ตอนที่ 2028
ออกจากวงการ
เฟิงอี้ดับบุหรี่ในมือเมื่อพูดถึงตรงนี้
เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สวมชุดสูทยืดตัวตรง เหมือนไม่เคยเปลี่ยนไป
เลย “เอาละ ประกาศเรื่องที่นายลาออกจากวงการก่อนดีกว่า”
การตัดสินใจดังกล่าว คนทั้งทีมย่อมได้ข่าวแล้ว รวมถึงพวกอินอู๋เย่า
ที่ดูพวกโคโค่กินบะหมี่อยู่ด้วย
บรรยากาศนิ่งงันอยู่นานไม่ใช่แค่แป๊บเดียว
ราวกับเมื่อถึงเวลานี้ ไม่ว่าจะเจออะไร พวกเขาก็ไม่แสดงอะไรออกมา
ได้แต่เงียบอย่างเดียว
แม้กระทั่งโคโค่ก็เช่นกัน มีเพียงอินอู๋เย่าที่เอ่ยขึ้นว่า “ฉันจะบอกเฟิงอี้
เรื่องออกจากวงการภายในสองวันนี้เหมือนกัน ถ้าประกาศพร้อมกัน
คงจะดีกว่า”
โคโค่ถือส้อมพลาสติกนิ่งอึ้ง ก่อนจะรับคำง่าย ๆ ส่วนเซวียเหยาเย่า
กลับก้มหน้า คงเกรงว่าจะแสดงอารมณ์ออกมา
ทางด้านเฟิงซ่างก็สไลด์หน้าจอมือถือด้วยนิ้วมือสั่นเทา
อินอู๋เย่าเห็นแล้วจุดบุหรี่ขึ้น “มันเป็นเรื่องปกตินะ”
แม้จะรู้ว่าปกติและรู้มานานแล้ว แต่การจะยอมรับได้ถือเป็นเรื่องยาก
เมื่อข่าวออกมา คำวิจารณ์ทั้งดีและร้ายต่างทะลักทลายเข้ามาหา
บ้างก็ว่า ‘เสียดายจัง’ บ้างก็หาว่าหลินเฟิงสันหลังหวะ
เป็นอย่างที่เฟิงอี้คาดการณ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงวิพากษ์แบบใด ย่อม
ไร้ผลต่อหลินเฟิงแล้วในเวลานี้ แต่ลูกบอลหิมะยิ่งกลิ้งก็ยิ่งโต เริ่มมี
คนวิจารณ์ว่าหลินเฟิงทำอะไรมา หัวข้อว่าเป็นเกย์กลายเป็นหัวข้อ
ร้อนแรง ตามมาด้วยข่าวลือต่าง ๆ ไม่ได้วิเคราะห์กันเลยว่าเป็นจริง
หรือไม่
เหล่าแฟนคลับมายืนด้านล่างของบริษัทด้วยต้องการคำอธิบาย พวก
นักข่าวก็มา เพราะรู้ว่าวันนี้ทางทีมจะมีการยืนยันสมาชิกลูกทีมคน
ใหม่ เด็กฝึกหลายคนต่างรอคอยการแข่งในครั้งนี้
แน่นอน พวกเขาหวังจะได้สัมภาษณ์หลินเฟิงมากที่สุด
ไม่ว่าหลินเฟิงจะตอบอย่างไรก็ต้องเป็นประเด็นฮอทแน่ แต่น่า
เสียดายที่หลินเฟิงไม่ออกมา
หลินเฟิงไม่ได้คิดว่าจะมีคนสัมภาษณ์ตนหรือไม่ เพราะกำลังคุกเข่า
มองร่างของคนที่อยู่บนโซฟาที่บ้าน พูดขึ้นว่า “คุณแม่ ขอโทษด้วย
ครับ ต่อไปผมมีหลานให้แม่อุ้มไม่ได้แล้ว”
คุณแม่หลินแต่งตัวด้วยชุดทำงานเสมอ เธอกำลังสูดหายใจลึก นับแต่
เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เธอไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกตัวเองอย่างไรดี
ไม่ใช่ว่าหู่ไม่ดี เธอเห็นอีกฝ่ายมาแต่เล็กจนโต
ทว่าเธอยังไม่เข้าใจ
ก็ดี ๆ กันอยู่ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
“แม่จำได้ว่าลูกชอบผู้หญิงนี่นา เฟิง แก้ไขไม่ได้เหรอลูก แม่รู้ว่าลูก
โตมากับหู่เลยรักกันมาก แต่พวกลูกยังอายุน้อย อาจจะเข้าใจว่าความ
รู้สึกในเวลานี้เป็นความรักแบบอื่น ลูก…” คุณแม่หลินพูดมาถึงตรงนี้
ก็สบตาหลินเฟิง
ลูกเธอ เธอย่อมรู้ดี มันแก้ไม่ได้แล้ว
“แม่รับไม่ได้” คุณแม่หลินกุมขมับ “อย่าเพิ่งพูดเรื่องที่ว่าแม่รับได้
หรือไม่ได้ก่อน หลังจากพ่อของลูกเสียไป คุณย่าก็หวังจะให้ลูกมี
ครอบครัว อยู่ ๆ มาเกิดเรื่องเข้าตอนนี้ แม่ก็ช่วยลูก ไม่ให้ลูกค้าของ
หลินกรุ๊ปเอาข่าวไปเล่าให้คุณย่าฟัง แต่เราจะปิดบังได้นานเท่าไรกัน”
“ขอโทษครับ” นอกจากประโยคนี้แล้ว หลินเฟิงก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก
คุณแม่หลินลุกขึ้นมา “แม่ต้องไปบริษัท ตระกูลเหลียงโกรธหนัก
มาก คงต้องคุยเรื่องสัญญากันใหม่”
“ผมไปคุยเองครับ” คงเพราะคุกเข่ามานาน เมื่อหลินเฟิงลุกขึ้นมา ขา
ก็พลันอ่อนแรง
คุณแม่หลินกวาดตามอง “อย่าเลย ลูกจะไปพูดอะไร จะยอมรับเรื่อง
นี้เหรอ?”
ตอนที่ 2029-1
จิ่วตอบตกลง
ปลายนิ้วของหลินเฟิงชะงัก ทว่าเขาไม่ได้พูดอะไร
เมื่อเห็นลูกชายเป็นอย่างนี้ คุณแม่หลินถอนใจเฮือกอีกครั้ง “แม่จะไป
บอกพวกเขา ลูกชายแม่ไปดูตัวเพราะต้องการบอกให้คุณหนูเหลียง
เข้าใจว่าลูกกับเขาไม่เหมาะสมกัน ไม่เคยคิดจะหลอกลวง แต่ที่ตระกูล
เหลียงเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของคนอื่นแบบนี้ ต่อไปตระกูลหลินคง
ร่วมมือกันไม่ได้แล้วละ”
หลินเฟิงอึ้งงัน เงยหน้ามองแม่ด้วยสายตาตะลึง พูดเสียงแหบออกมา
ว่า “แม่ แม่เท่จัง”
“ไม่ต้องรีบดีใจ เรื่องของลูกกับหู่ แม่ยังรับไม่ได้” คุณแม่หลินร้องไห้
“ทำไมพวกลูกสองคนถึงชอบทำให้คนที่บ้านต้องเป็นห่วงด้วยนะ”
หลินเฟิงกลัวแม่ร้องไห้เป็นที่สุด เขาละล้าละลังอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะ
ยื่นมือไปกอดแม่ “แค่เรื่องนี้แหละ ต่อไปจะไม่ให้แม่เป็นห่วงอีกแล้ว”
คุณแม่หลินไม่ได้พูดอะไรอีก แต่หลินเฟิงรู้ดีว่าต้องใช้เวลาอีกนาน
กว่าจะรับเรื่องนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ดีว่าแม่เขาเป็นแม่ที่แสนดี เขาช่างโชคดีที่เกิดมาใน
ครอบครัวนี้ เพียงแค่เรื่องทำนองนี้อาจจะรับได้ยากไปหน่อย หาก
เกิดขึ้นกับคนที่ไม่รู้จัก อย่างมากเราก็คิดว่าเป็นเรื่องความชอบของ
แต่ละบุคคล แต่พอเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก เราจะยอมรับได้อย่างไร
ด้วยรู้ซึ้งเลยเข้าใจดี หนทางในอนาคตยากลำบากนัก
หลายคนบอกว่าผู้ชายกับผู้ชายรักกันถือเป็นรักแท้ แต่ในความเป็น
จริง เพราะเหตุที่เป็นความรักจากเพศเดียวกันนี่เอง จึงไม่ค่อยตระหนัก
ถึงความรับผิดชอบ
บางคนแม้จะมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็ยังไปหวานกับคนอื่น
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะเป็นอย่างไรตอนที่หมดรักกันแล้ว
คุณแม่หลินไม่ได้กลัวว่าทั้งสองจะรักกัน แต่หวั่นเกรงว่าหากพวกเขา
ไม่รักกันแล้วจะทำอย่างไร?
หลินเฟิงได้ยินแล้วแววตาหม่นหมองลง “ผมจะไม่ซี้ซั้ว แล้วจะไม่
คบซ้อนด้วย ถ้าเขาเบื่อเราก็แยกกัน ถึงจะเจ็บปวด แต่ผมไม่เสียใจที่
เลือกเส้นทางนี้”
คงเพราะได้ยินคำพูดของคนเป็นลูก คุณแม่หลินจึงเข้าใจเสียที เธอ
ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไร
แต่ในเวลาเดียวกัน ด้วยความที่เป็นแม่คน ก็ยิ่งรู้สึกว่าลูกที่อยู่ตรงหน้า
เธอเวลานี้เติบโตเป็นผู้ชายแล้ว
เป็นผู้ชายที่ยอมรับได้ทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่เลวร้าย
เมื่อสองแม่ลูกคุยกันเสร็จ หลินเฟิงจึงไปหาคุณย่า คุณย่าหลินอาศัยที่
บ้านสไตล์สี่ประสาน มีต้นหวายต้นใหญ่ปลูกอยู่กลางลานบ้าน คุณ
ย่าไม่ยอมย้ายไปจากที่นี่ด้วยความประสงค์ของท่านเอง เพราะพวก
เพื่อน ๆ คนแก่ด้วยกันก็อยู่ที่นี่ และการได้อยู่ที่นี่ ทำให้ท่านได้รำลึก
ถึงสมัยที่คู่ชีวิตยังอยู่ด้วยตอนยังหนุ่มยังสาว
ปกติแล้วหลินเฟิงจะมาที่นี่วันละครั้ง วันนี้คุณย่าหลินปอกเปลือก
ส้มรอหลานชายมาเยี่ยม แต่กลายเป็นว่าลูกบ้านอวิ๋นกลับมาถึงก่อน
คุณย่าหลินเงยหน้าขึ้น “เกิดอะไรขึ้น มีเรื่องทะเลาะอีกแล้วล่ะสิ?”
หน้าผากของอวิ๋นหู่ได้รับบาดเจ็บจริง ๆ ทว่าไม่ใช่มาจากการทะเลาะ
วิวาท แต่เป็นเพราะคนเป็นพ่อเอาปี่เซียะหยกที่วางประดับไว้ในบ้าน
ขว้างใส่
“เปล่าครับ” อวิ๋นหู่ยิ้ม เพื่อให้คุณย่าหลินเห็นตัวเองถนัดขึ้น จึงย่อขา
พลางก้มตัวลง “ผมช่วยปอกให้คุณย่ากินดีไหมครับ?”
คุณย่าหลินยิ้มร่า “เฟิงเอ๋อร์ไปก่อเรื่องขึ้นล่ะสิ เลยให้เราออกหน้าก่อน”
“ครั้งนี้ไม่ใช่เขาหรอกครับ แต่เป็นผมเอง” อวิ๋นหู่ปอกเปลือกส้มพลาง
ก้มหน้าพูด “พ่อคิดว่าผมทำผิดเลยด่าผมว่าไอ้ลูกบ้า ผมคิด ๆ ดูแล้วก็
ผิดจริง เลยอยากมาขอโทษคุณย่าครับ”
ตอนที่ 2028
ออกจากวงการ
เฟิงอี้ดับบุหรี่ในมือเมื่อพูดถึงตรงนี้
เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สวมชุดสูทยืดตัวตรง เหมือนไม่เคยเปลี่ยนไป
เลย “เอาละ ประกาศเรื่องที่นายลาออกจากวงการก่อนดีกว่า”
การตัดสินใจดังกล่าว คนทั้งทีมย่อมได้ข่าวแล้ว รวมถึงพวกอินอู๋เย่า
ที่ดูพวกโคโค่กินบะหมี่อยู่ด้วย
บรรยากาศนิ่งงันอยู่นานไม่ใช่แค่แป๊บเดียว
ราวกับเมื่อถึงเวลานี้ ไม่ว่าจะเจออะไร พวกเขาก็ไม่แสดงอะไรออกมา
ได้แต่เงียบอย่างเดียว
แม้กระทั่งโคโค่ก็เช่นกัน มีเพียงอินอู๋เย่าที่เอ่ยขึ้นว่า “ฉันจะบอกเฟิงอี้
เรื่องออกจากวงการภายในสองวันนี้เหมือนกัน ถ้าประกาศพร้อมกัน
คงจะดีกว่า”
โคโค่ถือส้อมพลาสติกนิ่งอึ้ง ก่อนจะรับคำง่าย ๆ ส่วนเซวียเหยาเย่า
กลับก้มหน้า คงเกรงว่าจะแสดงอารมณ์ออกมา
ทางด้านเฟิงซ่างก็สไลด์หน้าจอมือถือด้วยนิ้วมือสั่นเทา
อินอู๋เย่าเห็นแล้วจุดบุหรี่ขึ้น “มันเป็นเรื่องปกตินะ”
แม้จะรู้ว่าปกติและรู้มานานแล้ว แต่การจะยอมรับได้ถือเป็นเรื่องยาก
เมื่อข่าวออกมา คำวิจารณ์ทั้งดีและร้ายต่างทะลักทลายเข้ามาหา
บ้างก็ว่า ‘เสียดายจัง’ บ้างก็หาว่าหลินเฟิงสันหลังหวะ
เป็นอย่างที่เฟิงอี้คาดการณ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงวิพากษ์แบบใด ย่อม
ไร้ผลต่อหลินเฟิงแล้วในเวลานี้ แต่ลูกบอลหิมะยิ่งกลิ้งก็ยิ่งโต เริ่มมี
คนวิจารณ์ว่าหลินเฟิงทำอะไรมา หัวข้อว่าเป็นเกย์กลายเป็นหัวข้อ
ร้อนแรง ตามมาด้วยข่าวลือต่าง ๆ ไม่ได้วิเคราะห์กันเลยว่าเป็นจริง
หรือไม่
เหล่าแฟนคลับมายืนด้านล่างของบริษัทด้วยต้องการคำอธิบาย พวก
นักข่าวก็มา เพราะรู้ว่าวันนี้ทางทีมจะมีการยืนยันสมาชิกลูกทีมคน
ใหม่ เด็กฝึกหลายคนต่างรอคอยการแข่งในครั้งนี้
แน่นอน พวกเขาหวังจะได้สัมภาษณ์หลินเฟิงมากที่สุด
ไม่ว่าหลินเฟิงจะตอบอย่างไรก็ต้องเป็นประเด็นฮอทแน่ แต่น่า
เสียดายที่หลินเฟิงไม่ออกมา
หลินเฟิงไม่ได้คิดว่าจะมีคนสัมภาษณ์ตนหรือไม่ เพราะกำลังคุกเข่า
มองร่างของคนที่อยู่บนโซฟาที่บ้าน พูดขึ้นว่า “คุณแม่ ขอโทษด้วย
ครับ ต่อไปผมมีหลานให้แม่อุ้มไม่ได้แล้ว”
คุณแม่หลินแต่งตัวด้วยชุดทำงานเสมอ เธอกำลังสูดหายใจลึก นับแต่
เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เธอไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกตัวเองอย่างไรดี
ไม่ใช่ว่าหู่ไม่ดี เธอเห็นอีกฝ่ายมาแต่เล็กจนโต
ทว่าเธอยังไม่เข้าใจ
ก็ดี ๆ กันอยู่ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
“แม่จำได้ว่าลูกชอบผู้หญิงนี่นา เฟิง แก้ไขไม่ได้เหรอลูก แม่รู้ว่าลูก
โตมากับหู่เลยรักกันมาก แต่พวกลูกยังอายุน้อย อาจจะเข้าใจว่าความ
รู้สึกในเวลานี้เป็นความรักแบบอื่น ลูก…” คุณแม่หลินพูดมาถึงตรงนี้
ก็สบตาหลินเฟิง
ลูกเธอ เธอย่อมรู้ดี มันแก้ไม่ได้แล้ว
“แม่รับไม่ได้” คุณแม่หลินกุมขมับ “อย่าเพิ่งพูดเรื่องที่ว่าแม่รับได้
หรือไม่ได้ก่อน หลังจากพ่อของลูกเสียไป คุณย่าก็หวังจะให้ลูกมี
ครอบครัว อยู่ ๆ มาเกิดเรื่องเข้าตอนนี้ แม่ก็ช่วยลูก ไม่ให้ลูกค้าของ
หลินกรุ๊ปเอาข่าวไปเล่าให้คุณย่าฟัง แต่เราจะปิดบังได้นานเท่าไรกัน”
“ขอโทษครับ” นอกจากประโยคนี้แล้ว หลินเฟิงก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก
คุณแม่หลินลุกขึ้นมา “แม่ต้องไปบริษัท ตระกูลเหลียงโกรธหนัก
มาก คงต้องคุยเรื่องสัญญากันใหม่”
“ผมไปคุยเองครับ” คงเพราะคุกเข่ามานาน เมื่อหลินเฟิงลุกขึ้นมา ขา
ก็พลันอ่อนแรง
คุณแม่หลินกวาดตามอง “อย่าเลย ลูกจะไปพูดอะไร จะยอมรับเรื่อง
นี้เหรอ?”
ตอนที่ 2029-1
จิ่วตอบตกลง
ปลายนิ้วของหลินเฟิงชะงัก ทว่าเขาไม่ได้พูดอะไร
เมื่อเห็นลูกชายเป็นอย่างนี้ คุณแม่หลินถอนใจเฮือกอีกครั้ง “แม่จะไป
บอกพวกเขา ลูกชายแม่ไปดูตัวเพราะต้องการบอกให้คุณหนูเหลียง
เข้าใจว่าลูกกับเขาไม่เหมาะสมกัน ไม่เคยคิดจะหลอกลวง แต่ที่ตระกูล
เหลียงเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของคนอื่นแบบนี้ ต่อไปตระกูลหลินคง
ร่วมมือกันไม่ได้แล้วละ”
หลินเฟิงอึ้งงัน เงยหน้ามองแม่ด้วยสายตาตะลึง พูดเสียงแหบออกมา
ว่า “แม่ แม่เท่จัง”
“ไม่ต้องรีบดีใจ เรื่องของลูกกับหู่ แม่ยังรับไม่ได้” คุณแม่หลินร้องไห้
“ทำไมพวกลูกสองคนถึงชอบทำให้คนที่บ้านต้องเป็นห่วงด้วยนะ”
หลินเฟิงกลัวแม่ร้องไห้เป็นที่สุด เขาละล้าละลังอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะ
ยื่นมือไปกอดแม่ “แค่เรื่องนี้แหละ ต่อไปจะไม่ให้แม่เป็นห่วงอีกแล้ว”
คุณแม่หลินไม่ได้พูดอะไรอีก แต่หลินเฟิงรู้ดีว่าต้องใช้เวลาอีกนาน
กว่าจะรับเรื่องนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ดีว่าแม่เขาเป็นแม่ที่แสนดี เขาช่างโชคดีที่เกิดมาใน
ครอบครัวนี้ เพียงแค่เรื่องทำนองนี้อาจจะรับได้ยากไปหน่อย หาก
เกิดขึ้นกับคนที่ไม่รู้จัก อย่างมากเราก็คิดว่าเป็นเรื่องความชอบของ
แต่ละบุคคล แต่พอเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก เราจะยอมรับได้อย่างไร
ด้วยรู้ซึ้งเลยเข้าใจดี หนทางในอนาคตยากลำบากนัก
หลายคนบอกว่าผู้ชายกับผู้ชายรักกันถือเป็นรักแท้ แต่ในความเป็น
จริง เพราะเหตุที่เป็นความรักจากเพศเดียวกันนี่เอง จึงไม่ค่อยตระหนัก
ถึงความรับผิดชอบ
บางคนแม้จะมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็ยังไปหวานกับคนอื่น
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะเป็นอย่างไรตอนที่หมดรักกันแล้ว
คุณแม่หลินไม่ได้กลัวว่าทั้งสองจะรักกัน แต่หวั่นเกรงว่าหากพวกเขา
ไม่รักกันแล้วจะทำอย่างไร?
หลินเฟิงได้ยินแล้วแววตาหม่นหมองลง “ผมจะไม่ซี้ซั้ว แล้วจะไม่
คบซ้อนด้วย ถ้าเขาเบื่อเราก็แยกกัน ถึงจะเจ็บปวด แต่ผมไม่เสียใจที่
เลือกเส้นทางนี้”
คงเพราะได้ยินคำพูดของคนเป็นลูก คุณแม่หลินจึงเข้าใจเสียที เธอ
ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไร
แต่ในเวลาเดียวกัน ด้วยความที่เป็นแม่คน ก็ยิ่งรู้สึกว่าลูกที่อยู่ตรงหน้า
เธอเวลานี้เติบโตเป็นผู้ชายแล้ว
เป็นผู้ชายที่ยอมรับได้ทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่เลวร้าย
เมื่อสองแม่ลูกคุยกันเสร็จ หลินเฟิงจึงไปหาคุณย่า คุณย่าหลินอาศัยที่
บ้านสไตล์สี่ประสาน มีต้นหวายต้นใหญ่ปลูกอยู่กลางลานบ้าน คุณ
ย่าไม่ยอมย้ายไปจากที่นี่ด้วยความประสงค์ของท่านเอง เพราะพวก
เพื่อน ๆ คนแก่ด้วยกันก็อยู่ที่นี่ และการได้อยู่ที่นี่ ทำให้ท่านได้รำลึก
ถึงสมัยที่คู่ชีวิตยังอยู่ด้วยตอนยังหนุ่มยังสาว
ปกติแล้วหลินเฟิงจะมาที่นี่วันละครั้ง วันนี้คุณย่าหลินปอกเปลือก
ส้มรอหลานชายมาเยี่ยม แต่กลายเป็นว่าลูกบ้านอวิ๋นกลับมาถึงก่อน
คุณย่าหลินเงยหน้าขึ้น “เกิดอะไรขึ้น มีเรื่องทะเลาะอีกแล้วล่ะสิ?”
หน้าผากของอวิ๋นหู่ได้รับบาดเจ็บจริง ๆ ทว่าไม่ใช่มาจากการทะเลาะ
วิวาท แต่เป็นเพราะคนเป็นพ่อเอาปี่เซียะหยกที่วางประดับไว้ในบ้าน
ขว้างใส่
“เปล่าครับ” อวิ๋นหู่ยิ้ม เพื่อให้คุณย่าหลินเห็นตัวเองถนัดขึ้น จึงย่อขา
พลางก้มตัวลง “ผมช่วยปอกให้คุณย่ากินดีไหมครับ?”
คุณย่าหลินยิ้มร่า “เฟิงเอ๋อร์ไปก่อเรื่องขึ้นล่ะสิ เลยให้เราออกหน้าก่อน”
“ครั้งนี้ไม่ใช่เขาหรอกครับ แต่เป็นผมเอง” อวิ๋นหู่ปอกเปลือกส้มพลาง
ก้มหน้าพูด “พ่อคิดว่าผมทำผิดเลยด่าผมว่าไอ้ลูกบ้า ผมคิด ๆ ดูแล้วก็
ผิดจริง เลยอยากมาขอโทษคุณย่าครับ”