Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 205

Chapter 205: ธาตุทั้งสี่

 

“ท่านคิดว่าข้ามาจากไหนเล่า?”

 

บอกตามตรง หากฟางหยวนโกหกเรื่องพื้นเพของเขา มันก็เพียงพอให้หลอกผู้ที่มีระดับต่ํากว่า เช่นที่ในหมู่บ้านผานฉือ แต่ว่าย่อมไม่สามารถหลอกคนมีความสามารถระดับพระคุณเจ้าคงหมิงได้อย่างแน่นอน

 

อย่างไรเสีย เมืองซิงลั่วก็เล็กเพียงนี้ ย่อมไม่มีทางที่จู่ ๆ จะสร้างอู่จงไร้ชื่อเสียงเรียงนามขึ้นมาได้

 

“ท่านต้องมาจากต้าเฉียน!”

 

พระชราพูดอย่างมั่นใจ

 

ฟางหยวนรู้สึกอับอายเล็กน้อย

 

ดี! ในเมื่อเขาเคยสัมผัสโลกแห่งความฝันของหยางฟานมากก่อน เขาย่อมสามารถใช้สําเนียงได้อย่างแคล่วคล่องจนทําให้คงหมินเข้าใจผิด

 

“ต้าเฉียนอยู่ใกล้ที่นี่มากเลยหรือ? หรือว่าไม่มีคนจากที่อื่นมาที่นี่เลย?”

 

ฟางหยวนถาม

 

“โอ้?”

 

พระคุณเจ้าคงหมิงอึ้งไปและนับลูกปะคําเร็วขึ้นกว่าเดิม “ท่านไม่ได้มาจากต้าเฉียน? เช่นนั้น ท่านย่อมมาจากทะเลทรายรกร้าง? นรกพันปีศาจ? ทางเดินมรณะ?”

 

ทั้งหมดนี้คือสถานที่สําคัญถัดจากเมืองซิงลั่วไปงั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนพึมพํากับตัวเองขณะคิดถึงการใช้ความสามารถในการแฝงฝันหักหาญพระรูปนี้

 

“หรือ… มาจากทางใต้? เป็นไปไม่ได้”

 

พระคุณเจ้าเริ่มคิดมากขึ้น “ไม่มีใครสามารถผ่านประตูปิศาจในช่องเขาน้ําแข็งได้”

 

เห็นความมั่นใจในน้ําเสียงของพระรูปนี้แล้ว ฟางหยวนก็นึกได้ว่า หากเขาไม่สามารถบรรลุสู่ขอบเขตเปิดชีพจรและยังได้รับโอกาสในการเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย การผ่านเข้ามาก็คงยากจริง ๆ

 

จากที่ท่าของพระชราต่ออันตรายนั้น ฟางหยวนรู้ว่ามีหลายคนที่สามารถฝ่าประตูปิศาจและไปถึงดินแดนหยวนอู่ได้

 

“พอเถิด! ข้ามาจากที่ใดนั้นรู้ไปแล้วได้ประโยชน์ใดกัน?”

 

ฟางหยวนยิ้มและถามตรง ๆ

 

“ไม่มี อาตมาเพียงแค่ถามดู!”

 

พระคุณเจ้าคงหมิงทําท่าเหมือนเขาได้รับการชี้ทางสว่างและคารวะแก่ฟางหยวนอีกครั้ง “ท่านบอกได้หรือไม่ว่าสิ่งใดพาท่านมาถึงที่นี่กัน?”

 

เมืองชิงลั่วนั้นโดดเดี่ยว ผู้ที่มีตําแหน่งนั้นล้วนมีการติดต่อกับคู่ค้าจากเขตอื่นอยู่แล้ว มันก็เพียงแค่ข่าวนั้นเดินทางมาได้ช้า และดังนั้น เขาจึงไม่สามารถระบุตัวตนของฟางหยวนได้

 

“ข้าไม่ได้วางแผนใดไว้ เพียงเดินทางไปเรื่อย ๆ!”

 

ฟางหยวนมีทางทางไม่สนใจและพูด “ข้าได้ยินมาว่าวิถีแห่งค่ายกลในเมืองซิงลัวนั้นไม่เป็นสองรองใคร ดังนั้น ข้าจึงตั้งใจมาที่นี่เพื่อดู ๆ เสียหน่อย…”

 

“เหอเหอ… เป็นเพียงแค่คําคุยโตที่ไว้หลอกลวงคนทั่วไปเท่านั้น!”

 

คงหมิงส่ายหน้า แต่ว่า ฟางหยวนก็ยังมองเห็นความภาคภูมิใจแฝงอยู่ในดวงตาของคงหมิง

 

“ข้าพบเรื่องประหลาดบางอย่างระหว่างการเดินทางของข้า และข้าก็อยากขอพบท่านเจ้าเมือง ไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะพบเขา?”

 

ฟางหยวนมองพระคุณเจ้าคงหมิงและจู่ ๆ ก็ถามออกมา

 

“แม้ว่าท่านเจ้าเมืองจะติดอยู่กับภารกิจของแต่ละวัน แต่หากเขารู้ว่ามีผู้มีความสามารถเช่น ท่านมาถึงที่นี่ เขาย่อมยินดีต้อนรับท่านด้วยตนเอง!”

 

คงหมิงประกบมือเข้าด้วยกัน “ท่านบอกว่าท่านพบเรื่องประหลาดบางอย่าง ท่านบอกอาตมาได้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”

 

“ข้าผ่านหมู่บ้านที่มีชื่อว่าหงเยี่ยมา! ชาวบ้านทั้งหมดถูกสังหารและหมู่บ้านก็อยู่ในสภาพน่าสังเวช. ข้าแทบทนมองไม่ได้”

 

ฟางหยวนพูดช้า ๆ และเห็นว่าปฏิกิริยาของคงหมิงนั้นรวดเร็ว “ตํานานของปิศาจและสัตว์ประหลาดนั้นเชื่อถือไม่ได้ แต่ว่า ข้าสนใจในคําสาปนี่และอยากจะช่วย!”

 

“อมิตตาพุทธ ท่านมีน้ําใจนัก ท่านย่อมได้รับผลกรรมดีตอบแทนอย่างแน่นอน!”

 

คงหมิงพยักหน้า “อาตมาจะส่งรายงานขึ้นไปให้ท่านเจ้าเมือง แต่ว่า ท่านเจ้าเมืองจะตอบอย่างไรนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของอาตมาแล้ว”

 

“โอ…”

 

ถึงตอนนี้ มีเสียงครางดังมา

 

จางคงฟานกุมหัวแล้วลุกขึ้นช้า ๆ เขาเห็นฟางหยวนแล้วใบหน้าก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว “เจ้า เจ้าทําอะไรกับข้า?”

 

“แค่ก…”

 

พระคุณเจ้าคงหมิงกระแอมไอ ทําให้จางคงฟานหันกลับมาแล้วรีบคารวะลง “อาจารย์!”

 

“อืม ท่านผู้นี้นั้นอาวุโสกว่าเจ้ามากและยังมีวิทยายุทธ์สูงส่ง เหตุใดเขาจึงจะสร้างความลําบากแก่เจ้าโดยจงใจเล่า?”

 

คงหมิงดุ ก่อนที่จะพูดกับฟางหยวน “ศิษย์ของอาตมาดื้อรั้นและยังไม่ได้เดินสู่เส้นทางแห่งพุทธ เขาเป็นเพียงศิษย์วิญญาณเท่านั้น ได้โปรดอภัยให้กับทุกความผิดที่เขาทําขึ้น! คงฟาน! ขออภัยแก่ท่านผู้นี้เดี๋ยวนี้”

 

“ขอรับ อาจารย์!”

 

คําสั่งของอาจารย์นั้นไม่เชื่อฟังไม่ได้ นอกจากนี้ จางคงฟานเองก็ไม่ได้มีความมั่นใจนักหลังจากเห็นว่าอาจารย์ของตนนั้นนอบน้อมต่อฟางหยวนเพียงใด เขารีบหันไปหาฟางหยวนและคารวะลง “กรุณาให้อภัยแก่ความผิดของข้าด้วย!”

 

พ่อค้าร่างท้วมไห่ฝู ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นั้นแทบจะหมดสติไปเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

 

จ้าวแห่งกลไกอันยิ่งใหญ่และสูงส่งปฏิบัติกับคนผู้นี้อย่างระแวดระวังตั้งแต่เมื่อใดกัน?

 

“ไม่เป็นไร!”

 

ฟางหยวนโบกมือ เขาไม่ได้สนใจจะจัดการกับแค่ผู้ติดตามอยู่แล้ว

 

นอกจากนี้ จางคงฟานนั้นก็นับว่าโชคไม่ดีแล้ว เขาได้ชดใช้อย่างมากเกินพอและฟางหยวนก็คร้านเกินกว่าจะดึงดันเรื่องต่อไป

 

“ขอบพระคุณท่าน!”

 

พระคุณเจ้าคงหมิงดีใจ จางคงฟานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นั้นก็ไม่มีทางเลือกนอกจากทําตามและคารวะ ไห่ฝูยังคงมึนงงอยู่ ทุกคนเห็นสภาพของเขาแต่ไม่มีใครให้ความสนใจ

 

“ท่านมีที่พักในเมืองซิงลั่วแล้วหรือไม่?”

 

คงหมิงถามต่อ “หากท่านยังไม่ได้ตัดสินใจจะไปพักที่ใด ท่านสามารถไปพักที่อารามสัมโภคกายของอาตมาได้ มันค่อนข้างเงียบสงบ…”

 

“อืม เช่นนั้นข้าก็ต้องรบกวนท่านแล้ว!”

 

ฟางหยวนลุกขึ้นและเดินออกจากร้านไปพร้อมกับพระชรา

 

จางคงฟานตามไปด้านหลังราวกับคนรับใช้ เขาเคืองมากแต่ไม่มีที่ให้ระบายอารมณ์ ทั้งหมดที่เขาทําได้ก็คือจ้องไห้ฝูเขม็งก่อนที่จะเดินออกไป

 

ไห่ฝูอยากจะร้องไห้แต่ไร้น้ําตาเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

 

ฟางหยวนและพระคุณเจ้าคงหมิงเดินเคียงข้างกันไปตามถนน ทหารที่ด้านข้างรีบโค้งตัวคารวะและเปิดทางเมื่อเห็นคนทั้งสอง เห็นได้ชัดว่าคงหมิงนั้นมีสถานะสูงส่งในเมือง อย่างไรเสีย เขาก็เป็นถึงจ้าวแห่งกลไกในระดับรวมธาตุ

 

“ท่านคิดว่าค่ายกลของเมืองนี้เป็นอย่างไร?”

 

คงหมิงถามอย่างใจลอย

 

“ยอดเยี่ยมมาก หากข้าดูไม่ผิด ค่ายกลนี้ประกอบด้วยธาตุทั้งสี่เป็นพื้นฐาน ธาตุทั้งสี่คือมังกรเขียว เสือขาว หงส์แดง และเต่าดํา ซึ่งดูแลประตูทั้งสี่อย่างแน่นหนา แต่ว่า ค่ายกลฝั่งหงส์แดงทางใต้นั้นดูต่างไปจากค่ายกลสี่ธาตุดั้งเดิม มันดูเหมือนเป็นค่ายกลดั้งเดิมที่ถูกดัดแปลง!”

 

แม้ว่าฟางหยวนจะไม่ใช่จ้าวแห่งกลไก ความรู้ของเขานั้นก็ไม่ใช่ผู้อื่นจะเทียบได้ การชี้จุดออกมาได้อย่างง่ายดายทําให้คงหมิงประหลาดใจ “ท่านมีสายตาเฉียบคมและยังเคยศึกษาวิธีแห่งค่ายกลมารึ?”

 

จางคงฟาน ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ก็ตกตะลึงและอับอาย

 

ฟางหยวนนั้นมีความรู้เรื่องค่ายกลและการสอดแนมเขาด้วยค่ายกลของตนนั้นก็คือการท้าทายเขาอย่างเปิดเผย ดังนั้น ไม่แปลกใจเลยที่จางคงฟานจะแพ้

 

“วิถีแห่งค่ายกลนั้นลึกลับและมีประสิทธิภาพ ข้าจะพูดว่าเคยศึกษาได้อย่างไร? ข้าเพียงแค่พยายามเปิดหูเปิดตากับเส้นทางนี้”

 

ฟางหยวนยิ้ม

 

บอกตามตรง ด้วยประสบการณ์ของจางคงฟานและพื้นฐานวิชาค่ายกลของเขา ความสามารถของเขานั้นก็เทียบได้กับศิษย์ค่ายกลเวทย์พวกนั้น เพียงแค่ขาดการฝึกฝน

 

“เข้าใจแล้ว!”

 

คงหมิงหัวเราะแต่ไม่เชื่อฟางหยวน

 

อย่างไรเสีย วิถีแห่งค่ายกลนั้นก็ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าฟางหยวนนั้นมีพรสวรรค์จึงสามารถบรรลุถึงอู่จงได้แม้ว่าจะยังเยาว์ แล้วคนรุ่นเก่า ๆ และตัวเขาเองจะนับเป็นตัวอะไรหากฟางหยวนสามารถประสบความสําเร็จในทางนี้ได้โดยง่าย?

 

“นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่าทางใต้นั้นเผชิญหน้ากับช่องเขาน้ําแข็งและทุ่งน้ําแข็งซึ่งมีอันตรายแอบซ่อนอยู่ ท่ามกลางค่ายกลที่ปกป้องเมืองซิงลั่ว ค่ายกลหงส์แดงพิโรธนั้นถูกปรับเปลี่ยน และ ยังแข็งแกร่งที่สุดในค่ายกลทั้งสี่”

 

แต่ว่า พระชราก็ไม่ได้อธิบายเข้าไปโดยลึกและเพียงแค่พูดถึงอย่างพื้น ๆ ให้ฟางหยวนฟัง พร้อมรอยยิ้มนุ่มนวล “นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกชั้นหนึ่งซ่อนเอาไว้ในค่ายกลด้วย!”

 

“โอ้! การเปลี่ยนแปลงใดกัน?”

 

ฟางหยวนถามขณะมองขึ้นไปบนฟ้า

 

“ดูเหมือนว่าท่านจะมองออกอยู่อย่างสองอย่างเช่นกัน ไม่เลวเลย คําตอบของคําถามนี้นั้นอยู่ในประวัติศาสตร์ของเมืองซิงลั่ว! เหตุผลเบื้องหลังที่เมืองนี้สามารถยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้!”

 

คงหมิงพูด มีความทะนงแฝงอยู่

 

“กรุณาแนะนําข้าด้วย!”

 

ฟางหยวนเบื้องหน้าอ่อนน้อม ทันใดนั้น สายตาเขาก็เปลี่ยนไปมองไปที่ตลาด

 

ที่นั่น มีเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันไม่ชัดนักดังมา เสียงมาจากกลุ่มคนจากหมู่บ้านผานถือ

 

“อะไร?”

 

คงหมิงหยุดเดิน “ท่านสนใจเรื่องที่นั่นรึ?”

 

“ใช่ ข้าพบกับพวกเขาหลายคนก่อนหน้านี้!”

 

ฟางหยวนพูดอย่างใจเย็น

 

“ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็ไปดูที่นั่นกัน!”

 

คงหมิงประสานมือเข้าด้วยกัน ให้บรรยากาศแบบผู้มีฐานะสําคัญ หันเดินกลับไปทางต ลาดของเมือง

….

 

“นี่เกินไปแล้ว!”

 

อวี๋เจี่ยนใบหน้าแดงก่ําด้วยความโกรธ เขาชี้ไปทางพ่อค้า “นี่เป็นข้าวทรายดําและหนังสัตว์คุณภาพดี! ท่านตกลงแลกเปลี่ยนเกลือเขียวและโลหะหล่อกับสินค้าของข้า และตอนนี้ท่านกลับกล้าใช้เกลือคุณภาพต่ําและเหล็กหยาบชดใช้แก่พวกเรา?”

 

“เหอเหอ…”

 

พ่อค้าลูบเคราแพะของตัวเอง ดวงตาเจ้าเล่ห์ “ใครบอกว่าสินค้าของเจ้าเป็นของคุณภาพดี? มันก็ไม่เลวแล้วที่พวกเจ้าได้ของพวกนี้แลกกับขยะของเจ้า! อะไร? ยังอยากหาเรื่องสั้นรึ?”

 

พ่อค้านั้นมีคนคอยสนับสนุนเบื้องหลัง และดังนั้นจึงสามารถทําการค้าที่ตลาดได้ นอกจากนี้ เขายังเป็นชาวบ้านของเมืองซิงลั่ว ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวที่จะเรียกทหาร ไม่ง่ายเลยที่จะบอกว่าใครจะได้หัวเราะทีหลัง

 

“อวี๋เจี่ยน อย่าวู่วาม!”

 

ตอนที่อวีเจียนเกือบจะกระโดดเข้าไปสู้กับพ่อค้าคนนั้น หลีหู่ก็คว้าไหล่ขวาเขาและตรึงเขาเอาไว้

 

“ช่างเถอะ! ข้อตกลงยกเลิกแล้วกัน! คืนสินค้าของข้าให้ข้า!”

 

หลีหู่จ้องพ่อค้าด้วยสายตาเคียดแค้น

 

“ได้”

 

พ่อค้าเจ้าเล่ห์ยิ้ม “แต่ว่า พวกเจ้าส่งทรายดําคุณภาพต่ําให้ข้า 1500 ชั่ง กับหนังสัตว์รุ่งริ่งอีก 200 ผืนเท่านั้น ไม่มากไปกว่านั้น”

 

“เจ้า…”

 

หลีหู่พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที

 

เขาจําได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นยกสินค้าลงไปอย่างวุ่นวาย ชัดเจนว่าเขาวางแผนจะโกงพวกเขาไว้แล้ว

 

ในตอนนี้เอง แม้ว่าเขาจะควบคุมอารมณ์ได้ดี เขาก็อยากจะฆ่าพ่อค้าคนนี้และมือของเขาก็ยื่นไปแตะที่ด้ามมีดแล้ว

 

“ทหาร! ทหาร!”

 

พ่อค้าตะโกนออกมาทันทีขณะกระโดดหนีไป

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

ทหารกลุ่มหนึ่งเดินลาดตระเวนอยู่พุ่งเข้ามาทันที หัวหน้ากลุ่มมีรังสีพลังและเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 4 ประตูสวรรค์

 

“นายท่าน ชาวบ้านพวกนี้จากนอกเมืองรวมตัวกันกลั่นแกล้งพวกเราชาวเมือง”

 

พ่อค้าเจ้าเล่ห์กล่าวหาอย่างหน้าไม่อายเพราะมีผู้สนับสนุนเบื้องหลัง ลุงของเขาคือหัวหน้าทหารหน่วยลาดตระเวนหนึ่ง

 

หากเขาไม่มีเส้นสาย เขาย่อมไม่กล้าทําเรื่องเช่นนี้

 

“เข้าใจแล้ว”

 

หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนนี้ก็คุ้นเคยกับพ่อค้าคนนี้เช่นกัน โดยไม่มองเลยด้วยซ้ํา เขาก็ส่งสัญญาณให้คนของเขาด้วยการโบกมือครั้งหนึ่ง “จับพวกเขาทั้งหมด!”

 

Carefree Path of Dreams

Carefree Path of Dreams

CPoD, 逍遥梦路
Score 7.4
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Carefree Path of Dreamsนี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตสันโดษอยู่บนภูเขา ปลูกพืช เลี้ยงปลา และฝันถึงความฝันของเขา เอ๋? จู่ ๆ ข้าก็ออกไปพิชิตทั่วหล้าและกลายเป็นผู้ครองโลกเหรอ? หรือว่าข้ายังอยู่ในความฝันกันแน่?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset