ตอนที่ 1926-2
แค่หลับตาก็เหมือนจะเห็นร่างเล็กๆ นั่นขึ้นมา เป็นภาพที่เธอกลิ้งบนเตียงเขา เวลาทะเล้นขึ้นมาทีก็จะกอดเขา พลางเรียกมั่วมั่ว เวลาปวดฟันก็จะกุมแก้มด้วยมือซ้าย แต่ยังไม่ลืมรินนมให้เขา แถมพยายามบอกว่าตัวเองจะเป็นเด็กดี ชอบอุ้มกระปุกออมสินมาบอกว่าจะซื้อเขา บางครั้งเวลาเขานอนแล้วมองออกนอกหน้าต่าง มือนุ่มเล็กๆ ก็จะทาบบนเสี้ยวหน้าเขา พูดเสียงนุ่มว่า ‘มั่วมั่ว อยากกลับบ้านที่จีนใช่ไหม คิดถึงแม่แล้วใช่ไหม? งั้นเธอก็คิดถึงไปนะ ฉันจะอยู่ข้างเธอเอง’
เธอโง่ที่คิดว่าเขาเป็นผู้หญิง ไม่ยอมพับแขนเสื้อ อุ้มคีย์บอร์ดละเลงไปทั่วพื้น แต่อบอุ่นเหมือนเป็นเตาผิงน้อย
ทว่าอยู่ๆ เตาผิงน้อยก็หายตัวไป
ฉินมั่วคิดอยู่เสอว่า หากตอนนั้นเขาเป็นผู้ใหญ่ทางความคิดสักนิด อาจจะไม่จบลงแบบนั้นก็ได้
เธอชอบซน ในเมื่อเขาเลี้ยงเด็ก จะตามใจเธอเสียหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ทำไมตอนนั้นต้องทะเลาะกับเธอด้วยนะ
ในปีแรกที่เธอจากไป เขาโมโหที่หาเธอไม่เจอ โกรธที่เธอจะไปก็ไปเสียอย่างนั้น ไม่ยอมบอกเขาสักคำ เธอไม่คิดบ้างหรือไงว่าเขาทำผิดจริงๆ ที่เข้าใจผิดว่าเธอไปเที่ยวเล่นกับวิลเลี่ยมจูเนียร์ แค่ลงโทษเขานิดหน่อยก็น่าจะพอแล้ว อาจจะไม่มาหาสักเดือน สามเดือนหรือครึ่งปีก็พอ แต่อย่าไปนานขนาดนั้นได้ไหม เธอคงไม่มีวันเข้าใจว่าเขาเสียใจเรื่องอะไร ไม่รู้ว่าเธอไปเจอของเล่นสนุกอะไรมาบ้าง กินขนมอร่อยๆ ที่ไหน คบกับเพื่อนอย่างไร สูงขึ้นบ้างหรือเปล่า น่าจะยังซนอยู่ไหม ไม่รู้ว่าจะมีคนซื้อลูกอมให้เวลาที่เธออยากกินบ้างหรือไม่…
ตอนนี้ก็โตกันมากแล้ว เธอน่าจะพับแขนเสื้อเป็น คงไม่สะดุดล้มในทุกครั้งที่เดินแล้ว
ฉินมั่วคิดมาถึงตรงนี้ก็หยุดเดิน เอียงคอเหมือนกำลังยิ้ม
หากอีริกได้เห็นเข้า คงต้องตกใจจนพูดอะไรไม่ออกแน่ ท่านเทพที่ประหนึ่งเป็นอัจฉริยะจะยิ้มเป็นด้วย
ฉินมั่วยิ้มจริงๆ ไม่รู้ตัวด้วยว่าทำไมถึงยิ้ม คงเพราะคิดถึงเธอคนนั้น หัวใจจึงอ่อนโยนขึ้นมา น่าจะเป็นไปได้ถึง 90% แถมยัยเสือน้อยก็มีใฝเสน่ห์ใต้ตาเหมือนกัน ตอนนั้นอาจจะไม่ชัด แต่ตอนนี้เธอคงสวยขึ้นมาก…
“ฮัดเช้ย” ป๋อจิ่วจามด้วยถูกลมพัด เมื่อครู่เธอพลาดเล็กน้อยบนเวที แทบจะมองข้ามกันได้เลย ไม่รู้ว่าเพื่อนเก่าเธอไปหาเด็กมัธยมปลายมาจากที่ไหน หน้าตาหล่อเหลาเอาการ ป๋อจิ่วชอบมองใบหน้าผู้คน ไม่รู้ว่าเกิดความชอบแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไร
เมื่อได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจ เธอก็ยิ้มนิดๆ อย่างเจ้าเล่ห์ มีดในมือเธอจ่อประชิดใบหน้าของสมิธที่ถูกเธอมัดไว้กับเสาไฟฟ้า
ตั้งแต่ออกจากคุกมา สมิธก็ไม่เคยคิดว่าจะได้พบเจอเรื่องแบบนี้ เขารู้สึกถึงคำว่ากลัวขึ้นมาแล้ว แต่ยังสารเลวไม่เปลี่ยน “แกก็แค่อยากได้เงินไม่ใช่เหรอ? งั้นฉันให้แกตอนนี้เลยก็ได้ ปล่อยฉันไป ไม่งั้นแกจะไม่มีวันได้อะไรเลย!”
ป๋อจิ่วยิ้ม ก้มตัวลง “แกคิดว่าฉันเป็นอันธพาลกระจอกตามถนนเหรอ ใครบอกแกว่าฉันอยากได้เงิน? คนชั่วอย่างแกน่าจะอยู่ในนรกมากที่สุด อย่าไปไหนเลย ฉันจะให้โอกาสแก แกเลือกที่จะตายหรือจะถูกฉันมัดแล้วไปส่งหน้าสถานีตำรวจ?”
……………………………………….
ตอนที่ 1927
สมิธพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด ใครมันบ้าฉิบหาย กล้ามาแตะต้องเขา “แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร กล้ามาขู่ฉันแบบนี้!”
ป๋อจิ่วได้ยินแล้วหัวเราะ “สมิธ สร้างตัวจากธุรกิจน้ำมัน ตอนนี้บริษัทเป็นไปได้ด้วยดี แต่มือไม่ค่อยสะอาดเท่าไร เช่นถึงจะทำธุรกิจด้านน้ำมัน แต่ก็ยังทำธุรกิจอย่างอื่นด้วย”
สมิธได้ยินประโยคท้ายแล้วหน้าซีดทันที สองตาหรี่ลง
“เมื่อกี้แกถามฉันว่า รู้หรือเปล่าว่าแกเป็นใคร” ป๋อจิ่วเอียงคอ “งั้นตาฉันถามนายบ้างล่ะว่า รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
สมิธไม่แน่ใจในสถานะของอีกฝ่าย จึงไม่รู้ว่าไอ้เด็กนี่รู้เรื่องราวของเขามาจากที่ไหน!
“จำชื่อนี้ให้ดี” ป๋อจิ่วใช้สเปรย์พ่นที่หน้าอกเขา เอ่ยช้าๆ ว่า “Z”
เมื่อตัวอักษรดังกล่าวเป็นรูปเป็นร่าง สมิธเบิกตากว้าง ตัวสั่นงันงก เพราะไม่มีใครใน The Fifth Avenue ไม่รู้ว่า Z เป็นใคร คนที่ถูกฝ่ายนั้นจ้องล้วนแต่หนีไม่รอด ถูกส่งเข้าคุกกันถ้วนหน้า แต่สมิธคิดไม่ถึงว่า Z จะยังเด็กมาก!
เวลานี้เขากลัวของจริง เพราะหาก Z ลงมือเอง ย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้เขาได้หาทนายความแน่ เพราะหลักฐานที่หามาได้ล้วนแต่เชื่อมถึงความผิดของเป้าหมายทุกชิ้น ชนิดที่ต้องโดนจองจำชั่วชีวิตเลยทีเดียว
เมื่อต้องเจอหลักฐานเหล่านั้น ต่อให้ทนายฝีปากเป็นเอกแค่ไหน ก็ยากที่จะล้มล้างความผิดได้ “Z ขอร้องล่ะ ฉันล่วงเกินนายที่ตรงไหน พูดมาเถอะ เราคุยกันได้” สมิธวอนขอชีวิต เหงื่อผุดทันที “บอกฉัน บอกฉันสิ สินค้าพวกนั้นใช่ไหม ฉันให้นายได้นะ พวกเรามาแบ่งกัน เดี๋ยวฉันจะเอาให้นายเดี๋ยวนี้เลย!”
ป๋อจิ่วหัวเราะเบาๆ “สมิธ แกคงไม่รู้นิสัยฉันสินะ ฉันรับช่วงสินค้าแทนแกได้ แต่แกยังต้องกลับเข้าตะรางอยู่ดี”
สมิธได้ยินแล้ว ความคั่งแค้นปรากฏในแววตาทันที “ทำไมแกต้องกัดไม่ปล่อยด้วยวะ! Z แกก็อยู่ในวงการที่ไม่สะอาดนี่หว่า แกไม่กลัวเหรอว่าทำอะไรเด็ดขาดเกินไป แกก็จะเอาชีวิตไม่รอด”
“นั่นมันเป็นเรื่องของฉัน ส่วนทำไมฉันถึงทำกับแกแบบนี้” แววตาป๋อจิ่วเย็นเฉียบ “พวกผู้หญิงที่โดนแกย่ำยี ไม่ว่าจะเป็นชาติไหน แกอยากจะนอนกับเขาก็นอน ไม่อยากนอนก็ขายทิ้ง แถมยังบีบให้คนตายอีก ขนาดเข้าคุกไปก็ไม่สำนึก คำพูดที่แกพูดเมื่อตอนออกมา มันมากพอจะทำให้ฉันกัดนายไม่ปล่อยได้เลยล่ะ”
สมิธคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ Z ก็เป็นผู้ร้ายเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ทำไมมันจะต้องช่วยคนพวกนั้นด้วย…
“โอ้ เจ็บปวด เจ็บปวดดีว่ะ” สมิธหัวเราะเยาะเย้ย พยายามทำให้อีกฝ่ายเสียสมาธิ “Z แกไม่คิดว่าตัวเองจอมปลอมไปหน่อยเหรอวะ ทั้งที่ทำเรื่องชั่วเหมือนกัน เงินที่แกได้มาก็ใช่ว่าจะบริสุทธิ์ ยังออกหน้ามาช่วยคนอื่นอีก ทำไม? แกคิดว่าคนพวกนั้นจะถือว่าแกเป็นฮีโร่หรือไง? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คนจากทางการคงไม่คิดจะจับแกมากมายขนาดนั้น แกทำให้พวกเขากลัว ต่อให้เป็นยังไงแกก็ยังเป็นพวกตัวร้ายอยู่ดี แกไม่เข้าใจหลักการนี้เหรอวะ?”
เวลานี้ป๋อจิ่วลุกขึ้นยืน หลอดไฟฟ้าอยู่ด้านซ้ายของเธอ พอหันหลังให้แสงทำให้เธอเหมือนแวมไพร์ที่ลึกลับ ดูสง่าจนน่าตะลึง “ใครบอกแกว่าฉันเป็นพวกขาวสะอาด?”
……………………………………