“เมื่อหมอกปริศนาปกคลุมทะเลสาบ มนุษย์ผ่านเข้าไปไม่ได้ แต่ปลาเงินสามารถว่ายผ่านไปได้อย่างอิสระ นี่คือหมอกสะกดของจ้าวแห่งฝันอย่างแน่นอน!”
ขณะที่เหล่าอวี้และหลานสาวของเขายังจมอยู่ในภวังค์ความคิด ฟางหยวนก็ขึ้นหลังอินทรีดำหางเหล็ก คาดหวังอย่างเต็มที่
ด้วยแผนที่สมบัติ แผนที่ใต้น้ำ และยังความทรงจำของราชาปลาวิญญาณ ไม่มีทางที่เขาจะหามันไม่พบ
ขณะที่อินทรีดำหางเหล็กกระพือปีก หมอกสะกดจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฟางหยวน
นี่คือหมอกสะกดที่ ‘ท่านผู้นั้น’ วางเอาไว้ให้ปรากฏขึ้นปีละครั้งช่วงเทศกาลจันทราเมามาย
มันดูสงบราวกับเป็นกำแพง เป็นหมอกที่ค่อนข้างแปลกประหลาดไป
“แกว๊ก! แกว๊ก!”
อินทรีดำหางเหล็กไม่ได้สนใจเลยสักนิดและดำดิ่งตรงเข้าไปในหมอก
“หลับ! หลับสิ!”
เมื่อเขาเข้าไปในหมอกสะกด สติของฟางหยวนก็เริ่มสั่นไหว เปลือกตาเริ่มหนักอึ้งขึ้น ราวกับมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเป็นพัน ๆ ชั่ง
“เป็นหมอกสะกดของจ้าวแห่งฝันจริง ๆ!”
ภาพนี้ก็เพียงแค่ยืนยันการคาดเดาของเขาอีกครั้งว่าบรรพบุรุษของสำนักห้าผีนั้นเป็นจ้าวแห่งฝันที่หนีมาจากอาณาจักรต้าเฉียน!
“พิธีชงชาสมาธิ!”
ฟางหยวนปัดทุกความคิดออกไปและนึกถึงคำสอนในพิธีชงชาสมาธิของอาจารย์เวิ่นซิน ในศูนย์รวมจิตของเขา พลังธาตุฝันไหลผ่านไปทั่วร่างกายและชั่วขณะนั้นก็ก่อตัวเป็นรูปร่างประหลาด ทำให้สัมปชัญญะของเขากลายเป็นกระจ่างใสอย่างที่สุด
“หมอกที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ข้าเกรงว่าแม้แต่อู่จงก็ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้…”
ฟางหยวนเปลี่ยนเป็นจริงจังมากขึ้น “ถ้าไม่เพราะพิธีชงชาสมาธิของข้า หรือการฝึกฝนในฐานะจ้าวแห่งฝันของข้า ข้าก็คงติดกับดักนี้เช่นกัน!”
ถึงตอนนี้ เขาไม่กลัวแล้ว
ด้วยกระแสลมรุนแรง อินทรีดำหางเหล็กทะลวงฝ่ากำแพงหมอก และเกาะที่เต็มไปด้วยสีเขียวสดก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
“ความทรงจำของราชาปลาวิญญาณนำมาถึงที่นี่ด้วยเช่นกัน!”
ฟางหยวนหรี่ตาและร่อนลงที่บนเกาะ เขากระโดดลงจากหลังอินทรีและกระโดดลงไปในน้ำโดยตรง
“ซ่า!”
มีเสียงน้ำแตกกระจายและฟองอากาศมากมายรอบตัวเขา
โลกใต้น้ำของทะเลสาบแห่งนี้ช่างน่าแปลก มันมีประกายอย่างประหลาด แต่ฟางหยวนไม่สนใจ และตามความทรงจำของราชาปลาวิญญาณ เขาค้นหาถ้ำแห่งนั้น
ไม่นานหลังจากนั้น ถ้ำมืดสนิทแห่งหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของเขา
“นี่คือที่อยู่ของแหล่งกำเนิดสุราวสันต์… ราชาปลาวิญญาณโชคดีที่เจอมันเข้าจนได้กลายเป็นอย่างเช่นตอนนี้!”
ในฐานะอู่จง เขามีความสามารถอันคาดไม่ถึง
ฟางหยวนสามารถใช้พลังธาตุของเขาอย่างชาญฉลาดฉวยโอกาสหายใจเร็ว ๆ ครั้งหนึ่งที่ก้นทะเลสาบ
เขาดึงไข่มุกจันทร์กระจ่างออกมาส่องสว่างอยู่ใต้ผิวน้ำ ไม่มีอะไรมากนัก เขาว่ายน้ำลึกเข้าไปเรื่อย ๆ
กลิ่นสุรารอบตัวเขาแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เขาเข้าไปในถ้ำ ความรู้สึกมึนเมาก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
“มีราชาปลาวิญญาณอยู่ที่นี่ สัตว์อื่นย่อมถูกไล่ออกไป อย่างไรก็ไม่มีเหตุผลให้มันยอมให้สัตว์อื่นได้มีโอกาสเป็นแบบมันอยู่แล้ว?”
ฟางหยวนเข้าไปในถ้ำ และไปถึงสุดปลายถ้ำ
มีสาหร่ายปกคลุมอยู่บนกำแพงหิน และกลิ่นสุราก็แรงขึ้นอีก
ถ้าเป็นคนธรรมดาเข้ามาในนี้ ก็คงจะมึนเมาจนตายตกไปแล้ว!
“นี่เป็นแหล่งกำเนิดสุราวสันต์จริง ๆ!”
ฟางหยวนหันไปมองในโพรงบนกำแพง
กลิ่นสุรารุนแรงเกิดจากโพรงนั่น รวมทั้งร่องรอยของพลังวิญญาณ
“ไม่แปลกใจเลยที่ราชาปลาวิญญาณสามารถเติบโตได้ถึงระดับนี้!”
ฟางหยวนไม่ได้ตกใจ เขากลับดีใจเสียด้วยซ้ำ “ออก…มา!”
ขณะที่เขาพูด พลังธาตุของเขาก็ถูกปล่อยออกไปในรูปตาข่าย มันพุ่งเข้าไปในโพรง
“ครืน! ครืน!”
สุราจำนวนมากไหลออกมาจากดวงตาวสันต์อย่างอิสระ
สีหน้าของฟางหยวนยังคงเดิมขณะเพิ่มพลังธาตุขึ้นอีก
จากดวงตาวสันต์ พลังวิญญาณระเบิดออก มันรุนแรงและเทียบได้กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดเขาชอุ่ม
ถึงตอนนี้ ก้อนหินสีเทาก้อนหนึ่งกลิ้งออกมาจากในโพรง ที่ผิวของมัน ดูเหมือนจะมีตะไคร่และสาหร่ายปกคลุมอยู่ แต่มันก็เป็นแหล่งกำเนิดพลังวิญญาณอย่างแท้จริง
หินก้อนนี้มีรูปร่างคล้ายกาใส่สุรา มันกลมที่ตรงกลาง พวยกาบางและยาว และยังมีสุราไหลออกมาจากพวยกาอย่างไม่สิ้นสุด
“แหล่งกำเนิดสุราวสันต์?”
ขณะที่ฟางหยวนมองอยู่ เขาก็อึ้งงันไปและไม่สงสัยอะไรอื่นแล้ว
เขายื่นมือขวาออกไปหยิบหินรูปกาสุราขึ้นมา สีหน้าเปลี่ยนไป “นี่เป็นเหยือกสุราจริง ๆ…สมบัติวิเศษ?”
มีข่าวลือว่าในหมู่นักรบศักดิ์สิทธิ์ มีกลุ่มผู้สร้างอุปกรณ์ที่สามารถสร้างของวิเศษอันเกินจินตนาการถึงได้ได้
แต่ว่า เทียบกับนายช่างธรรมดาทั่วไปแล้ว เครื่องรางและของวิเศษที่นักรบวิญญาณสร้างขึ้นหลังจากทดลองกับตัวเองแล้วนั้นใช้การได้เพียงครั้งเดียวจากนั้นก็กลายเป็นขยะไป
“เหยือกสุราไร้ก้นบึ้ง? เป็นของวิเศษที่ดีงามนัก!”
ฟางหยวนอุทานและแผ่พลังออกจากมือของตน ก้อนหินแตกเป็นชิ้น ๆ และหล่นลงพื้น เผยให้เห็นรูปร่างแท้จริงของเหยือกวิเศษ
เหยือกไม่ได้ทำจากทองหรือหยก ภายนอกเป็นสีดำ และส่วนพวยกาเป็นแนวโค้งอ่อนช้อยไปจนถึงฝาปิด เมื่อเปิดฝาและเอียงไปด้านหนึ่ง สุราวิเศษก็เริ่มไหลออกมา
“สมบัติวิเศษ สมบัติวิเศษ!”
ฟางหยวนปิดฝาเหยือกลง และสุราก็หยุดไหล กลิ่นสุราค่อย ๆ จางไปอย่างช้า ๆ
“ดูเหมือนว่าเหยือกสุรานี่ไม่ได้ถูกวางเอาไว้ที่นี่โดยตั้งใจ แต่เป็นของวิเศษที่ถูกทิ้งเอาไว้ ใครจะคิดว่ามันจะมีพลังถึงเพียงนี้…”
ดวงตาของฟางหยวนขยายกว้างขึ้น ความหวาดกลัวของเขาต่อจ้าวแห่งฝันผู้นั้นก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
เพียงแค่ครอบครองของวิเศษเช่นนี้ ‘ท่านผู้นั้น’ ที่แสนลึกลับก็น่าจะไม่ได้ร่ำรวยน้อยไปกว่าอาจารย์เวิ่นซินเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ร่องรอยของเขายังลึกลับนักและดูเหมือนจะไม่ใช่คนดีอะไร
ถ้าเขาต้องการเอามันออกไปด้วยกำลัง เขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
“ซ่า!”
ในหมอก ผิวน้ำในทะเลสาบแตกกระจายออก เงาร่างของฟางหยวนปรากฏขึ้น และด้วยการกระโดดครั้งเดียว เขาก็ขึ้นไปถึงบนฝั่งของเกาะ
เขาโคจรพลังธาตุของเขารอบหนึ่งและน้ำบนร่างก็ค่อย ๆ ระเหยไป
ในหมอก เสื้อผ้าของเขาเริ่มแห้ง เขาเริ่มรู้สึกสบายขึ้น
ฟางหยวนเปิดเหยือกออกและดื่มสุราวิญญาณลงไปอึกใหญ่
“ฝุบ!”
สุรารสแรงสายหนึ่งไหลผ่านลำคอของเขาและหมุนวนอยู่ในกระเพาะอาหาร จุดชีพจรทั้งหมดของเขาผ่อนคลายลงและให้ความรู้สึกน่ายินดีที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
“สุรานี่ทำได้มากกว่านี้!”
ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร ความเข้มข้นของมันนั้นมากกว่าในน้ำทะเลสาบกว่า 10 เท่า
เพียงแค่อึกเดียวฟางหยวนก็เริ่มมึนเมา พลังธาตุของเขาสั่นไหว แล้วเขาก็ตื่นตัวขึ้น
“สุราดี นี่เป็นของดี!”
เขาชื่นชมสุราในมือ มองไปที่เกาะ
เกาะไม่ได้ใหญ่นัก แต่เต็มไปด้วยสีเขียวขจี เขาสามารถสัมผัสถึงพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของพืชได้ซึ่งหมายความว่ามันไม่ใช่พืชธรรมดา
ถ้าไม่ใช่เพราะขาดพลังวิญญาณฟางหยวนก็คงเดาว่านี่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกผืนหนึ่ง
“แผนที่สมบัติและความทรงจำของราชาปลาวิญญาณล้วนชี้มาที่นี่!”
ฟางหยวนถอนหายใจและเดินเข้าไปในป่าทึบอย่างไม่พะวง
“ซู่!”
ป่าดูน่ากลัว มีเสียงประหลาดดังมาจากทั่วทุกแห่ง
ฟางหยวนเดินผ่านป่าและทันใดนั้น เขาก็เห็นงูสีเขียวตัวใหญ่ขดอยู่บนพื้น มันพ่นหมอกออกมาราวกับมีความฉลาดของมนุษย์!
“หลบไป!”
งูตัวนี้เทียบได้กับ [ผู้ฝึกยุทธ์ (ประตูทองที่ 12)] แต่ฟางหยวนก็แค่หรี่ตาและแผ่พลังออกจากร่าง
“ฟ่อ!”
งูสีเขียวต้องการสู้กลับและปรับท่าเป็นท่าป้องกัน แต่ว่า เมื่อมันพบพลังมากมายแผ่ออกมาจากศัตรูของมัน มันก็ถอย หันหลังกลับแล้วรีบหนีไปราวกับถ้ามันช้ากว่านี้สักก้าวมันจะถูกสังหารจากพลังที่อยู่ด้านหลังมัน
“อืม เจ้าช่างฉลาดนัก!”
ฟางหยวนไม่ได้ซ่อนตัวเองเอาไว้อีกต่อไป ระดับพลังของเขาพุ่งสูงขึ้น!
เหตุใดระดับการฝึกฝนปัจจุบันของเขาถึงสูงนัก?
เขาไม่ใช่เพียงแค่จอมยุทธ์ระดับรวมธาตุเท่านั้น แต่ยังเป็นจ้าวแห่งฝันด้วย!
เมื่อรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน มันย่อมไม่ธรรมดาเหมือนเพิ่มพลังการฝึกปรือ
ในตอนนี้ สนามพลังอันน่ากลัวก็แผ่ไปทั่วเกาะ เมื่อสัตว์วิญญาณตัวใหญ่ตรวจพบพลังที่แผ่ไปทั่วทั้งเกาะ พวกมันก็ทำได้เพียงตะเกียกตะกายหาที่ซ่อน
ส่วนพวกที่อ่อนแอก็ทำได้เพียงคุกเข่าลงยอมแพ้แก่พลังอันรุนแรง
“ฮ่าฮ่า… ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่!”
ขณะที่เขาหัวเราะ เขาก็วิ่งไปทั่วเกาะ
ด้วยการข่มขู่นี้ของเขา สัตว์อื่น ๆ ย่อมไม่ทำอะไรเขา
“เกาะนี้…”
หลังจากสำรวจดูใกล้ ๆ แล้ว ฟางหยวนก็ค้นพบสิ่งที่น่าตกใจ “ข้าเกรงว่าจะมีใครทำอะไรลงไปเพื่อแยกที่นี่ออกจากโลกจริง มีเพียงระหว่างเทศกาลจันทราเมามายที่ที่นี่จะปรากฏขึ้นและสามารถเหยียบย่างขึ้นมาได้ ในช่วงเวลาอื่น ต่อให้ค้นหาทั่วทั้งโลก สถานที่แห่งนี้ก็ไม่อาจพบได้!”
เมื่อเขาคิดเช่นนี้ จ้าวแห่งความฝันผู้ลึกลับผู้นั้นก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก
ฟางหยวนกัดริมฝีปาก เดินเข้าไปจนถึงตรงกลางเกาะ
มีสัญลักษณ์ของการแทรกแซงของมนุษย์อยู่ที่นี่ สันเขาจู่ ๆ ก็หายไปราวกับมีใครตัดมันออก
ที่บนยอดเขาที่เดิมควรจะมีสันเขา กลายเป็นลานกว้างขนาดมหึมาปูด้วยหยกขาว มันกว้างเกินกว่าจะจินตนาการได้และยังมีรูปแกะสลักมากมายอยู่รอบ ๆ ทุก ๆ เส้นสายของรูปสลักดูเหมือนจริงอย่างไม่น่าเชื่อ
รูปสลักเหล่านี้มีทั้งคน นก และสัตว์อื่น ๆ มากมาย ดวงตาทำจากอัญมณีสีดำสูงค่าซึ่งทำให้มันดูเหมือนจริงอย่างที่สุด ราวกับพวกมันจะมีชีวิตขึ้นมาในวินาทีถัดไป
“อืม?”
มาถึงที่นี่ ฟางหยวนก็รู้สึกว่าบางอย่างในเสื้อคลุมของเขาให้ความรู้สึกร้อนจัดขึ้นมา
เมื่อเขาดึงมันออกมา เขาก็พบว่ามันคือแผนที่ของสำนักห้าผี!
ถึงตอนนี้ แผนที่นั้นมีควันลอยกรุ่นออกมา รอยสัญลักษณ์สีแดงเปลี่ยนเป็นสีแดงสดที่เป็นประกายนิด ๆ
“ไม่เสี่ยงก็ไม่ได้รางวัล นอกจากนี้ มันยังเป็นมรดกชิ้นหนึ่ง… ในเมื่อเขาตั้งใจจะส่งต่อมันให้แก่รุ่นถัดไป เขาย่อมหวังว่าจะมีสักคนสืบทอดมันเอาไว้ และดังนั้น มันไม่น่าจะอันตรายเกินไป!”
ฟางหยวนปลอบตัวเองให้สงบลงและตามแผนที่ไปจนถึงกลางลานกว้าง
มีรูปสลักทำจากหยกสีขาว 49 ตัว และทุก ๆ ตัวนั้นมีพลังสายหนึ่งซ่อนเอาไว้ มันลึกลับและดูเหมือนเป็นค่ายกลแบบหนึ่ง
ฟางหยวนทำตามคำแนะนำที่ปรากฏขึ้นบนแผนที่ เปิดกลไกขึ้นมาและเข้าไปตรงกลางลานกว้าง
“ถ้าจะมีสมบัติอยู่จริง มันก็ควรจะอยู่ที่นี่!”
เขาเปิดแผนที่สมบัติของเขาขึ้นและเหลือบมองเครื่องหมายที่ส่องประกายอย่างเงียบ ๆ
“ซู่ซู่!”
ที่ด้านนอก รูปสลักมากมายเริ่มส่งเสียงประสานกัน
แผนที่สมบัติในมือเขาไฟลุกขึ้นราวกับตอบสนองต่อเสียงนั่น
ทันใดนั้น ที่กลางลานกว้างก็เกิดแสงเรืองรองขึ้น พุ่งตรงไปที่หน้าผากของฟางหยวน
เขาตัวแข็งอยู่กับที่ขณะดวงตาเต็มไปด้วยสีสันต่าง ๆ เขาเข้าสู่ความฝันอันประหลาด