“ฮิฮิ” หลังจากที่พี่ชายและองครักษ์ทั้งสองของเขาได้เข้าสู่เกมแล้ว เจียงเสี่ยวหยูรู้สึกมีความสุขมากที่ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนติดยาเสพติด เธอนั่งมองเจียงซวนผู้หลงไหลในเกมพลางฮัมเพลงเดินดูไปรอบๆ “ไม่เห็นต้องไปเรียน ไม่เห็นต้องไปเรียน!”
“อัยยะ!” เธออุทานเมื่อเดินผ่านฟางฉี
“เจ้านายทำไมถึงมาคว้าคอเสื้อข้าแบบนี้!” เธอมองย้อนกลับไปด้วยความโกรธ
“ข้าพูดหรอว่าเจ้าไม่ต้องไปเรียนน่ะ!?” ฟางฉีถามเสียงเข้ม
“หืม!?” เจียงเสี่ยวหยูอ้าปากค้างและหันไปมองหน้าฟางฉีด้วยความประหลาดใจ
“เจ้าหมายความว่าไง?” ฟางฉีนั่งบนโซฟาซึ่งเป็นกิริยาที่ค่อนข้างหายาก
“ข้าอยู่ที่ร้านสบายดี ทำไมต้องไปเรียนด้วย” เจียงเสี่ยวหยูพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ “กรไปเรียนมันดียังไง? ข้าสามารถดเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่นี่!”
“แน่นอนเจ้าสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ในร้านนี้เผลอๆ อาจได้มากกว่าที่สำนัก” ฟางฉีกล่าว “ดังนั้นเจ้าวางแผนที่จะดูแลร้านข้าไปตลอดชีวิตเจ้าเลยหรือ?”
“ถ้าเจ้าอยู่ที่นี่เจ้าต้องเฝ้าร้านในขณะที่ข้าออกไปเที่ยวนะ” ฟางฉีกล่าว
“ไม่!” เจียงเสี่ยวหยูตะโกน “ข้าอยากออกไปเล่นด้วย!”
เธอสงสัยหลังจากเลี้ยวแวะไปหาเขาหลายรอบเธอพูดด้วยความประหลาดใจปนยินดี “เจ้านายมีแผนที่จะออกไปหาความสนุกหรือ? ข้าอยากไปด้วย!”
แม้ว่าเธอจะไม่สามารถที่จะกินของว่างขณะออกไปเล่นได้ แต่มันก็คงดีกว่าการทำหน้าที่เป็นคนเฝ้ามันเป็นความคิดเพียงชั่วคราวที่เธอต้องการจะไปเที่ยวรอบๆ บ้าง
อย่างไรก็ตาม ..
“การไปเรียนเป็นอย่างไรหรอ?” เจียงเสี่ยวหยูถาม “สำนักสวรรค์นั้นอยู่ไกลแสนไกล ข้าไม่อาจไปกลับได้หากข้าไปที่นั่น!”
มันเป็นการยากที่จะเดินทางไปกลับ เธอจะต้องควบคุมระยะทางการเคลื่อนย้ายจากดินแดนทะเลทรายร้างจากนั้นต้องเดินทางข้ามมหาสมุทรอันกว้างใหญ่เพื่อมายังตาจิน
คงจะดีถ้าเธอได้กลับบ้านบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นมันคงจะน่าเบื่อมากแบบที่ผ่านมาและคงหาโอกาสยากที่จะกลับมาที่นี่
“ได้โปรด .. ข้าไม่อยากไป” เด็กน้อยจับมือฟางฉีด้วยอุ้งมืออันน้อยนิด
ฟางฉีนิ่ง “ตอนที่ข้าอายุเท่าเจ้าข้าก็เคยเรียนมาก่อน”
“หึ!” เจียงเสี่ยวหยูย่ำเท้าด้วยความไม่พอใจ
เจียงซวนผู้กำลังเมามันกับเกมมองใบหน้าอันหมองมนของเจียงเาี่ยวหยูและพูดด้วยความโกรธว่า “น้องสาวเจ้านายของเจ้ารังแกเจ้าหรอ? ไม่ต้องกังวลข้าจะสอนบทเรียนให้เขาเอง!”
“เขาเป็นเจ้านายที่น่าดีที่สุด!” เจียงเสี่ยวหยูตะโกนพร้อมกระทืบเท้า “เจ้านายบอกให้ข้าไปเรียน! ฮือ” เธอร้องไห้ ในที่สุดตอนนี้พี่ชายของเธอได้หยุดความคิดเรื่องพาเธอกลับบ้านแล้วแต่เจ้านายเธอตอนนี้เขากลับทรยศ!
มันทำให้เธอโกรธ
“ฮ่าๆๆ” เจียงซวนมองด้วยความพอใจ แม้เขาจะชื่นชมความแข็งแกร่งในการฝึกฝนอย่างลึกซึ้งของฟางฉีแต่เขาคิดว่าเจ้าของร้านแอบไม่มีเหตุผล
“เจ้าของร้าน .. เป็นคนเก่งมีจิตใจแน่วแน่” เขารีบเอ่ยยกยอฟางฉี
จากนั้นเขาพูดต่อว่า “ข้าลองเล่นเดวิลเมคครายสามและมันก็ดีจริงๆ อย่างไรก็ตามเจ้าอาจยังเด็กซึ่งไร้ประสบการณ์ในการใช้ชีวิต หากเจ้าไปเรียนที่สำนักสวรรค์ผู้อาวุโสจะเป็นผู้สอนให้เจ้าได้รู้ถึงความสนใจและระบบรายละเอียดพื้นฐานของเทคนิคต่างๆ เจ้าตัวน้อยบอกหน่อยสิว่าข้าจะเข้าใจในเปลวไฟสีฟ้าของเดวิลเมครายสามยังไง?”
เจียงเสี่ยวหยูเกาหัว “ข้าสามารถใช้มันได้ในเกม แต่ไม่สามารถเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งเท่าไรหากนำออกมาใช้นอกเกม”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าหมายถึง” เจียงซวนพูดเสียงจริงจัง “เจ้าต้องเริ่มตั้งแต่ต้น การจะเข้าใจในกฏของธรรมาชาติมันไม่ใช่เรื่องง่าย”
“นอกจากนี้วิธีการฝึกฝนของครอบครัวเจียงของเราเป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนักของคนหลายรุ่นซึ่งนี่ถือเป็นวิธีการฝึกฝนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสายเลือดของเรา เป็นจุดดำเนิดตระกูลเจียงและเราไม่สามารถละทิ้งมันได้เลย”
เจียงเสี่ยวหยูดูเหมือนจะเข้าใจ แต่เธอปฏิเสธที่จะไปเรียน
ขณะเดียวกันเธอได้กินหอมของขนมแท่งรสเผ็ด
ฟางฉีที่ถือกล่องขนมไว้ในมือพูดขึ้น “กินมั้ยสงบสติอารมณ์ก่อน”
“หึ!” เธอหันหน้าเล็กๆ หนีเขา
“หืม .. หอมเผ็ดรสชาติดีจริงๆ อร่อยมาก!”
เจียงเสี่ยวหยูทนไม่ไหว “ข้าอยากกิน ข้าจะกิน!”
เธอต้องการแย่งกล่องจากฟางฉี
“แต่ ..” ขณะที่เธอกำลังคว้านั้นก็นึกขึ้นได้ว่า “ถ้าข้าไปเรียนแล้วข้าจะไม่สามารถกินขนมเผ็ดได้อีกแล้ว”
“ข้าตัดสินใจแล้ว” ฟางฉีกล่าวด้วยความหลงไหล “ร้านของข้าจะออกจากดินแดนทะเลทรายร้างและเดินทางท่องสู้โลกกว้าง!”
“!!!” เจียงเสี่ยวหยูอุทาน “เจ้านายพูดว่าอะไรนะ!?”
“ข้าบอกว่าข้าวางแผนว่าจะออกไปเปิดร้านนอกดินแดน” ฟางฉีประกาศ
“อ่า!” เจียงเสี่ยวหยูร้องตื่นเต้น “หมายความว่าฉันสามารถเล่นเกมและกินของอร่อยๆ ได้หลังเลิกเรียนใช่มั้ย!?”
“ตั้งใจเรียนและฝึกฝนเทคนิคดาบของเจ้า” ฟางฉีกล่าว “ข้าคิดว่า .. มันเป็นไปได้”
“ตกลง!” เจียงเสี่ยวหยูยอมอ่อนข้อ “ข้าจะไปเรียนแบบไม่เต็มใจนัก!”
เจียงซวนเช็ดเหงื่อบริเวณหน้าผากออก .. เขาแอบยกมือให้ฟางฉีเงียบๆ
ในที่สุดฟางฉีก็กล่อมให้เด็กน้อยตกลงที่จะไปเรียน
เวลาเดียวกันเขาถามฟางฉีทันทีว่า “แล้วเจ้ามีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่หรือไม่”
“แน่สิ” หากไม่มีเครือข่ายจะเรียกอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร
ฟางฉีเริ่มจินตนาการถึงสถานการณ์ที่ทุกแห่งในโลกเชื่อมต่อกันด้วยอินเตอร์เน็ต
“เจ้านายเราควรมีสาขาเพิ่มเมื่อไร?” เห็นได้ชัดว่าเจียงเสี่ยวหยูเริ่มรอไม่ไหว
ฟางฉีถามกลับว่า “แล้วเจ้าจะไปเริ่มเรียนอนุบสลเมื่อไร?”
“อนุบาล ..?” เจียงเสี่ยวหยูถามว่า “นั่นคืออะไร? ข้ากำลังจะไปเรียนที่สำนักสวรรค์!”
“เอ่อ .. สำนักอนุบาลสวรรค์” ฟางฉีเกาหัว
เจียงเสี่ยวหยูสูญเสียคำพูด
“ในฤดูใบไม้ผลิหน้า” เจียงซวนกล่าว “สำนักสวรรค์จะเริ่มปีการศึกษาใหม่ในฤดูใบไม้ผลิหน้า”
“จากนั้นข้าจะต้องเตรียมการบางอย่างแล้วก่อนจะถึงฤดูใบไม้ผลิ