออกมาโยนทิ้ง แล้วเปลี่ยนไปสวมสูทสีดำ ร่างสูงเด่นต่างไปจากสภาพในก่อนหน้านี้
เธอบิดเนคไทหน้ากระจกรถ เส้นผมสั้นเซอร์ปรกลงมา ขับจุดเด่นบนใบหน้าเธอ
เหตุที่เธอแต่งตัวแบบนี้ เป็นเพราะเธอได้รับข้อความเสียงจากคุณชายถัง โดยมีเนื้อหาว่า “มีข่าวดีมาบอก ถือว่าเป็นรางวัลที่จัดการคดีนี้ได้ สายที่ชายแดนประเทศ M กับ T รายงานมาว่า ต่อให้คุณไม่โผล่หน้ามา เมื่อวานคิงก็จะกลับอยู่แล้ว เพราะบังเอิญเจอคนจีนที่รวยมากคนหนึ่งกะทันหัน ได้ยินมาว่าคนจีนคนนี้รวย แถมใจสปอร์ตมาก พอมาถึงประเทศ T ปุ๊บก็ซื้อเรือยอชปั๊บ แถมยังซื้ออาวุธสงครามเยอะมาก เอาไปป้องกันตัว เพื่อจะได้เอาไว้ซื้อสินค้าดีๆ มาเก็บไว้ แน่ล่ะ สถานะของคนจีนคนนี้ไม่ชัดเจน เท่าที่รู้ว่าคือเป็นลูกเศรษฐีตระกูลดี แถมยังมีที่ปรึกษาคนเก่งมากๆ อยู่ข้างตัว จากนั้นคำถามก็มาถึง คุณคิดว่าพวกเขาเป็นใครเหรอ?”
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า ลูกเศรษฐีต้องเป็นเจ้าชายน้อยแน่ เป็นคนอื่นไม่ได้หรอก ส่วนที่ปรึกษาที่เก่งมาก ย่อมต้องเป็นท่านเทพอยู่แล้ว เพราะเวลาท่านเทพแสดงมาดเก่งกล้าออกมา ย่อมไม่ขัดสายตา
ป๋อจิ่สวมนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ นัยน์ตาเหมือนจะเรืองแสง เธอเข้าไปนั่งในรถแลมโบกินี่ จากนั้นก็ปิดประตู ป้อนตัวอักษรเข้าสู่ระบบจีพีเอส
เสียงเตือนดังขึ้น “เกาะตำแหน่งที่อยู่ชัดเจน ระยะทางทั้งหมดแปดร้อยลี้ น้ำมันเพียงพอ”
“ไป” ป๋อจิ่วกุมพวงมาลัยด้วยมือข้างหนึ่ง สะบัดท้ายรถอย่างสวย เวลานี้เธอไม่เหลือสภาพนักเรียนเหมือนเมื่อครู่ ดูเป็นหนุ่มน้อยจอมเฮี้ยว ทั้งนี้ด้วยเพราะสูทบนร่าง จึงเพิ่งความเป็นนักธุรกิจให้ด้วย
ระบบจีพีเอสอัจฉริยะ ยังตรวจสอบสภาพร่างกายของเธอด้วย “เจ้านายครับ อัตราการเต้นหัวใจของคุณเร็วเกินไปนะครับ คุณดีใจแบบนี้ คงเพราะได้ข่าวจอมมารล่ะสิ?”
“เสี่ยวเฮย ฉันรู้สึกว่า ถึงหลายๆ ครั้ง ความฉลาดของนายจะไม่พอใช้สักเท่าไร แต่ครั้งนี้นายฉลาดมาก” ป๋อจิ่วเปลี่ยนเกียร์เพิ่มความเร็ว มุมปากแฝงรอยยิ้มที่หุบไม่ลง “ถูกต้อง”
เสี่ยวเฮย…ทำไมมันถึงไม่รู้สึกว่าโดนชมเลยล่ะ เหมือนโดนยัดอาหารหมาเต็มเหนี่ยว!
เดี๋ยวนี้อยู่ยากจริง
นี่ถ้าได้เจอจอมมารเข้าให้ ทั้งสองคงไม่จะ จูบกันในรถหรอกนะ! แค่นึก ไฟรถก็ติดๆ ดับๆ แล้ว
ว้าย โลกช่างรังแกรถเหลือเกิน!
………………………………………………………………….