ซงฉิงเฟิง (เคียวคุซานากิ) ได้ที่สามทั้งในเกมคิงออฟไฟเตอร์และการแข่งขันแต่งตัว เขาได้รับกล่องของขวัญสองกล่อง กล่องละหนึ่งรางวัล
บนหน้าจอขนาดใหญ่กำลังถ่ายให้เห็นซงฉิงเฟิงที่เดินมาพร้อมกับกล่องของขวัญในอ้อมแขน เขาดูตื่นเต้นเล็กน้อย
ท้ายที่สุดเขาไม่ได้คิดสามอันดับแรกใน Diablo แต่ก็ได้ของรางวัลในรายการอื่นแทน เขาเริ่มแกะกล่องด้วยความร่าเริง ข้างในเป็นกล่องเล็กๆ โปรงใสดูแปลก ภายในกล่องมีเปลวไฟสีแดง
“นี่คืออะไร?
เขาอ่านป้ายที่อยู่ข้างกล่องด้วยความสงสัย “เปลวไฟสีแดง เปลวไฟสามารถชำระล้างพลังงานแห่งเปลวไฟของตัวเองได้”
“ห้ะ!?” ซงฉิงเฟิงตัวแข็ง “นี่มัเปลวไฟสีแดงของเคียวคุซานากางิไม่ใช่หรือ!?”
ผู้ชมเองก็อึ้งเช่นกัน “หมายความว่าเราสามารถเปลี่ยนพลังงานเปลวไฟของตัวเองให้เป็นของเคียวคุได้หลังจากดูดซับพลังหรอ?”
ทุกคนรู้ว่าเปลวไฟสีแดงของเคียวคุนั้นมีอุณภูมิสูงมากและไม่มีเปลวไฟใดเทียบมันได้
“ฮ่าๆๆๆ อันนี้เจ๋งมาก!” ซงฉิงเฟิงเปิดกล่องของขวัญด้วยความดีใจ
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้โชคดีอย่างที่คิด หินสีขาวที่วางอยู่ในกล่องของขวัญมันคืออักษรรูนที่มีรอยสลักรูปไฟดูแปลกตาอยู่
“รูนเลขสาม!?” ใบหน้าของซงฉิงเฟิงเปลี่ยนเป็นสีเข้ม เขาเกือบเป็นลมจากความผืดหวัง
“ตาข้า! ตาข้าแล้ว!” ซูเทียนจิถือกล่องของขวัญที่ได้จากการเล่นดนตรี เห็นได้ชัดว่ารางวัลของเธอดูใหญ่กว่าซงฉิงเฟิงสองเท่า
เธอเดินขึ้ยมาพร้อมเปิดกล่องโดยไม่รอช้า ข้างในเป็นดาบยาวพร้อมด้วยพลังของสาระจิตวิญญาณมากมาย
ดาบยาวสองฟุตดูเหมือนจะทำขึ้นจากหยก แต่มองดูก็ไม่เชิงว่ามันจะเป็นหยก สิ่งที่แปลกแประหลาดคือเธอสัมผัสได้ว่าข้างในดาบนั้นเหมือนน้ำแข็ง
ดาบนั้นสั้นกว่าดาบปกติทั่วไปหนึ่งฟุต มันมีลักษณะใสเหมือนน้ำในฤดูใบไม้ร่วง สามารถมองเห็นภาพสะท้อนของพวกเขาได้อย่างชัดเจน
มีรอยสีเขียวตรงสันดาบตั้งแต่ต้นจรดปลาย
ซูเทียนจิอุทาน “หืม? ดาบดำ!?”
ดาบดำและเตียนย่าเป็นที่รู้จักกันในนามดาบศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่สมัยโบราณในกระบี่เทพสังหาร แม้ว่าดาบดำจะมีชื่อเสียงน้อยกว่าเตียนย่าซึ่งเป็นดาบของหลูซือหยู แต่ก็ถือว่าทรงพลังมาก!
“ทำไมเธอถึงได้โชคดีขนาดนี้”
“เธอมีดาบดำ!”
“โชคดีไปถึงไหนกัน!”
ผู้คนต่างจ้องไปที่หน้าจอด้วยความตกใจ
“อะฮะ! ข้าได้ดาบดำ” ซูเทียนจิอึ้ง เธอแทบจะกระโดดโลดเด่นด้วยความดีใจแต่ต้องรักษาภาพลักษณ์ “ดาบดำของเทพเจ้า! ฮ่าๆๆๆ”
“ใจเย็นๆ เจ้ากำลังถูกถ่ายทอดสด” ฟางฉียืนกระซิบข้างเธอ
“โอ้ ..”
“อะแฮ่ม .. ใครคือคนต่อไป” ซูเทียนจิเปลี่ยนเรื่องทันที
เมื่อได้ยินว่าคนอื่นๆ ได้แต่ของดีๆ ตงชิงลี่ตอนนี้อยู่ไม่ติด “ข้าจะเปิดกล่องของข้า!”
อย่างไรก็ตามแม้ว่าคนสว่นใหญ่จะได้ของดี แต่ของบางชิ้นจากกล่องก็ยังน่าผิดหวังและเธอเองก็สงสัยไม่น้อยว่าของเธอจะเป็นอะไรแล้วน่าผิดหวังหรือเปล่า
เธอแอบรู้สึกไม่สบายตัว .. อีกใจก็รู้สึกประหม่า
“มันคืออะไร?”
“อะไรอยู่ในนั้น!?”
ผู้ฝึกฝนและนักรบส่วนใหญ่ที่เฝ้าดูต่างมีใจและลุ้นตั้งแต่กล่องแรก หลายครั้งที่ของขวัญหลายชิ้นทำพวกเขาประหลาดใจ บางคนถึงกับลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อขยับเข้าไปใกล้หน้าจอ
“เปิด! เปิด!” ใบหน้าของปีศาจดำเกือบจะชิดหน้าจอ
ขณะเดียวกันตงชิงลี่กัดฟันและเปิดมัน!
จากนั้นเธออุทานขึ้น
ภายในกล่องมีเห็ดหลินจือสวรรค์ที่มีแก้นแท้ทางจิตวิญญาณพรั่งพร้อมไปด้วยประโยชน์มากมาย เห็ดหลินจือจากภูเขาแห่งจิตวิญญาณ (จากเซียนกระบี่พิชิตมาร) ถูกเรียกอีกอย่างว่าสมุนไพรเสริมโชค มันออกฤทธิ์อย่างมหัศจรรย์
แม้ว่าจะไม่ได้ดีเท่าของคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ใช่ของธรรมดาเช่นกัน ตงชิงลี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็รู้ว่ามันหายาก
ขณะเดียวกันเหลือเพียงกล่องขนาดใหญ่เพียงกล่องเดียว
มันเป็นของขวัญของนาหลันหมิงสือที่ได้รับจากการแข่งคิงออฟไฟเตอร์
นาหลันหมิงสือรู้สึกประหม่าเล็กน้อยมันเป็นความรู้สึกที่หาได้ยากสำหรับเธอ เธอเปิดกล่องด้วยมืออันสั่นเทา
เผลือกตาของเธอกระตุก
กระบี่ขนาดใหญ่สีขาวราวหิมะมันเปล่งแสงเย็นยะเยือกพุ่งออกมาจากในกล่อง ข้างๆ มีฝักเก็บสีน้ำเงินเข้ม
“นี่คือ..!?”
ดาบยาวสามฟุตครึ่ง มันเป็นกระบี่ที่มีความหนาวเหน็บจับหัวใจ เมื่อใดก็ตามที่มันแตะศัตรู มันผู้นั้นก็จะถูกแช่แข็งด้วยความหนาวเหน็บ!
อุณหภูมิในร้านลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้ฝึกฝนและนักรบบางคนที่มีความแข็งแกร่งต่ำจำต้องย้ายออกห่างจากกระบี่โดยไม่สมัครใจ
“กระบี่หิมะของตระกูลหนี่ในขี่พายุทะลุฟ้า!?”
นักรบหลายคนเบิกตาโพลง
องค์หญิงที่นั่งอยู่ใกล้ๆ มีความต้องการลึกๆ ที่จะได้มัน “เธอได้กระบี่เล่มนี้มาจริงหรอ?”
จีวูที่อยู่ตรงนั้นจ้องมันด้วยแววตาไม่เชื่อ “กระบี่หิมะจากขี่พายุทะลุฟ้า!?”
นาหลันหมิงสือเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับกระบี่ในมือ
เธอฟันกระบี่และเกล็ดหิมะที่ตกลงมารอบๆ ตัวเธอเริ่มออกแรงมากขึ้น
จากนั้นเธอจัดการกับมันด้วยท่าทางที่ดูโหดร้าย พลังกระบี่น้ำแข็งพุ่งออกไปไกล
“สี่สิบเมตร!?”
“สุดยอด!” ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ อุทานขณะดู
“อ๊ะ .. ทำไมข้าถึงไม่ติดสามอันดับแรกบ้างนะ!” หลายคนที่เห็นต่างคลั่งไคล้พลางหงุดหงิดใจว่าทำไมไม่เป็นตนที่ได้ของแบบนี้
“หึ!” เจียงเสี่ยวหยูกอดอกเธอหันหน้าไปทางกล่องของขวัญอันเล็ก
คนอื่นๆ ตอนนี้เต็มไปด้วยความอฺจฉาตาร้อน เหลือเพียงกล่องของขวัญของฟางฉีในตอนนี้ที่ยังไม่ได้เปิด
แน่นอนว่าฟางฉีคงไม่เปิดต่อหน้าทุกคน เขาคงจะเปิดมันในเวลาที่เขาอยู่คนเดียว .. เขาคงจะพยายามรวยโดยไม่ให้ใครรู้ตัว
แม้แต่กล่องของขวัญธรรมดาๆ ยังมีของดีเช่นนี้แล้วอะไรจะซ่อนอยู่ในกล่องของฟางฉีกัน
ด้วยมือที่สั่นเทาฟางฉีตัดสินใจเปิดกล่องของขวัญกล่องใหญ่ของเขา ..
[ปี๊ป! ท่านได้รับชิ้นส่วนอาวุธ] ระบบอินเตอร์เฟชแจ้งเตือน
[ปี๊ป! ท่านได้รับเบวูล์ฟ] ชุดถุงมอที่เต็มไปด้วยพลังงาน
[ปีี๊ป! เครื่องยิงขีปนาวุธอเนกประสงค์ของคาลินาแอน (ไม่จำกัดจำนวน)]
[ปี๊ป! ท่านได้รับวงล้อพระอาทิตย์และวงล้อพระจันทร์]
เมื่อได้ยินข้อความจากระบบฟางฉีบิดตัวด้วยความตื่นเต้น
…
สถานประกอบการนี้สามารถย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์
ตามตำนวนสิ่งมีชีวิตทั่วโลกอยู่ด้วยความงมงายและโลกของเราก็เปรียบเสมือนเรือลำเดียวที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรอันขมขื่นพร้อมกับสิ่งมีชีวิตมากมายบนเรือ ผู้ที่มีพลังอมตะพวกเขาเริ่มเวชทนาเหล่านักบวชที่อาศัยการกินลมกินน้ำค้างในดินแดนแห่งความสุขสมพวกเขาจึงส่วนวิธีการฝึกฝนให้แก่ผู้คน ในเวลานั้นมีปรมาจารย์มากมายเกิดขึ้น
ชนชั้นสูงของปรมาจารย์บางคนปฏิบัติตามแบบอย่างของสถาบันที่มีความเป็นอมตะ พวกเขาจัดตั้งสำนักเพื่อสอนเหล่านักบวชเต๋า
ตั้งแต่สมัยโบราณปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงและมีคุณธรรมพวกเขาหลายคนมาจากสำนักสวรรค์อันห่างไกล ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใดก็ยังคงได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งที่สูงส่งของสำนักสวรรค์
เวลาเดียวกันฟางฉีเองกำลังเดินทางจากสถานที่ห่างไกลที่สุดในโลกเพื่อไปยังที่ดินแดนแปลกประหลาดนั้น