ตอนที่ 109 เอลฟ์น้ำแข็ง
ขณะที่บาโรกเริ่มอ่านบทโดยตั้งใจจะสร้างความสนุกให้กับตัวเอง เขาก็อยากเห็นว่างานของนักเขียนบทละครหนุ่มคนนี้จะตื้นเขินเพียงใด แต่เขากลับหมกมุ่นอยู่กับบทที่มืดมนทันทีหลังจากอ่านเพียงฉากแรกเท่านั้น
เขาได้อ่านผลงานศิลปะทุกประเภทโดยนักเขียนบทละครระดับปรมาจารย์ของฟารัคซี่ เขายังได้อ่านงานในตํานานที่ลึกซึ้งทุกประเภทที่สืบทอดมาแต่โบราณ แต่ “ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” นี้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง!
เมื่อโครงเรื่องไปถึงผู้บังคับใช้กฎหมายที่บ้าคลั่งสแตนฟิลด์ ซึ่งนําลูกน้องของเขาไปสังหารหมู่ครอบครัวนางเอกทั้งครอบครัวบาโรกรู้สึกถึงอารมณ์ที่มากจนมือของเขาขย้ำกระดาษโดยไม่รู้ตัว
“ บาโรก ระวังด้วย! ข้าจะเก็บบทนั้นไว้ในคอลเล็กชันของข้า!” นักแสดงอาวุโสเตือน
อย่างไรก็ตาม บาโรกเพิกเฉยต่อคําเตือนของนักแสดงอาวุโสโดยสิ้นเชิง การที่จะเป็นนักแสดงที่โดดเด่นได้ เราต้องมีจินตนาการและอารมณ์ที่เพียงพอสําหรับตัวละครในเรื่อง บาโรกก็เป็นหนึ่งในบุคคลดังกล่าว
เมื่อนางเอกตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อการตายของครอบครัวของนางเพื่อเอาชีวิตรอดและเดินไปเคาะประตูบ้านของนักแสดงนําชาย บาโรกก็สั่นสะท้าน
เขาพลิกหน้าด้วยความตั้งใจที่จะค้นหาว่านักแสดงนําชายเปิดประตูหรือไม่ แต่น่าเสียดายที่หน้าถัดไปว่างเปล่า
บาโรกตื่นขึ้นจากการหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวของ “ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” เขามองไปที่นักแสดงอาวุโสที่ส่งบทให้เขา
เขาดึงบทของเขากลับมาจากบาโรก และพับเก็บมันอย่างระมัดระวัง ขณะทําเช่นนั้น เขาถามว่า “ข้าคิดว่าเจ้าคงเข้าใจความรู้สึกของข้าแล้วใช่ไหม?”
แน่นอนว่า บาโรกเข้าใจความรู้สึกของเขาแล้ว เขายังต้องการไปเค้นถามนักเขียนบทละครทันที อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ในขณะเดียวกัน บาโรกก็เข้าใจว่าเรื่องนี้จะต้องเป็น…ภาพยนต์ที่ได้รับความนิยม
แม้ว่าจะไม่ตรงกับมหากาพย์ในตํานานจากนักเขียนบทละครระดับปรมาจารย์ของฟารัคซี่ แต่แน่นอนว่าจะต้องได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี!
“ข้าจะลองคัดเลือกอีกครั้ง ข้าต้องทําอย่างนั้น…” บาโรก พึมพํากับตัวเอง
ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าเขาพลาดโอกาสที่จะได้แสดงในภาพยนตร์ที่อาจเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เขาไม่เพียงแต่จะสูญเสียชื่อเสียงที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะนํามาให้เขาเท่านั้น แต่ที่สําคัญที่สุดคือเขาสูญเสียโอกาสในการสัมผัสเรื่องราวของ “ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” ในฐานะนักแสดง!
“มาดามโครเดอร์ไม่อนุญาต บางทีเจ้าน่าจะลองรอจนกว่าการคัดเลือกจะจบลง”
น่าเสียดายที่ความเป็นจริงไม่ได้สวยงามเท่าจินตนาการ บาโรก ไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟังแกรนดัชเชส แม้ว่าเขาจะเป็นชนชั้นสูงเหมือนกัน แต่มาดามโครเดอร์มีอํานาจสูงสุดในคฤหาสน์แห่งนี้
โจชัวพอใจอย่างมากกับการคัดเลือก คณะละครท่านดํามีค่าควรแก่การเป็นคณะละครชั้นนําของฟารัคซี่ นักแสดงทุกคนสามารถเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องอธิบาย
หลังจากที่พวกเขาเลิกแสดงแบบละครเวที พวกเขาทั้งหมดก็สามารถแสดงผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาได้
จนถึงตอนนี้นอกเหนือจากตัวละครหลักชายและหญิงแล้ว ตัวละครอื่นๆ ทั้งหมดใน “ลีอองเพชฌฆาตมหากาฬ” ได้ตัวแสดงแล้ว
จากคณะละครที่มีมากกว่าร้อยคน เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ทําการคัดเลือก และที่น่าแปลกใจ คนๆนี้คือเอลฟ์ เอลฟ์ผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า
ดยุคแห่งปาดําสนิทกับเอลฟ์ในป่า ดังนั้นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โจชัวรู้สึกว่าไม่น่าแปลกใจที่คณะละครห่านดําจะมีเอลฟ์
“เจ้าชื่ออะไร?” โจชัวถามเอลฟ์ นางสูงเหมือนเอลฟ์ทั่วไป นางให้ความรู้สึกมั่นใจ
“ไทลีน ข้าไม่มีนามสกุล”
เอลฟ์ตอบโจชัวอย่างไม่ลังเล นางยังบอกด้วยว่านางไม่มีนามสกุลเหมือนคนก่อนหน้า
พฤติกรรมของนางดูกล้าหาญมากในสายตาของโจชัว ท้ายที่สุดนักแสดงส่วนใหญ่ของคณะละครห่านเป็นลูกหลานของชนชั้นสูง มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นสามัญชน
ในโลกนี้มีคนเพียงสองประเภทที่ไม่มีนามสกุล หนึ่งคือสามัญชนระดับต่ำที่สุด ส่วนอีกพวกหนึ่งคือคนที่ถูกขับไล่ออกจากครอบครัว การถูกไล่ออกจากครอบครัวเป็นเรื่องที่น่าอับอาย
เมื่อได้ยินคําตอบของเอลฟ์ โจชัวก็กวาดสายตามองนักแสดงคนอื่นๆ จากคณะละครห่านดําแน่นอนว่า นักแสดงหลายคนมองเอลฟ์ด้วยความสนุกสนาน
ไม่มี “สามัญชน” ในหมู่เอลฟ์ ดังนั้นเอลฟ์คนนี้จึงเป็นคนที่ถูกขับไล่ออกจากครอบครัวอย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่นางไม่มีนามสกุล
“ถ้าอย่างนั้น ไทลืน ตัวละครตัวไหนใน “ดีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” ที่เจ้าอยากจะคัดเลือก?”
โจชัวรู้สึกประทับใจกับเอลฟ์สาวผู้กล้าหาญคนนี้
“อืม… นางเอก?”
เมื่อเอลฟ์พูดถึงตัวละครที่นางต้องการแสดง โจชัวก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยจากสมาชิกของคณะละครห่านดํา
ในระหว่างการคัดเลือกไม่ว่าการแสดงของคณะละครห่านดําจะโดดเด่นแค่ไหน ก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าพวกนางต้องการคัดเลือกนักแสดงนําหญิง
เหตุผลก็คือเพราะทุกคนสามารถบอกได้หลังจากอ่านบทเรื่อง “ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” แล้วว่ามาทิลด้าเป็นตัวละครที่มีความหมายสําหรับห่านดําของพวกเขา
“ขอโทษด้วย ไทอื่น ไม่ว่าส่วนสูงหรืออายุของเจ้าก็ไม่เหมาะกับนางเอก”
โจชัวเป็นคนที่ยอมรับการแข่งขันที่ยุติธรรม แม้เขาจะมั่นใจว่าดอกไม้แห่งฟารัคซี่แกลโลลี่ต้องเป็นนางเอก โจชัวก็เต็มใจเปลี่ยนนางเอกถ้าการแสดงของไทลืนดีกว่าแกลโลลี่
น่าเสียดายที่ไทลีนสูงเกือบ 170 ซม. เพราะเหตุนี้จึงไม่สามารถเล่นเป็นมาทิลด้าได้
“ตอนนี้ข้าไม่มีบทบาทที่เหมาะสมสําหรับเจ้า แต่เจ้าสามารถอยู่และลองแสดงเป็นคนสัญจรไปมาได้ เจ้าคิดว่ายังไง?”
นับตั้งแต่โจชัวรู้ว่าการปรากฏตัวของแมวดํานั้นเกี่ยวข้องกับเอลฟ์ โจชัวก็ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้เอลฟ์สาวทุกคนเล็ดรอดฝ่ามือเขาไปได้ ใครจะรู้ พวกเขาอาจจะเรียกแมวดําตัวนั้นอีกครั้งก็ได้
“ไม่เป็นไร”
ไทลืนไม่รับข้อเสนอของโจชัว ผู้สัญจรไปมาไม่ใช่บทบาทที่จําเป็นต้องคัดเลือก ไทลีนหันหลังกลับด้วยความตั้งใจที่จะจากไป แต่นางเดินเพียงไม่กี่ก้าวก่อนที่จะหยุด
“ท่านโจชัว ข้าอยากรู้ว่าท่านเป็นคนแต่งเพลง ‘Let It Go” หรือเปล่า?”
เอลฟ์คนนี้ก็สนใจเพลง Let It Go” ด้วย เป็นไปได้ไหมว่าเพลงนี้มีเสน่ห์ดึงดูดเป็นพิเศษสําหรับพวกเอลฟ์?
“ตอนนี้นั่นยังเป็นความลับอยู่ ทําไมเจ้าถึงถามคําถามนั้น?”
เมื่อเทียบกับการแสดงใน “ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” เอลฟ์คนนี้ดูเหมือนจะสนใจเพลงมากกว่า
“นั่นเป็นเพลงที่น่าฟัง มันทําให้ข้านึกถึงบ้านเกิดของข้า”
ขณะที่เอลฟ์พูดนางยกผมสีทองของนางขึ้น ผมสีขาวเงินจํานวนเล็กน้อยปรากฏขึ้นที่ข้างหูของนาง
“สีผมนั่นเป็นเอกลักษณ์ของเอลฟ์น้ำแข็งที่อาศัยอยู่ในทุ่งน้ำแข็งในประเทศแห่งน้ำแข็ง เผ่าเอลฟ์นั้นน่าจะหายไปตั้งแต่ข้ายังเป็นเด็ก” ซิริกระซิบที่หูของโจชัว
ซิริมาจากประเทศแห่งน้ำแข็ง แม้ว่าชิริจะไม่บอกเรื่องนี้กับเขา แต่เขาก็สามารถเดาได้ว่ามันเป็นที่มาของนางหลังจากที่โต้ตอบกับนางมาได้สักพักหนึ่ง เอลฟ์นั้นดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับประเทศแห่งน้ำแข็งด้วย
เลือดผสม? โจชัวตัดสินใจว่าเขาจะตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มเติมในอนาคต
“ขอบคุณสําหรับการชื่นชมของเจ้า ข้าจะรอดูการแสดงของเจ้าในวันพรุ่งนี้ การคัดเลือกวันนี้จะจบลงตรงนี้! ข้าขอขอบคุณนักแสดงที่โดดเด่นทุกคนของคณะละครห่านดํา” โจชัวกล่าว