“ท่านปู่!”
อวี้เสี่ยวหงได้ยินเสียงความวุ่นวายและเอะอะที่ในห้องโถงใหญ่ เมื่อเห็นเงาร่างของอวี้เฟยฉุยนอนอยู่บนพื้นกระอักเลือดออกมา ดวงตาของนางก็มีน้ำตาเอ่อ
“อวี้เฟยฉุย… เจ้าคิดว่าจะสามารถกำจัดข้าได้ง่ายเพียงนั้นรึ?”
เจียอู๋หมิงพลิกมือตรวจดูเล็บของตัวเองและหัวเราะ
“ในเมื่อเจ้าไม่ให้ความร่วมมือกับข้า เจ้าก็นึกเสียใจไปแล้วกัน!”
ฉู่เจี๋ยและหนอนหนังสือมรณะพุ่งเข้าไป ทั้งคู่มีประกายโหดเหี้ยมในดวงตา
“ไปเอาราชาปลาวิญญาณและปลาวิญญาณอื่น ๆ นั่นที่ด้านหลัง… ในเมื่อสำนักมังกรทองกล้าต่อต้านข้า ก็ทำลายมันไปด้วยเลย!”
เจียอู๋หมิงไพล่มือไว้ด้านหลังและวางท่าของผู้สูงส่ง ทุกคำพูดจากปากของเขานั้นเย็นเยียบไปถึงกระดูก
“เฮ่อ… น้องสาวยังเยาว์และมีอนาคต การเลือกที่จะต่อต้านพวกเรา ไม่ฉลาดเอาเสียเลย?”
ฮูหยินเมี่ยวฮวาเดินเข้าไปพร้อมผ้าเช็ดหน้าสีแดงในมือ เผยประกายพลังออกมา “พี่สาวไม่สามารถช่วยเจ้าได้เช่นกัน แต่ข้าจะช่วยให้เจ้าเจ็บปวดน้อยลงก่อนตาย…”
น้ำเสียงนุ่มนวลของนางทำให้อวี้เสี่ยวหงสับสน
“ผู้อาวุโสจะไม่ปล่อยเจ้าไป!”
นางยังคงมีความคิดหนึ่งที่ชัดเจนขณะพยายามตอบกลับไป นางมีภาพของอินทรียักษ์ตัวหนึ่งอยู่ในหัว
“คิคิ… มีผู้อาวุโสเจียอยู่ที่นี่ ข้ายังมีสิ่งใดต้องหวาดกลัว?”
ฮูหยินเมี่ยวฮวายิ้มกว้างกว่าแสงอาทิตย์และอ้างถึงเจียอู๋หมิงอีกครั้ง
“ถูกต้อง! ผู้ใดจะไปเกรงกลัวผู้อาวุโสที่ไม่กล้าโผล่หัวเช่นนั้นกัน?”
เจียอู๋หมิงหรี่ตา ขณะยินดีกับคำชมเช่นนั้น
“ผู้อาวุโสเจียเป็นผู้ที่เก่งกาจที่สุดในประเทศจู!”
ฉู่เจี๋ยและหนอนหนังสือมรณะยังชื่นชมเขาต่อหลังจากได้ยินที่ฮูหยินเมี่ยวฮวาพูด กล่าวชื่นชมก็ไม่ได้เสียอะไรนี่นา
เหล่าอวี้ผู้นี้ดูจะมีผู้อยู่เบื้องหลังจริง ๆ แม้ว่าเจียอู๋หมิงจะดูเหมือนไม่ได้เกรงกลัวเบื้องหลังของเขา แต่คนอื่นที่เหลือนั้นไม่ได้เก่งกาจและใช้ชื่อของเขาเพื่อทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น
“ต่อให้มีอู่จงมาปรากฏกายตอนนี้ ก็เป็นแค่ตัวก่อกวนเล็กน้อยเท่านั้น!”
หนอนหนังสือมรณะและคนที่เหลือเริ่มโอ้อวดมาขึ้นเรื่อย ๆ เจียอู๋หมิงนั้นเป็นพวกหลงตัวเอง ทำให้เขายินดีกับช่วงเวลาแบบนี้มากนัก
สำหรับเขา ในเมื่ออู่จงผู้นั้นไม่ปรากฏตัวขึ้นเป็นหลายวัน เขาก็คงกลัวเกินกว่าจะปรากฏตัวขึ้นแล้ว!
ถ้าเป็นเช่นนั้น จะยังมีอะไรให้พวกเขาเกรงกลัวกัน?
น่าเสียดายที่วันนี้ไม่ใช่วันดีของพวกมัน
“อะไรนะ?”
เสียงต่ำ ๆ ดังขึ้นมาในห้องโถงใหญ่นี้
“นั่นใคร?”
ฉู่เจี๋ย หนอนหนังสือมรณะ และคนอื่นตกใจ
เจียอู๋หมิงเริ่มกังวล “ส่งเสียงพันลี้? เป็นอู่จงจริง ๆ!”
“แกว๊ก! แกว๊ก!”
เมื่อเสียงนั้นหายไปเสียงแหลมสูงของนกอินทรีก็ดังมาให้ได้ยิน
มีลมหอบใหญ่และความวุ่นวายที่ด้านนอก อินทรียักษ์แสนสง่างามร่อนลงที่ด้านนอก คนผู้หนึ่งลงจากหลังอินทรีด้วยท่าทางสงบ เขาสวมชุดขาวและมีท่าทางลึกลับ จะเป็นผู้ใดไปได้นอกจากฟางหยวน?
“ผู้อาวุโส!”
อวี้เฟยฉุยและอวี้เสี่ยวหงร้องออกมาอย่างยินดี
หนอนหนังสือมรณะและพวกรู้สึกหวาดกลัว “อู่จงอายุน้อยเพียงนี้?”
ส่วนฉู่เจี๋ย ในฐานะหัวหน้าพรรคใหญ่ เขาสัมผัสสิ่งต่าง ๆ บนโลกมามากที่สุด เห็นฟางหยวนและอินทรียักษ์… เขาก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขณะที่ใจตกลงไปที่พื้น เขาถอยไปด้านหนึ่งของห้องโถงโดยไม่รู้ตัว
“อืม พวกเจ้าทั้งสองเหนื่อยแล้ว ข้าจะจัดการกับที่เหลือนี่เอง!”
ฟางหยวนยิ้มอย่างขออภัยให้อวี้เฟยฉุยและอวี้เสี่ยวหง
ตอนนั้นที่อยู่หุบเขาสันโดษ เขากินข้าววิญญาณเป็นอาหารหลักอยู่ทุกวัน ถึงตอนที่เขากลายเป็นเจ้าเมืองอี้ซานฝู รสนิยมของเขาก็สูงขึ้น เขาไม่เคยรู้เลยว่าราชาปลาวิญญาณและปลาวิญญาณอื่น ๆ จะสามารถสร้างหายนะขึ้นได้ในประเทศจู และกระทั่งดึงดูดอู่จงได้
แน่นอนว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับเขา
อย่างไรเสีย หลังจากเขาได้รับสมบัติของหยางฟานมา เขาก็สภาพร่างกายอ่อนแอและต้องการการพักผ่อนทำให้เขาตรงมาหาอวี้เฟยฉุยช้าเกิน
คนพวกนี้คิดว่าในเมื่อฟางหยวนยังไม่ปรากฏตัว อวี้เฟยฉุยคงจะหลอกพวกมันและพยายามทำให้พวกมันเชื่อว่าเขามีคนเบื้องหลัง นี่อธิบายว่าทำไมพวกมันถึงได้มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมและยังบุ่มบ่ามเช่นนี้
“เจ้าคือ…”
เจียอู๋หมิงมองฟางหยวน มีท่าทางจริงจังขึ้น
เทียบกับฮูหยินเมี่ยวฮวาและคนที่เหลือ เขารู้ว่าคนตรงหน้าเขานี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะรับมือได้โดยง่าย
“ข้าคือฟางหยวน!”
ฟางหยวนตอบตามตรง
“ฟางหยวน!?”
ไม่ว่าเจียอู๋หมิงจะเก็บตัวเพียงใด เขาก็ยังคงได้ยินข่าวสงครามของประเทศเพื่อนบ้าน “เจ้าคือคนผู้นั้นที่อายุยังไม่ถึงสามสิบปี แต่สามารถฝึกฝนทั้งวิทยายุทธ์และเคล็ดวิญญาณพร้อมกัน เข้าสู่ขอบเขตรวมธาตุและยังเอาชนะสงครามเมืองซางฉุยในฐานะเจ้าเมืองอี้ซานฝู?”
“แม้ว่านั่นจะฟังดูเกินไปสักนิด แต่ก็ถูกต้องแล้ว!”
ฟางหยวนยิ้ม
หลังจากยืนยันตัวตนของเขาแล้ว ฮูหยินเมี่ยวฮวาและหนอนหนังสือมรณะก็ขาอ่อนเป็นน้ำ
เจ้าเมืองอี้ซานฝู!
อู่จงนักรบศักดิ์สิทธิ์!
ฐานะนี้หนักราวกับภูเขาทั้งลูกสำหรับพวกมัน!
แม้ว่าอี้ซานฝูจะเล็กกว่าประเทศจูเล็กน้อย แต่ด้วยความสามารถของเขา ถ้าเขาต้องการกำจัดพวกมัน ประเทศจูก็คงไม่สามารถต้านทานได้!
นอกจากนี้เขายังเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์! เขายังมีพรสวรรค์อย่างหาได้ยากที่อาจจะปรากฏขึ้นครั้งเดียวในรอบหลายร้อยปี!
เพียงแค่การลงมือแบบฉายเดี่ยวของเขา ทุกผู้ในขอบเขตรวมธาตุยังต้องหวาดกลัว
ความสามารถของเขาเองก็มากอยู่แล้ว และยังมีผู้ช่วย ฟางหยวนย่อมเป็นผู้ที่สามารถได้ทุกอย่างที่เขาต้องการได้!
เผชิญหน้ากับเขา ต่อให้เป็นเจียอู๋หมิงก็ยังต้องคิดอีกรอบ
ส่วนหนอนหนังสือมรณะและฮูหยินเมี่ยวฮวา? แค่พวกมันยังไม่คุกเข่าลงไปขอความเมตตาก็ถือได้ว่ามีจิตใจแข็งแกร่งมากแล้ว
“ดี! ดี!”
เจียอู๋หมิงนั้นดูไร้อารมณ์ แต่เขาทั้งอาย โกรธ กลัว กังวล และอารมณ์ต่าง ๆ ถาโถม ในที่สุด เขาก็ฝืนยิ้มออกมา “ในเมื่อนี่ราชาปลาวิญญาณนี่เป็นของน้องฟางหยวน เช่นนั้นพวกเราก็คงไม่อาจเอื้อม ได้โปรดรับคำขออภัยจากข้า…”
อวี้เสี่ยวหงงันไป
ก่อนหน้านี้ อู่จงร้ายกาจผู้นี้มาและทำร้ายท่านปู่ของนางให้นางรู้สึกราวกับว่าทั้งโลกกำลังจะถล่ม
แต่ว่าตอนนี้ เจียอู๋หมิงกลับยิ้มอย่างโง่งม ฮูหยินเมี่ยวฮวาก็ตัวสั่นด้วยความกลัว… ทั้งหมดนี้ทำให้นางรู้สึกราวกับว่าฝันไป อู่จงร้ายกาจผู้นั้นหวาดกลัวกับแค่นามของคนผู้หนึ่ง? ผู้อาวุโสท่านนี้เป็นคนเช่นใดกันแน่?
“เจ้าเมืองอี้ซานฝู… ฟางหยวน?”
ส่วนอวี้เฟยฉุย หลังจากได้เดินลมปราณรอบหนึ่ง เขาก็ต้องประหลาดใจ “อันที่จริง… ข้าควรจะคิดได้นะ!”
ทั้งหมดจับจ้องฟางหยวน แต่ก็มีเพียงเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ
แล้วก็ค่อย ๆ ดังขึ้น และกลายเป็นหยุดไม่ได้
“เจ้าหัวเราะอะไร?”
แม้ว่าฟางหยวนจะยังไม่ได้พูดสักคำ ท่าทีของเขาก็ไม่ได้ต้องการจบเรื่องนี้อย่างสันติและเจียอู๋หมิงก็เข้าใจแล้ว
“เจ้าบุกเข้ามาในสถานที่ของคนของข้า ขโมยของของพวกเขา ทำร้ายคนของข้า และตอนนี้ เจ้าคิดว่าเพียงขอโทษง่าย ๆ ก็จะจบเรื่องรึ?”
ฟางหยวนหัวเราะ “หรือว่าชื่อของข้านั้นไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาของเจ้า!”
ฟางหยวนนั้นต้องการแก้แค้นให้เหล่าอวี้ที่ยังคงกระอักเลือดออกมาอยู่ นอกจากนี้ ด้วยระดับฐานะของเขาในตอนนี้ เขาไม่สามารถปล่อยเจียอู๋หมิงไปได้ง่าย ๆ จริง ๆ
แล้วอีกฝ่ายยังใช้ชื่อของตัวเองเปรียบกับฟางหยวน ฟางหยวนย่อมไม่ปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นนอกเสียจากเขาจะเป็นตัวโง่งม
“ไม่ดีแล้ว!”
คนแรกที่มีปฏิกิริยาขึ้นมาไม่ใช่เจียอู๋หมิง แต่เป็นฉู่เจี๋ย
ตั้งแต่ต้น เขาก็ซ่อนตัวอยู่ที่กำแพงห้องแล้ว เมื่อได้ยินฟางหยวนพูดทั้งหมดนี้ออกมา เขาก็ร้องและวิ่งไปที่ทางออก
“เจ้าคนสารเลว!”
เจียอู๋หมิงเห็นและโมโหขึ้นมา
ท่าทีนี้ของฉู่เจี๋ยนั้นราวกับบอกทุกคนว่าเจียอู๋หมิงนั้นใช้การไม่ได้ บอกว่าเขาจะพ่ายแพ้ในมือฟางหยวนอย่างแน่นอน แม้ว่านี่จะเป็นเรื่องจริง ชื่อเสียงของเขาก็ยังคงเสียหาย
“เจ้าวิ่งได้รึ?”
ดวงตาของฟางหยวนเต็มไปด้วยความสมเพช
ฉู่เจี๋ยอาจจะฉลาดแต่ขาดสติ เขารู้ว่าถ้าเจียอู๋หมิงรอดไปได้วันนี้ คนแรกที่เจียอู๋หมิงจะไปหาก็คือเขา
แม้ว่าเขาจะเป็นแค่มดตัวหนึ่ง เจียอู๋หมิงก็คงไม่ยินดีปล่อยเขาหลุดรอดไป
ฟางหยวนกัดริมฝีปากและเป่าลมออกไปเบา ๆ
“ซู่!”
ศรสีขาวดอกหนึ่งพุ่งออกจากปากเขา ทุกคนในห้องโถงมองเห็นสีขาวแวบหนึ่งพุ่งเข้าใส่ฉู่เจี๋ยวก่อนที่ศีรษะของเขาจะหล่นลงพื้น
“ตุบ!”
หลังจากศีรษะของเขาหล่นลงไป ร่างกายของเขาก็ยังคงวิ่งต่อไปอีกหลายก้าวก่อนที่จะล้มลงและเริ่มมีเลือดไหลพุ่งออกมา
กระบี่บิน! สังหารในสิบก้าว!
เพียงแค่กระบวนท่าเดียวนี้ ฟางหยวนก็กลายเป็นเทพเจ้าครั้งบรรพกาล สมควรได้รับความเคารพและการกราบไหว้จากผู้คน
“ฮึ่ม!”
เจียอู๋หมิงถอนหายใจ “ข้าทำร้ายคนของเจ้า และเจ้าสังหารคนของข้า ดูจากค่าชดใช้แล้ว… ข้าควรจะรีบไปเสีย!”
หนอนหนังสือมรณะและฮูหยินเมี่ยวฮวาก็ตกตะลึงอยู่
เห็นได้ชัดว่าเจียอู๋หมิงนั้นกลัวเกรงขึ้นมาแล้ว!
เผชิญหน้ากับเจ้าเมืองอี้ซานฝูผู้ลึกลับ คนของเขายังถูกสังหารไปคนหนึ่ง เขาก็หลบออกไปในเสี้ยววินาทีโดยไม่สนใจผู้ใต้บัญชาคนอื่น ๆ
ไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าฟางหยวนต้องการลงมือต่อ พวกมันก็ได้แต่ตกเป็นแพะรับบาปแล้ว!
“ไม่พอ!”
ในตอนนั้นเอง ฟางหยวนส่ายหน้าและมองหนอนหนังสือมรณะและฮูหยินเมี่ยวฮวา
เจียอู๋หมิงงงงันไป เขาไม่รู้ว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ที่จะช่วยสองคนนี้และให้ตัวเขาเองต่อสู้กับเจ้าเมืองอี้ซานฝู
ประโยคต่อไปของฟางหยวนทำให้ทุกคนอึ้งไป
“เทียบกับการเชือดไก่ให้ลิงดูแล้ว ข้าชอบเชือดลิงมากกว่า!”
โดยไม่ลังเล ฟางหยวนพูดต่อ “เจ้าทำร้ายอวี้เฟยฉุย และข้าก็จะทำร้ายเจ้า พวกเราก็เสมอกัน!”
“เจ้าเด็กนี่!”
เจียอู๋หมิงโกรธ เลือดของเขาเดือดพล่าน หนวดเคราเต็มไปด้วยเลือด เขามองไปและตะโกน “เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าจะสามารถจัดการกับข้าได้?”
“ฟ่อ!”
ทันใดนั้น พลังธาตุขุมใหญ่ก็หนาแน่นขึ้น เกิดเป็นงูยักษ์สีเขียวเข้มตัวหนึ่งแลบลิ้นขู่ เลื้อยไปรอบ ๆ ห้องโถง
งูยักษ์ตัวนี้ดูเหมือนจริงและยังส่งกลิ่นหอมประหลาด ทำให้หลายคนต้องสูดลมหายใจลึก ๆ สักหลายครั้ง
แต่ว่า หนอนหนังสือมรณะและฮูหยินเมี่ยวฮวากลับหน้าซีดและรีบถอย พวกเขาพยายามตั้งสมาธิราวกับต้องการหลบเลี่ยงอะไรสักอย่าง
“วิชาพิษ?”
ฟางหยวนย่นจมูก “ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าคือฟางหยวน เช่นนั้นเจ้าก็ควรรู้ว่าข้ายังมีอีกฉายาก่อนที่จะมาเป็นเจ้าเมืองอี้ซานฝู เจ้ายังกล้าใช้พิษโจมตีข้า? เจ้าเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร?”
พร้อมกันนั้น สายรุ้งสว่างก็ปรากฏขึ้น ยาเม็ดสองสามชนิดระเบิดออกขณะที่เขาพุ่งเข้าหางูยักษ์
“ฉัวะ!”
งูยักษ์นั้นทีแรกก็สง่างามดีอยู่ แต่หลังจากถูกฝ่ามือที่ถูยาเม็ดบางอย่างเอาไว้ตบเข้าใส่ มันก็รู้สึกเหมือนถูกบีบคอ ในที่สุดมันก็หดตัวกลับและกลางลำตัวฉีกขาดออก มันเริ่มจางหายไป
ถึงตอนนี้เจียอู๋หมิงถึงได้นึกออกว่าก่อนที่เขาจะมาเป็นเจ้าเมือง เขาคือหมอผู้สร้างปาฏิหาริย์ของประเทศเซี่ย!