“เจ้าเมืองอี้ซานฝู?”
ภายในถ้ำ ฟางหยวนมองร่างของหลิวเอี๋ยนและผนึกอี้ซานฝูในมือตัวเอง เขางุนงงจนพูดไม่ออกเป็นครึ่งวันก่อนที่จะส่ายหน้า “เขาพาปัญหาวุ่นวายมาให้ข้าเสียจริง!”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลิวเอี๋ยนนั้นเห็นแก่ตัวและต้องการให้ฟางหยวนแก้แค้นให้เขาก่อนที่เขาจะตายจากไป
ตำแหน่งเจ้าเมืองนั้นเป็นเหยื่อล่อ!
แต่ว่า ฟางหยวนก็ต้องยอมรับว่าที่หลิวเอี๋ยนพูดนั้นถูกต้อง
ในการต่อสู้ระหว่างขั้วอำนาจ นักรบศักดิ์สิทธิ์ที่ใกล้จะเข้าสู่ขอบเขตแยกธาตุนั้นจะกลายเป็นหนามในเนื้อของแต่ละประเทศ
แล้วเขาล่ะ อัจฉริยะที่ยังอายุไม่ถึงยี่สิบปีดีและอยู่ในระดับใช้พลังธาตุทั้งในด้านวิชายุทธ์และการใช้เวทย์?
ก่อนหน้านี้เขาสามารถอยู่อย่างสงบได้ก็เพราะว่าอี้ซานฝูนั้นมีหลิวเอี๋ยนผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายอยู่
นอกจากนี้ คนพวกนั้นยังไม่รู้ว่าความเร็วในการฝึกตนของเขานั้นน่าตระหนกเพียงใด
ถ้าประเทศอู่พบว่าฟางหยวนนั้นอยู่ที่ระดับสูงสุดของขอบเขตรวมธาตุแล้ว เขาก็คงต้องรับชะตากรรมเดียวกันกับหลิวเอี๋ยน
เมื่อเขารับตำแหน่งเจ้าเมือง เขาย่อมดึงดูดความสนใจและปัญหาจากทุกฝ่ายและคงไม่สามารถหนีจากคนพวกนั้นได้ต่อให้ซ่อนตัวอยู่ลึกบนเขาก็ตาม!
“นี่มันช่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนัก! ทั้งสองฝ่ายล้วนไม่สามารถสบายใจกับอีกฝ่ายได้ โดยเฉพาะหลังการตายของหลิวเอี๋ยน…”
ฟางหยวนถอนหายใจ “มีเพียงเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกทำลาย หรือว่าอยู่เหนือกว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก เมื่อนั้นจึงจะมีสันติสุข มิเช่นนั้น ก็จะเกิดสงครามและการเสียชีวิต!”
ชื่อของเขาก็คงถึงหูประเทศอู่ไปแล้ว นอกจากนี้ หลิวเอี๋ยนยังไม่อยู่ปกป้องเขาอีกต่อไปแล้ว
เมื่อประเทศเซี่ยแบ่งอี้ซานฝูออกไป เขาย่อมอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศอู่ ชะตากรรมของเขาคงจะไม่อยู่ในการควบคุมของเขาอีกต่อไป
“กลายเป็นว่าข้าคงต้องรับตำแหน่งนี้!”
เขาจะเลือกหนีไปให้ไกลหรือว่าต่อต้านประเทศอู่ก็ได้
เมื่อเขาถูกกดดันอยู่ระหว่างสองฝ่ายก่อนที่จะเกิดสงคราม มันก็เป็นธรรมดาที่เขาจำต้องรับตำแหน่งและหยั่งฐานอำนาจของเขาในอี้ซานฝูให้มั่นคง
“ข้าจะเล่นกับพวกเจ้าทุกคนก็ได้!”
ฟางหยวนหัวเราะ
ความแตกต่างที่สุดระหว่างหลิวเอี๋ยนและตัวเขานั้นก็คือเขายังอายุน้อย และยังมีทรัพยากรต่าง ๆ มากมาย ถ้าเรื่องไม่เป็นไปตามที่เขาคิด เขาก็สามารถหนีไปกับนกอินทรีของเขาได้อย่างง่ายดาย และยังมีโอกาสอื่น ๆ อีกมากมายให้เขากลับมา
แต่ก็เมื่อเขาเต็มใจจะสูญเสียสิ่งที่ได้มาเท่านั้นแหละนะ
อย่างไรเสีย ฟางหยวนก็ไม่ใช่คนที่จะยอมตายง่าย ๆ
…
เขาลงมือทำตามที่เขาคิด
ความเร็วของฟางหยวนนั้นไม่มีใครเทียบติดเพราะราชานกหงเอี่ยนป๋าย
เขามาถึงเมืองอี้ซานฝูก่อนที่ข่าวจากเซี่ยหยางฝูจะมาถึงเสียอีก
“ในด้านความเร็ว ราชานกหงเอี่ยนป๋ายของข้าไร้ผู้เทียบเทียม… แต่ว่า ข่าวก็ไม่ได้แพร่มากับผู้คนเท่านั้น ถ้าประเทศอู่เข้ามา พวกเขาย่อมเคลื่อนทัพมาด้วย…”
ฟางหยวนวนรอบเมืองหลายรอบก่อนจะตบ ๆ ราชานกหงเอี่ยนป๋าย พวกเขาทั้งคู่มุ่งหน้าไปที่หน้าคฤหาสน์เจ้าเมือง
“เจ้าเป็นใคร?”
ทันใดนั้น ทหารกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาล้อมเขาเอาไว้ เมื่อเห็นว่าเป็นฟางหยวน พวกมันก็ถอยกลับไปทันที
พวกมันจำได้ว่าฟางหยวนนั้นไม่ไว้หน้ากระทั่งเจ้าเมือง แล้วพวกมันเล่า? พวกมันคารวะฟางหยวน “ยินดีต้อนรับท่านฟาง!”
“อืม รักษาการเมืองอยู่ที่ใด? พาข้าไปพบเขา!”
ฟางหยวนพยักหน้าและถาม
“ท่านรักษาการเมืองป่วยและไม่รับแขกขอรับ พวกเราขออภัยด้วย!”
หัวหน้าทหารหน้าซีดและรีบพูดเมื่อได้ยินคำสั่งของฟางหยวน
“โอ้? ป่วย? ข้ายิ่งควรไปเยี่ยมเขามากไปอีก!”
ฟางหยวนยิ้มและเดินไปหาทหารผู้นั้น “เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็นหมอชื่อดังแห่งเมืองนี้? รักษาการป่วยด้วยอาการใดกัน? ให้ข้าไปตรวจดู!”
“นี่…”
แน่นอนว่าทหารผู้นี้ปิดบังบางอย่างเอาไว้ ดวงตาของเขากลอกไปมาขณะคิดหาคำพูด ฟางหยวนจับเขาไว้และร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไป
“นำทาง!”
ฟางหยวนยังยิ้ม แต่คำพูดของเขาเต็มไปด้วยกระแสข่มขู่
เขาครอบครองวิทยายุทธ์สูงส่งและสามารถใช้ออกได้ก่อนที่ผู้อื่นจะทันทำอะไร
“ขอรับ…”
นายทหารรู้ว่าเขาคงไม่รอดถ้าหากต้องสู้กับฟางหยวน
จากมุมมองของคนนอก ฟางหยวนนั้นมีอัธยาศัยและเป็นมิตรกับนายทหาร แต่ว่า มีเพียงนายทหารที่รู้ดีและทำได้เพียงนำฟางหยวนเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
“เคร้งงง!”
เมื่อเข้าไปถึงสวนด้านใน ฟางหยวนก็ได้ยินเสียงกระทบของกันของอาวุธชุดเกราะที่เป็นโลหะ
ทหารกองหนึ่งก้าวออกมา พวกมันชักดาบและเล็งลูกศรมาทางฟางหยวน
เจ้าหน้าที่หน้าตาชั่วร้ายผู้หนึ่งยกป้ายคำสั่ง “รักษาการเมืองสั่งว่าเขาไม่รับแขกวันนี้ กรุณาออกไป!”
“หืม? ช่างกล้า!”
ฟางหยวนหัวเราะและตวาด “ต่อให้หลิวเอี๋ยนอยู่ที่นี่เขาก็ไม่กล้าใช้น้ำเสียงเช่นนี้พูดกับข้า! เจ้ากำลังออกคำสั่งปลอมและสมคบคิดกันต่อต้านข้าใช่หรือไม่?”
บรรยากาศในเมืองอี้ซานฝูแปลกไปในหลายวันนี้
แม้แต่รักษาการเมืองยังอ้างว่าป่วยและไม่พบแขก
ทหารหลายคนเริ่มหวั่นไหวและถอยกลับ
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้นั้นจะเป็นหัวหน้าของพวกมันและยังมีป้ายคำสั่ง พวกมันก็ไม่อยากจะสู้กับผู้อื่นที่เป็นทั้งอู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ!
มีพี่น้องร่วมรบตั้งเท่าไหร่ที่บาดเจ็บหรือตายเมื่อต้องเข้าร่วมสู้โดยไม่มีการสนับสนุนจากจอมยุทธ์ที่ระดับใช้พลังธาตุกัน?
“อย่าฟังคำสั่งที่ทำให้พวกเจ้ากลายเป็นคนทรยศ! ฆ่า!”
เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เจ้าหน้าที่หน้าตาชั่วร้ายผู้นั้นจะยอมจำนน เขาสั่ง “ใครถอยจะถูกลงโทษตาย!”
เหล่าทหารได้รับการฝึกมาและเมื่อได้ยินคำสั่งของหัวหน้า พวกมันก็ส่งลูกธนูไปทางฟางหยวนโดยไม่ลังเล นี่ทำให้เชลยในมือของฟางหยวนสบถ “พวกเจ้ากล้าทำร้ายข้า?!”
“ฝุบฝุบ!”
ลูกศรมากมายพรมลงมา
เจ้าหน้าที่โชคร้ายผู้นั้นเพิ่งตะคอกออกมาเพียงประโยคเดียวก่อนที่เขาจะถูกลูกศรระดมยิงใส่พรุนเป็นรังผึ้ง
ฟางหยวนยิ้มขณะลูกศรเริ่มลดความเร็วลงราวกับยิงผ่านผิวน้ำในทะเลสาบ ไม่ได้ก่ออันตรายใดนอกเสียจากคลื่นเล็ก ๆ ไม่กี่ลูก
“ภาพลวงตา? ไม่ดีแล้ว!”
เจ้าหน้าที่ผู้นั้นรีบถอย ของวิเศษชิ้นหนึ่งบนร่างของเขาสว่างวาบขึ้นและกำแพงน้ำแผงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา
“ก้าวมายา!”
พริบตานั้น ฟางหยวนก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเจ้าหน้าที่ผู้นั้นและคว้าตัวเขาเอาไว้
“เจ้ากล้าหยุดข้าจากการใช้ของวิเศษ?”
“แกรบ!”
ภายใต้สายตาประหลาดใจของเจ้าหน้าที่ กำแพงน้ำก็แตกออกราวกับเป็นเปลือกไข่ มันไม่สามารถทำให้ฟางหยวนช้าลงได้เลยสักนิด
ฟางหยวนกุมลำคอของเขาเอาไว้และยกตัวเขาขึ้น
“เจ้าเป็นศิษย์วิญญาณ และเจ้ายังทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในกองทัพ เป็นพรสวรรค์ที่เสียเปล่านัก!”
เขาพูดก่อนที่จะมองไปรอบ ๆ ทหารมากมายไม่กล้าสบตากับเขาและก้มหัวลงต่ำ
“เขาเป็นคนนอกและยังเป็นศัตรูกับรักษาการเมือง ท่านเจ้าเมืองขอให้ข้ามาจัดการความวุ่นวายและเรื่องต่าง ๆ เจ้า นำข้าไปพบรักษาการเมือง!”
เขาชี้ไปที่ทหารคนหนึ่งที่ด้านข้างอย่างสุ่ม ๆ “ไม่กล้า?”
“เอ่อ…”
ทหารผู้นั้นลังเลและถูกฟางหยวนฆ่าทิ้ง “คนผู้นี้เป็นคนทรยศ!”
ฟางหยวนหันไปหาทหารผู้อื่น “เจ้า นำข้าไปที่นั่นโดยเร็ว ถ้าไม่อยากมีชะตากรรมเดียวกับเขา!”
ประเทศอู่นั้นแทรกซึมเข้ามาในกองทัพอี้ซานฝูแล้วและยังคุมตัวรักษาการเมืองเอาไว้ แต่ว่าฟางหยวนแน่ใจว่ายังมีผู้อื่นที่ภักดี
ฟางหยวนนั้นไม่รีบและสามารถไล่ถามไปทีละคนช้า ๆ
หลังจากฆ่าไปสามหรือสี่คน ทหารผู้หนึ่งก็ทนไม่ได้อีกต่อไปและคุกเข่าลงขอร้อง
“ท่าน ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเรา พวกเราถูกเจ้าหน้าที่ผู้นั้นบังคับ ข้าจะนำท่านไปพบผู้ดูแลเดี๋ยวนี้!”
“ไป!”
ขณะที่ทหารและเจ้าหน้าที่หลายคนเริ่มมารวมกันอยู่รอบ ๆ มองมาอย่างสงสัย ฟางหยวนก็ยิ้มและบอกให้ทหารผู้นั้นนำทางไป
ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงสวนเล็ก ๆ ฟางหยวนเตะเปิดประตูเข้าไปในห้องทันทีและเห็นหลายคนล้อมอยู่รอบเตียงราวกับกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เห็นฟางหยวนบุกเข้ามา พวกมันก็คิดจะปิดปากเขาทันทีตามสัญชาตญาณ
แต่พวกมันไม่ทันตั้งตัว
“พวกเจ้ากล้าคุมตัวรักษาการเมืองเอาไว้ได้อย่างไร?”
ฟางหยวนหลับตาและพลังเวทย์ก็สว่างขึ้นบนมือเขา เส้นแสงสีเขียวบินออกไปวนรอบในห้อง
หลายคนผู้นั้นเป็นจอมยุทธ์ระดับกำลังภายในและยังมีจอมยุทธ์สองคนในนั้นที่ถึงระดับ 4 ประตูสวรรค์ แต่ว่าฟางหยวนนั้นรวดเร็วเกินไปและก่อนที่พวกมันจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็กลายเป็นวิญญาณภายใต้คมมีดอสรพิษเขียวไปแล้ว
“รักษาการเมืองถูกกุมตัวไว้จริง ๆ น่ะหรือ?”
ที่ด้านนอก เจ้าหน้าที่หลายคนรีบตรงเข้ามาและก็ได้แต่อึ้งไปเมื่อเห็นคนบนเตียง “เฮยซาน1 เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“พอ พวกเจ้าทั้งหมดออกไป หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ข้าจะให้พวกเจ้าได้พบรักษาการเมือง!”
ฟางหยวนโยนเฮยซานไปที่ด้านข้างราวกับเขาเป็นขยะชิ้นหนึ่งและพูด
ฟางหยวนนั้นมีตำแหน่งแห่งที่ในใจเหล่าทหารเรียบร้อยแล้ว มีเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คนที่ดูไม่พอใจและกำหมัดแน่นก่อนจะออกไป ไม่นาน ก็มีเสียงตะโกนดังมาให้ได้ยินก่อนที่จะกลับสู่ความสงบอีกครั้ง
ฟางหยวนมาที่ข้างเตียงและมองรักษาการเมืองผู้โชคร้าย
รักษาการเมืองเป็นจอมยุทธ์ระดับ 4 ประตูสวรรค์ก่อนที่จะตกลงไปในกับดักของประเทศอู่ ชะตาของเขาไม่ได้อยู่ในการตัดสินใจของตัวเองอีกต่อไป
“ถูกพิษ? ง่ายมาก!”
ด้วยความสามารถในการรักษาของเขา เขาไม่มีปัญหาในการรักษาคนผู้นี้ หลังจากประเมินสภาพของเขาแล้ว ฟางหยวนก็ให้บัญชาพญายมแก่เขาและรอ
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง รักษาการเมืองก็ลุกขึ้นนั่งและพ่นเลือดสีดำออกมาคำหนึ่ง สีหน้าของเขาเริ่มมีเลือดฝากและเขาก็หันมาคารวะ “จางชิงเฟิงซาบซึ้งในความช่วยเหลือจากท่านยิ่งนัก!”
“อืม เป็นการกระทำของประเทศอู่ใช่หรือไม่?”
ฟางหยวนไพล่มือไว้ด้านหลังและถาม
จางชิงเฟิงตอบ “คนสนิทของข้าถูกพวกมันซื้อตัวไป พวกมันไม่สามารถซื้อตัวข้าได้จึงวางยาพิษข้าแทน ข้าเกรงว่าถ้าพวกมันไม่สามารถใช้ประโยชน์จากข้าได้แล้ว…”
เหงื่อเย็น ๆ เริ่มผุดออกมาบนหน้าผากของเขาขณะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ดี เจ้าจำสิ่งนี้ได้หรือไม่?”
ฟางหยวนพยักหน้าและดึงผนึกอี้ซานฝูออกมา
“อ๊ะ? นี่คือ…”
จางชิงเฟิงตกตะลึงไปชั่วครู่ หลังจากเขามองอย่างละเอียด เขาก็โค้งตัวคารวะ “ข้าน้อยขอคารวะท่านเจ้าเมือง!”
“เจ้าไม่มีคำถามเกี่ยวกับสิ่งนี้หรือ?”
ฟางหยวนประหลาดใจ
“ก่อนที่ท่านเจ้าเมืองจะจากไป เขาบอกข้าว่าไม่ว่าใครเป็นผู้ถือผนึกอี้ซานฝูคนผู้นั้นคือเจ้าเมือง!”
จางชิงเฟิงน้ำตาไหลออกมา “นอกจากนี้ ก่อนที่พวกเขาจะคุมตัวข้าเอาไว้ พวกเขาเผยข้อมูลที่ข้าคิดว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวง และเพียงต้องการทำให้ข้าสับสน ข้าไม่คิดเลยว่ามันคือความจริง… นายท่าน ท่านต้องแก้แค้นให้เจ้าเมืองคนก่อน!”
1 เฮยซานคือเจ้าหน้าที่หน้าตาร้ายกาจคนนั้น