ทุกคนกำลังมองดูท่าทางที่น่าเกรงขามของฟางฉี ขณะเดียวกันพลังดาบอันน่ากลัวกำลังพังทลายพร้อมกับก้อนเมฆบนท้องฟ้าที่กำลังปั่นป่วน
พลังที่พุ่งพล่านยังคงหลังไหลราวกับสายน้ำจากสวรรค์ที่พยายามจะกลืนกินภูเขาทั้งลูก
หนานกงจิวเหวิ่นหัวเราะเยาะการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดของฟางฉี ฟางฉีหายไป .. กลับกลายเป็นใครอีกคนแทนในสายตาของเขาแม้ว่าฟางฉีจะเป็นอมตะแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็หนีเพลงดาบที่น่ากลัวนี้ไปไม่ได้แน่นอน
ในที่สุดเขาก็ดูพอใจ ในทางกลับกันคนอื่นๆ กลับมีท่าทางที่หวาดกลัว
เขาตาย?
ผู้คนต่างครุ่นคิด ท้องฟ้าที่ปั่นป่วนตอนนี้เริ่มปลอดโปร่งขึ้น หลายคนไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองกับภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า ชายหนุ่มผมขาวคนหนึ่งอยู่ในเสื้อกันลมสีแดงปรากฎตัวพร้อมกระเป๋าในมือ
“เกิดอะไรขึ้น!?” ผู้ฝึกฝนขอตระกูลหลี่มองสลับกันไปมา
หมู่มวลเมฆที่เคยปั่นป่วนได้จางหายไป พลังของเพลงดาบมังกรก็เช่นกันมันค่อยๆ กระจายตัวกันไปช้าๆ เช่นเดียวกับลูกบอลกักเก็บพลัง พลังของมันค่อยๆ เบาลงและหยุดในที่สุด
แกร๊ก! ทันใดนั้นรอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนลูกบอลกักเก็บพลัง
รอยแตกค่อยๆ ปรากฏขึ้นทีละรอย สองรอย .. สาม .. สี่
“อะไรน่ะ!?” หนานกงจิวเหวิ่นไม่เคยรู้สึกกลัวและระแวงเท่านี้มาก่อน
ที่น่ากลัวกว่าคู่ต่อสู้ข้างหน้าคือดูเหมือนว่าทุกอย่างที่เขาเคยอวดโอ้กำลังพังทลายลง .. ออร่าและร่องรอยพลังของเขากำลังพังลง พลังเทียบเท่าคนร้อยคนจากเพลงดาบสวรรค์ที่หนานกงจิวเหวิ่นนั้นภาคภูมิใตเป็นอย่างมากถูกกลืนกินโดยพลังที่น่ากลัว
ทันใดนั้น .. มันก็ระเบิด! หมอกเลือกจำนวนมากกระจายฟุ้งไปทั่ว
หนานกงจิวเหวิ่นตะโกรกรีกร้อง หมดแล้วความหวังที่จะป้องกันด้วยความหวาดกลัวที่กัดกินหัวใจ เขาหันไปจ้องชายหนุ่มคนนั้นที่ยินอยู่บนดาบ แม้ว่าตอนนี้ผมสีขาววและเสื้อสีแดงจะหายไปแล้ว แต่ฟางฉีก็ยังดูเหมือนปีศาจในร่างคนสำหรับเขาอยู่ดี
เขาจ้องมองชายตรงหน้าอย่างตั้งใจ “ดาบสวรรค์ของข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าหนีไปแน่นอน ..”
ตู้ม! เขากลายเป็นผุยผง
ทุกอย่างหายไปกับสายลมเว้นแต่กลิ่นเลือดจางๆ ที่ลอยซึมอยู่ในอากาศ
ผู้ฝึกฝนและนักรบในสองร้านที่กำลังชมการถ่ายทอดสดต่างตกตะลึง
“!!?? พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าของร้านทำอะไร!?”
“ข้าไม่เห็นอะไรเลยในการต่อสู้ ข้าเห็นเหมือนเขาเพียงแค่เลียนแบบชายคนนั้นเท่านั้น”
“เขาทำได้ยังไง!?”
“นั่นคือพลังของปีศาจหรือเปล่า?” ซุยเซียนหยุนที่กำลังดูการถ่ายทอดสดพร้อมกับคนอื่นๆ ในกลุ่มหนานหัวเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น “เจ้าของร้านน่ากลัวมาก!” เธอรู้สึกงอแงเล็กน้อยที่ไม่สามารถบรรยายความจุกที่อยู่ข้างในออกมาได้ในตอนนี้
“หืม?” ยื่อหยันที่อยู่ใกล้ๆ กระซิบ “ผู้อาวุโสดูตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าเรา”
อาจารย์ซีชิมองอย่างเขินๆ “ศิษย์พี่นั่งก่อน ..”
หญิงสาวปีศาจหนิงไป่เองผู้มีเลือดเนื้อครึ่งปีศาจจ้องมองไปที่หน้าจอด้วยความสนใจขณะจิบชานมในมือด้วยความสงสัย [นี่เจ้าของใช้เทคนิคอะไร ทำไมเราไม่เห็นรู้บางเลย?]
“เทคนิคอะไร?” ฟางฉีตอบว่า “การปลดขั้นสูงสุด”
“สูงสุด?”
“ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้เองหรือ?”
ท้ายที่สุดเขามีพลังช่วงพริบตา เขายังไม่สามารถควบคุมมันได้ตามใจสั่งอย่างในเกมโดยการกดปุ่มเดียว โลกในความจริงจำต้องกระจายความแข็งแกร่งไปทั่วร่างกาย
เวลาจะต้องแน่นอนการกระจายกำลังจะต้องทั่วถึง เพื่อที่เขาจะสามารถดูดซับพลังชีวิตจากคู่ต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากเขาพลาดไปเพียงเล็กน้อย ผลอาจย้อนกลับมาทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหรือถึงตายได้
ซึ่งฟางฉีสามารถเปิดใช้การผสานร่างกายระหว่างเขาและดันเต้ได้สำเร็จ เขาเปิดใช้พลังขั้นสูงสุดและพลังเพลงดาบได้ถูกทำลายทันที!
ภายใต้การจ้องมองที่น่าสะพึงกลัวของผู้ฝึกฝนของตระกูลหลี่ฟางฉีบินไปหาพวกเขา “ให้ข้าได้อธิบาย ข้าเป็นแค่คนสัญจนที่ต้องการขอทราบเส้นทางจากพวกเจ้าก็เท่านั้น”
ฟางฉีดูจรงิใจและไม่มีพิษภัย
ผู้ฝึกฝนจากตระกูลหลี่พูดไม่ออก .. จริงๆ แล้วพวกเขายังไม่หายค้าง
คนตรงหน้าอะไรกัน? เขาเพิ่งจัดการกับหนานกงจิวเหวิ่นและทำลายพลังของลูกบอลกักเก็บ .. แต่ตอนนี้เขาดันบอกว่าตัวเองแค่ต้องการขอเส้นทาง!?
ผู้อาวุโสของตระกูลหลี่คนนั้นสูญเสียคำพูดไปม่น้อย
“ข้าชื่อ .. หลี่หลันเหลียว ข้ารู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งที่เจ้าช่วยผู้อาวุโส” หญิงสาวสวมชุดผ้าไหมสีขาวกล่าวขอบคุณ ใบหน้าของเธอสวยสง่าแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่เพิ่งเฉียดตายก็ตาม
ฟางฉีพยักหน้าเบาๆ “เจ้ารู้ทางไปที่สำนักสวรรค์หรือไม่?” เขาเอ่ยถาม
หลี่หลันเหลียวทำหน้าตกใจ “สำนักสวรรค์!? ท่านกำลังจะไปที่นั้นหรอ?”
ฟางฉีเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขารู้สึกดีใจมาก ดูเหมือนว่าสำนักสวรรค์ที่หลายคนพูดถึงจะมีชื่อเสียงมากทีเดียว แม้แต่หญิงสาวคนนี้ก็ยังรู้จัก
อย่างไรก็ตามฟางฉีเองไม่คาดคิดมาก่อนว่าการเดินทางไปยังสำนักสวรรค์จะเป็นเรื่องใหญ่และยากเย็นเช่นนี้ สงสัยไม่น้อยทำไมเธอถึงทำตัวประหลาด
ฟางฉีกล่าวต่อว่า “ใช่ .. มีอะไรผิดปกติหรือไม่?”
“ไม่ ..” หลี่หลันเหลียวพูดด้วยความลำบากใจ “ผู้อาวุโส ท่านวางแผนที่จเรียนไปยังสำนักสวรรค์ด้วยหรือไม่?”
ความสับสนยังปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยๆ ของเธอ “แล้วท่านวางแผนที่จะไปเรียนด้วยหรือเปล่า?”
สีหน้าของฟางฉีเปลี่ยนเป็นสีเข้ม “เจ้าคิดว่าข้าดูเหมือนคนกำลังวางแผนไปหรือเปล่า?”
“…” หลี่หลันเหลียวมองดูเขาและพบว่าเขายังเด็กเกินไป
อย่างไรก็ตามหากเป็นเช่นนั้นความแข็งแกร่งของเขาก็น่ากลัวเกินกว่าที่จะเป็นศิษย์ เป็นไปได้มั้ยว่าเขาอาจมาจากตระกูลฤๅษีผู้มีพลังและอำนาจมาก
เธอพูดด้วยเสียงไม่สบายใจ “ผู้อาวุโสเจ้าสังหารชนชั้นสูงจำนวนมากจากวังดาบสวรรค์แม้แต่หนานกงจิวเหวิ่นหัวหน้าวังดาบสวรรค์ยังถูกสังหารโดยท่าน ..”
ฟางฉีกล่าวว่า “อย่าพูดอีกนะว่าวังงสวรรค์นั่นยอดเยี่ยม หลังจากนี้ไปทุกคนควรได้รู้ว่าสมาคมเกมแห่งสวรรค์ของข้าตั้งหากที่ยอดเยี่ยมที่สุด พวกเจ้าอยากเข้าร่วมมั้ย!?”
หลี่หลันเหลียว “…”
หลี่วูยะ ผู้อาวุโสสูญเสียคำพูดไปเล็กน้อย
สมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลก็เช่นกัน
.. การโฆษณานี้สมควรได้คะแนนเต็ม