Chapter 108: จ้าวแห่งฝัน
“พลังของจ้าวแห่งฝันก็คือสามารถควบคุมอยู่เหนือโลกแห่งความฝันของตนเอง และต่อมาก็ออกกฏของโลกใบนั้น!”
“ความฝันที่ยืดยาวมานับพันปี ในที่สุดข้าก็มาถึงระดับนี้แล้ว!”
ฟางหยวนถอนหายใจ
ตั้งแต่เขาทะลวงผ่านประตูเทียน และมีพลังเวทย์เพิ่มขึ้น เขาก็มีความรู้สึกอย่างแรงกล้าว่าเขาสามารถใช้ความสามารถลับ ๆ นี้ร่วมกับการฝึกฝนเพื่อขึ้นเป็นจ้าวแห่งฝันได้และเช่นนั้นจะสามารถพัฒนาไปได้อีกก้าวใหญ่
ด้วยการใช้ประโยชน์จากแรงกดดันจากสำนักกุยหลิง เขาที่สิ้นหวังแล้วนั้น ในที่สุดก็ทำได้!
“เปรี๊ยะ!”
เขาผ่อนลมหายใจออกเบา ๆ และทั้งโลกแห่งความฝันก็สั่นสะเทือน
“แกร่ก! แกร่ก!”
รอยแตกเริ่มเกิดขึ้นไปทั่ว ราวกับรอยร้าวของกระจก แต่ละชิ้นแยกออกและหล่นลงสู่พื้น ขณะที่รอยร้าวกระจายไปทั่วโลกด้วยความเร็วแสง
“ครืน!”
เพียงแค่พริบตาเดียว ทั้งโลกแห่งความฝันก็สลายเป็นฝุ่น แม้แต่โลกอมตะชน นรก ยมราชผู้ยิ่งใหญ่ และปรมาจารย์แห่งเต๋าก็ไม่ได้รับการยกเว้น พวกเขาสลายไปพร้อมกับโลก
“ข้าคือแสงสว่าง! ข้าคือผู้ก่อกำเนิด! ข้าคือทุกอย่าง!”
ฟางหยวนยืนอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า เต็มไปด้วยความรู้สึกต่าง ๆ
ความรู้สึกของการเป็นผู้สร้างนั้นเหนือกว่าทุกความรู้สึกอื่น มันคือจุดมุ่งหมายสูงสุดของผู้ฝึกตนส่วนใหญ่
ถ้าจ้าวแห่งฝันถูกกักเอาไว้ในโลกแห่งความฝันและหลงลืมที่จะกลับไปสู่โลกแห่งความจริง ร่างกายของเขาในโลกแห่งความจริงจะตาย และนี่คืออันตรายของการเป็นจ้าวแห่งฝัน
“โลกแห่งความฝันของข้า ข้าคือผู้สร้าง!”
เพียงแค่คิด โลกเฉียนหยวนใบใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น และหลังจากการเพิ่มระดับไม่กี่ครั้ง ทั้งโลกก็ดูเหมือนโลกก่อนหน้านี้
“มีโลกที่เต็มไปด้วยดอกไม้ สวรรค์ที่เต็มไปด้วยใบหญ้าคมกริบ ความฝันเป็นไปได้ทุกอย่าง!”
ฟางหยวนส่ายหน้า และรอบตัวเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
ยอดเขาชอุ่มดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้น ตามมาด้วยเมืองชิงเย่ มณฑลชิงเหอ อี้ซานฝู
โลกที่เหมือนกันกับโลกแห่งความจริงปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา
“พี่ฟาง ทั้งหมดเป็นความผิดของเหลยเยว่!”
“นายท่าน! พร้อมรับคำสั่งแล้วขอรับ!”
ที่รอบตัวเขามีแม่นางน้อยหลายคน มีหลินเหลยเยว่ โจวเหวินซิน และแม่นางคนอื่น ๆ ที่เคยมีความเกี่ยวข้องกับเขามาก่อน ไม่ว่าจะในหนทางใดก็ตาม พวกนางทั้งหมดดูน่าสงสาร
“คารวะนายท่าน!”
อู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์สิบกว่าคนคุกเข่าอยู่บนพื้น ต่ำต้อยราวกับสุนัข
“โอ้?”
เห็นภาพนี้ ฟางหยวนก็ลูบคางและพบว่ามันน่าสนใจ “เรื่องในจิตใต้สำนึกของข้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง?”
แม้ว่าเขาจะควบคุมโลกแห่งความฝันได้อย่างสมบูรณ์ มันก็ยังคงมีการแปรเปลี่ยน
จิตใจของคนนั้นซับซ้อน อย่าว่าแต่จิตใต้สำนึกเลย
แม้แต่น้ำนิ่งในบ่อก็ยังเกิดคลื่นใหญ่ได้เพียงพริบตา
ดังนั้น แม้ว่าคนผู้หนึ่งจะรู้แจ้ง ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นก็ได้ และอาจจะสูญเสียความรู้แจ้งนั้นก็ได้
“หากสูญเสียการควบคุม ระดับการฝึกฝนของจ้าวแห่งฝันก็จะตกลงไป… ในเส้นทางของการฝึกตน มีอุปสรรคใหญ่อีกหลายอย่างให้ข้ามผ่านไป และนั่นรวมถึง ‘ความแน่วแน่’ แน่วแน่และไม่หวั่นไหว ฉลาดและเฉลียว มีคุณค่าและไม่ยึดติด และจากนั้นก็สร้างโลกแห่งความฝันที่มั่นคง เช่นนั้นย่อมไม่เกิดเหตุให้หลุดออกไปจากหนทางแห่งเต๋า…”
ฟางหยวนส่ายหน้า และมีประกายเรืองรองปรากฏขึ้นจากร่างของเขา
แม่นางและคนรับใช้ที่สัมผัสกับประกายเรืองรองนั้นสลายกลายเป็นฝุ่นไป เหลือเพียงฟางหยวนยืนอยู่ผู้เดียว
“ฟู่…”
เขาอ้าปากออกและปล่อยลำแสงสีขาวออกมาราวกับลูกศร มันพุ่งไปไกลหลายหลา
“กรงเล็บอินทรี!”
มือของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นรูปกรงเล็บ และเคลื่อนไหวไปตามกระบวนท่าที่ฝึกมา
ไม่ว่าเคล็ดหรือความแข็งแร่ง ล้วนเหมือนกับในโลกจริงมาก
“แกว๊ก! แกว๊ก!”
ร่วมกับการขยับข้อต่อ ลมหายใจของเขา และการเคลื่อนไหวของนิ้วมือของเขา เสียงร้องดังกังวานดังออกมาจากร่างกายของเขา ราวกับทั้งร่างกายของเขานั้นเป็นอินทรียักษ์ตัวหนึ่ง
“ดี ตอนนี้ร่างกายนี้ในโลกแห่งความฝันของข้าก็เหมือนกับในโลกจริงเกือบทั้งหมดแล้ว อีกหนึ่งจุดสุดท้ายนั้นคือข้อจำกัดที่มีในโลกจริง และนอกเสียจากข้าจะจับจุดจำกัดในโลกจริงนั้นได้ ที่ฝึกมาทั้งหมดก็ไร้ค่าแล้ว…”
“ความเหมือนจริงระดับนี้นั้นทำให้ข้าสามารถลองและทำนายการฝ่าด่านของข้าได้ ส่วนการทดลองสามรูปแบบสุดท้ายนั้นต้องทำในโลกจริงแล้ว!”
ฟางหยวนส่ายหน้าและรู้สึกกลัวจ้าวแห่งฝัน
ทั้งหมดล้วนคือการสั่งสม ในตอนแรก เจ้าแห่งฝันนั้นแทบจะไม่มีพลังในการต่อสู้ แต่สามารถใช้ความสามารถของตนช่วยตนเองและกระทั่งวิเคราะห์เคล็ดวิชา ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเฉพาะของจ้าวแห่งฝัน
“เพียงแค่ปรับปรุงเคล็ดวิชาเก่า ๆ พื้น ๆ และมันก็จะมีประสิทธิภาพเทียบได้กับเมื่อข้าเป็นเพียงศิษย์แห่งฝัน… ข้าเข้าใจแล้วว่า อะไรคือการเป็นจ้าวแห่งฝัน!”
ฟางหยวนยังคงเงียบอยู่
…
ในโลกแห่งความจริง
ยอดเขาชอุ่มดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในกระท่อมฟาง
ฟางหยวนลืมตาขึ้น ใบหน้าเปล่งประกาย “มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้ว่าใครจะตื่นรู้ก่อน… พันปีในความฝัน แต่ไม่ถึง 5 วันในโลกแห่งความจริง…”
เขาเลือกที่จะเก็บตัวฝึกวิชาที่นี่เพราะระดับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว และที่สำคัญที่สุด เขามีผู้คอยปกป้อง!
ก่อนหน้านี้เขาบอกให้อินทรีดำหางเหล็กเคาะประตูเร็ว ๆ ถ้าเขาเก็บตัวฝึกวิชานานเกินไป เผื่อเขาจะหมกมุ่นอยู่ในความฝันและหลงลืมเวลาไป
“แน่นอนว่า… หลายร้อยปีในเฉียนหยวนนั้นไม่สำคัญแล้ว… แต่การพัฒนานั้นสิ!”
ฟางหยวนนึกถึงความรู้สึกอันมหัสจรรย์ที่เขาเคยได้รับ และคิดถึงมันอย่างหนัก
ทุกคนย่อมเติบใหญ่ขึ้นถ้ามีประสบการณ์นับพันปี แต่ว่า เขาใช้เวลาเป็นร้อยปีนั้นอาศัยอย่างสันโดษ และยังแยกตัวออกจากโลกราวกับเป็นเทพที่คอยดูแลการเปลี่ยนแปลงของโลก ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาเพียงส่วนเดียวของเวลาทั้งหมดนั้นสัมผัสกับโลก
แต่ว่า ทุกอย่างนั้นเพียงเกิดขึ้นได้ในโลกแห่งความฝัน
“ถ้าข้าคิดถึงเรื่องความต่างของเวลา หนึ่งวันอาจจะเทียบได้กับหลายปีในโลกแห่งความฝัน แม้ว่ามันจะเป็นเวลายาวนาน แต่ก็ยังไม่ถึงขีดจำกัด…”
ฟางหยวนส่ายหน้าและเริ่มกังวลเกี่ยวกับความก้าวหน้าของตนเอง
มีพลังใหม่ปรากฏขึ้นอยู่ในศูนย์รวมจิตของเขาซึ่งมันไปทดแทนพลังธาตุก่อกำเนิดเดิมของเขาราวกับมังกรเร้นกาย ถึงแม้จะหลับอยู่ แต่ก็เปล่งรัศมีอันน่าตะลึง
พลังธาตุ!
พลังธาตุที่แท้จริง!
“นี่ข้าควบคุมโลกแห่งความฝันของข้าได้อย่างสมบูรณ์ กลายเป็นเจ้าของโลกและเข้าสู่โลกของจ้าวแห่งฝันแล้วงั้นรึ?”
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อยู่ภายใต้การคาดเดาของฟางหยวน และเขาก็เหลือบมองที่หน้าต่างสถานะของเขา
“ชื่อ: ฟางหยวน
พลังกาย: 8.0
พลังลมปราณ: 7.9
พลังเวทย์: 8.5
สายวิชา: จ้าวแห่งฝัน
การฝึกตน: [ผู้ฝึกยุทธ์ (ประตูทองที่ 12)], [จ้าวแห่งฝัน (ขั้นที่ 1)(รวมพลังธาตุ)]
วิทยายุทธ์: [ฝ่ามือทรายดำ (ระดับ 5)], [กรงเล็บอินทรีเหล็ก (ระดับ 12) (ถึงขีดจำกัดแล้ว)]
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 4)]”
“ค่า [พลังเวทย์] ของข้าเพิ่มขึ้นถึง ‘3’? และข้ายังไม่รู้สึกไม่สบายตัว ดูเหมือนว่าร่างกายของข้าจะปรับตัวเข้ากับพลังระดับนี้ได้แล้ว…”
ฟางหยวนพยักหน้า มองที่คำอธิบายของ ‘จ้าวแห่งฝัน’:
“จ้าวแห่งฝัน— เจ้าควบคุมโลกแห่งความฝัน เจ้าเป็นผู้เดินทางข้ามระหว่างความฝันและความเป็นจริง และเป็นฝันร้ายสำหรับศัตรูทั้งปวงของเจ้า! เจ้าสามารถควบคุมโลกแห่งความฝันได้ตามใจปรารถนา และเจ้าคือทุกอย่างในโลกแห่งความฝันของเจ้า!”
“คำอธิบายค่อนข้างเรียบง่าย… อันที่จริงแล้ว ส่วนแรกของมรดกของข้าสิ้นสุดลงที่ได้เป็นจ้าวแห่งความฝัน และข้าก็ไม่รู้เลยว่า สิ่งต่อไปจะเป็นอะไร…”
ฟางหยวนยกมือแตะคาง แต่ไม่ได้รู้สึกผิดหวัง
อย่างไร มรดกจากอาจารย์เวิ่นซินก็อยู่ที่นี่แล้ว ในเมื่อเขาได้เป็นจ้าวแห่งความฝัน เขาก็ถือว่าได้รับส่วนหนึ่งมาเรียบร้อยแล้ว
“ลืมส่วนที่เหลือไปก่อน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรียนรู้การใช้งานธาตุความฝัน… มันจะไร้ประโยชน์ถ้าข้าสามารถใช้มันได้เพียงแค่ในฝันของตัวเองเท่านั้น…”
“เช่นเดียวกับวิทยายุทธ์… ได้เป็นจ้าวแห่งฝันแล้ว ร่างกายของข้าก็ดูจริงขึ้นมาอีก และการฝ่าด่านทั้งสามรูปแบบก็ดูจะเหมือนกัน ด้วยพลังเวทย์ของข้า ข้าคงจะขึ้นเป็นอู่จงได้อย่างแน่นอน เมื่อข้าตรวจสอบแล้วว่าข้าสามารถทำได้ เช่นนั้นข้าก็จะฝ่าด่านเมื่อใดก็ย่อมได้!”
ขณะที่เขาคิด เขาก็เปิดประตูออกมา
“แกว๊ก! แกว๊ก!”
อินทรีดำหางเหล็กเห็นเขาเดินออกมา ก็ร้องอย่างดีใจ
“ลำบากเจ้าแล้ว ทำได้ดีมาก!”
ฟางหยวนลูบหัวมัน และรีบมุ่งหน้าไปทางถ้ำที่กลางภูเขา
“แกว๊ก!!!”
นกหงเอี่ยนป๋ายตัวผอมแห้งที่เดิมนอนอยู่บนพื้นพลันผงกหัวขึ้น และด้วยความกังวล ขนของมันชี้ชัน
เป็นเจ้ามนุษย์ชั่วร้ายคนเดิมกลับมา แต่มันสามารถสัมผัสความแตกต่างไปอย่างมากในตัวเขาได้ มันช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์
“ท่านอาจารย์!”
เขารู้สึกต่างไปตอนที่เข้าไปในถ้ำมรดกของเขา
เส้นทางทดสอบจิตใจนั้นดูจะไม่มีผลต่อฟางหยวนแล้ว
ธาตุความฝันในศูนย์รวมจิตของเขาสั่น และผลสะกดจิตที่ครั้งหนึ่งทำให้เขารู้สึกง่วงเหงานั้นหายไป เขาไปถึงประตูแก้ว
ก่อนหน้านี้ ฟางหยวนพยายามทุกวิธีแต่ไม่สามารถทำให้ประตูเปิดได้
แต่คราวนี้ ขณะที่มือทั้งสองสัมผัสประตู ฟางหยวนก็รู้สึกได้ว่าทุกอย่างต่างออกไป
พลังธาตุความฝันกลุ่มหนึ่งไหลจากหน้าผากของเขาผ่านมือของเขา และเข้าไปในประตูแก้ว
“ฝุบ!”
หลังจากใส่พลังธาตุความฝันของเขาเข้าไป ประตูแก้วก็สว่างขึ้นเปล่งแสงหลากสีออกมาราวกับมีน้ำไหลผ่านอยู่ด้านใน ทันใดนั้น มันก็ละลาย และประตูก็หายไปอย่างช้า ๆ
อุปสรรคชิ้นใหญ่สำหรับเขาก่อนหน้านี้หายไปง่าย ๆ เช่นนี้!
ที่ด้านหลังประตูแก้วมีอุโมงค์อีกเส้น
ที่ปลายอุโมงค์ มีประตูแก้วสีม่วงอีกบาน และที่ด้านบนมีไข่มุกขนาดเท่าดวงตามังกรลูกหนึ่ง
“มรดกชิ้นที่สอง?!”
ฟางหยวนเต็มไปด้วยอารมณ์ต่าง ๆ เขาหยิบหยกชิ้นที่ได้ไปก่อนหน้าขึ้นมา แล้ววางมันไว้บนดวงตามังกรสีม่วง
“วิ้ง! วิ้ง!”
แสงสว่างวาบขึ้นและพุ่งตรงเข้าไปในหยกสีมรกตชิ้นนั้น
มันเกิดขึ้นภายในพริบตา และครู่เดียวหลังจากนั้น ดวงตามังกรสีม่วงก็สูญเสียประกายและกลายเป็นลูกแก้วที่ดูธรรมดาลูกหนึ่ง หยกชิ้นนั้นที่เดิมเป็นสีมรกตก็มีริ้วสีม่วงอยู่ด้านใน
“วิธีการเก็บความลับเช่นนี้ลึกลับเกินไปแล้ว…”
ฟางหยวนถอนหายใจ และใส่พลังเวทย์เข้าไปในหยก
“ครืน!”
ที่ด้านหลังของมรดกชิ้นเดิม มีข้อความใหม่ขึ้นมา มันเป็นวิธีการฝึกตนสำหรับจ้าวแห่งฝัน
หลังจากอ่านทั้งหมดอย่างละเอียด ฟางหยวนก็ตกตะลึง
“มันเป็นวิถีการฝึกตนของจ้าวแห่งฝันจริง ๆ เพราะว่า หลังจากการสั่งสมมา พลังของข้าจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า… แต่เพียงสิ่งเดียวที่ขาดหายไปก็คือข้อความของท่านอาจารย์… ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะอยู่ในมรดกชิ้นสุดท้าย?”
ฟางหยวนมองประตูแก้วสีม่วง และถอนหายใจลึก ๆ
เขารู้ว่าที่ระดับของเขานี้ เขาไม่สามารถเปิดประตูเข้าไปนำเอามรดกชิ้นสุดท้ายออกมาได้
“มรดกชิ้นนี้รวมทั้งรายละเอียดกระบวนการฝึกตนจากเริ่มต้นของจ้าวแห่งฝันไปจนถึงระดับสวรรค์สูงสุด และเพียงพอให้ข้าได้ฝึก…”
ฟางหยวนนั้นพอใจเป็นที่สุด มีเพียงอาจารย์ของเขา ที่เขาอาศัยอยู่ด้วยตลอดชีวิตที่ช่วยเขาถึงเพียงนี้ ถ้าหากเป็นผู้อื่น เขาคงไม่สอนข้าทุกอย่างอย่างง่ายดายและคงทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาแล้ว