ฟางฉีรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับสถานการณ์นี้สักเท่าไร “ประสิทธิภาพของข้าขัดข้องหรือ?”
“ก็ไม่ ..” ฟางฉีจำความรู้สึกลึกลับนั้นได้ทันใดนั้นเขาสัมผัสได้ว่ามันเป็นสัญชาตญาณที่เขาพัฒนาขึ้นหลังจากการต่อสู้หลายต่อหลายครั้งในห้องฝึกฝน
เป็นไปได้ว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ
จากนั้นเขาพบว่าแสงแหง่จิตวิญญาณอีกหลายจุดพุ่งมาจากเรือจิตวิญญาณไปยังทั่วทิศทาง
…
นอกจากสิ่งของทางจิตวิญญาณที่มากมายแล้วยังมีวัตถุโบราณอันล้ำค่าของเหล่านักบวชเต๋าที่เหลืออยู่เป็นมรดกตกทอดจากปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมบัติที่ตกทอดไม่ได้เลวร้ายเพียงแต่มันเป็นเครื่องเตือนใจว่าทำให้เกิดความอิจฉาริษยาและเกลียดชัง เมื่อใดก็ตามที่สมบัติล้ำค่าปรากฏขึ้นมันจะทำให้เิกดสงครามนองเลือด
สำหรับกองกำลังบางส่วนนั้นมีจุดแข็งจุดอ่อนที่ต่างกัน หากพวกเขาโชคดีพวกเขาอาจได้พบสมบัติหายาก พวกเขาจะถูกทำลายได้หากข่าวรั่วไหลออกไป
ตระกูลหลี่แห่งหน้าผาจี้เฟ่งเป็นตระกูลแห่งการฝึกฝนขนาดเล็ก ด้วยสมาชิกเพียงไม่กี่คนพวกเขาจึงมีการพัฒนาน้อยกว่าครอบครัวอื่นๆ อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวลือว่าลูกสาวของหัวหน้าตระกูลหลี่ได้มีความเติบโตอย่างมากทางด้านการฝึกฝน
มีคนแจ้งข่าวว่าเธอได้รับสมบัติอันหายากที่เรียกว่าหยกเวทย์มนตร์
มันยากที่จะมองเห็นจากระยะไกล แต่เมื่องมองเห็นใกล้ๆ ผู้ชมจะเห็นว่าผู้ที่บินออกจากเรือจิตวิญญาณนั้นเป็นหญิงสาวในชุดผ้าไหมสีขาวยาว พร้อมด้วยสาวกในเครื่องแบบบางคน
นอกจากนี้ยังมีผู้อาวุโสที่สวมชุดสีขาวท่าทางของเขาดูตื่นตระหนก
ด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึมของหญิงสาวชุดขาวเธอเงยหน้ามองและพูดว่า “เจ้าเป็นใคร!? ตระกูลหลี่แหงหน้าผาจี้เฟ่งไม่เคยต่อสู้กับใครและไม่มีศัตรู เจ้าทำลายเรือจิตวิญญาณของเรา เจ้าต้องการทำสงครามกับตระกูลเราหรือ?”
“ทำสงคราม!?” น้ำเสียงเย่อหยิ่ง “หลังจากนี้เจ้ายังคิดว่าหน้าผาจี้เฟ่งจะยังเหลืออยู่อีกหรือ ส่งมอบหยกเวทยท์มนตร์มาซะเถอะไม่งั้นเจ้าจะต้องกลายเป็นเหมือนเรือจิตวิญญาณเหล่สนี้”
เสียงนั้นดังก้องบนท้องฟ้าดูเหมือนว่ามันคำรามมาจากทุกทิศทางโดยที่เดาไม่ถูกเลยว่ามาจากส่วนไหน
เธอก้มหน้าทันทีและพูดด้วยเสียงเย็นชาวว่า “หยกเวทย์มนตร์อะไร? ข้ากำลังเดินทางไปเรียนสำนักสวรรค์ข้าว่าพวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว”
“อย่าพยายามทำให้ข้ากลัวเพราะเรียนที่สำนักสวรรค์เลย ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าต้องใช้โอกาศนี้เพื่อซ่อนหยกเวทย์มนตร์” เสียงนั้นดูอดทนไม่ไหวอีกต่อไป ปรากฏการณ์ที่อันตรายชวนขนลุกปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ฟางฉีมองด้วยความตั้งใจและในที่สุดเขาก็เห็นมัน มันเป็นลำแสงที่บบางเฉียบราวกับด้ายสีฟ้า เพียงเสี้ยววิต่อมาผู้อาวุชุดขาวตะโกนด้วยความเจ็บปวด แขนของเขาหลุดออกจากไหล่ .. เหงื่อผุดออกมาจากร่างกายด้วยความเจ็บปวด
แม้แต่ฟางฉีเองยังรู้สึกขนลุกไปทั่วร่างกายแล้วนับประสาอะไรกับผู้ชมที่กำลังจ้องมอง
“เมื่อกี้คืออะไร!?”
“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนเพิ่งเห็นเทคนิคการควบคุมดาบ”
“ไม่ .. ผู้ฝึกฝนสถานน้อยสามารถใช้เทคนิคการควบคุมดาบได้เช่นกันหรอ!?”
ซูเทียนจิพูดด้วยสีหน้างุนงง “เสี่ยวหยูไม่เคยพูดถึง นั่นไม่ใช่เสี่ยวหยูหรอกหรือ?”
“มันดูไม่เหมือนดาบบิน” ร้านครึ่งเมืองมองแสงประหลาดด้วยความตกใจ ดวงตาสีเขียวคู่หนึ่งจับจ้องพลางส่งข้อความ [ข้าว่ามันไม่ใช่ดาบ]
อันที่จริงเทคนิคของพวกเขาดูคล้ายกับเทคนิคการควบคุมดาบ เพียงแต่ของผู้หญิงที่มีนามสกุลหลี่เท่านั้นที่ดีเหมือนมีลูกบอลเหล็กสีดำลอยอยู่ในอากาศ
“เจ้าสิ่งนี้มันอะไรกันเนี่ย!?”
“มันเป็นวิธีการที่ชั่วร้ายและนอกรีต! เราจะต่อสู้กับเขาจนตัวตาย!” สาวกคนหนึ่งตะโกนก่อนจะพุ่งเจ้าหาวัตถุที่มีลักษณะคล้ายลูกบอลเหล็กขนาดเล็ก
“หยุด!” ผู้หญิงคนนั้นพยายามเตือนเข้า แต่ด้วยแสงแฟลชสีดำปรากฏขึ้นที่หน้าท้องของสาวกคนนี้
ร่างของเขาร่วงหล่นจากท้องฟ้าโดยไร้วิญญาณ
“พี่ชายสาม!?” คนอื่นๆ ตะโกนด้วยความโศกเศร้าพลางจับศพของชายชุดขาวคนนี้ เขาตายด้วยความกลัว ดวงตาของเขาเบิกกว้างตายตาไม่หลับ
ถ้าฟางฉีไม่หลบขณะที่เขาไล่ตามเรือจิตวิญญาณเขาก็คงจะต้องลงเอยเช่นเดียวกับสาวกคนนี้
ไอเท็มรูปทรงกลมคล้ายลูกบอลเหล็กมันดูธรรมดาแต่เต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัว
“นี่คือ ..!?” ผู้หญิงคนนั้นดูหวาดกลัวราวกับจำมันได้ เธอชี้ไปที่ลูกบอลด้วยมืออันสั่นเทา “นี่มัน .. ลูกบอลกักเก็บพลังดาบ”
“เจ้าไม่ได้ดูเพิกเฉยอยากที่แสดงท่าทาง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยเยาะ
มันไม่ใช่ดาบบิน แต่มันเป็นพลังที่มาจากลูกบอลกักเก็บพลังดาบซึ่งคมพอที่จะตัดผ่านโลหะราวกับว่ามันเป็นดาบของจริง แก่นแท้จิตวิญญาณของมันแข็งแกร่งแหลมคมเปรียบได้ดั่งดาบ มันเป็นสมบัติขั้นสูงสุดจากกลุ่มโบราณ ซึ่งวิธีการสร้างได้สูญหายไปนานแล้ว
ใครก็ตามที่สามารถครอบครองสมบัติดังกล่าวและใช้มันอย่างเชี่ยญชาญจะมีพลังอันแข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังพวกเขา ผู้ฝึกฝนที่มีสมบัติเช่นนี้มีกำลังมากกว่าผู้ฝึกฝนทั่วไปเนื่องจากอาวุธนี้คล้ายกับนักฆ่าที่มีกลไกการป้องกันทั้งหมด
หญิงสาวที่มีนามสกุลหลี่หัวเราะอย่างขมขื่น “ข้ารู้สึกประหลาดใจที่ลูกบอลนี้จะกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวขนาดนี้”
ทุกคนหน้าซีด หากเป็นเพียงลูกบอลธรรมดา พวกเขาอาจมีโอกาสหลบหนี แต่ตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกเหมือนกำลังจมสู่ท้องทะเลแห่งความสิ้นหวังอย่างสุดซึ้งเพราะพวกเขารู้ดีว่าพลังมหาศาลในลูกบอลนี้จะไม่ยอมให้พวกเขาหลีกหนีพ้น
ความเห็นปรากฏขึ้นอีกครั้ง [เจ้าของดูเหมือนว่าท่านเองก็ไม่สามารถออกไปได้ ..]
ฟางฉีขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อพบว่าเขาเองถูกล้อมรอบไปด้วยรัศมีที่เยือกเย็น
“สมบัติเป็นของผู้มีอำนาจ” เสียงนั้นพูดข้นด้วยน้ำเสียงกร้าว “สิ่งเดียวที่เจ้าสามารถตำหนิได้คือความแข็งแกร่งแต่ข้างในอ่อนแอ ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะฆ่าเจ้าและนำมันไปด้วย”
เสียงนั่นดูมั่นใจในตัวเองมากจนทำให้คนตรงหน้าอึ้ง ชีวิตพวกเขาคล้ายมดในทันทีที่เสียงนั้นประกาศก้อง บางทีสำหรับเขาแล้วผู้ฝึกฝนพวกนี้อาจเป็นเพียงแค่มดธรรมดาทั่วไป
ร่างที่มีผมสีขาวพร้อมด้วยผ้าสีขาวพาดลงมาจากท้องฟ้าราวกับว่าเขากำลังลงมาจากสวรรค์เพื่อเฝ้าดูเหตุการณ์ เขาเหมือนเทพเจ้าที่สามารถกำหนดโชคชะตาของผู้อื่นได้
“หนานกงจิวเหวิน!?”
ขณะเดียวกันลูกบอลพลังงานขยับอีกครั้ง
ความสิ้นหวังค่อยๆ ล่วงลึกเข้าครอบงำจิตใจของทุกคน พวกเขาพบว่าพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่จะร่ายเวทย์ .. ยังไงก็ไม่รอด
พวกเขาหลายคนหลับตาลงอย่างสิ้นหวังและคิดว่าคงจะต้องตายลงหลังจากเธอแสงแฟลชสีดำ
“ในโลกมีของแบบนี้ด้วยหรอ!?”
ผู้ชมกำลังดูการถ่ายทอดสดต่างทำหน้าอึ้ง
“เจ้าคิดว่าอันไหนทรงพลังมากกว่ากันระหว่างเทคนิคการควบคุมดาบกับสิ่งนี้”
“ดูเหมือนมันเองคล้ายกับเทคนิคการควบคุมดาบ ..” รวนหนิงพึมพำ “ข้าไม่รู้ว่าอันไหนที่ดีกว่ากันเลย ..”
ลูกบอลกักเก็บพลังหยุดลงทันที!
“!!?? มันถูกบล็อค!?”
ดาบมาจากไหน!?
ฟางฉีมองด้วยสายตาเพิกเฉย “แน่นอนว่าเทคนิคการควบคุมดาบของข้าเป็นของแท้!”