ตอนที่ 143 แตกหน่อ
“มีการใช้งานจริงกับเวทมนตร์แบบนี้ด้วย?”
ดาร์คเอลฟ์อ่านเนื้อหาในกระทูจอมเวทย์ นางไม่เข้าใจความหมายของ “กระทู้” ดูเหมือนว่าคําหลายคําได้ปรากฏขึ้นต่อหน้านาง
แต่การทิ้งคําไว้ในวิสัยทัศน์เป็นสิ่งที่สามารถทําได้ง่ายด้วยเวทมนตร์ลวงตา
“นี่ใช้งานได้จริง”
โจชัวไม่ได้พูดคําเหล่านั้นออกมา แต่มีข้อความปรากฏขึ้นบนกระทูจอมเวทย์แทน คนที่ส่งข้อความนั้นคือ “ผู้เฝ้ารัตติกาล
โจชั่วไม่ต้องบอกสิ่งต่างๆ ให้นางฟัง แต่ดาร์คเอลฟ์ก็สามารถบอกได้ว่าโจชั่วเป็นคนที่ส่งข้อความนั้น นับตั้งแต่ติดต่อกับโจชัว นางก็รู้สึก ประหลาดใจ” นับครั้งไม่ถ้วน
“เวทมนตร์นี้ สามารถส่งข้อความไปมาได้หรอ”
ดาร์คเอลฟ์รู้จักเวทมนตร์ที่สามารถส่งข้อความไปมาได้ เวทมนตร์ที่รู้จักกันดีที่สุดในบรรดาเวทมนตร์ประเภทนั้นก็คือ “รอยประทับการส่ง” ของระบบแสงศักดิ์สิทธิ์ นั่นคือเวทมนตร์ที่นักบุญเทมพลาร์ใช้กันมากที่สุด
ในการต่อสู้สามารถใช้ รอยประทับการส่งเพื่อส่งข้อความธรรมดาได้ แต่ “เวทมนตร์” ตรงหน้านาง เวทมนตร์ของโจชัว แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
“ไม่ มันไม่ใช่การส่งสัญญาณ แต่เป็นที่เก็บข้อมูล
ด้วยการโบกมือ หน้าต่างสีขาวก็หายไปต่อหน้าขอบเขตการมองเห็นของโจชั่ว
“อะไรก็ตามที่เขียนในกระทู้นี้จะคงอยู่ในกระทู้ตลอดไป พวกมันจะหายไปเมื่อผู้ดูแลระบบลบเท่านั้น”
“อะไรก็ตาม…”
ดาร์คเอลฟ์สังเกตเห็นคีย์เวิร์ดในสิ่งที่โจชั่วเพิ่งพูดกับนาง ดูเหมือนนางจะเข้าใจว่าโจชั่วหมายถึงอะไรจากโลก “ที่เท่าเทียมกัน โลก
“ถูกต้อง อะไรก็ตาม ตราบใดที่บุคคลนั้นเชื่อในเทพแห่งกฎและมีระบบเวทมนตร์นี้ พวกเขาจะสามารถสื่อสารกับผู้อื่นในกระทู้ได้ เมื่อพวกเขาได้รับหลักฐานการยืนยันตัวตน”
เมื่อได้ยินคําอธิบายของโจชัว ดาร์คเอลฟ์ก็รู้สึกตัวสั่นแม้ว่าจะไม่หนาว ไม่ใช่เพราะนางกลัวมันเป็นเพราะความตกใจแทน
นางไม่ใช่คนที่มีความคิดช้า ในไม่ช้านางก็รู้ว่ากระทู้นี้เป็นตัวแทนของอะไร มันจะเป็นโลกที่ “เท่าเทียมกัน อย่างแท้จริง
จะไม่มีความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติหรือสถานะ ทุกคนสามารถสื่อสารอย่างเท่าเทีย มกันในโลกใหม่นี้
และเทพเดียวในโลกนั้น
ดาร์คเอลฟ์หันมามองโจชั่ว ดวงตาของนางเป็นสีเงิน นางมองโจชั่วด้วยสีหน้าราวกับว่าเขาเป๊นมังกรยักษ์ที่แสนอันตราย
มันเหมือนกับการจามของเขาจะคายลูกไฟที่สามารถเผานางยันกระดูกได้
“ท่านโจชั่ว เป็นไปได้ไหมที่ข้าจะนําเวทมนตร์นี้กลับคืนสู่แดนปีศาจ?”
หลังจากที่ดาร์คเอลฟ์ตระหนักว่า “กระทู้” เป็นอย่างไร ทัศนคติของนางที่มีต่อโจชั่วก็เปลี่ยนไป
“ขณะนี้เราอยู่ในเครือข่ายท้องถิ่น เมื่อเราข้ามถนน การสื่อสารของเราจะหยุด สําหรับการพยายามข้ามอาณาจักรทั้งหมดนั่นเป็นไปไม่ได้เลย”
ตอนนี้สิ่งที่โจชัวรอคอยคือให้ต้นไม้โลกของไทลีนเอลฟ์น้ําแข็งงอก เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เขาจะสามารถเริ่มต้นการโปรโมต กระทู้” อย่างเป็นทางการในนอร์แลนด์ได้ สําหรับตอนนี้โจชัวใช้ความคิดของตัวเองเป็นเครือข่าย
“เครือข่ายท้องถิ่น?”
โจชั่วพูดถึงรายการคําศัพท์ที่ดาร์คเอลฟ์ไม่เข้าใจอีกครั้ง
“โดยสรุปเมื่อกระทู้นี้ไปถึงอาณาจักรปีศาจ มันก็จะไร้ประโยชน์
ดาร์คเอลฟ์กําลังวางแผนที่จะถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กระทู้” แต่นางได้ยินเสียงฝีเท้าจากภายนอก นี่หมายความว่าการสนทนาส่วนตัวของนางกับโจชัวต้องจบลง
จากประสบการณ์ของนาง ดาร์คเอลฟ์กําหนดได้ว่าฝีเท้าหนักๆ เหล่านั้นมาจากอัศวินติดอาวุ
โถงทางเดินไปห้องชมภาพยนตร์แคบมาก หากดาร์คเอลฟ์ต้องการหนีจากอัศวินเหล่านั้นมันคงไม่ง่ายแต่การเผชิญหน้ากันตรงๆ ไม่ควรเกิดขึ้น
“มาที่โรงเตี้ยมใจหินเมื่อเจ้าว่าง ข้าสามารถพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ กับเจ้าอย่างละเอียดที่นั่นข้าจะมอบผลึกออริจินั่มที่มี ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” ให้เจ้าที่นั่น”
โจชัวผลักประตูไปที่ห้องชมภาพยนตร์ และหันกลับมามองดาร์คเอลฟ์ที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ของนางให้กลายเป็นผู้ช่วยของมาดามโครเดอร์ หลังจากทิ้งคําพูดเหล่านั้นไว้ เขาก็ออกจากห้องชมภาพยนตร์
เมื่อความสามารถในการปลอมตัวของนางกลับมาปกตอ การหลบหนีจากกลุ่มอัศวินก็ไม่ใช่เรื่องยากดังนั้นโจชัวจึงไม่กังวลเรื่องดาร์คเอลฟ์
หลังจากที่นักแสดงทุกคนจากคณะละครห่านดําโค้งคํานับผู้ชมในการแสดงรอบปฐมทัศน์โจชั่วจึงตัดสินใจเพิ่มการแสดงดนตรีขั้นสุดท้าย
ผู้ดําเนินการแสดงดนตรีไม่ใช่ใครในคณะละครห่านดํา แต่เป็นเอลฟ์น้ําแข็งไทลืนแทน
โดยธรรมชาติแล้วการแสดงดนตรีจัดขึ้นเพื่อรวบรวม สารบํารุง” ให้กับต้นไม้โลกของไทลืน
เดิมที่ผู้ชมต่างเตรียมพร้อมที่จะออกจากเวทีหลังจากนักแสดง “ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” ทั้งหมดลงจากเวที
โดยทั่วไป ชนชั้นสูงจะจัดงานเลี้ยงตอนดึก ยิ่งไปกว่านั้น “ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ” มีความยาวกว่าสองชั่วโมง ดังนั้นตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงคืนแล้ว
ไม่ใช่เวลาที่ดีที่ไทลีนจะขึ้นเวที หลังจากที่ผู้ชมเกิดอารมณ์รุนแรง ผู้ชมก็เริ่มง่วงแล้ว
แต่เมื่อนึกถึงหน้ามาดามโครเดอร์ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเพ่งสมาธิและฟังการ แสดงดนตรีให้จบ
“ยังไม่จบอีกเหรอ?”
นายพลเฟร็ดนั่งอยู่ที่แถวหลังกําลังวางแผนที่จะยืนขึ้นและออกไป เขาแก่มากแล้ว และง่วงนอนเขากําลังวางแผนที่จะใช้จุดแข็งสุดท้ายของเขาเพื่อแลกเปลี่ยนการทูตกับมาดามโครเดอร์
นอกจากนี้เขายังวางแผนที่จะถามมาดามโครเดอร์ว่านักฆ่าปีศาจที่ชื่อลีอองต้องการ นายจ้างหรือไม่
เขาไม่เคยคาดหวังว่าภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์จะยังไม่จบ คนที่ขึ้นเวทีหลังจากนั้นไม่ใช่นักแสดงจากลีอองเพชฌฆาตมหากาฬ”แต่เป็นเอลฟ์ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“ข้าเคยได้ยินการแสดงดนตรีจากเอลฟ์ประเทศนี้เบอร์โฮลมาก่อน อาจารย์ท่านอาจจะนอนหลับได้สนิทหลังจากฟังการแสดงของนางแล้ว” คาออสกล่าว
“อย่าลืมปลุกข้าด้วย”
นายพลเฟร็ดหลับตาลง เขาเตรียมตัวจะนอน
แต่ทันทีที่เสียงเพลงดังขึ้น ช่วงเวลาที่ดนตรีเริ่มถึงจุดไคลแม็กซ์ นายพลชราก็ลืมตาขึ้นทันที
“ตอนนี้เราจําเป็นต้องรับสมัครคนเพิ่มอีกหนึ่งคน”
คาออสฟังเพลงปลุกเร้าที่ดังก้องไปทั่วห้องโถง นี่ควรจะเป็นเพลงกล่อมเด็กของเอลฟ์หรอ? หลังจากที่ได้ยินเพลงนี้แล้วคาออสก็มีความต้องการที่จะกอบกู้โลก
หลังจากฝึกฝนมาสองสัปดาห์ ไทลีนก็สามารถเล่นเพลงที่โจชั่วเขียนให้นางได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นี่เป็นการแสดงครั้งที่สามของนางบนเวที่จริง ไทลีนสามารถร้องเพลงทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบหลังจากที่นางแสดงความเคารพต่อผู้ชมอย่างนอบน้อม นางก็ลงจากเวทีไป
ตั้งแต่วินาทีแรกที่ดนตรีเริ่มต้น ไทลีนสามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของนาง นางเริ่มได้ยินเสียงบางอย่างจากใจของคนอื่น หรือบางทีนี่อาจเรียกได้ว่าเป็น “คําอธิษฐาน
เมื่อไทลีนเอื้อมมือและเรียกเมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลกออกจากร่างกายของนาง นางพบว่ามีหน่ออ่อนปรากฏขึ้นบนผิวของเมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลก