บทที่ 258 – โอกาส
เจ่าไห่และคนอื่นๆ ออกมาจากมิติและพวกเขาทั้งหมดก็อยู่ในเต็นท์แล้ว เจ่าไห่เดินออกมาจากเต็นท์ เขามองไปที่นกอินทรีย์ที่อยู่บนท้องฟ้า
เจ่าไห่มองเห็นการเคลื่อนไหวของนกอินทรีย์ และสิ่งที่พวกนกกําลังจะบอกเจ่าไห่ก็คือ “มีคนประมาณ 2000 คนกําลังมาทางนี้ คนเหล่านั้นทั้งหมดได้อยู่บนหลังม้า พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนกับทหารมากๆ”
ลอร่าและคนอื่นๆ มองไปที่เจ่าไห่เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เจ่าไห่หัวเราะ และเขาก็บอกกับทุกคนว่า ” นกอินทรีย์พวกนี้เห็นว่ามีคนประมาณ 2000 คนกําลังมาทางนี้ ฉันจะไปบอกเรื่องนี้กับพี่เวลส์ เธอทุกคนก็ต้องเตรียมตัวด้วยเหมือนกัน “ลอร่าและคนอื่นๆพยักหน้า และทําตามสิ่งที่เจ่าไห่บอก ในขณะที่เจ่าไห่วิ่งไปที่เต็นท์ของเวลส์
เวลส์และคนของเขาได้พักอยู่และในเวลานั้นท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง พวกเขาไมาสามารถเดินทางในเวลากลางคืนได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องกลับเข้าไปในเต็นท์เพื่อพักผ่อนก่อนที่จะเดินทาง
ถึงแม้ว่าวันนี้พวกเขาจะไม่ได้ดื่มเหล้าก็เถอะ แต่พวกเขาก็ยังเมาค้างอยู่เนื่องจากการดื่มไปเมื่อวานนี้
ตอนนี้เวลส์รู้สึกเหนื่อยล้ามากถึงแม้จะไม่ได้มีการต่อสู้เกิดขึ้น มันเป็นความเหนื่อยลล้าที่ออกมาจากหัวใจของพวกเขา พวกเขาต้องการที่จะดื่มเหล้า และนอนหลับไป
แต่ตอนนี้เวลส์หลับไปนั้นเขาไม่ได้หลับสนิทเลย เวลส์ผีร้ายเกี่ยวกับพ่อของเขาที่ต้องการให้เขาแก้แค้น และเมื่อเขาหลับไปอีกครั้งนึ่งเวลส์ก็ฝันเห็นกาซอลกําลังไล่ฆ่าเขาอยู่
เพียงแค่นั้น เจ่าไห่ก็วิ่งมาถึงที่เต็นท์ของเวลส์ แต่คนที่เฝ้าหน้าเต็นท์ก็ไม่ได้เจ่าไห่เข้าไปทันที แต่พวกเขาก็นึกออกว่าเจ่าไห่เป็นพี่น้องร่วมสาบานของเวลส์แล้ว
เจ่าไห่มาถึงที่หน้าเต็นท์ของเวลส์ด้วยความรวดเร็ว ที่หน้าเต็นท์ของเวลส์มีคนเฝ้าอยู่ที่นั่น แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะปกป้องเวลส์ได้ แต่เขาสามารถรับคําสั่งของเวลส์ได้
ชายที่เฝ้าอยู่หน้าเต็นท์คํานับเข่าไห่ทันทีที่เห็น เจ่าไห่ก็พยักหน้าตอบแต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปในเต็นท์ แต่เขากับถามว่า ”พี่เวลส์กําลังทําอะไรอยู่?”
ชายคนนั้นก็ตอบเจ่าไห่ว่า “นายน้อยกําลังพักผ่อนอยู่”
เจ่าไห่พยักหน้าและบอกกลับไปอีกว่า “ช่วยไปปลุกพี่เวลส์ตอนนี้ได้ไหม? ฉันมีสิ่งที่สําคัญมากๆต้องพูดกับพี่เวลส์ นายทําให้พี่เวลส์ตื่นมาเลยเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามทําให้เขาตื่นเดี๋ยวนี้” เมื่อชายคนนั้น เห็นท่าทางของเจ่าไห่ที่ดูรีบร้อนมากเขาก็เลยวิ่งเข้าไปในเต็นท์ทันที
ทันใดนั้นเป็นเดซและฟาโรม่าก็ออกมาจากเต็นท์ของพวกเขา หลังจากที่พวกเขาได้ยินที่เจ่าไห่ โวยวายพวกเขาก็เลยออกมา พวกเขาทั้งสงยังไม่ได้หลับสนิทเหมือนกับเวลส์
ท่าทางของฟาโรม่าก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นสีหน้าของเจ่าไห่ ซึ่งเขาก็คิดว่าน่าจะมีเรื่องอะไรที่ร้ายแรงมาก เขาเดินมาหาเจ่าไห่และถามเจ่าไห่ว่า “มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า? พืชเป็นอะไรงั้นหรอ? “สิ่งเดียวที่ฟาโรม่าสนใจมากที่สุดในตอนนี้ก็คือพืช เขาก็เลยคิดแค่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพืช
เม็นเดซเดินตามมาขณะที่ได้ยินฟาโรม่าถามเจ่าไห่ เขารู้ดีว่าพืชของเจ่าไห่สําคัญกับพวกเขาขนาดไหน
เจ่าไห่ส่ายหัวและบอกพวกเขาทั้งสองว่า “ไม่ใช่พืชที่เกิดปัญหา หลังจากที่เจ่าไห่พูดเวลส์ก็เดินออกมาจากเต็นท์และถามเจ่าไห่ว่า “เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอถึงมาปลุกพี่แบบนี้ เข้ามาในเต็นท์ก่อนสิ” เจ่าไห่เดินเข้าไปในเต็นท์และฟาโรม่ากับเม็นเดซก็เดินตามหลังไป
เวลส์เดินไปเทน้ําและเขาก็ดื่มมัน เมื่อเขาดื่มน้ําเสร็จเขาก็หันไปหาเจ่าไห่ และเจ่าไห่ก็บอกกับเวลส์ว่า ” พี่ชายมีทหารจํานวนมากกําลังมาทางนี้ ฉันคิดว่าน่าจะประมาณ 2000 คนก็น่าจะเป็นไปได้”
เวลส์และคนอื่นๆ ตกใจมาก เขาทั้งหมดมองไปที่เจ่าไห่ด้วยความสับสน เจ่าไห่เห็นว่าพวกเขา อาจจะไม่รู้ว่าเจ่าไห่ได้รับข้อมูลแบบนั้นมากได้อย่างไร แล้วเจ่าไห่ก็บอกกับพวกเขาว่า ” พี่ชายลืม ไปแล้วหรอว่าฉันมีนกอินทรีย์ที่สามารถลาดตระเวนอยู่บนท้องฟ้าได้ ทหารพวกนั้นยังมีสัตว์เวทย์ มาด้วยถึงสองตัวที่บินอยู่บนท้องฟ้า”
สีหน้าของเวลส์เปลี่ยนไปหลังจากได้ยินสิ่งที่เจ่าไห่บอก เขาก็ถามเจ่าไห่ว่า “นายบอกว่าทหารพวกนั้นมีสัตว์เวทย์สองตัวงั้นหรอ” เจ่าไห่พยักหน้าให้กับเวลส์ ฉันคิดว่าพวกเขากําลังหาตัวพี่ชายที่ 6 อยู่”
ท่างทางของเมนเดซก็เปลี่ยนไป “ฉันคิดไว้แล้วไม่มีผิดว่า กาซอลต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่นอน ไม่งั้นพวกเขาจะไม่สามารถทําเรื่องแบบนี้ได้”
เจ่าไห่มองไปที่พวกเขาด้วยความสงสัย ฟาโรม่าเห็นสีหน้าของเจ่าไห่เปลี่ยนไป เขาก็เลยพูดออกมาว่า ” ทุกคนที่อยู่บนทุ่งหญ้ารู้ว่ากาซอลสร้างสัตว์เวทย์ 2 ตัวขึ้นมา เขาได้เลี้ยงสัตว์เวทย์เหล่านี้ตั้งนานแล้ว และพวกเขาก็สามารถสั่งให้มันลาดตระเวนเพื่อติดตามศัตรูของเขาได้ เขาประสบความสําเร็จในการทําสงครามมากมายสําหรับเผ่าที่ใช้สัตว์เวทย์ 2 ตัว ”
เจ่าไห่พยักหน้าและพูดกับเวลส์ว่า “อย่ากังวลเลยพี่ชาย ฉันจะปล่อยให้สัตว์เวทย์ของฉันไปข้างหน้าและจัดการกับ 2 สัตว์เวทย์ของพวกมัน”
เวลส์สายหัวและบอกกับเจ่าไห่ว่า “อย่าทําแบบนั้น สัตว์เวลทย์ของนายไม่สามารถสู้สัตว์ 2 ตัวนั้นได้ ความแข็งแกร่งของสัตว์ทั้ง 2 ตัวนั้นน่าจะราวๆระดับ 5 แล้ว”
เจ่าไห่ยิ้มและเดินออกมาจากเต็นท์ เมื่อเขาออกมาแล้ว เขาก็ตะโกนเรียนนกอินทรีย์ 5 ตัวลงมาจากฟ้า ที่จริงนกอินทรีย์เหล่านี้ถูกปล่อยออกมาจากมิติอย่างลับๆ เขาแกล้งทําเป็นเรียกพวกมันออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัยของเวลส์และคนอื่นๆ
เจ่าไห่ทําท่าทางไปที่นกอินทรีย์ในท้องฟ้าและด้วยเสียงร้องอันคมชัดพวกมันก็บินหนีไปในระยะไกล พวกมันหายตัวไปในท้องฟ้าในพริบตา
เจ่าไห่หันไหาเวลส์และคนอื่นๆ และเขาก็บอกว่า “ไม่ต้องกังวลหรอกพี่เวลส์, พวกเขาจะกลับมาในไม่ช้า และฉันก็สั่งพวกมันว่า “ฉันต้องการให้พวกมันมีชีวิตอยู่ ”
เวลส์มองไปที่เจ่าไห่ด้วยความตกใจและเขาก็พูดกับเจ่าไห่ว่า “ฉันคิดไม่ถึงว่านายจะพูดกับพวกมันไปแบบนั้น นายรู้ไหมว่ามันยากแค่ไหนว่าจะจัดการกับสัตว์เวทย์ระดับ 5 ได้”
เจ่าไห่หัวเราะและพูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอนกไฟ ฉันจะจับพวกมันเพื่อที่จะให้คนของฉันนําพวกมันไปศึกษา”
เวลส์สายหัวและพูดว่า “น้องชาย, ตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ. คุณมั่นใจจริงๆงั้นหรอ?”
เมนเดซและฟาโรม่ามองไปที่เล่าให้ด้วย พวกเขารู้เรื่องนกไฟดี สัตว์พวกนี้ไม่ได้ถูกยอมรับว่าเป็นสัตว์เวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าสัตว์เวทย์ทั่วไปไม่สามารถเอาชนะสัตว์เวทย์ที่มีระดับสูงได้ แต่เจ่าไห่ก็มีความมั่นใจมากๆ แม้จะมีการส่งสัตว์เวทย์ไปเพียง 5 ตัวเพื่อจัดการกับสัตว์เวทย์ 2 ตัวนั้น แต่ก็เป็นสิ่งที่เกินกว่าจินตนาการของพวกเขา
เจ่าไห่ยิ้มให้พวกเขาและก็พูดออกมาว่า “อย่ากังวลกับพวกมัน ลองคิดถึงวิธีการจัดการกับ 2000 คนก่อนเถอะ พวกเขาน่าจะถึงที่นี่ภายใน 2 ชั่วโมง เราจะหนีไปดี หรือจะต่อสู้กับพวกเขา?”
เวลส์ยืนนึ่งและพูดว่า 2 ชั่วโมงงั้นหรอ? …. แม้ว่าพวกเราจะรีบหนีไป พี่คิดว่าพวกเขาก็น่าจะตามเราทัน พวกเราสามารถต่อสู้กับพวกเขาได้ แต่เรามีคนแค่ 400 คนเท่านั้น”
เม็นเดซพูดด้วยท่าทีที่ไม่รู้จะทําอย่างไร ” พวกนายออกไปจากที่นี่เถอะ พี่จะจัดการกับพวกนี้เอง เมื่อเห็นว่าพวกนายปลอดภัยแล้วพี่จะหาทาหนีกันเอง พวกนายจงหนีไปซ่อนที่ชนเผ่าอื่นก่อน เพื่อคิดหาวิธีจัดการกับกาซอล”
เวลส์มองไปที่เมนเดซ เขารู้ว่าเป็นเดซพยายามที่จะสละตัวเองเพื่อช่วยเขา เลลส์คิดที่จะออกไปจริงๆ แต่เขาไม่สามารถทิ้งพี่ชายของเขาได้
ฟาโรม่าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเม็นเดซ เม็นเดซไม่ได้เรียกร้องให้เวลส์อยู่ในเผ่า เวลส์สามารถจัดการกับกาซอล เพราะเขาเคยเป็นหัวหน้า ในขณะที่เป็นเดซไม่ได้จากสถานการณ์เช่นนี้การปล่อยให้เวลส์ทิ้ง หมายถึงการรักษาความหวังในการแก้แค้น ถ้าเวลส์ยังคงอยู่แล้วเขาอาจจะตายที่นี่ด้วยเช่นกันและจะไม่มีความหวังเหลืออีกต่อไป เจ่าไห่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเมื่อเขามองว่าพวกเขา ทั้งสามคนกําลังทําตัวราวกับว่าพวกเขากําลังจะถูกคั่นด้วยชีวิตและความตาย เขาเกาหัวของเขา และพูดออกมาว่า “ฉันไม่ต้องการที่จะทําลายอารมณ์นี้ แต่ฉันคิดว่าเรามีโอกาสที่จะต่อสู้ได้”
เวลส์ เมนเดซและฟาโรม่ามองไปที่เล่าให้ผู้ซึ่งพูดว่า “เมื่อฉันพูดถึงโอกาสในการต่อสู้ ฉันหมายถึง 400 คนคุ้มกันในค่ายพร้อมกับสัตว์เวลส์ที่ยังไม่ตาย เราควรจะสามารถหยุดแผนของกาซอลได้”
ทั้ง 3 คนคิดทันที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีวันตายของเจ่าไห่ ซึ่งมีความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาจัดการกับจาโกได้อย่างง่ายดาย
เจ่าไห่ยังพูดอีกว่า “ตอนนี้ฉันมีสัตว์ถึง 4000 ตัว ถ้าเราใช้พวกซอบบี้เพื่อปกป้องพวกเราก็คงจะไม่ผิด”
และเจ่าไห่จริงแล้วมีซอบบี้มากกว่า 5000 คน พวกมันมาจากแดนทมิฬที่เข้าร่วมภายหลัง และเผ่าจาโกจากทุ่งหญ้า
เวลส์ได้ใช้เวลาครู่นึ่งแล้วดวงตาของเขาก็ดูตื่นเต้นมากและพูดว่า “นายมีสัตว์เวทย์ 4000 ตัวงั้นหรอ?”
เจ่าไห่ยิ้มและพูดว่า “พวกซอบบี้บางตัวมีความแข็งแกร่งระดับเก้าเลยนะ”
เวลส์และคนอื่นๆ ได้รับความรู้แบบใหม่ๆแล้ว ซอมบี้น่าจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าเหล่าทหารม้าพวกนั้น
เวลส์ก็หัวเราะและกอดเจ่าไห่ ” ฮ่าฮ่าฮ่า, ฉันไม่ได้คิดว่านายจะมีอํานาจที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้น้องชายของฉัน. ยอดเยี่ยมมาก เราจะรอพวกเขาที่นี่ ฉันต้องการจะดูว่ากาซอลกําลังมาที่นี่หรือไม่”
