เมื่อฟางหยวนเดินทางออกมานั้น เขานำเงินและทองมาด้วยจำนวนมากสมควรตามสถานะของเขา แต่ในตลาดปิศาจ มันง่ายกว่าที่จะแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งของ เพื่อความสะดวก เขาจึงนำยาและของวิเศษติดมาเป็นส่วนใหญ่
เขาดึงเอายาสร้างกล้ามเนื้อออกมา ด้วยความเงางามเปล่งประกายราวกับไข่มุกในความมืด ก็ชัดเจนแล้วว่านี่ไม่ใช่ของธรรมดา และยังมีไอพลังแผ่ออกมาอีกเล็กน้อยด้วย
“มีประทับเม็ดยา ไอพลังและประกาย.. นี่เป็นยาวิญญาณของจริง!”
ชาราที่ก่อนหน้านี้ใช้มุกแลกแผนที่พึมพำเสียงต่ำ ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ฟางหยวน “สร้างยาวิญญาณเช่นนี้ได้ เจ้าเป็นผู้ปรุงยาหรือ?”
เขาเดาว่าคนผู้นี้ก็คงเป็นจ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุผู้หนึ่ง แม้ว่าความเป็นไปได้จะต่ำมาก หรืออาจจะเป็นศิษย์แปรธาตุที่เพียงสามารถใช้ฉายาผู้ปรุงยาได้
ฟางหยวนไม่สนใจจะให้ความกระจ่างแก่เขา!
“ยาเม็ดนี้รู้จักกันว่าเป็นยาสร้างกล้ามเนื้อ มันสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว ข้าแลกยานี้กับแผนที่ของเจ้าเป็นอย่างไร?”
เขามองชายในชุดคลุมแล้วถามตรง ๆ
“ได้อย่างแน่นอน ยาของท่านล้ำค่ากว่ามากนัก!”
ชายในชุดคลุมโค้งตัวลงทันที
แม้ว่าปกติเขาจะหยิ่งทระนงและโอหัง แต่ก็ไม่สามารถถือตัวได้ต่อหน้าผู้ที่อาจจะเป็นศิษย์แปรธาตุ
“ดี!”
ฟางหยวนพยักหน้าและเดินจากมา
“ฝุบ!”
ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ที่นั่นเห็นฝูงชนแยกออกเป็นทางดวงตาก็ลุกโพลง ไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปและคุยกับเขาตอนที่ยังไม่เข้าใจธรรมชาติของเขา
ชายในชุดคลุมนั้นเริ่มปิดร้านและไม่ต้องการทำการค้าต่อแล้ว
“รอก่อน ข้าต้องการซื้อแผนที่นั่น!”
ผู้ฝึกยุทธ์ผู้หนึ่งโพล่งขึ้นหลังคิดดูอย่างรวดเร็ว
“ถูกต้อง ข้ายินดีจ่ายเป็นตำลึงเงินและเพิ่มให้อีกร้อยตำลึงเงิน!”
ชายในเสื้อสีดำดวงตาแดงก่ำพูดขึ้นมาอีกคน
ในที่สุดพวกมันก็เข้าใจคุณค่าของแผนที่ที่บุคคลลึกลับผู้หนึ่งและจ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุผู้หนึ่งมองหา
“วันนี้ข้าพอใจกับสิ่งที่ข้าได้รับแล้ว กรุณาหลีกทาง!”
ชายในชุดคลุมกำเม็ดยาวิญญาณไว้แน่นและหายตัวไปในฝูงชน
เพราะกฎและข้อบังคับของตลาดปิศาจ หลายคนจึงรู้สึกว่านี่น่าเสียดาย แต่ก็ยังมีบางคนเริ่มรวมตัวกัน
อย่างไรเสีย นั่นก็เป็นยาวิญญาณเลยนะ!
ตามที่จ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุผู้นั้นพูด ยานั่นอาจจะเป็นสิ่งช่วยชีวิตในยามคับขันได้!
จอมยุทธ์ระดับกำลังภายในและระดับ 4 ประตูสวรรค์ยินยอมที่จะจ่ายทั้งเงินและเลือดเนื้อเพื่อยานั่น
ผู้คนยินยอมที่จะต่อสู้กันเพื่อยาวิญญาณเพียงเม็ดเดียว ดังนั้น ฟางหยวน ที่อ้างว่าเป็นจ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุ ย่อมเผชิญหน้ากับปัญหามากมายกว่า
เขาดูเหมือนไม่ได้ระวังตัวเลยด้วยซ้ำ หลังจากเดินดูอีกสองสามร้าน เขาก็ส่ายหน้าและมุ่งหน้าไปที่ทางออกตลาดปิศาจ
“ท่านขอรับ ช้าก่อน!”
ชายชราที่ซื้อแผนที่ไปรีบร้อนเดินเข้ามาหาและพูดอย่างนบนอบ “ข้าคืออวี้เฟยฉุย นี่เป็นลิขิตสวรรค์ที่ได้พบท่านในวันนี้!”
“โอ้ โชคดีที่ได้พบสินะ!”
ฟางหยวนถามสีหน้าไม่เปลี่ยน “ท่านมีอะไรให้ข้าช่วย?”
อวี้เฟยฉุยเผยตัวตนของเขาซึ่งมีชื่อเสียงในเขตนี้ เห็นได้ชัดว่าฟางหยวนนั้นไม่ใช่คนของประเทศจูเพราะคนผู้นี้ไม่แม้แต่จะเคยได้ยินชื่อของเขา
เขาฉลาดเจ้าเล่ห์และมีลักษณะภายนอกธรรมดา “ถูกต้องแล้ว ข้ามีวัตถุดิบวิเศษจำนวนมากที่อยากจะมอบให้ท่านเป็นของขวัญ!”
“เทศกาลจันทราเมามาย?”
ฟางหยวนถาม
“ท่านรู้!”
อวี้เฟยฉุยยิ้ม “ข้ารู้จักผู้ที่ขายแผนที่ให้ท่านเมื่อสักครู่นี้ เขาชื่อเจียงเทียนหวัง เขาคุ้นเคยกับน้ำและเก่งในด้านนี้ บรรพบุรุษของเขานั้นทำมาหากินกับทะเลสาบจันทราเมามาย ถ้าพวกเขาไม่ได้พบกับสถานการณ์อันผิดปกติไป พวกเขาก็คงไม่ลงมาขายแผนที่ที่นี่”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า?”
ฟางหยวนถามอย่างเยือกเย็น
“ทุกเทศกาลจันทราเมามาย ทะเลสาบจันทราเมามายจะมีการปรากฏของปลาเงินเมามายมากขึ้นถึงสามเท่าตัวและยังมีโอกาสที่ปลาวิญญาณจะปรากฏตัวขึ้นด้วย!” อวี้เฟยฉุยพูดต่อ “ครั้งนี้ ข้าได้ลงแรงไปมากและสร้างเรือเหาะโลหะขึ้นถึงสามลำ และด้วยแผนที่ของเจียงเทียนหวัง ข้ายังขาดเพียงแค่ศิษย์แปรธาตุที่สามารถใช้ปลาวิญญาณเป็นวัตถุดิบ…”
ศิษย์แปรธาตุนั้นไม่เป็นสองรองใครในการใช้สัตว์วิญญาณและพืชวิเศษได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
อวี้เฟยฉุยเข้าใจดีว่ามันจะเป็นการเสียเปล่าหากไม่มีจ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุมาจัดการใช้งานปลาวิญญาณแม้ว่าจะตกได้ของดีมา
ดังนั้น เขาจึงมองฟางหยวนและกัดฟัน “ถ้าท่านเต็มใจช่วย ข้าก็ยินดีแบ่งของที่เรือลากได้มาครึ่งหนึ่งกับท่าน!”
เขาโค้งตัวต่ำขณะพูด
พูดตามตรง ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งนั้นมากเกินไปแม้จะสำหรับศิษย์แปรธาตุก็ตาม
แต่ว่า อวี้เฟยฉุยนั้นเจ้าเล่ห์ และไม่ได้คิดถึงเพียงการเก็บเกี่ยวแต่ยังเล็งไปถึงการเข้าถึงตัวจ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุ ดังนั้น เขาจึงยินดีสละทุกอย่างที่มี
“ข้าเข้าใจสิ่งที่ท่านเสนอ แต่น่าเสียดาย…”
ฟางหยวนยักไหล่และพูดกับเขาอย่างขำ ๆ “ข้าไม่ใช่จ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุ! ลาก่อน!”
เขาโบกมือและก้าวยาว ๆ ออกไปจากตลาดปิศาจ
“อะไรนะ?”
อวี้เฟยฉุยอ้าปากค้าง เขารู้สึกราวกับถูกตบหน้า
เขาเห็นฟางหยวนหยิบเอายาวิเศษออกมาแต่นั่นก็ไม่ได้ยืนยันว่าเขาเป็นจ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุ ทั้งหมดนั้นเป็นการคาดเดาที่เขาหวังมากเกินไป
ถึงรู้เช่นนี้ เขาก็ยังคงวิ่งมาและเผยแผนการของตัวเองออกไป?
นี่ไม่ใช่นิสัยปกติของเขา!
‘เดี๋ยวนะ ตอนที่ข้าไล่ตามเขามาเมื่อครู่ ข้าเพียงต้องการทดสอบเขา เหตุใดข้าจึงเผยความจริงกระทั่งชื่อของข้าออกไปตอนที่พบกับเขา?’
เหล่าอวี้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไปเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้มากขึ้น เหงื่อกาฬเย็น ๆ ไหลหลั่ง
“ฮ่าฮ่า… พอคิดว่าเขาสามารถจัดการกับเหล่าอวี้ได้แล้วละก็!”
ตอนนี้เอง หลายคนปรากฏตัวขึ้นข้างกายเขา พวกเขาดูไม่ใช่คนดี “เขาน่าจะมาจากประเทศอื่นถึงได้ไม่รู้จักกระทั่งชื่อของท่าน ท่านรอดูเลย พวกเราจะช่วยท่านเอง!”
พวกเขาไล่ตามฟางหยวนไปทันทีที่พูดจบ
เหล่าอวี้รู้จักคนพวกนี้ในนามของปิศาจผมยาว กลุ่มโจรโด่งดังแห่งประเทศจู ข่าวลือบอกว่าสมาชิกทุกคนของพวกมันนั้นอย่างน้อยที่สุดก็ทะลวงผ่านประตูตายมาแล้ว และพวกมันล้วนเป็นน้ำหนึ่งเดียวกันและร้ายกาจนัก
เจ็ดพี่น้องที่สามารถหนีรอดจากเงื้อมมือของอู่จงมาได้ด้วยกัน!
ด้วยชื่อเสียงโด่งดัง พวกมันยังร้ายกาจพอที่ประเทศจูจะทำอะไรพวกมันไม่ได้
“ในตลาดปิศาจนั้นห้ามต่อสู้ แต่ว่าไม่มีกฎเช่นนั้นที่นอกตลาด…”
อวี้เฟยฉุยพึมพำขณะมองไปทางที่ฟางหยวนจากไป
เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ได้เป็นห่วงเด็กหนุ่มผู้นั้นแต่กังวลแทนตัวเองถึงขนาดที่ขาของเขาเริ่มสั่น
…
“เจ้าพวกโง่!”
ฟางหยวนรู้ตัวนานแล้วว่าเขากำลังถูกตาม
อย่างไรเขาก็เพิ่งอวดยาวิเศษไปในตลาดมืดและไม่ได้เปิดเผยความสามารถของตนออกไป แล้วมันจะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้อื่นให้มาลงมือกับเขาได้อย่างไร?
ด้วยพลังของเขาตอนนี้ ไม่สำคัญเลยว่าพวกมันจะมากันกี่คน
เขาสามารถหนีไปได้ต่อให้พวกมันเป็นอู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์จากประเทศอู่
ไม่นาน ปิศาจผมยาวก็พบกับหายนะของพวกมัน
ต่อให้พวกมันครอบครองวิชาดี ๆ ที่ทำให้พวกมันสามารถใช้พลังร่วมกันจนสามารถสู้กับอู่จงผู้หนึ่งได้แล้วอย่างไร?
ฟางหยวนไม่ใช่อู่จงธรรมดา!
เขายกตัวพี่รองขึ้น ส่ายหน้าแล้วฉีกกระชากเขาออกเป็นชิ้น ๆ
พี่รองนั้นมีรูปร่างใหญ่โต แต่ภายใต้เงื้อมมือของฟางหยวน เขาถูกกระชากขาดราวกับเป็นกระดาษ เลือดสด ๆ และอวัยวะภายในหล่นเกลื่อนพื้น
“เจ้าเป็น…อู่จง!”
พี่ใหญ่ไม่ได้วิ่งหนีไป มองร่างของพี่น้องของตนแล้วเขาก็รู้สึกหมดหวัง
พวกมันไม่สามารถเอาชนะผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้ตอนที่มี 7 คนร่วมแรงกัน ตอนนี้เหลือเขาเพียงผู้เดียว เขาจะสู้ฟางหยวนได้อย่างไร?
เขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง!
เขาจดจำหน้าตาของจอมยุทธ์ผู้ซึ่งไม่อาจยุ่งเกี่ยวได้จากประเทศข้างเคียงได้ แต่ฟางหยวนไม่ได้เข้าข่ายคนพวกนั้นเลยสักนิด
ถ้าไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ลงมือกับฟางหยวนอย่างโง่ ๆ และส่งตัวเองสู่ความตาย!
“อืม เดาถูกนี่ เสียใจที่ไม่มีรางวัลให้นะ!”
ฟางหยวนใช้ก้าวมายาและไปอยู่ตรงหน้าพี่ใหญ่ผู้นั้น เขาแตะหน้าผากของพี่ใหญ่ “แฝงฝัน!”
พี่ใหญ่ตัวสั่น หลับตาลงและหลับสนิทไป
หมอกสีขาวปรากฏขึ้นและค่อย ๆ กลืนกินทุกอย่างไป…
ไม่นานหลังจากนั้น ฟางหยวนลืมตาขึ้น เพียงแค่โบกมือครั้งเดียว ศีรษะของพี่ใหญ่ก็ระเบิดออก
“ปิศาจผมยาว? ชื่อโง่งมอะไรเช่นนี้กัน?”
เขารู้สึกแขยงและส่ายหน้า
หลังจากเขาสำเร็จระดับสร้างฝัน ผู้ฝึกยุทธ์และศิษย์วิญญาณที่อยู่ในระดับใช้พลังธาตุและต่ำกว่าก็ไม่สามารถเก็บซ่อนความลับจากเขาได้
จากแค่ความฝันเพียงอย่างเดียว เขาก็สามารถขุดค้นถึงชีวิตของพี่ใหญ่ผู้นี้ได้ เข้าใจสาแหรกตระกูลของเขาและรู้กระทั่งว่าพวกมันซ่อนของที่ปล้นมาได้จากการทำตัวเป็นโจรร้ายนานนับเป็นปีเอาไว้ที่ใด
แน่นอนว่า เขายังสามารถหารายละเอียดมากกว่านั้นได้ด้วย
จากปิศาจผมยาว เขาก็พบชุดวิชาที่ทำให้พวกมันสามารถร่วมมือกันจู่โจมได้
หลังจากตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เขาก็พบความจริงหนึ่ง
“เคล็ดวิชาร่วมกันจู่โจมนี้ส่งทอดลงมาหลายชั่วคน บรรพบุรุษของพวกมันเป็นเพียงคนหาปลาในทะเลสาบจันทราเมามายเท่านั้น เพราะโชคชะตา ทำให้เขาพบผู้มีพระคุณที่นำเขาไปเป็นคนรับใช้และสอนวิชานี้ให้เขาหลังจากเขาอยู่รับใช้นานสามปี…”
ฟางหยวนลูบคาง “ตามระยะเวลาแล้ว มันใกล้เคียงกับผู้ก่อตั้งสำนักห้าผี เป็นไปได้ไหมว่าเป็นคนผู้เดียวกัน?”
ไม่จำเป็นต้องสืบหาต่อ
สิ่งที่สำคัญก็คือตอนนี้วิชานี้ตกอยู่ในมือเขาแล้ว
“เคล็ดวิชานี้ไม่มีประโยชน์ใช้สอยสำหรับข้า แต่ว่า มันก็ไม่ใช่วิชาที่แย่นักสำหรับคนรับใช้และสามารถใช้ดูแลบ้าน…”
ฟางหยวนลูบคางและคิดว่าเขาน่าจะส่งต่อวิชานี้ให้กองทัพอี้ซานฝู
ขณะคิด ฟางหยวนก็สลายหมอกทิ้งไปและทะเลสาบจันทราเมามายก็ปรากฏเลือนรางอยู่ตรงหน้าเขา
แสงจันทร์สะท้อนผิวน้ำ
ฟางหยวนแตะจมูกตัวเอง
สายลมอ่อนนำกลิ่นของเหล้าโชยมา กลิ่นของมันไม่ต่างไปจากปลาเงินเมามายเลย
“น้ำในทะเลสาบนี้มีกลิ่นเหล้า พระจันทร์และทะเลสาบบรรจบกัน? เทศกาลจันทราเมามาย… มาถึงแล้ว!”