ตอนที่ 1797-1
ฉินมั่วกลับไม่ลงมือ!
ทำไมถึงไม่ฆ่ามัน? ฝานเจียหันไปมองเขา เห็นเพียงเขากำฮู้นั่นแน่น แววตาไร้อารมณ์พิสูจน์ทุกสิ่งคำสั่งที่แฝงทางจิตไม่มีอิทธิพลพอที่จะให้เขาฆ่า Z ทั้งๆ ที่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น มันกลับได้ผล แต่ทำไมเมื่ออยู่ต่อนหน้านังนั่น กลับไร้ประสิทธิภาพ
ฝานเจียกำมือแน่น ความไม่ยอมแพ้เต็มนัยน์ตา แต่ไม่นาน เธอก็รับรู้สิ่งหนึ่งได้! หากการจะให้เขาฆ่าผู้หญิงคนนี้มันเป็นไปไม่ได้ แต่เช่นเดียวกัน ถ้าฝ่ายตรงข้ามทำร้ายเธอ เขาต้องช่วยเธอแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้น แววตาที่เขามองยัยนั่น เต็มไปด้วยความแปลกหน้า หมายความว่า Z จะโอหังได้เพียงเท่านี้แหละ! เธอเกิดความคิดใหม่ขึ้น เก็บมีดพลางทำท่าอ่อนแอไปเกาะชายหนุ่ม “พี่มั่ว เขาจะเอาตัวฉันไป เขาต้องเอาตัวฉันไปแน่ เขากับพวกที่อยู่ข้างนอกเป็นพวกเดียวกัน พี่ช่วยฉันนะ”
นั่นไง ฉินมั่วยื่นมือออกมากันไว้ข้างหน้าฝานเจีย แววตาไร้แสง เสียงที่เอ่ยเหมือนไม่ได้ตอบฝานเจีย ราวกับจะบอกตัวเองมากกว่า “ฉันจะไม่ยอมให้ใครพาตัวเธอไป”
เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้น เท้าของป๋อจิ่วถึงกับหยุดชะงัก ช้อนสายตามองฝานเจีย ส่วนฝานเจียโผล่หน้าออกมานิดหนึ่ง แววตาแฝงแววเจ้าเล่ห์ ราวกับจะบอกว่า ‘แน่จริงก็เข้ามาเลย’
ป๋อจิ่วหรี่ตาลง เธอไม่ชอบภาพตรงหน้าแบบนี้ แม้ว่าจะเตรียมใจไว้แล้วก็ตาม
ฝานเจียยังคงแสร้งทำเป็นน่าสงสาร ปากก็ร้องว่า “พี่มั่ว” อันที่จริงหล่อนต้องการยั่วโมโหป๋อจิ่วต่างหาก เพราะเมื่อเป็นเช่นนี้ ขอแค่ Z ลงมือทำร้ายเธอ ฉินมั่วย่อมไม่มีวันเมินคำสั่งเธอเหมือนเมื่อครู่ ใครที่ทำร้ายเธอ มันต้องตายแน่ นี่แหละคือคำสั่งที่แฝงทางจิตอย่างแท้จริง
ยิ่งคิด รอยยิ้มของฝานเจียก็ยิ่งชัดขึ้น เธออยากเห็น Z ที่เก่งกล้าถูกฉินมั่วทำร้าย ดูสิว่ามันจะสิ้นหวังหัวใจสลายแค่ไหน! เธอเดินมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง เพื่อจะให้ป๋อจิ่วลงมือกับตัวเองได้ง่ายๆ
ใครจะรู้ว่านังนั่นกลับยิ้มบางๆ ดึงเก้าอี้ไม้ตรงโต๊ะข้างผนังออกมา แล้วแยกขาทั้งสองนั่งคร่อมลงไปอย่างสบายอารมณ์ “ฉันไม่สนใจพวกหนูโสโครกที่เอาแต่หลบๆ ซ่อนๆ อย่างเธอหรอก เรื่องจับเธอเป็นหน้าที่ของตำรวจ ถ้าจะพาตัวคนไป ฉันย่อมต้องเอาตัวแฟนฉันต่างหาก อีกอย่าง พี่มั่ว เป็นคำที่เธอจะเรียกได้งั้นเหรอ? คำเรียกระหว่างเราสองคน ยังกล้าเอามาใช้เนอะ คุณหนูฝาน ตลกป่ะ คิดจะก๊อปปี้คนอื่นชั่วชีวิตเหรอ แต่ก็อปปี้มานานก็ต้องได้รู้ว่าของปลอมก็เป็นของปลอมอยู่ดี มันกลายเป็นของจริงไม่ได้หรอก”
ประโยคสุดท้ายเล่นเอาสีหน้าของฝานเจียเปลี่ยนไปทันที! เธอต้องข่มอารมณ์สุดแรงเกิดเพื่อไม่ให้ตัวเองวิ่งเข้าไปกระซวกนังนี่ เธอรู้ดีว่า ยิ่งเป็นเวลาแบบนี้ ยิ่งจะหลุดสถานะที่แท้จริงออกไปไม่ได้เด็ดขาด จึงทำตาแดง “เธอมาดูหมิ่นฉันแบบนี้ หมายความว่าไง? ไล่ฆ่าฉันจนหมดทางหนี ยังกล้าไม่ยอมรับอีก? ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพี่มั่ว ใช่ว่าแยกจากกันเพราะคำพูดนิดเดียวได้ จะจับตัวฉันก็จับไป อย่ายุแยงให้เราแตกกันแบบนี้!”
……………………………………….
ตอนที่ 1797-2
ป๋อจิ่วได้ยินแล้วไม่พูดอะไร แต่หันไปมองฉินมั่ว ใบหน้าของชายหนุ่มยังหล่อเหล่านิ่งสงบเหมือนเดิม หากว่ากันตามเหตุผล ด้วยความฉลาดของเขา ไม่น่าจะแยกแยะสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลไม่ออก ต่อให้สูญเสียความทรงจำไปแล้วก็เถอะ แต่ตอนนี้เขากลับไม่คิดจะปกป้องฝานเจียเลย จะว่าไปมันต้องเกี่ยวข้องกับ ‘กุญแจ’ ที่ปลุกคำสั่งที่แฝงทางจิตแน่ เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังเช็คเจ้าของ ดังเช่นเมื่อตอนที่ติดตั้ง เราสร้างความทรงจำให้มันว่าลายมืออันนี้นี่แหละที่เป็นเจ้าของของมัน ให้มันจำลายมือเอาไว้
เวลานี้ฝานเจียเป็นคนเดียวที่อยู่ตรงหน้าเขา นี่แหละที่เรียกว่าผลของ ‘กุญแจ’ การทำให้สภาพจิตใจของคนคนหนึ่งใกล้จะแหลกสลาย จากนั้นจึงล่อคำสั่งทางจิตที่ใช้ปกป้องตนเองในส่วนลึกหัวใจออกมา ก่อการสร้างภาพสมมติได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกเสียจากจะหาช่องโหว่เจอ แต่อะไรที่เป็นจุดอ่อนในหัวใจของเขาล่ะ ป๋อจิ่วไม่รู้สักนิด เดิมทีเธอนึกว่าแค่เขาได้เจอเธอก็จะรู้ว่าฝานเจียคือตัวปลอม แต่เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอมดูจะไม่สำคัญอีกต่อไป มันขึ้นอยู่กับภาพสมมติที่ร่างเอาไว้ต่างหาก คงมีแค่การฟื้นความทรงจำเท่านั้น ไม่มีวิธีอื่นเลย หรือเธออาจต้องติดตามเขาไปทุกที่
ป๋อจิ่วเงยหน้าขึ้น เห็นเขากำลังมองตัวเองอยู่ แววตาคู่นั้นลุ่มลึกมาก จากนั้นเขาก็เอ่ยว่า “เธอชอบสกปรกอย่างนี้เหรอ?”
ป๋อจิ่ว “สกปรกเหรอ? ตรงไหน?”
“เสื้อเปื้อน” น้ำเสียงของฉินมั่วเหมือนจะไม่รู้ร้อนรู้หนาว แถมยังเหมือนสอนสั่งอีกต่างหาก “ที่บ้านเธอไม่ได้บอกเหรอว่า อย่าเที่ยวไปกระโดดกำแพงครัวด้านหลัง”
ป๋อจิ่วได้ยินแล้วได้แต่เบะปาก “เมื่อก่อนแฟนฉันก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่เขาเสียความทรงจำหมดแล้ว ไม่สนใจฉันสักนิด ฉันเลยกลายเป็นเด็กถูกทิ้งไปแล้ว”
ฉินมั่วมองดูอีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้า นิ้วมือเกร็งทื่อ ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา แต่ไม่รู้ว่าทำไมได้ยินแล้วกลับอยากยื่นมือไปลูบเส้นผมยุ่งๆ นั่น ความคิดที่ว่าทำให้ทรวงอกของเขาสะเทือนจนเจ็บไปหมด เหมือนกำลังหักหลังใครสักคน
ป๋อจิ่วจับความผิดปกติของชายหนุ่มได้ เพราะว่ามันชัดมาก เขากุมหน้าอกด้วยมือข้างหนึ่ง หัวคิ้วขมวดมุ่น กระทั่งเรียวปากยังซีดขาวอย่างน่ากลัว จะต้องเจ็บขนาดไหน ถึงได้อยู่ในสภาพอย่างนั้น?
ป๋อจิ่วอยากยื่นมือไปพยุงเขา แต่อีกฝ่ายกลับก้าวถอยหลัง ยื่นมือออกไปปกป้องฝานเจีย
“ฉันเข้าใจแล้ว” เข้าใจว่าคำสั่งทางจิตที่มีไว้ปกป้องตัวเองของพี่คืออะไร เพราะพี่เอาแต่คิดว่าพี่ปกป้องฉันไม่ได้ ถึงกลายเป็นแบบนี้
ป๋อจิ่วหายใจเข้าลึกๆ มองดูเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่เข้ามา รีบส่งสัญญาณมือห้ามเอาไว้ เธอเข้าใจท่านเทพเป็นอย่างดี บางทีเธอเข้าใกล้อาจไม่เป็นปัญหาอะไร แต่หากฝ่ายเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้าไปใกล้เสียเอง เขาจะต้องรู้สึกถึงอันตราย และทุกอย่างที่รู้สึกว่าอันตราย เขาย่อมเด็ดหัวมันเสีย “ปล่อยพวกเขาไป”
นี่เป็นสิ่งแรกที่ป๋อจิ่วพูด หลังจากที่เดินออกมา ส่งผลให้พวกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบต่างตาโต หนึ่งในนั้นถึงกับหัวเราะเสียงหยัน “รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา?”
หากไม่เป็นเพราะคุณชายถังออกคำสั่งทางโทรศัพท์ เขาจะรู้สึกว่าเด็กนี่ไม่ได้ช่วยเขา แต่ช่วยคนร้ายต่างหาก ถึงเจ้าหนูนั่นจะเป็นคนหาเจอ แต่ก็ไม่ควรจะทำบ้าบอแบบนี้
“ฉันรู้ดีว่าตัวเองพูดอะไร ปล่อยให้พวกเขาไป” ป๋อจิ่วหันไปมอง “ฉันรู้ว่าพวกคุณสั่งพลยิงไกลซุ่มอยู่แถวนี้ แต่บอกคุณได้อย่างเดียว ไม่มีใครยิงแม่นเท่าคนที่อยู่ในร้านบะหมี่นั่น ถ้าเขาอยากไป พวกคุณไม่น่าจะห้ามเขาได้ ยิ่งตอนนี้เจ้าของร้านกับลูกจ้างเป็นตัวประกันพวกเขาอยู่ ถ้าเขาจะยึดตัวประกันไว้ก็ทำได้ทุกเมื่อ ถึงเวลานั้นเราจะคุมสถานการณ์ยาก คุณคิดว่าปล่อยพวกเขาดี หรือให้พวกเขาเอาตัวคนบริสุทธิ์เป็นตัวประกันไปด้วยดีล่ะ?”
………………………………………………………
ตอนที่ 1798-1
เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอยากพูดอีก ทว่าป๋อจิ่วกลับหัวเราะเบาๆ ขัดจังหวะ “ไม่เชื่อในการตัดสินใจฉัน ก็โทรไปหาคุณชายถังของพวกคุณได้เลย”
เจ้าหน้าที่โดนขัดจนว้าวุ่น เอ่ยหน้าดุ “ฉันต้องรายงานเบื้องบนก่อน” ป๋อจิ่วจึงผายมือเชิญ จากนั้นเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจึงรีบโทรออกไป เดิมเขาคิดว่าคุณชายถังจะครุ่นคิดอยู่นานก่อนให้คำตอบ แต่ไม่คิดว่าพอฝ่ายนั้นรับสายก็ทำเหมือนเมื่อครั้งที่แล้วทันที “พวกนายฟังคำสั่งเขานั่นแหละ แต่มีเรื่องหนึ่งที่เขาหลอกนาย ไม่ว่านายจะบุกเข้าไปหรือไม่ ฉินมั่วต้องจับตัวประกันไว้แน่ การปล่อยตัวเขาไปจะไม่เกิดปัญหาขึ้น แต่ถ้าไม่ปล่อยจะเกิดผลอยู่สองอย่างคือ คนที่บริสุทธิ์จะพลอยซวยไปด้วย เขตนั้นจะเกิดความวุ่นวาย ตอนนี้พวกนายไม่ได้เจอกับผู้ร้ายธรรมดา จริงๆ แล้วเขายังไม่ถึงขั้นที่เป็นผู้ร้าย เพราะยังไม่ได้ทำความผิด แต่เหมือนอย่างที่นายพูดนั่นแหละ เขายังไม่ได้จับตัวประกัน ถ้าไม่ใช่เพราะมีเจ้าเด็กนั่นที่อยู่ข้างนาย จนป่านนี้พวกนายก็ยังหาเขาไม่เจอ แล้วเขาก็จะไม่จับตัวประกันด้วย ไม่งั้นนายลองถามเจ้าเด็กที่อยู่ข้างนายสิว่า ถ้าฉินมั่วจะจับตัวประกันขึ้นมาจริงๆ เขาจะทำยังไง?”
ป๋อจิ่วยิ้ม “อุตส่าห์เปิดลำโพง จงใจให้ฉันได้ยิน? ก็แค่จับตัวประกันไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปเป็นตัวประกันให้พี่มั่วของฉัน จะให้ฉันทนเห็นแฟนตัวเองหนีไปกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง ฉันก็โมโหเป็นนะ”
“นิสัยอย่างคุณเนี่ยนะจะไปเป็นตัวประกัน” คุณชายถังหัวเราะ “อุตส่าห์ช่วยไม่ให้ฉินมั่วมีประวัติเลวร้ายติดตัวแบบสุดขาดใจขนาดนี้ ให้ผมเดาไหมล่ะว่าอะไรที่คำสั่งที่แฝงทางจิตของเขา คุณไม่ยอมให้ทุกคนลงมือ ก็เพราะถ้าใครทำร้ายฝานเจียเข้า ฉินมั่วจะต้องฆ่าคนนั้นใช่ไหม แต่ในทางกลับกัน ถ้าฝานเจียปลอดภัย มือของเขาก็จะไม่เปื้อนเลือดใคร สถานการณ์แบบนี้ทำให้คนไม่สบายใจจริงๆ Z มีคนชอบคุณตั้งเยอะ ผมว่าโฮชิโนะก็ไม่เลวนะ ทำไมจะต้องอยู่ตัวคนเดียวไปจนตายด้วย เราเพิ่มทางเลือกให้ตัวเองได้ พวกเรามาแลกเปลี่ยนกันดีไหม คุณยกภาระเกี่ยวกับฉินมั่วให้ผม ไม่ต้องถามอะไรอีก แล้วไม่ว่าคุณอยากได้อะไร ตระกูลถังจะให้ทุกอย่าง ผมรับประกันว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับเขา เอาไหม?”
ป๋อจิ่วเคาะนิ้ว “ถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่ไม่เลว แต่คุณชายถัง ดูเหมือนคุณจะเข้าใจผิด สิ่งที่ฉันอยากได้ในโลกนี้ มีแค่คนที่แซ่ฉินชื่อมั่วเท่านั้น”
“งั้นก็น่าเสียดาย” เสียงของคุณชายถังไม่ได้ฉายแววเสียดายออกมาสักเท่าไร เหมือนจะไม่แปลกใจที่เธอตัดสินใจแบบนี้ “ไม่อยากเชื่อเลยว่า เวลา Z จะรักใครสักคน ก็รักได้มากปานนี้”
ป๋อจิ่วชะงักครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงต่ำ “เมื่อกี้ฝานเจียสั่งให้เขาฆ่าฉัน แต่เขากลับกำฮู้ป้องกันตัวที่ฉันให้เขาเมื่อตอนเป็นเด็กไว้แน่น คุณไม่มีวันเข้าใจหรอก อันที่จริงเขา…”
“อันที่จริงเขารักคุณมากกว่าที่คุณรักเขาเยอะ” คุณชายถังเหมือนจะหัวเราะขึ้นมา “Z ผมเคยบอกคุณหรือเปล่าว่า ผมกับฉินมั่วเป็นคนประเภทเดียวกัน เวลาที่เรารักใคร เรายอมทิ้งแม้แต่ชีวิตตัวเอง”
ป๋อจิ่วไม่ทุกข์ทรมานมากมาย “ต้องบอกว่าเรื่องราวความรักของคุณนี่ บางครั้งก็ปลอบใจคนได้ดี ถึงตอนนี้คุณยังโสด เพราะไล่จีบคนที่ตัวเองชอบไม่สำเร็จก็ตาม แต่มันไม่เป็นอุปสรรคในการเล่าสู่กันฟังดี”
คุณชายถัง…นี่ขอบคุณผมเรอะ
……………………………………….