ตอนที่ 1881 คุณป๋อ
คุณท่านอานพลอยหัวเราะไปด้วย “ผมได้ยินคุณพ่อบ้านของผมบอกมา พอหลานผมรู้ว่าที่บ้านคุณไม่มีใครอยู่ก็สั่งให้เอาอาหารมื้อดึกไปให้ แถมเมื่อเช้านี้ยิ่งตลกเข้าไปใหญ่ เขาตื่นมาไม่เห็นว่ายัยเสือน้อยก็ไม่พอใจเลย”
คุณป๋อเอียงศีรษะสูบบุหรี่ ไม่ว่าจะทำอะไร เขาก็เหมือนจะใจไม่สงบ “งั้นก็ดีครับ ช่วงนี้ผมมีธุระค่อนข้างเยอะ ถ้าลูกผมได้อยู่ที่บ้านคุณ ผมจะยิ่งสบายใจ”
คุณท่านอานพอจะรู้เรื่องของอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อย เอ่ยขึ้นว่า “คุณถึงไม่ได้กลับปราสาท?”
“อ่า” คุณป๋อดีดเถ้าบุหรี่ พลันหัวเราะขึ้น “ที่ผมไม่กลับไปเพราะมีความสุขกับการให้เมียเลี้ยงน่ะครับ แน่ล่ะ คุณอานคงไม่เข้าใจ เพราะภรรยาผมเก่งมากจริงๆ”
คุณท่านอานคบเพื่อนต่างวัยคนนี้ได้อย่างเอือมระอาจริงๆ ให้เมียเลี้ยงยังไม่อาย ถือเป็นเกียรติอีกต่างหาก จะว่าไปก็นานแล้วที่ชายหนุ่มไม่ได้เคลื่อนไหว แต่ช่วงนี้เขาเริ่มขยับ แสดงให้เห็นว่าข้างนอกไม่ค่อยสงบเท่าไร ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มาอยู่ในสถานที่แบบนี้ ต้องออกไปปกป้องคนในบ้าน อีกอย่างตอนนี้เขาไม่ได้เป็นยอดฝีมือที่อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป ผู้ชายคนนี้ถือเป็นตำนานที่สั่นสะเทือนหลายวงการ แต่กลับถูกเลี้ยงไว้ในบ้านเหมือนเป็นลูกหมาน้อย[1] ไม่ ไม่สิ คนที่ทำให้เขาเป็นหมาน้อยได้ เห็นทีจะมีก็แต่แม่ของจิ่วเท่านั้น
คุณป๋อเข้าใจในสิ่งที่แววตาของคุณท่านอานสื่อ แต่เขาไม่แคร์ เอ่ยฝากไว้เพียงว่า “พรุ่งนี้ผมจะมารับท่านจิ่วน้อยนะครับ” จากนั้นจึงหายไปท่ามกลางความมืด แต่แม้จะยืนที่ใต้แสงไฟข้างทาง เขาก็ยังเห็นเงาบนชั้นสอง เด็กน้อยทั้งสองนอนไม่ได้นอนใกล้กัน แต่อยู่บนเตียงด้วยกัน
คุณป๋อหัวเราะเบาๆ น้อยครั้งที่จะเห็นท่านจิ่วน้อยชอบใครมากขนาดนี้ แต่เจ้าหนูบ้านตระกูลฉินก็เก่งมาก รู้ดีว่าการเล่านิทานจะทำให้เด็กน้อยมีความสุข ทั้งนี้เขาไม่เคยเล่านิทานให้ลูกฟังเลย คุณป๋อดีดบุหรี่ลงถังขยะภายในบ้าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าไฟในบ้านสว่าง มุมปากก็หยักยิ้ม เตรียมเดินเล่นอยู่ข้างนอกสักสองรอบเพื่อให้กลิ่นบุหรี่จางหายก่อนแล้วค่อยเดินเข้าตัวบ้าน
อันดับแรกเขาต้องไม่ให้ตัวเองมีกลิ่นคาวเลือดติดตัว คุณป๋อขายาว เวลาปฏิบัติงานในตอนกลางคืนจะเหมือนโจรลึกลับที่เดินชนิดไม่ให้ซุ่มให้เสียง ไม่นานเขาก็มาเปลี่ยนชุดที่ห้องใต้ดิน รอจนปรากฏตัวในห้องรับแขกอีกครั้งก็อยู่ในชุดเสื้อยืดขาวกับกางเกงผ้าฝ้าย ทั้งยังสวมแว่นตาไว้บนหน้า
การแต่งตัวแบบนี้ทำให้เขาดูเหมือนเป็นนักศึกษาผู้ใสซื่อ แถมยังเก่งด้านการออเซาะ
ไม่ผิด การออเซาะ เพราะเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งก็กลับมาอยู่ในสภาพคนที่ยังไม่ตื่นนอนดี เอื้อมมือไปกอดร่างอรชรในชุดกระโปรงสูทที่กำลังชงยาตรงเคาน์เตอร์กระจก แล้วเกยคางตัวเองไว้บนไหล่เธอ สูดดมความหอมสดชื่น ทั้งยังลากเสียงยาวเนิบนาบ “ทำไมวันนี้กลับมาค่ำจัง? ผมกับท่านจิ่วเลยไม่มีข้าวกินเลย”
ร่างนั้นถูกเขากอดจนหน้าแดงเรื่อ แต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมยังรู้สึกเหมือนเพิ่งรู้จักกันเป็นครั้งแรก คงเพราะเธอแก่กว่าเขากว่าสามปี ดังนั้นเวลาอยู่ใกล้ชิดกันถึงได้รู้สึกวาบหวามไปทั้งตัว เธอเหมือนเอาเปรียบอีกฝ่าย โดยเฉพาะเวลาที่ใบหน้าหล่อเหลาเอียงข้างทีไร ความรู้สึกนี้จะยิ่ง…
……………………………………………………
[1] ลูกหมาน้อย หมายถึง ผู้ชายหนุ่มหน้าตาน่ารัก นิสัยขี้อ้อน
ตอนที่ 1882-1 จิ่วบอกว่าไปด้วยกัน
“ก็มีแม่บ้านอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ?” ในฐานะที่เป็นท่านประธานหญิงที่เก่งกาจในการทำงานที่บริษัท เวลาอยู่ต่อหน้าคนนัก มักมีความอดทนเป็นพิเศษ ไม่เหมือนหยิ่งยโสเหมือนที่ลือกัน แต่เธอยังคงมีบารมี เมื่อหันหน้ามาก็เห็นสัดส่วนที่สวยมาก
คุณป๋อไม่ยอมปล่อยมือ รู้ดีว่าเธอขวยเขิน ลมหายเขายังอ้อยอิ่งที่ซอกคอขาวนวลของเธอ “ก็แม่บ้านทำไม่อร่อย”
ไม่ผิดคาด ร่างนั้นสั่นนิดๆ “เดี๋ยวต้มโจ๊กให้นะคะ”
“ตอนนี้ไม่อยากกินโจ๊กแล้ว…” คงเพราะนัยซ่อนเร้นชัดเจนเหลือเกิน นิ้วเรียวของชายหนุ่มวางบนกระดุมเธอ แถมยังยิ้มกรุ้มกริ่มระคนเอ่ยเสียงหนักหน่วง “วันนี้จิ่วไม่อยู่”
เธอต่อต้านการเล้าโลมของเขาไม่ได้ แม้จะมีคนเล่าว่าเขาไม่ธรรมดาเหมือนที่เห็น แต่เธอยังคงต่อต้านไม่ได้ เวลาอยู่ต่อหน้าเธอเขาจะเหมือนเจ้าหมาน้อย ทำให้เธอสบายตลอดเวลา แต่ในเรื่องแบบนี้กลับเผยความร้ายกาจออกมา
เมื่อรู้ตัวว่าถูกอุ้มมานั่งตรงเคาน์เตอร์ อุณหภูมิภายในห้องก็ร้อนแรงขึ้น ราวกับไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดมาบรรยาย เหลือเพียงเสียงหัวใจเต้นอยู่ข้างหู รวมถึงความรู้สึกที่เธอไม่อาจควบคุมได้ กระทั่งยังไม่ทันได้ถามว่าวันนี้เขาไปไหนมา ก็ถูกอุ้มร่างไปไว้ในผ้านวมเสียแล้ว
คงเพราะทั้งสองไม่ได้คบหาเป็นแฟนกันมาก่อน ดังนั้นบางครั้งเธอก็ปล่อยวางไม่ได้ ทว่าชายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าเธอกลับไม่ยอมให้เธอไม่ปล่อยวาง หาทุกวิธีทางไม่ให้เธอเย็นยะเยือก เสียงกระดุมที่หล่นกระทบพื้นดังกังวาน ทำให้คนรู้สึกเขินอายทุกครั้งที่ความหวามไหวมาเยือน ทำให้รู้สึกว่าชายหนุ่มเชี่ยวชาญอย่างไม่น่าเชื่อ จะถือว่าเขาเป็นลูกหมาน้อยได้อย่างไร
ความทรงจำเมื่อเจอกันเป็นครั้งแรกยังตราตรึงอยู่ในใจอย่างลึกซึ้ง เธอเอาตัวเขากลับมาเลี้ยงไว้ในบ้านราวกับกลายเป็นสมบัติของเธอไปโดยปริยาย นับตั้งแต่รู้จักกันจนได้แต่งงานกันก็เป็นระยะเวลาเพียงสามวันเท่านั้น เธอไม่เคยถามว่าเขายินดีหรือไม่ แต่ตอนนี้ลูกสาวอายุสี่ขวบครึ่งแล้ว หากถามคำถามเหล่านี้ย่อมไม่เหมาะสม ในขณะที่ชายหนุ่มตรงหน้าเธออ่อนเยาว์ขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอที่อายุมากกว่าเขาสามปีกลับใกล้จะแก่แล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเขาเหมือนมองไม่ออกหรือคนในวัยหนุ่มสาวจะมีความต้องการสูง เมื่อคิดได้ดังนี้อารมณ์เธอก็เตลิดไปไกล
แต่เขาไม่พอใจที่เธอไม่ตั้งใจ ก้มหน้ากัดแอ่งชีพจรของหญิงสาว “มาดามป๋อครับ ข้างนอกมันเย้ายวนมากเลยเหรอ ทำไมกลับบ้านมาถึงไม่ตั้งใจเลย”
เธอควรจะเป็นคนถามเขาเสียมากกว่า? เขากำลังเรียนปริญญาเอก เหล่ารุ่นน้องสาวๆ ก็เปรี้ยวไม่เบา ครั้งที่แล้วเธอขับรถไปรับเขาก็ได้เห็นคาตาว่าแม่พวกนั้นห้องล้อมผู้ชายของเธอ โดยไม่แคร์ว่าลูกจิ่วกำลังขี่คอคนเป็นพ่ออยู่
ว่ากันว่าผู้ชายมีลูกแล้วจะยิ่งทรงเสน่ห์ มีคนบอกว่าวัยของเขาไม่น่าจะมีลูกแล้ว เขาไม่เหมือนคนที่กลายเป็นพ่อได้จริงๆ
………………………………………….
ตอนที่ 1882-2 จิ่วบอกว่าไปด้วยกัน
ตอนนั้นเธอจำได้ว่าสองพ่อลูกนั่งมองเธอด้วยสีหน้าน่าสงสารอยู่ตรงบันไดของมหาวิทยาลัย ราวกับเธอปล่อยให้ทั้งสองรอเก้อ กลายเป็นคนชั่วช้าที่ไม่น่าให้อภัย นิสัยของลูกจิ่วเหมือนเขาถึง 80% เธอรู้ดีว่าเหล่ารุ่นน้องแสนเปรี้ยวเห็นเธอไปรับเขาแล้วต่างคิดว่าเธอเป็นพี่สาวของเขา แต่เธอไม่เคยบอกเขาเรื่องนี้ เพราะนักศึกษาวัยหนุ่มมักเป็นที่รักใคร่
ทว่าช่วงนี้ดูเหมือนเขาจะยุ่งมาก…
เมื่อเห็นใบหน้าของภรรยาที่ไม่ได้ดื่มด่ำตาม คุณป๋อก็หรี่ตาลง เพิ่มแรงที่มือหนักขึ้น
เธอพยายามดิ้นรน “อย่าค่ะ ชุด…”
“บ้านเรามีชุดแบบนี้อีกตั้งเยอะ” ลมหายใจร้อนรุ่มกระทบร่างเธอ หิมะยังตกอยู่ด้านนอก ท่ามกลางค่ำคืนนี้ มีเพียงอุณหภูมิจากร่างกายทั้งสองร่างทวีขึ้นเรื่อยๆ เธอถูกเขารักจนเหงื่อผุดบางๆ เขาเลิกเส้นผมเธอขึ้น ปล่อยให้เรียวแขนของเธอคล้องคอเขาไว้ นัยน์ตาลุ่มลึกเหมือนค่ำคืนด้านนอก
บอกตรงๆ เมื่อไรภรรยาเขาจะไม่คิดถึงเรื่องอายุเสียที ใช่ว่าเขาจะยินดีที่อายุน้อยกว่าอีกฝ่าย แต่ในสายตาของเธอ เขาดูเหมือนเด็กไม่รู้จักโต หลังจากที่ก้มหน้าหัวเราะ คุณป๋อก็อุ้มคนสวยที่เหนื่อยหมดแรงขึ้นมา ท่าทางเหมือนลูกหมาน้อย
สภาพอากาศด้านนอกปลอดโปร่งในเช้าวันต่อมา แสงแดดสาดส่องจนทุกสิ่งอย่างมีชีวิตชีวา สวนภายในบ้านสไตล์ยุโรปถูกตัดแต่งอย่างสวยงามเป็นพิเศษ ผืนหญ้าและต้นไม้เป็นสิ่งที่ต้องมี รวมถึงรั้วสีขาว ทั้งยังมีไม้เลื้อยเขียวขจีเกาะตามกำแพงบ้าน สร้างเงากระจัดกระจายภายใต้แสงตะวัน
ฉินมั่วยกมือบังแสง ทว่าก็ยังสาดส่องนัยน์ตาอยู่ เขาจึงพลิกตัวไป ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นใบหน้าขาวนุ่ม
เวลายัยเสือน้อยนอนหลับ เธอดูเหมือนนางฟ้าตัวน้อย ขนตาดำยาวดกดำมาก กลายเป็นเงาทาบบนใบหน้า แก้มก็ยุ้ย อ้าปากดูดนิ้วโป้งตัวเองอยู่เรื่อยๆ ดูซนเหลือเกิน ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังวางมือไว้ที่เอวของเพื่อน ทำเหมือนปกป้องเขาอย่างไรอย่างนั้นแหละ
ฉินมั่วสูดลมหายใจเข้าลึก ยัยเสือน้อยคิดว่าสูงกว่าเขาถึงได้กอดเขาอย่างนี้ใช่ไหม? หลังจากที่เก็บงำอารมณ์ได้ เขาเลิกผ้าห่มที่คลุมทั้งสองไว้ กำลังจะลงจากเตียง ทว่าแค่ขยับนิ้วก็ได้ยินเธอเรียก “มั่วมั่ว” แต่เธอยังไม่ตื่น เสียงนั่นน่าจะเป็นเสียงละเมอ อาจจะฝันถึงอะไรอยู่ก็เป็นได้ แต่เสียงหนูน้อยที่น่าเอ็นดูแบบนั้น ทำให้ฉินมั่วใจอ่อนอย่างที่ไม่ควรจะอ่อนเลย
เขาไม่ปลุกให้เธอตื่น กลับยื่นมือออกไปทาบหน้าผากแทน ทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจึงสามารถยื่นมือไปสัมผัสได้ สำหรับฉินมั่วแล้ว เขาไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกับเด็กในวัยเดียวกันแบบนี้มาก่อน
หลังจากที่วัดอุณหภูมิให้เธอก็เบือนหน้าไปอีกทาง
ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อคืนถึงนอนท่านี้กันได้ แต่ห้ามยัยเสือน้อยรู้เด็ดขาด สงสารก็แต่คุณชายฉินของพวกเราจริงๆ ก่อนรู้จักยัยเสือน้อย เขาไม่รู้เลยว่าประวัติดำมืดคืออะไร แต่ตอนนี้เมื่อคิดถึงส่วนสูงที่ต่างกัน ก็คิดถึงตอนที่ถูกยัยเสือน้อยอุ้มออกมาจากอ่างน้ำเมื่อวานนี้ แถมยังนึกถึงการที่อีกฝ่ายคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงจากใบหน้าแล้วเห็นตอนที่โป๊ทั้งตัว ฉินมั่วอดหรี่ตาลงไม่ได้ ตอนลุกขึ้นมาก็รู้สึกไม่สบายที่คอจึงปลดคอเสื้อออก คิดจะเข้าไปล้างหน้าล้างตา
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขา เสียงก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ด้วยเธอยังตื่นไม่เต็มที่ เสียงจึงสะลึมสะลือ “มั่วมั่ว ทำไมเธอตื่นแล้วล่ะ จะไปฉี่เหรอ ฉันก็อยากไปเหมือนกัน พวกเราไปด้วยกันนะ”
…………………………………………………………