“ท่านเจ้าเมือง!”
เพราะการขัดขวางของแม่ทัพเฟยหลง อู่อู๋เต๋าและซวนเชิงจึงรู้สึกตัว พวกมันมองฟางหยวนด้วยความเกลียดชังสุดแสน
“ใช่!”
ฟางหยวนยิ้ม เขาไม่ได้ให้ความสนใจคนพวกนี้นัก
จอมยุทธ์ระดับใช้พลังธาตุไม่นับเป็นกระไรสำหรับเขา
สถานการณ์ยังคงไม่เปลี่ยนไปแม้ว่าก่อนหน้าฟางหยวนจะเพิ่งจัดการกับทหารทั้งกองทัพไป เขายังคงไม่รู้สึกหวาดกลัวนักรบศักดิ์สิทธิ์พวกนี้
เขาเป็นราชาของดอกไม้และหญ้าวิเศษ!
ส่วนคนชั้นสูงจากประเทศอู่ตรงหน้าเขานั้น? ในเมื่อทหารทั้งแสนนายนั้นแตกพ่ายไปหมดแล้ว ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ไม่มีอีกแล้ว
ฝ่ายโจมตีและฝ่ายตั้งรับนั้นพลิกกลับแล้ว!
…
สายลมหอบหนึ่งโชยมาพร้อมกลิ่นคาวเลือด
ไม่ไกลนัก หญ้าวงเดือนและบุปผากงจักรส่ายไหวอยู่ ราวกับมัจจุราช พวกมันเอาชีวิตทหารมากมายไป
อู่อู๋เต๋า ซวนเชิง และเฟยหลงรู้สึกอยากกระอักเลือดเมื่อเห็นภาพนี้
พวกมันจะพึ่งพาคนเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่นี้เอาชัยเหนืออี้ซานฝูได้อย่างไร?
กองทัพของพวกมันก็ถูกทำลาย แผนการใด ๆ ที่พวกมันมีก็กลายเป็นเรื่องขำขันไปแล้ว
คนบงการเบื้องหลังทั้งหมดนี้คือเด็กหนุ่มที่หัวเราะอยู่เบื้องหน้าพวกมันนี่เอง พวกมันไม่รู้เลยว่าเหตุผลของการเตรียมการก่อนหน้านี้ทั้งหมดของคนผู้นี้ก็เพื่อการตอบโต้กลับในครั้งเดียว!
“ดี!”
แม่ทัพเฟยหลงชื่นชม “ข้าไม่เคยแพ้ในการต่อสู้สักครั้ง เมื่อคิดว่าชัยชนะอันต่อเนื่องของข้าจบลงในมือของเจ้าแล้ว…”
“แล้วอย่างไร? หรือว่าท่านยังอยากสู้ต่อ?”
ฟางหยวนพูดอย่างเย่อหยิ่ง ไม่มีร่องรอยความกลัว
อู่อู๋เต๋าลังเลขึ้นมาในตอนนี้เอง
เขายังมีแม่ทัพเฟยหลงและนักพรตชราซวนเชิงอยู่ฝ่ายเขา ในด้านความแข็งแกร่ง พวกมันเหนือกว่าศัตรู แต่ว่า เรื่องไม่ง่ายเช่นนี้
อย่างไรเสีย เจ้าเมืองผู้นี้ก็ยากจะคาดเดาได้ซึ่งทำให้เขารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก
สภาพร่างกายของเขาตอนนี้ก็อยู่ได้ด้วยยาเม็ดอาคมน้ำแข็งแต่ก็ไม่มีอะไรรับรองได้ว่าสภาพของเขาจะไม่เลวร้ายลงไปในระหว่างการต่อสู้
ส่วนฝ่ายของศัตรูนั้น หนิวติ้งเทียนนั้นอ่อนแอที่สุด แต่ว่าเขาก็ฝึกวิชากำลังภายนอกซึ่งเพียงพอให้จัดการกับศัตรูได้ รัศมีที่แผ่ออกมาของสัตว์วิญญาณตัวนั้นก็เทียบได้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงสุดของประตูทองที่ 12 และมันยังบินได้ ถ้ามันยังมีความสามารถอื่นอีกก็จะนับเป็นหนึ่งแรงที่ต้องเอามาคิดรวมด้วย… นอกจากนี้ ยังมีฟางหยวนที่คาดเดาไม่ได้ผู้นั้น
จากสถานการณ์ เอาชนะศัตรูไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น
นอกจากนี้ พวกมันยังไม่สามารถยับยั้งไม่ให้ศัตรูของมันหลบหนีได้ด้วย!
ตรองถึงทิศทางการดำเนินไปของสถานการณ์แล้ว เขาไม่มีเวลามากเพียงนั้นจริง ๆ!
ถ้าพวกมันไม่สามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างรวดเร็ว ไม่ช้าพวกมันก็จะถูกล้อมโดยกองทัพของอี้ซานฝูและดอกไม้และหญ้าวิเศษพวกนั้น!
ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็เป็นฝ่ายของพวกมันแล้วนี่ต้องตายตกอย่างอนาถ
แม่ทัพเฟยหลงรู้สึกจนหนทาง และไม่มีแผนการที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาได้
“จือเอ๋อร์!”
อู่อู๋เต๋าเข้าไปถึงข้างตัวศิษย์วิญญาณที่กระอักเลือดออกมาในพริบตาเดียว เขาป้อนยาวิญญาณให้ลูกศิษย์และมองฟางหยวนอย่างเกลียดชัง
มันไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะลงมือกับศัตรูโดยไม่รู้ความสามารถของฝ่ายศัตรู
เขาย่อมไม่ปล่อยให้อารมณ์ของเขาอยู่เหนือสติแม้ว่าศิษย์รักคนหนึ่งจะได้สละชีพเพื่อประเทศไปแล้วและศิษย์รักอีกคนก็บาดเจ็บสาหัส
อู่อู๋เต๋ามองไปที่ราชานกหงเอี่ยนป๋ายอย่างขุ่นเคืองและถามอย่างเยือกเย็น “ท่านเจ้าเมือง ท่านต้องการอะไร?”
“พวกเจ้าบุกรุกอาณาเขตของข้า สังหารคนของข้า และยังถามข้าว่าข้าต้องการอะไร?”
ฟางหยวนอึ้งไปราวกับได้ยินเรื่องตลก
“เป็นธรรมดาที่ผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอ ยกสถานการณ์ของประเทศเซี่ยขึ้นมาพูด ถึงแม้ประเทศอู่จะไม่ลงมือ ก็ยังมีประเทศหยวน ประเทศจู… แม้แต่เจ้า เจ้าจะยอมเป็นเพียงผู้อยู่ใต้บัญชาของประเทศเซี่ยจริงหรือ?”
นักพรตชราซวนเชิงส่ายหน้า
“อืม… ช่างเถิด!”
ฟางหยวนเหลือบมองกลับไปที่เมืองซางชานที่เริ่มเงียบลงแล้ว “ข้าต้องการให้พวกเจ้าออกไปจากอี้ซานฝูและสาบานด้วยปฏิญาณเลือดว่าในหนึ่งร้อยปีนี้ พวกเจ้าจะไม่รุกรานเราอีก!”
“หนึ่งร้อยปี!”
แม่ทัพเฟยหลงขมวดคิ้ว
เขาอาจจะตกลงไปแล้วถ้าเป็นเพียงสักยี่สิบหรือสามสิบปี อย่างไรกองทัพของประเทศอู่ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักและต้องการเวลาในการฟื้นฟู
แต่หนึ่งร้อยปี? นั่นออกจะนานเกินไป
“ถ้าพวกเราไม่ตกลงเล่า? หรือเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถข่มขู่พวกเราได้ด้วยกองทัพของเจ้า?”
อู่อู๋เต๋าถามอย่างเยือกเย็น
ถึงแม้พวกมันจะอยากช่วยประเทศอู่รักษาความแข็งแกร่งเอาไว้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ถ้าจะต้องสละชีพตัวเอง
“แน่นอนว่าไม่!”
สีหน้าของฟางหยวนเย็นชาขึ้น “ข้าเพียงสามารถรับรองได้ว่าจะไม่มีใครในพวกเจ้าออกไปจากที่นี่ได้โดยที่ยังมีชีวิตอยู่!”
“ฮ่าฮ่า…”
อู่อู๋เต๋าหัวเราะ “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถฆ่าพวกเราได้งั้นรึ?”
“ข้ามั่นใจว่าจะถ่วงพวกเจ้าเอาไว้ได้จนกว่ากองทัพจะมาถึงและล้อมพวกเจ้าเอาไว้!”
ฟางหยวนปัดฝุ่นที่บนไหล่ “ถ้าแผนการของข้าล้มเหลว อย่างน้อยก็ข้าก็สามารถหนีไปได้พร้อมสัตว์วิญญาณของข้า! แล้วพวกเจ้าเล่า? อยากลองหรือไม่?”
เมื่อได้ยิน ลมหายใจของอู่อู๋เต๋าก็ช้าลงและรู้สึกสลด
ศัตรูครอบครองสัตว์วิญญาณที่บินได้และยังไม่อายที่จะต้องหนีไปถ้าสู้พวกมันไม่ได้
สิ่งที่ศัตรูพูดนั้นจริงยิ่งนัก! ถ้าเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดไป เขาสามารถหันหลังวิ่งหนีไปได้ทันที
นอกจากนี้ เขายังอายุน้อยและมีโอกาสมากมายที่จะแก้แค้น
ส่วนพวกมัน การลงมือผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจจะเป็นผลให้พวกมันตายตกได้!
ถ้าพวกมันคำนวณผิดไปจริง ๆ เข้าสู่การต่อสู้และไม่สามารถเอาชนะนักรบศักดิ์สิทธิ์ควบอู่จงผู้นี้กับสัตว์วิญญาณของเขาได้ ก็มีโอกาสที่พวกมันจะถูกล้อมและถูกฆ่า
วินาทีนี้ พวกมันทั้งสามลังเล
พวกมันไม่ได้มีเวลาคิดมากนักเมื่อเห็นทหารของพวกมันกำลังพ่ายแพ้และพืชวิเศษก็ค่อย ๆ ล้อมพวกมันเอาไว้ช้า ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…
อู่อู๋เตามองฟางหยวนและหนิวติ้งเทียน และเห็นพวกเขามีจิตมุ่งร้ายต่อศิษย์ของตน
เขารู้ว่าเมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น เขาอาจจะสามารถรอดไปได้ แต่ศิษย์ของเขาย่อมตายตกลงอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ท่านเจ้าเมือง… เล่นได้ดี ข้ายอมแพ้!”
นักพรตชราซวนเชิงก็ยอมตาม “ข้ายอมรับข้อตกลงหนึ่งร้อยปี!”
อู่อู๋เต๋ารู้สึกซาบซึ้งนัก
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และดังนั้น แม่ทัพเฟยหลงหรือเขาต้องยอมรับข้อตกลงก่อน ไม่อย่างนั้นอาจจะมีผลตามมา
ซวนเชิงรู้และเพราะอย่างนั้นเขาจึงก้าวออกมาและยอมลงก่อน รู้ดีว่าเขาเองก็ต้องยอมรับผลลัพธ์รุนแรงที่อาจจะตามมา
“ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ยอมรับด้วยเช่นกัน!”
แม่ทัพเฟยหลงถอนหายใจ
อู่อู๋เต๋าเองก็ให้สัญญา
“ดี เช่นนั้นก็เชิญ ข้าไม่ส่งแล้ว!”
ฟางหยวนโบกมือและยิ้มราวกับเป็นเจ้าบ้านที่แสนดี ไม่มีทีท่าเกลียดชังซึ่งกันและกัน
“เจ้าเมืองอี้ซานฝูรับรองข้อตกลงสงบศึกหนึ่งร้อยปี…”
อู่อู๋เต๋าและแม่ทัพเฟยหลงสบตากัน พวกมันถอนหายใจและเดินจากไปเงียบ ๆ
“ท่านเจ้าเมือง ทำไมถึงไม่…?”
เห็นเงาคนหายลับไป หนิวติ้งเทียนก็ก้าวออกมาถาม
“เจ้ามีความมั่นใจที่จะสังหารพวกนั้นสามคนหรือไม่เล่า? อู่อู๋เต๋านั้นเป็นราชครูประเทศอู่ แม่ทัพเฟยหลงก็เป็นอัจฉริยะของประเทศอู่ ใครจะรู้ว่าพวกมันซ่อนไพ่ตายอะไรเอาไว้?”
ฟางหยวนมองเขา “ทหารของพวกเราต้องสละชีวิตอีกมากเท่าไหร่เพื่อชัยชนะที่ไม่แน่นอน?”
หนิวติ้งเทียนตอบไม่ได้ เหงื่อเย็น ๆ ซึมออกมา
ฟางหยวนหลับตา เขายังคงมีสิ่งที่พูดออกมาดัง ๆ ไม่ได้อีก
อู่อู๋เต๋าและพวกนั้นยอมตกลงในพันธสัญญาที่ฟางหยวนมอบเงื่อนไขหลายประการที่เป็นประโยชน์แก่พวกมันนอกจากสถานการณ์ปัจจุบันนี้
ตัวอย่างเช่น ข้อตกลงนี้เพียงสำหรับกองทัพ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับจอมยุทธ์ในระดับใช้พลังธาตุ
ถ้าเขาประสบกับอันตรายใด ก็ไม่มีการรับรองว่าผู้มีความสามารถแต่ละคนนั้นจะไม่มาสร้างปัญหาให้
พวกมันย่อมต้องมาอย่างแน่นอน!
แต่ว่า หากไม่มี ‘ช่องโหว่’ นี้ เขาจะคาดหวังให้ประเทศอู่ยอมถอนตัวได้อย่างไร?
ฟางหยวนมั่นใจในความสามารถของตัวเอง
‘ดูเหมือนว่าตั้งแต่นี้ไป ข้าคงเป็นหลิวเอี๋ยนอีกผู้หนึ่งในใจของประเทศอู่ ข้าอาจจะต้องรับมือกับสิ่งที่จะตามมาอีกมาก… ยิ่งพวกนั้นมามากเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งได้ขัดเกลาความสามารถของข้าเท่านั้น!’
ยังมีประโยชน์อื่นจากการไม่มีสงคราม
สำหรับตอนนี้ อู่อู๋เต๋าเพียงรู้ว่าฟางหยวนนั้นยากคาดเดาและเหี้ยมโหด เขาไม่รู้ว่าฟางหยวนนั้นอยู่ที่ระดับสูงสุดของขอบเขตรวมธาตุแล้ว!
เขาสามารถใช้ช่วงเวลาที่ได้รับมานี้ทะลวงด่านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แผนการใด ๆ ของผู้อื่นนั้นจะไม่นับเป็นอะไรเลยถ้าเขาสามารถทะลวงผ่านขอบเขตรวมธาตุนี้ไปได้
…
เซี่ยหยางฝู
“มีราชโองการว่า เซี่ยหยางฝูเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเซี่ย วันนี้ พวกข้ามาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวเมืองว่าจะไม่มีการเก็บภาษีเพิ่มถ้าหากพวกเจ้ายอมจำนนแต่โดยดี มิเช่นนั้น พวกเจ้าจะถูกจับในฐานะกบฏและถูกลงโทษ!”
ที่หน้าเมือง มีการดิ้นรนต่อสู้ตามมาด้วยการยอมยกธงขาวต่อกองทัพหลวงของประเทศเซี่ย
“ดีมาก นี่เป็นเมืองที่สามแล้วที่ยอมแพ้โดยไม่ต่อสู้!”
เซี่ยหลิงอวิ๋นประกาศขณะที่นางส่งทหารเข้าไปในเมือง “นอกจาก 6 มณฑลของเซี่ยหยางฝู 3 มณฑลกลับเข้ามาอยู่ในมือของราชวงศ์ นี่เป็นเรื่องควรเฉลิมฉลอง!”
นางไม่ได้มีความตั้งใจที่จะช่วยประเทศอู่ในการต่อสู้ครั้งนี้
ในสายตาของราชวงศ์ประเทศเซี่ย เจ้าเมืองคนก่อน หลิวเอี๋ยน นั้นเป็นคนทรยศและประเทศอู่นั่นก็ละโมบ
รับการโจมตีจากทั้งสองฝ่ายและถูกประเทศอู่ฉกฉวยผลประโยชน์? มีเพียงแค่คนโง่เท่านั้นที่จะทำเช่นนั้น
หลังจากได้รับจดหมายจากฟางหยวน เซี่ยหลิงอวิ๋นก็สั่งกองทัพสร้างภาพอยู่หน้าฉาก ในขณะที่ทัพจริงนั้นมุ่งหน้าไปเซี่ยหยางฝูด้วยความตั้งใจจะรวบเอาเซี่ยหยางฝูมาเป็นของราชวงศ์
นางมีแผนเช่นเดียวกันนี้กับชิงฉวนฝู
“น่าเสียดาย… เซี่ยหยางฝูนั้นเสียหายอย่างหนัก…”
เมื่อนางนึกถึงภาพความเสียหายที่ได้พบระหว่างทางมาที่นี่ เซี่ยหลิงอวิ๋นก็อดส่ายหน้าไม่ได้ สีหน้าวิตกกังวล
‘หลังจากประเทศอู่ยึดครองอี้ซานฝู ก้าวต่อไปย่อมจ้องมาที่ประเทศเซี่ยที่เหลือ… โชคดีที่มันยังต้องใช้เวลาในการตระเตรียม แต่ว่า ประเทศเซี่ยก็คงไม่มีโอกาสเหลือมากนัก โดยเฉพาะ… การหมั้นหมาย…’
พูดโดยสัตย์จริง เป็นเรื่องปกติสำหรับราชวงศ์ที่จะเชื่อมสัมพันธ์กันโดยการแต่งงาน
แต่ว่า เซี่ยหลิงอวิ่นนั้นไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นการมอบเหตุผลอื่นให้อีกฝ่ายเข้ายึดครองประเทศเซี่ยระหว่างช่วงเวลาอันไม่สงบนี้หรือไม่
“จดหมายจากอี้ซานฝูขอรับ!”
ผู้ส่งสารพุ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน
“เกี่ยวกับการพ่ายแพ้ของอี้ซานฝูใช่หรือไม่?”
เซี่ยหลิงอวิ๋นอดถอนใจไม่ได้เมื่อคิดถึงอัจฉริยะผู้ที่มีระดับการฝึกตนสูงส่งแต่ขาดการฝึกฝน รายงานสุดท้ายบอกว่าเขาทุ่มทุกอย่างไปที่ซางชาน เขาเข้าใกล้ความพ่ายแพ้ไปทุกที
“เป็นการพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ขอรับ แต่ไม่ใช่อี้ซานฝู เป็นประเทศอู่แทนขอรับ!”
“อะไรนะ?”
เซี่ยหลิงอวิ๋นงันไปและมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ