‘แก้แค้น? ถ้าไม่เพราะความคิดชั่วร้ายของประเทศอู่ ข้ามีหรือจะถูกลากเข้ามาร่วมในเรื่องวุ่นวายนี้!’
ฟางหยวนกลอกตาแต่ใบหน้ายังคงดูจริงใจ เขาพยุงจางชิงเฟิงขึ้นจากเตียง “ไม่ต้องห่วง ในเมื่อข้ารับตำแหน่งเจ้าเมืองแล้ว ใครที่มันวางแผนต่อต้านเจ้าเมืองคนก่อนย่อมเป็นศัตรูของพวกเรา!”
“ท่านเจ้าเมือง!”
จางชิงเฟิงคารวะซ้ำ ๆ “ท่านช่วยชีวิตข้าเอาไว้ และยังตั้งใจจะล้างแค้นแทนท่านเจ้าเมืองคนก่อน จากวันนี้เป็นต้นไป ชีวิตข้ามอบให้ท่าน ข้าจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านทุกอย่าง!”
“ดีมาก!”
ฟางหยวนพยักหน้าและรู้สึกเบิกบาน “สำคัญมากว่าต้องควบคุมเมืองอี้ซานฝูให้ได้ก่อน! เมืองอี้ซานฝูเป็นแกนหลักของทั้งรัฐ! เจ้ามั่นใจเพียงใดในการควบคุมกองทัพอี้ซานฝู?”
“ค่อนข้างมั่นใจขอรับ!”
จางชิงเฟิงตอบโดยไม่ลังเล “แม้ว่าวิทยายุทธ์ของข้าจะไม่สูงส่ง แต่ข้าก็ยังเป็นผู้ฝึกซ้อมให้ทหารพวกนั้น ทหารใหม่ส่วนมากแล้วได้รับการฝึกจากข้าโดยตรง! และหัวหน้ากอง ก็ได้รับการสนับสนุนจากข้าทั้งสิ้น!”
นี่เป็นการใช้พระคุณที่เขาสั่งสมมา และตอนนี้ก็เผยออกมาเพื่อยืนยันกับฟางหยวนว่าตัวเขาใช้การได้
“ดีมาก หลังจากนี้ ออกไปด้านนอกนั่นและบอกให้ทหารปิดประตูเมืองทั้งสี่ ใช้คนทรยศเหล่านั้นค้นหาสายลับคนอื่นออกมา ล้างเมืองนี้ให้สะอาด!”
ฟางหยวนสั่งอย่างเด็ดขาด
“เข้าใจแล้ว!”
จางชิงเฟิงตอบเสียงดังและสวมชุดเกราะลงบนร่าง
อย่างไรเสีย เขาก็เป็นจอมยุทธ์ระดับ 4 ประตูสวรรค์ และได้รับความช่วยเหลือจากฟางหยวน เขาฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วและรู้สึกได้อำนาจกลับคืนมาหลังจากสวมชุดเกราะ เมื่อเขาเปิดประตู เขาก็ได้ยินเสียงร้องอย่างยินดีจากทหารอี้ซานฝู
“ดี!”
ฟางหยวนดูเหตุการณ์และพยักหน้า เขารู้ว่าในที่สุดแล้ว อี้ซานฝูก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
…
วันนี้เมืองอี้ซานฝูมีฝูงชนหนาตาเป็นพิเศษ
ก่อนหน้านี้ นกยักษ์สีขาวตัวหนึ่งรุดเข้ามาในเมือง ตามมาด้วยความวุ่นวายในคฤหาสน์เจ้าเมือง
ขณะที่ฝูงชนวุ่นวายอยู่ ทหารกลุ่มหนึ่งก็ออกมาที่ถนนและปิดประตูเมืองทั้งสี่ และเริ่มเดินลาดตระเวน
แม้แต่คนที่โง่ที่สุดก็ยังเดาได้ว่ากำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
ชาวเมืองทั้งหมดรู้สึกหวาดกลัวเพราะความไม่รู้และปิดร้านค้าบ้านช่องของตัวเองลง พวกเขาซ่อนตัวที่ในห้องใต้ดินและตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าจะเกิดเรื่องรุนแรงขึ้น
“แกว๊ก! แกว๊ก!”
เพราะการปิดประตูเมืองทั้งสี่และการมองหาจากด้านบนโดยราชานกหงเอี่ยนป๋าย ขั้นต่อไปคือการระบุตำแหน่งของตระกูลสายลับที่แผงตัวอยู่และกำจัดพวกมันเสีย
นี่ก่อให้เกิดฉากที่น่ากลัว
แม้จะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลที่สุดในบรรดาตระกูลชั้นสูง ทั้งตระกูลก็ถูกกำจัดออกไป
มีการขัดขืนเพียงไม่มากที่ทหารทั่วไปไม่สามารถรับมือได้ เช่นนั้นจอมยุทธ์ในคฤหาสน์เจ้าเมืองก็จะออกไปจัดการด้วยตนเอง
เพียงไม่นาน ทั้งเมืองอี้ซานฝูก็นองเลือด
“ผู้ใดจะรู้ว่าประเทศอู่กลับไม่ได้ส่งนักรบศักดิ์สิทธิ์หรือกระทั่งอู่จงมาที่นี่เลย… ไม่อย่างนั้นข้าคงจะต้องไปจัดการด้วยตนเอง!”
ในคฤหาสน์เจ้าเมือง ฟางหยวนสวมชุดคลุมหรูหราชุดใหม่และสวมมงกุฎไว้บนศีรษะ เขาดูเติบโตขึ้นจากแต่ก่อน และกลายเป็นสุภาพบุรุษผู้หนึ่ง ขณะที่ส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ
“มันยากที่จะหาจอมยุทธ์ที่สามารถควบคุมพลังธาตุได้ แม้แต่ในประเทศอู่ และคนพวกนั้นก็ต้องรับผิดชอบมณฑลต่าง ๆ การเคลื่อนกำลังพลไปที่เซี่ยหยางฝูและยังสร้างปัญหาแก่อี้ซานฝูนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้โดยง่าย!”
จางชิงเฟิงรายงาน
เขาถือรายชื่อแถวหนึ่งเอาไว้ในมือ รายชื่อเปื้อนเลือดพวกนั้น ขณะที่เขาอ่านแต่ละชื่อ เขาก็ค่อนข้างตกใจ
“ถ้าข้าใช้ทหารของข้ารับมือคนเหล่านี้ทั้งหมด ข้าคงจะสูญเสียพวกเขาไปถึงหนึ่งในสาม!”
“หนึ่งในสามก็ถือว่าดีเพียงพอแล้ว!”เมื่อฟางหยวนได้ยิน เขาก็หัวเราะและมองจางชิงเฟิง “ตอนนี้อี้ซานฝูอยู่ในการควบคุมของพวกเราแล้ว ต่อไปจะทำเช่นไร?”
“ถ้าการคาดเดาของท่านถูกต้อง ราชวงศ์ของประเทศอู่และประเทศเซี่ยได้ทำข้อตกลงกันแล้ว ก้าวต่อไปของพวกเขาย่อมเป็นรุกเข้ามาในอี้ซานฝู ถ้าหากตอนนี้พวกเรายังจัดการเรื่องไม่ได้ พวกเราก็คงต้องรับมือกับทั้งเซี่ยหยางฝู ชิงฉวนฝู และราชวงศ์เซี่ย! สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือรวมกำลังทหารของทั้ง 6 มณฑลมาอยู่ใต้อำนาจของท่าน และประกาศการรับตำแหน่งของท่านออกไป!”
แม้ว่าจางชิงเฟิงจะยังไม่ได้ทะลวงด่านขึ้นสู่อู่จง เขาก็มาดหมายเอาไว้และเสริม “ใช้โอกาสนี้สั่งมณฑลชิงเหอ ซางฉุย เลี่ยหยาง และซางอี… ให้ส่งเจ้ามณฑลมายินดีกับท่านและจัดการกับผู้ที่ไม่มา!”
ฟางหยวนพยักหน้า อันที่จริง นี่ก็เป็นวิธีการอวดอำนาจในทางการปกครอง
ผู้ที่เต็มใจมาตามที่เจ้าเมืองเรียกตัวย่อมเป็นผู้ที่เต็มใจติดตามเขาและสามารถนับเป็นคนของเขาได้
ส่วนพวกที่ไม่มาหรือว่าเผยหน้ากากคนทรยศออกมาก็สามารถสังหารได้อย่างไม่ต้องลังเล
“แต่ว่า ยังมีบางเรื่องที่ต้องหารือกันก่อน…”
จางชิงเฟิงพูดต่อ “ท่านเจ้าเมืองคนก่อนนำทหารที่แข็งแกร่งที่สุดไปร่วมรบกับเขาด้วย และจากจำนวนทหารทั้งหมด พวกเราเหลืออยู่เพียงห้าพัน รวมถึงพวกที่ประจำอยู่มณฑลอื่นด้วย ก็มีอย่างมากไม่เกินหนึ่งหมื่น นอกจากนี้ ทหารส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นทหารใหม่ไร้ประสบการณ์ เพียงป้องกันการโจมตีของประเทศอู่ก็ยังไม่สามารถเลยด้วย!”
“ทางแก้ไขเพียงทางเดียวก็คือบังคับเกณฑ์ทหารจากทุกตระกูลและภายในเซี่ยหยางฝู…”
ฟางหยวนดูจะจมลงไปในความคิดของตัวเอง “ทหารหนึ่งหมื่นของพวกเราไม่น่าถูกทำลายทิ้งในวันเดียว น่าจะมีผู้ที่รอดชีวิตอยู่บ้าง และยังแม่ทัพของรัฐก็เป็นถึงอู่จงด้วย แม้ว่าจะถูกกักตัวเอาไว้ แต่ก็ยังมีโอกาสที่พวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่ ส่งคนไปที่เซี่ยหยางฝูตรวจสอบดูว่าพอจะพากลับมาได้หรือไม่”
“ขอรับ ท่านเจ้าเมือง!”
จางชิงเฟิงพาตัวเองออกไปอย่างตื่นเต้น
ฟางหยวนยังคงไม่พอใจขณะส่ายหน้า
อี้ซานฝูก็มีสภาพเลวร้ายอยู่แล้ว ต่อให้เขาเกณฑ์ทหารใหม่และค่อย ๆ ปลูกฝังความภักดีลงไปในตัวทหารทุกครน มันก็ยังเหมือนใช้ไม้ซีกไปงัดไม้ซุงเมื่อต้องรับมือกับประเทศอู่ที่กำลังเดือดดาล
ในเมื่อเขาตกลงรับตำแหน่งเจ้าเมือง เขาย่อมมั่นใจที่จะทำหน้าที่ได้สำเร็จ เขาไม่สามารถเผยความลับนี้ออกไปได้ แม้แต่กับจางชิงเฟิง ผู้ที่เพิ่งสาบานตนจงรักภักดีกับเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน
“พวกเจ้าเข้ามาคนหนึ่ง!”
ขณะที่เขาเดินออกไป เขาก็เรียกทหารผู้หนึ่งมา
“ท่านเจ้าเมือง มีสิ่งใดจะให้ข้ารับใช้หรือไม่?”
ทหารผู้นั้นคุกเข่าข้างหนึ่งลงด้วยทีท่าเคารพ
“รีบไปที่มณฑลชิงเหอ เมืองชิงเย่ ส่งจดหมายนี้ให้โจวเหวินอู่!”
ฟางหยวนส่งจดหมายให้ทหาร
เรียกคนของเขามาที่นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ในเมื่อเขากำจัดสายลับออกไป ย่อมมีที่ว่างให้เขาใส่คนที่เชื่อถือได้ของตนลงไป
…
หลายวันผ่านไป
ข่าวการเปลี่ยนแปลงของการสู้รบในเซี่ยหยางฝูและการตายของหลิวเอี๋ยนเพิ่งมาถึงอี้ซานฝู ทำให้หลายคนตื่นตกใจ
มีฟางหยวนรับหน้าที่อยู่ในเมืองอี้ซานฝู ทุกคนย่อมสงบและรักษาท่าทีแบบเดิมไว้ได้เมื่อสายลับก็ถูกกำจัดไปแล้ว
เขาเดินไปที่กลางเมืองและยกผนึกอี้ซานฝูขึ้นมา เขาสั่งให้ทุกตระกูลไว้ทุกข์แก่เจ้าเมืองคนเก่าสามวัน ก่อนที่จะเตรียมพิธีการขึ้นรับตำแหน่งของเขาต่อ
ที่นอกเมือง
รถม้าหลายคันผ่านมา พวกเขามองเห็นเมืองอี้ซานฝูที่ดูราวสัตว์ประหลาดตัวใหญ่สีดำทะมึน
“ไม่คิดเลย… ใครจะรู้ว่าข้าจะได้มาอี้ซานฝูในสถานะนี้…”
อวี้ซินโหลวเลิกม่านขึ้นและพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นตัวเมือง
เขาถูกผู้อื่นวางแผนการใส่และต้องละทิ้งการค้าขายของตระกูลไปอย่างไม่ยินยอมก่อนที่จะตามฟางหยวนไปเมืองชิงเย่
แต่ว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายในระยะเวลาเพียงไม่นาน
การตายของเจ้าเมืองคนเก่า และการขึ้นรับตำแหน่งของฟางหยวนในฐานะเจ้าเมืองคนถัดไป ผู้ที่จะมีอำนาจเหนือประเทศเซี่ยถึงหนึ่งในสาม!
“มันต่างไปมากในตอนนี้!”
อวี้ซินโหลถอนหายใจและกำหมัดแน่น “ข้าต้องช่วยนายท่านขึ้นปกครองเหนือ 6 มณฑล!”
“กุบกับ!”
“กุบกับ!”
ทันใดนั้น ทหารม้ากลุ่มหนึ่งก็มาถึงที่นอกประตูเมือง
ขบวนรถม้าตึงเครียดขึ้นมาทันที คนจากเมืองชิงเย่เองก็มีทหารของมณฑลชิงเหอคุ้มครองมา ดังนั้นจึงออกไปรับหน้าทหารม้า “พวกเจ้าเป็นใคร?”
“ข้าคือรักษาการเมืองจางชิงเฟิง ข้าได้รับคำสั่งจากท่านเจ้าเมืองให้มาต้อนรับพวกท่านทุกคน!”
จางชิงเฟิงหยุดม้าของตนลงและมองประเมินผู้คนในขบวนรถม้า
“ลำบากท่านแล้ว!”
อวี้ซินโหลวรีบออกมาทักทาย “อย่าเสียเวลาเลย พวกเราเข้าเมืองกันเถิด!”
ขณะที่เข้าไปในเมือง บรรยากาศเงียบเชียบไปหมด หัวใจของอวี้ซินโหลวหนักอึ้งเมื่อมองทหารยามผู้หนึ่ง
ขณะที่พวกเขาเข้าไปถึงห้องโถงหลัก เขาก็ถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นฟางหยวนที่ดูสงบอยู่บนที่นั่งตำแหน่งเจ้าเมือง เขาทักทายฟางหยวนโดยไม่มากพิธี “คารวะนายท่าน และขอแสดงความยินดีกับการรับตำแหน่งเจ้าเมืองอี้ซานฝู!”
“ขอแสดงความยินดีกับนายท่าน!”
ที่ด้านหลังเขา นอกจากโจวเหวินอู่ที่ยังอยู่รับหน้าที่ในเมืองชิงเย่ คนที่เหลือล้วนอยู่ที่นี่ หวงฝูเหรินเหอ จางเฉิง และแม้แต่หลานรั่วและเฉินจื่ออิง ศิษย์ทั้งสองของเขา ก็มาที่นี่ด้วยเพื่อแสดงความยินดีกับเขา
“อืม พวกเจ้ามาได้ทันเวลาพอดี”
ฟางหยวนพยักหน้าและเริ่มมอบหมายงานให้พวกเขาทีละคน
“อวี้ซินโหลว เจ้ารับหน้าที่ผู้ดูแลเก้าประตู หน้าที่ของเจ้าคือจัดการการค้าในตลาดการค้าเก้าประตู และทำให้มันดำเนินการไปได้ตามปกติ!”
“จางเฉิง เจ้าเป็นหัวหน้ากองกำลังลับรักษาเมือง!”
…
ทั้งหมดนี้คือคนเก่าของเขา แต่ตอนนี้กลับได้รับตำแหน่งสูงส่ง
“ขอรับนายท่าน พวกเขามอบทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ให้ท่านแล้ว!”
หลังจากได้รับมอบตำแหน่งต่าง ๆ คนของเขาพวกนี้ก็มอบความภักดีต่อเขามากขึ้น รับรู้ว่าชะตาชีวิตของพวกเขาพลิกผันไปล้วนเพราะฟางหยวน ถ้าเขาก้าวหน้าไป พวกตนทั้งหมดก็ก้าวหน้าไปด้วย แต่ถ้าเขาตาย พวกตนก็ย่อมไม่รอด
“สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือพิธีการเข้ารับตำแหน่งของข้า ร่วมมือกันวางแผนและอย่าประมาทแขกผู้มีเกียรติและของขวัญทั้งหมด!”
ฟางหยวนสั่งพวกเขาด้วยท่าทีเรียบง่าย แต่เมื่อเขาพูดเช่นนั้น ก็มีเสียงตื่นเต้นเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นมา “ท่านเจ้าเมือง ข่าวดี! ข่าวดีขอรับ!”
“อืม? เข้ามาได้!”
ฟางหยวนโบกมือและเห็นจางชิงเฟิงโบกจดหมายฉบับหนึ่งไปมา เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ข่าวล่าสุดจากเซี่ยหยางฝูบอกว่ากองทัพที่พวกเราส่งไปเหลือรอดอยู่กว่าเก้าพันนายกำลังกลับมาอี้ซานฝูและนำมาโดยแม่ทัพหนิวและแม่ทัพเซียง!”
“หืม?”
ฟางหยวนลุกขึ้นยืนและรู้สึกประหลาดใจ “จริงหรือ? แม่ทัพทั้งสองสบายดีหรือไม่?”
“แม่ทัพหนิวสบายดี แต่แม่ทัพเซียงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เพียงแค่ภายนอกเท่านั้น!”
จางชิงเฟิงรู้สึกดีใจมาก
“ฮ่าฮ่า… ดี!”
ฟางหยวนรู้สึกสงสัยในข่าวนี้ แต่ทั้งหมดที่เขาเผยอยู่บนสีหน้าก็คือความยินดี “ส่งคนไปช่วยพวกเขา!”
“ยินดีด้วยท่านเจ้าเมือง! นี่สมควรฉลองนัก!”
อวี้ซินโหลวและคนที่เหลือล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เพียงแค่เขาเริ่มรับตำแหน่งเจ้าเมือง ก็มีข่าวดีเข้ามาทันที อันที่จริง มันคงเป็นคำอวยพรจากสวรรค์
ที่สำคัญที่สุด ด้วยความช่วยเหลือเพิ่มเติมนี้ เขาก็สามารถมั่นใจได้มากกว่าเดิม