ตำหนักจันทร์เคลื่อนคล้อยนั้นเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของประเทศจู ตำหนักนี้ตั้งอยู่ข้างทะเลสาบจันทราเมามาย มันมี 7 ชั้น และสูงกว่า 30 วา ตำหนักถูกสร้างอย่างชาญฉลาดเป็นที่สุด จากชั้นบนสุด ทิวทัศน์ของทะเลสาบจันทราเมามายนั้นช่างน่าประทับใจและยังให้ผลสงบใจ ที่ด้านในตำหนัก มีภาพเขียนอักษรของบัณฑิตผู้มีชื่อเสียงหลายคน ที่โดดเด่นที่สุดคือโคลง ‘จันทราเมามายชั่วกัลป์’ และยังนับเป็นสมบัติล้ำค่าของตำหนัก ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสได้เห็น
มีหมอกบาง ๆ ชั้นหนึ่งลอยเลื่อนอยู่บนผิวทะเลสาบ ทะเลสาบนี้กว้างใหญ่และยังเป็นที่อาศัยของพืชและสัตว์น้ำนานา ทิวทัศน์ชวนให้หลงใหล และทะเลสาบนี้ก็เป็นแหล่งชีวิตของผู้คนมากมาย หนึ่งในผลผลิตสัตว์น้ำที่ดีที่สุดที่สามารถจับได้จากทะเลสาบก็คือปลาเงินเมามาย มันเป็นอาหารจานเด่นที่มีให้ชิมในตำหนักจันทร์เคลื่อนคล้อย อาหารจานนี้ทำขึ้นอย่างประณีตที่ได้จากเนื้อปลาเงินเมามาย 49 ตัวแล่เป็นชิ้นบาง มันเยี่ยมยอดเกินจะเปรียบได้ ว่ากันว่ารสชาติของอาหารจานนี้กินแล้วราวกับสัมผัสได้ถึงความเป็นอมตะ และเนื้อสัตว์อื่นก็ราวกับจะไร้รสชาติไปนานถึงสามเดือน
ฟางหยวนนั่งอย่างองอาจอยู่ในห้องพิเศษ มีขวดเหล้าหยกขาววางอยู่ตรงหน้าเขา กลิ่นสุราหอมโชย อาหารหรูหราวางเรียงรายบนโต๊ะ และหนึ่งในนั้นก็คือจานพิเศษเฉพาะของตำหนักจันทราเคลื่อนคล้อย เจ็ดคำปลาเงินเมามาย ปลาถูกแล่เป็นชิ้นบางใส มีกลิ่นเหล้าโชยออกมาจากเนื้อปลาที่แล่บาง ให้ความรู้สึกน่าอร่อย
“อืม.. ไม่เลว นี่ไม่เลวเลย!”
ฟางหยวนใช้ตะเกียบคีบปลาอีกชิ้นและส่งเงินก้อนเล็กให้ที่เด็กรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ เป็นรางวัล “ปลาสดและเนื้อแน่น ยิ่งเติมสุราเข้าไปก็เป็นการจับคู่ที่ดีและเข้ากันได้ดีมาก รสชาติเหนือธรรมดา…”
“นายท่าน ท่านเองก็เก่งกาจด้านอาหารเช่นกัน!”
หลังจากได้ยินคำชมของฟางหยวน เด็กรับใช้ก็รีบรับเงินมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความยินดี “นี่เป็นปลาเงินเมามายคุณภาพเยี่ยมที่สุด ปลานี้โดยธรรมชาติแล้วชอบกินสุราและยากนักที่จะจับปลานี้ได้จากทะเลสาบจันทราเมามาย!”
“ปลาเงินเมามาย?”
ฟางหยวนหัวเราะดวงตาเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย “ปลานี่ก็รู้จักดื่มเหล้ารึ?”
“นี่… ข้าเกรงว่าคงจะมีแต่ปลาที่รู้ว่าทำไม ดูเหมือนนายท่าน ท่านจะไม่ได้มาที่นี่เพื่อเทศกาลจันทราเมามาย?” เด็กรับใช้อึ้งไปเล็กน้อยขณะถาม
“เทศกาลจันทราเมามาย?”
ฟางหยวนค่อย ๆ กินอาหารของเขาไป “เล่าให้ข้าฟังหน่อยสิ!”
“เจ้าค่ะ!”
เด็กรับใช้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่อย่างไรนางก็ยังอธิบายรายละเอียดต่อฟางหยวน
มีระยะเวลาเพียงไม่กี่วันที่ทะเลสาบจันทราเมามายจะมีพระจันทร์ทรงกลด ระหว่างช่วงเวลานั้น กลิ่นสุราจะลอยออกมาจากทะเลสาบเป็นระยะขณะที่สะท้อนเงาดวงจันทร์บนผิวน้ำ ดังนั้นมันจึงได้ชื่อทะเลสาบจันทราเมามาย
ระหว่างช่วงหลายวันนี้ ทะเลสาบจะมีของดี ๆ อย่างปลาเงินเมามายและสัตว์วิญญาณหายากอื่นปรากฏขึ้น!
นี่ดึงดูดให้เหล่าบัณฑิตและผู้ฝึกยุทธ์มากมายมาสำรวจความลับเบื้องหลัง พวกเขายังค้าขายแลกเปลี่ยนในตลาดที่นี่ระหว่างเวลานี้ของปี และตั้งแต่นั้นก็กลายเป็นเทศกาลประจำปีไป
“โอ้?”
ฟางหยวนหัวเราะและพูด “ช่างบังเอิญนัก ข้ามาได้เวลาดีทีเดียว ดูเหมือนข้าจะถูกลิขิตให้ได้เยี่ยมชมเทศกาลนี้!”
“แน่นอนเจ้าค่ะนายท่าน ท่านโชคดีมาก!”
เด็กรับใช้ปิดปากหัวเราะอย่างสุภาพ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางคิด
ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้ามาในตำหนักจันทร์เคลื่อนคล้อยได้ แม้ว่าฟางหยวนจะเป็นหน้าใหม่ในตำหนักนี้ แต่เด็กรับใช้ก็ได้รับคำสั่งมาให้บริการฟางหยวนเป็นอย่างดี บริการอาหารชั้นดี เช่นนั้นเขาจะเป็นเพียงคนธรรมดาได้อย่างไร?
ไม่ต้องพูดถึงว่า ฟางหยวนมีท่าทางสง่างามและยังดูร่ำรวย
นางคิดว่าฟางหยวนต้องมาจากตระกูลร่ำรวยสักแห่ง
ฟางหยวนยกจอกเหล้าขึ้น ท่ามกลางสายลมและทิวทัศน์เช่นนี้ ความคิดเขากลับวิ่งวุ่นวาย ‘ข้าไม่คิดเลย… ว่าตำแหน่งในแผนที่นั่นกลับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเช่นนี้ ผู้ที่สร้างแผนที่ขึ้นมา การกระทำของเขาช่างคาดเดาไม่ได้… แต่ว่า ในเมื่อเขาสามารถซ่อนแผนที่จากคนตั้งมากได้ วิธีการเก็บซ่อนสมบัติก็คงไม่ธรรมดา มีเทศกาลเช่นนี้ข้าก็สามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่ทะเลสาบเพื่อค้นหาต่อ…’
…
เพราะเทศกาลจันทราเมามายนั้นค่อนข้างมีชื่อเสียงในประเทศจู จึงมีการเตรียมการล่วงหน้าหลายวัน
พอเทศกาลมาถึง ฟางหยวนก็พบว่ามีผู้คนหลั่งไหลมาที่ทะเลสาบมากมาย ผู้ฝึกยุทธ์เดินไปมาทั่วไปพร้อมกับกระบี่และมีดสั้นดูน่าเกรงขามและทุกคนล้วนหวาดกลัวพากันเดินเลี่ยงคนพวกนั้นโดยไม่รู้ตัว
ตกกลางคืน พระจันทร์แขวนสูงบนฟ้าเหนือทะเลสาบที่มีหมอกหนาปกคลุม
ริมทะเลสาบเงียบมาก มีกองไฟสีเขียวมรกตหลายกองลุกไหม้อยู่ดูน่ากลัว
จำนวนกองไฟเพิ่มมากขึ้น ม้าและวัวหลายตัวล้อมรอบกองไฟ กระโจมถูกกางออกและตรงนั้นก็กลายเป็นตลาด แต่ว่า ไม่มีใครรู้ว่าที่นั่นเป็นอย่างไร มันเหมือนการรวมตัวกันของภูตผี
อันที่จริง มันเรียกว่าตลาดปิศาจ
ฟางหยวนพบว่ามันก็เป็นเพียงการรวมตัวกันของผู้คนในโลกแห่งการฝึกตน การรวมกันนี้ดูเป็นปริศนาราวกับลัทธิสักอย่าง ดังนั้นคนธรรมดาจึงไม่เข้ามาร่วม
“ข้าจะเดินดูตลาดมืดประจำปีนี้เสียหน่อย!”
ไม่มีใครู้ว่าใครเป็นผู้ตั้งตลาดมืดนี้และคนที่มาที่นี่ก็ล้วนลึกลับ ฟางหยวนสวมหมวกที่ปิดบังใบหน้าของเขาไปครึ่งหนึ่ง
ของที่ขายในตลาดมืดนี้ล้วนไม่รู้ที่มา แต่ก็ยังมีของดีบางอย่างปรากฏอยู่บ้าง
แน่นอนว่า ไม่มีการรับรองสินค้าชิ้นใดที่ขายอยู่ที่นี่ ผู้ซื้ออาจจะจบลงที่การได้ของที่จงใจปลอมขึ้นมา และถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ได้แต่โทษความโชคร้ายของตัวเองแล้ว
“เจ้ามาที่นี่เป็นครั้งแรกใช่หรือไม่?”
ที่ทางเข้าตลาดปิศาจ ชายร่างใหญ่ในชุดสีดำยืนอยู่หน้าประตูมองฟางหยวน พวกมันต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้ม
“ใช่… ที่นี่มีกฎใดหรือไม่เมื่อข้าเข้าไปแล้ว?”
ดวงตาของฟางหยวนเป็นประกายเมื่อเห็นคนพวกนี้
“ไม่มีกฎ… มีเพียงข้อตกลงเล็กน้อยที่พวกเราต้องย้ำกับเจ้าเมื่อเข้าไป!”
หัวหน้ากลุ่มหัวเราะและอธิบาย “ในตลาด เจ้าสามารถแลกเปลี่ยนสินค้ากับสินค้าอื่นได้ หรืออาจจะจ่ายด้วยเงินหรือทอง แต่ไม่รับตั๋วแลกเงิน เมื่อเกิดการแลกเปลี่ยนขึ้นแล้ว เจ้าไม่สามารถขอคืนสินค้าได้ และแน่นอนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือห้ามเจ้าใช้กำลังกับใครหรือไม่อย่างนั้นเจ้าจะถูกจัดการอย่างสาหัส!
“อืม”
ฟางหยวนโบกมือและเข้าตลาดไป
“พี่ใหญ่…”
ชายชุดดำคนอื่นที่ข้าง ๆ รู้สึกว่าฟางหยวนค่อนข้างหยาบคาบ เขาเดินตรงไปพูดกับหัวหน้า
“อย่าได้คิดอะไรโง่ ๆ เจ้าเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วหรือ?”
ดวงตาของหัวหน้าจริงจังขณะปรามชายคนนั้น “ทุกคนแนะนำให้พวกเรามาดูแลสถานที่นี้เพราะว่าพวกเรามีความยุติธรรม! พวกเราไม่ได้รับเงินมาเพื่อทำเรื่องไร้สาระ! แล้วก็…”
ขณะที่เขามองไปในทิศทางที่ฟางหยวนเดินไป เขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
แม้ว่าน้ำเสียงของฟางหยวนจะยังอ่อนเยาว์ แต่หัวหน้าก็ไม่แน่ใจว่าฟางหยวนจะเป็นนายท่านผู้ชราผู้ใดปลอมตัวมาหรือไม่ ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ถ้าเขาดันไปท้าทายจอมยุทธ์ผู้ใช้พลังธาตุขึ้นมา
…
หัวหน้าผู้นี้ไม่รู้เลยว่านี่ถูกต้องสมควรแล้ว และมันช่วยชีวิตเขาเอาไว้
ฟางหยวนมองไปรอบ ๆ ตลาดด้วยความประหลาดใจ
“เป็นตลาดมืดจริง ๆ ของที่ขายที่นี่ทั้งคุณภาพดีและราคาถูก สิ่งเดียวเลยก็คือไม่มีใครรู้ว่าของพวกนี้มาจากไหน…”
เขาผ่านร้านขายของหลายร้านและซื้อของวิเศษหายากหลายชิ้นแต่ยังไม่สนใจของที่เหลือ
อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุของเขาและยังสถานะเจ้าเมืองของเขา มีของไม่มากนักที่จะดึงดูดความสนใจเขาได้
“ทุกท่าน ทะเลสาบจันทราเมามายกำลังจะเปิดแล้ว ที่นี่มีของวิเศษจำนวนมาก และยังเป็นช่วงเวลาอันดีที่พวกท่านจะได้ทดสอบโชคของท่าน แล้วท่านจะไม่มีแผนที่ใต้น้ำสักฉบับติดตัวไว้ได้อย่างไร?”
เสียงดังมาจากด้านหน้า
ท่ามกลางตลาดอันเงียบเชียบ เสียงนี้ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างมาก
ฟางหยวนเดินตรงเข้าไปและเห็นคนผู้หนึ่งซึ่งสวมชุดคลุมทั้งตัว คนผู้นั้นนั่งยอง ๆ อยู่ริมทางและที่ร้านเล็ก ๆ ตรงหน้าเขานั้นมีแผนที่สามแผ่นวางขายอยู่
“นี่เป็นแผนที่ใต้น้ำของทะเลสาบจันทราเมามาย ข้าใช้เวลาเป็นสิบปีวาดแผนที่นี้ออกมา และมีเพียงแค่ 3 ฉบับเท่านั้น แต่ละฉบับราคา 1000 ตำลึงเงิน หรือแลกกับของที่มีราคาเทียบเท่ากันได้!”
เสียงของเขาฟังดูโลภมาก
“แผนที่นี้วาดขึ้นอย่างงดงาม แต่ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นของจริงหรือของปลอม… อีกอย่าง หนึ่งพันตำลึงเงินสำหรับแผนที่นี้ไม่แพงเกินไปเลยสักนิด!”
คนผู้หนึ่งเดินตรงเข้าไปดูแผนที่ เขาส่ายหน้าและถาม “ข้าขอดูแผนที่ฉบับเต็มก่อนได้หรือไม่?”
“ไม่ได้!”
ชายในชุดคลุมปฏิเสธทันทีและพูด “มีเพียงผู้ที่จ่ายเงินเท่านั้นจึงจะได้ดูฉบับสมบูรณ์ ข้าสาบานตรงนี้เลยว่าปีนี้มีแผนที่นี้วางขายเพียงสามฉบับเท่านั้น!”
‘หืม? ช่างเป็นคนฉลาดนัก!’
ฟางหยวนเดินตรงเข้าไปและพบว่าแผนที่ที่ยังไม่สมบูรณ์นั้นขาดหลายส่วนไป แต่ว่า แผนที่ก็ถูกวาดขึ้นมาอย่างสวยงาม มีสัดส่วนระยะทางและคำอธิบายสัญลักษณ์อยู่ด้วย ซึ่งดูเหมือนการวาดแผนที่เช่นนี้ขึ้นมาจะใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก
แต่ว่า ความเป็นไปได้ว่ามันจะเป็นของปลอมนั้นมีสูงมาก และมันก็สายเกินไปที่จะรู้สึกเสียใจถ้าเขาซื้อมันมาและพบว่ามันเป็นของปลอม
แล้วยังมี ผู้ใดจะกล้าเชื่อถือในตัวผู้ที่สวมชุดคลุมเสียจนดูไม่ออกว่าหน้าตาอย่างไร? อย่างไรเสีย คนผู้นี้ก็สามารถวาดแผนที่เช่นนี้ออกมาขายทำเงินได้อีกตั้งมากมาย
“น่าเสียดาย… ถ้าราคาสักร้อยตำลึงเงินข้าก็จะลองพนันดูสักตั้งหรอก!”
คนที่มุงอยู่ผู้หนึ่งตะโกนออกมา
“ข้าผู้แซ่เจียง… ไม่โกหกผู้ใด ถ้าข้าพูดว่ามันมีเพียงสามฉบับ มันก็ย่อมมีเพียงสามฉบับเท่านั้น!”
ชายในชุดคลุมดูโกรธนิด ๆ และเพิ่มเสียงขึ้น
“ฮ่าฮ่า ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็จะสนับสนุนเจ้าเสียหน่อย!”
ในตอนนี้เอง ฝูงชนแหวกออกและมีชายชราผู้หนึ่งในชุดดำเดินตรงเข้ามา “นี่เป็นไข่มุกเมามายคุณภาพดี หนึ่งเม็ดราคาร้อยตำลึง ข้าแลกมุกสิบเม็ดกับแผนที่ได้หรือไม่?”
“แน่นอน!”
ชายในชุดดำรับมุกจากชายชราและส่งแผนที่ฉบับหนึ่งให้เขาด้วยสองมือ
“พวกเจ้าใช่รวมหัวกันหลอกพวกเราที่เหลือหรือเปล่า?”
เห็นการปรากฏตัวขึ้นของชายชรา คนที่เหลือก็รู้สึกสงสัยมากขึ้น และยิ่งลังเลที่จะซื้อแผนที่ที่เกรงว่าจะเป็นของปลอม
ในตลาดปิศาจนี้มีคนทุกแบบ
แต่ว่า ฟางหยวนนั้นเห็นต่างออกไป
‘ทั้งสองคนนี้รู้จักกัน ชายในเสื้อคลุมเผยความจริงนี้ออกมาเมื่อเขาโมโห จากท่าทางของชายชราที่ซื้อแผนที่ ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างมีอิทธิพล… แม้ว่าดูไปแล้วเขาจะอยู่เพียงระดับ 4 ประตูสวรรค์เท่านั้น…’
ด้วยความคิดนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนได้รับการรับรองว่าแผนที่เป็นของจริง เขาเดินตรงเข้าไปและตรวจสอบแผนที่อีกครั้ง
ตอนที่มอง เขาก็ประหลาดใจ
บางส่วนของแผนที่ฉบับไม่สมบูรณ์นั้นดูจะเหมือนกับแผนที่ที่เขามีอยู่อย่างบังเอิญมาก
“อย่างไรเสีย ทะเลสาบจันทราเมามายก็กว้างใหญ่ มันคงจะวุ่นวายที่จะมองหาไปทีละส่วนและตอนนี้ข้าก็พบเงื่อนงำที่นี่แล้ว ดูเหมือนว่าข้าจะพบที่สิ่งต้องการแล้วนั่นแหละ!”
ขณะที่เขาคิด ฟางหยวนก็เดินตรงเข้าไปคว้าแผนที่แผ่นหนึ่งเอาไว้
“เฮ้ เจ้า…”
ชายในชุดคลุมเริ่มโกรธ แต่เขาก็ต้องขนลุกราวกับเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะจ่าย!”
ฟางหยวนกระแอมก่อนจะโยนขวดหยกใบหนึ่งออกไป
“นี่…ยาวิญญาณ?”
เมื่อชายในชุดคลุมเทของข้างในออกมา ดวงตาของเขาก็เปิดกว้างส่งเสียงครางออกมา และคนที่มองดูอยู่ก็ตื่นตกใจ