ดี! เจ้าระบบเองก็ไม่ค่อยได้มีเวลาให้ข้าพัก ฟางฉีทบทวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ และแลกเปลี่ยนสาระทุกข์สุขดิบให้ซูเทียนจิและลูกค้าคนอื่นๆ ฟัง
อินเทอร์เฟซระบบแสดงข้อความ [โปรดทะเยอทะยานและหาแรงจูงใจ]
“ทะเยอทะยาน!? ข้ามีความทะเยอทะยานไม่พอเรอะ” ฟางฉีพูดด้วยเสียงนอย “ข้าฝึกฝนอย่างหนักในแต่ละวันเพื่อได้ขึ้นไปอยู่ในระดับเอส ข้าจัดการกับทุกภารกิจของดันเต้เอาชนะคู่ต่อสู้ทั้งหมดในคิงออฟไฟเตอร์ กลายเป็นนักแข่งรถที่แกร่งที่สุดใน GTAV .. ข้าเล่นเวอร์จิลได้ดีด้วยซ้ำทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มเกม เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าได้รับพลังมาอย่างไร!?”
ระบบตอบกลับ “กล่องของขวัญหรูหราสุดพิเศษ เป็ยตัวเลือกของเจ้าภาพว่าจะทำงานหรือไม่”
ฟางฉียิ้มแฉง “ข้าบอกเมื่อไรว่าจะไม่ทำ!?”
นอกจากซูเทียนจิแล้วลูกค้าคนอื่นๆ ที่มาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่างยืนดูประกาศใหม่ ฟางฉีมองดูปฏิทินและพบว่ามีเวลาอีกประมาณสองสัปดาห์ในการลงทะเบียนและเตรียมตัว
“เจ้าหนุ่ม! งานเทศกาลดนตรีนี้คืออะไร!?” ซูเทียนจิไม่สามารถละสายตาจากกิจกรรมนี้ได้ “มันเกี่ยวข้องกับดนตรีและจัดขึ้นในคิวโศน ข้าได้ทำการซื้อขายแผ่นเพลงกู่เจิงคลาสสิคไว้หลายแผ่นข้าแน่ใจว่าข้าจะต้องเหมาะสำหรับการแข่งขันแน่นอน!”
“เจ้าของร้าน! การแข่งขันคิงออฟไฟเตอร์นี่ยังไง?” ซงฉิงเฟิงรีบแทรกตัวไปยังเคาน์เตอร์ “ข้าต้องการเข้าร่วม!”
นาหลันหมิงสือถามว่า “เราลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดนี้ได้มั้ย?”
“แน่นอน” ฟางฉีบอกพวกเขาว่างานครั้งนี้เป็นการสร้างความบันเทิงที่บริสุทธิ์และพวกเขาสามารถลงทะเบียนร่วมกิจกรรมได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการ
“งั้นเราจะลงเล่นทุกกิจกรรม!”
“เราทุกคน!” ซูฉีซินและเฉินชิงชิงเดินตามมา
“เราด้วย!” ตงชิงลี่และจางวันยูที่ตามมาติดๆ
“เราลงทะเบียนคิงออฟไฟเตอร์กัน!” นาหลันฮงวูเองก็ร่วมสนุกด้วย “และนั่น .. แต่งตัวตามตัวละคร”
“ข้า .. ข้าอยากมีส่วนร่วมด้วย!”
ด้วยความได้เปรียบในการบิน เมฆก้อนดำจึงลอยอยู่เหนือผู้คน “ข้าอยากร่วมด้วย!”
ผู้ชมทั้งหมดมองไปยังเมฆดำด้วยสีหน้างุนงง “เจ้าของร้าน! สัตว์เลี้ยงเข้าร่วมงานได้มั้ย!?”
“ใคร!? ใครมันบอกว่าข้าเป็นสัตว์เลี้ยง!?” เช่นเดียวกับแมวถูกเหยียบหางมันมองไปรอบๆ ด้วยความดุร้าย “ข้าคือจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ที่กวาดผู้คนไปทั่วทะเลดวงดาวไร้ผู้ใดเทียบเทียม!”
“ฮะๆ เจ้าเนี่ยนะ!?”
“จอมมาร!?”
“ไปให้พ้น!” ฟางฉีไล่ “เจ้าเป็นแค่ตัวพาเคลื่อนย้าย เจ้าจะแต่งตัวเป็นอะไรละ”
“…”
ผู้คนตอนนี้รวมตัวเบียดเสียดกันอยู่หน้าเคาน์เตอร์
ขณะเดียวกันที่เมืองครึ่งลูกค้าต่างเริ่มกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นกัน
โมเซียนที่ถือถ้วยชานมในมือ “มีใครอยากเข้าร่วมการแต่งตัวมั้ย? หากเข้าร่วมเราจะได้เวลาเล่นเกมเพิ่มอีกหนึ่งชม!”
“ข้า! ข้า! ข้า!” ยือหยันตอบทันที “ข้าส่งข้อวามไปหาพี่สาวเหลียนแล้วข้าขอให้เธอจัดการเสื้อคลุมของศิษย์กลุ่มเมฆเขียววและเลียนแบบดาบเทียนหยา ต่อไปนี้เรียกข้าว่า ลูซือฉี!”
“ข้าชื่อลูซือฉี!” โมเซียนหันไปมองเธอ
“ท่านคือศิษย์พี่เวิ่นมิ่นจากกระบี่เทพสังหาร! ลูซือฉีไม่ใส่ชุดดำเหมือนท่าน!” ยือหยันเปลี่ยนเรื่องทันที “โอ้ศิษย์น้องหลิว เจ้ามีแผนอย่างไร”
หลิวหนิงหยุนหัวเราะเบาๆ “ข้าจะไม่ทะเลาะกับเจ้า ข้าเลือกคนอื่นไปแล้ว”
ขณะที่บางคนกำลังต่อสู้เพื่อที่จะเป็นตัวละครนั้นๆ แตกต่างจากซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ พวกเขาเตรียมพร้อมกันมาอย่างดี
“ฮ่าๆๆๆ” ซงฉิงเฟิงยืนขำพลางใส่เครื่องแบบสีน้ำตาล
หลินเซียวที่ยืนข้างเขาสวมเสื้อกั๊กสีน้ำเงินเข้มทับเสื้อเชิ้ตสีขาวคู่กับกางเกงขายาวสีแดงด้านหลังของเสื้อกั๊กเป็ยรูปพระจันทร์เสี้ยว “ซึกิวอมิรุทาบิโอโมอิเดส!” เขาตะโกน
นอกจากพวกเขาแล้วลูกค้าคนอื่นๆ ก็วกวนอยู่กับการแต่งตัวเช่นกัน
…
สำหรับผู้ฝึกฝนที่อยู่นอกดินแดนทะเลทรายร้าง พวกเขาอาสัยอยู่ในดินแดนก็จริงแม้จะมีพละกำลังแต่การฝึกฝนนั้นต่ำ
ในการออกไปจากดินแดนทะเลทรายร้างงพวกเขาไม่เพียงต้องข้ามมหาสมุทรแต่ยังต้องบุกป่าฝ่าเขตต้องห้ามของสวรรค์ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์
ไม่มีใครในโลกนี้รู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของเขตสวรรค์ต้องห้าม ผู้คนรู้เพียงว่าพื้นที่มหาสมุทรทางตะวันออกไปยังทะเลดวงดาวนั้นเรียกว่าทะเลลึกผู้คนมักทราบกันดีว่าที่นั้นเป็นสถานที่ต้องห้ามอันดับหนึ่ง
กลุ่มนักบุญทั้งสามเรียกว่าภูเขาไต่หวังซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกสุด ความหมายของชื่อคือภูเขาร้าง ผู้คนกลุ่มนี้กลัวจนไม่มีใครกล้าเข้าไปที่นั่น
สถานที่ทางตอนเหนือที่ถูกขนานนามคือดินแดนน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ หากผู้ฝึกฝนธรรมดาเข้าไปถึงแก่นจิตวิญญาณพวกเขาจะถูกแช่แข็งจนเป็นน้ำแข็ง ยอดเขานั้นถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีนวลขาวปกปิดสัตว์ร้ายมากมายที่เคยอาศัยอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ มันเป็นสถานที่ที่เย็นยะเยือกดูขมขื่นแม้แต่ผู้ฝึกฝนผู้แข่็งแกร่งเองก็ไม่สามารถผ่านไปได้
ตามตำนานเส้นทางเดียวที่จะนำไปสู่ดินแดนแห่งความสุขนั้นอยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ทางตอนใต้ ในอดีตผู้ฝึกฝนบางคนที่เดินทางมายังทะเลทรายร้างบอกว่าพวกเขาเดินทางมาโดยญาณทิพย์
ตามตำนานกล่าวว่าเป็นดินแดนกว้างใหญ่มีที่อยู่บนภูเขาสูงเสียดฟ้าพร้อมไปด้วยใจกลางของแก่นจิตวิญญาณมากมาย
อย่างไรก็ตามจากผู้ฝึกฝนที่เคยล่องเรือไปในทะเลทางใต้เพื่อมองหาดินแดนแห่งความสุข มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ส่งข้อความกลับมา
ตามข้อมูลลับนี้เป็นที่รู้กันเฉพาะของกองกำลังกลุ่มใหญ่ๆ เช่นนักบวชทั้งสามซึ่งเป็นเหตุให้ผู้ฝึกฝนเพียงไม่กี่คนในดินแดนทะเลทรายร้างมีโอกาสได้สื่อสารกับโลกภายนอก เนื่องจากการเทเลพอร์ตเคลื่อนย้ายของกลุ่มนักบวชได้ปิดตัวลงไปหลายพันปีก่อน พวกเขาจึงถูกตัดขาดกับโลกภายนอกเกือบทั้งหมด
สำหรับผู้ฝึกฝนในดินแดนทะเลทรายร้างงผู้ฝึกฝนจากนอกโลกอันลึกลับนั้นมีจริง แถมยังมีพลังวิเศษอย่างไรก็ตามสำหรับเจียงซวนแล้วเส้นทางในทะเลใต้ไม่ได้มีมนตร์ขลังอย่างที่เล่าต่อกันมาจากตำนาน
ในสายตาของพวกเขาดินแดนทะเลทรายร้างนั้นเป็นเพียงดินแดนรกร้างที่คั่นด้วยเขตต้องห้ามของสวรรค์ซึ่งดูเหมือนจะปรากฏขึ้นเนื่องจากธรรมชาติอันไม่สมควร ด้วยความประหลาดใจจึงทำให้องค์หญิงน้อยจากตระกูลเจียงเดินทางมาที่นี่เพื่อเที่ยวเล่น
เมื่อรู้ว่าเธอจะกลับไปยังดินแดนของเธอเพื่อไปเรียนต่อ เด็กสาวค่อนข้างลังเลใจที่จะจากไป ฟางฉีเข้ามาในร้านเพื่อดูทุกอย่าง เธอจึงออกไปข้างนอกเพื่อซื้อของท้องถิ่นมากมายอย่างเช่นอาวุธต่างๆ
สำหรับพนักงานใหม่ในเมือครึ่งเขาได้แก้ไขปัญหานี้แล้ว รวนหนิงเพื่อนบ้านที่อบอุ่นของฟางฉี เธอคุ้นเคยกับการจับตาดูร้านของฟางฮี เนื่องจากเธอจ้างคนมาบริหารร้านของเธอเองเธอจึงสมัครตำแหน่งคนดูแลร้านในเมืองครึ่งเพื่อคอยดูแลร้านกับซูโม
ขณะเดียวกันในเมืองจิวหัว
แถวอันยาวเหยียดผู้คนยืนเข้าแถวเพื่อรอสมัครตำแหน่งคนเฝ้าร้าน ชายหนุ่มผมทองคนหนึ่งเอ่ยทักทายฟางฉี
หน้าของฟางฉีกระตุกเล็กน้อย เขาสงสัยว่าชายคนนี้อยู่ในบัญชีดำแต่ทำไมเขายังแอบเข้ามาที่นี่!?