Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 209

Chapter 209: ความเห็นใจ

 

เมืองซิงลั่ว!

 

เมืองนี้ในอดีตก็เป็นที่ดินแห้งแล้งผืนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีร่องรอยการอาศัยอยู่ของมนุษย์และเป็น เพียงผืนดินที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ

 

จนวันหนึ่ง มีคนกลุ่มหนึ่งมาถึงที่นี่

 

มีผู้อพยพมาจากอาณาจักรต้าเฉียน เพราะเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง พวกเขาออกจากอาณาจักรมาตั้งต้นใหม่ในสถานที่รกร้างเพื่อหวังจะมีชีวิตต่อไป

พวกเขาเป็นบรรพบุรุษของเจ้าเมืองซิงลั่วและพระคุณเจ้าคงหมิง!

 

พวกเขาอยากจะเดินทางผ่านช่องเขาน้ําแข็งไปแต่เกรงว่าจะถูกกักเอาไว้ที่นั่น ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกนอกจากตั้งรกรากและเผชิญหน้ากับอันตรายจากอากาศที่หนาวเย็นและโหดร้ายอย่างต่อเนื่อง และยังสัตว์ร้ายพื้นถิ่นของทุ่งน้ําแข็ง

 

ในที่สุด ก็มีวันหนึ่ง

 

อุกกาบาตชิ้นหนึ่งตกลงมาที่นี่!

 

ใช้เวลาเพียงคืนเดียว ดินแดนแห้งแล้งผืนนี้ก็เปลี่ยนไป ผืนดินอุดมสมบูรณ์ขึ้นและตอนนี้ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิด

 

นอกจากนี้ ตรงที่อุกกาบาตตกลงมา มีพลังงานมหาศาลพวยพุ่ง

 

จ้าวแห่งกลไกในหมู่ผู้อพยพสามารถสัมผัสได้ และจากนั้นก็สร้างค่ายกลนกเพลิงทิศใต้เพื่อปกป้องพวกเขาจากความหนาวเย็น พวกเขาเป็นผู้ริเริ่มทุกอย่าง

 

ไม่ช้า ด้วยความเสียสละของเหล่าบรรพบุรุษของพวกเขา เคล็ดวิชาค่ายกลหลายชนิดก็ ถูกเพิ่มเข้าไปในค่ายกลตอนแรก เกิดเป็นค่ายกลเวทย์สี่ธาตุ นอกจากนี้ พวกเขายังขุดทะเลสาบขึ้นที่ตําแหน่งที่อุกกาบาตตกเพื่อเป็นที่ระลึกถึงปาฏิหาริย์ที่อุกกาบาตนํามา และนี่เป็นเหตุผลที่ตั้งชื่อเมืองนี้ว่าเมืองซิงลั่ว!

 

ดังนั้น นกหงเฟิ่งจากทิศใต้จึงเป็นแกนกลางของทั้งค่ายกลสี่ธาตุ มันมีพลังของอุกกาบาตอยู่

 

นี่เป็นตํานานเบื้องหลังชื่อของเมืองซิงลั่ว

 

และตอนนี้ ตํานานนั่นก็กลายมาเป็นเรื่องจริงแล้ว!

 

รากฐานของทั้งค่ายกล ค่ายกลนกเพลิงและแหล่งพลังงาน ตอนนี้ล้วนอยู่ตรงหน้าฟางหยวนแล้ว!

 

“ครื่น!

 

เปลวไฟน่าตระหนกแลบเลีย ความร้อนจากเปลวไฟทําให้ฟางหยวนรู้สึกมึนงง

 

ดวงตาของนกหงเฟิ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวา และสัตว์ทั้งสามที่ตายอยู่ก่อนหน้านี้ก็ปรากฏตัวขึ้น ราวกับไม่ได้เกิดอะไรขึ้น

 

“ดี! ดี! ดี!”

 

ฟางหยวนดูจริงจังและกล่าวชมเชย

 

“ค่ายกลนกเพลิงคือค่ายกลแท้จริงเพียงค่ายกลเดี่ยว ทายาทอย่างพวกเจ้าไม่รู้จักพลังที่แท้จริงของมันและยังเสริมสัตว์อื่นอีกสามตัวเกิดเป็นค่ายกลสี่ธาตุ แต่ว่า พวกเจ้าทั้งหมดล้วนไม่เก่งกาจพอ ดังนั้นจึงเป็นเพียงการเพิ่มสิ่งไร้ประโยชน์เข้าไปในค่ายกลแล้ว!”

 

“เจ้า”

 

เมื่อเจ้าเมืองได้ยินที่เขาพูด เขามีสีหน้าทะมึน- เขาเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เพิ่มสิ่งไร้ประโยชน์นั่น!

 

“เด็กน้อย เจ้ารู้ได้อย่างไร หากพวกเราไม่สร้างค่ายกลเวทย์สี่ธาตุ พวกเราจะสามารถปกป้องพื้นที่กว้างใหญ่เช่นเมืองซิงลั่วไว้ได้อย่างไร แต่ทําไมข้าจะต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วย? เจ้าเองไม่ช้าก็จะถูกนกเพลิงเผาตายทั้งเป็นแล้ว!”

 

เขามีสีหน้าโหดเหี้ยมขณะคํารามออกมา

 

“เช่นนั้นก็เป็นเพราะความละโมบของท่านนั้นเอง!”

 

ฟางหยวนถอนหายใจเบาๆ “ค่ายกลนกเพลิงไม่ได้มีปัญหา ปัญหาก็คือความละโมบไม่รู้จักพอของท่าน!”

 

ตอนที่เขาตอบ เขาก็พุ่งไปข้างหน้ามือยกขึ้นเป็นรูปกรงเล็บ “กรงเล็บอินทรียักษ์!”

 

“แกึก! แกึก!”

 

พร้อมกับเสียงร้องแหลมสูง กรงเล็บขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นขณะตวัดลงมาใส่เจ้าเมือง

 

“ครืน!”

 

เมื่อนกเพลิงเห็นกรงเล็บ มันก็สะบัดปีกของมัน

 

วงไฟปรากฏขึ้น ก่อเป็นกําแพงรอบตัวเจ้าเมือง

 

“ฮ่าฮ่า… มันไร้ประโยชน์! ข้ายังคงอยู่ภายใต้การปกป้องของค่ายกลเวทย์สี่ธาตุ ศัตรูของเจ้าคือนกเพลิงนั่น!”

 

เจ้าเมืองหัวเราะอย่างดีใจขณะส่งค่ายกลแปรขบวนอีกครั้ง

 

“แกว๊ก! แกว๊ก!”

 

นกเพลิงร้องเสียงยาว แหล่งพลังงานบนหัวของมันสว่างขึ้น มันสยายปีกออกและเปลวไฟคลื่นหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ฟางหยวน

 

“วิ้ง วิ้ง!”

 

อุกกาบาตสั่น มันทึบทึมลง

 

“ครืน!”

 

เมืองซิงลั่วสั่นสะเทือนอีกครั้ง

 

รอบแตกบนกําแพงเมืองก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อักขระเวทย์เริ่มเลือนหาย

 

“โฮก! โฮก!”

 

“ฟ้อ! ฟ้อ!”

 

“แกว๊ก! แกว๊ก!”

 

ทันใดนั้น ก็มีเสียงคํารามของพายุที่ด้านนอก ในทุ่งน้ําแข็ง เกิดเงาขนาดมหึมาหลายเงาขึ้น

 

มันคือสัตว์ร้ายตัวใหญ่จากทุ่งน้ําแข็ง มันมีร่างกายใหญ่โต ดวงตาแดงก่ําที่เปล่งประกายโหดเหี้ยม

 

“แซก!”

 

“แซก!”

 

บนกําแพงเมือง ทหารยามพูดคุยกันอย่างหวาดกลัว และไม่สามารถถืออาวุธไว้ได้มันแล้ว “สัตว์ สัตว์ร้ายทุ่งน้ําแข็งโจมตีเมือง?”

 

“เป็นไปได้อย่างไร? พวกเรามีค่ายกลปกปักษ์ และพวกมันก็ไม่สามารถเข้ามาใกล้ๆ”

 

ตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว คํากล่าวว่าเมืองซิงลั่วนั้นบุกรุกไม่ได้คือการปลอบประโลมจิตใจของผู้คนมากมายที่อาศัยอยู่ในเมือง

 

“มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร?”

 

ท่ามกลางฝูงชนวุ่นวาย อวี๋เจี่ยนจับมือหลีหูเอาไว้แน่น “ไม่ใช่ว่าเมืองซิงลั่วเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดหรอกหรือ?”

 

“ข้าเองก็ไม่รู้ มันอาจจะเป็นเพราะค่ายกลปกปักษ์มีปัญหาบางอย่างก็ได้ ข้าแน่ใจว่าคนในเมืองต้องซ่อมแซมมันได้”

 

ใบหน้าของหลีพู่ซีดเผือด เขาไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองพูดด้วยซ้ําไป และมือขวาของเขาก็กําไปบนมีดสั้นแน่น

 

“ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?”

 

ที่ตรงกําแพง แม่ทัพระดับสูงมองสัตว์ร้ายและคิดถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเมือง “ ท่าน เจ้าเมือง… ท่านคํานวณผิดแล้วคราวนี้!”

 

“แกวัก! แกวก!”

 

ที่ตรงใจกลางเมือง มีเสียงร้องบาดหูดังออกมากะทันหัน

 

เสาเพลิงต้นหนึ่งจู่ๆก็ปรากฏขึ้นและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า มันทะลุผ่านก้อนเมฆและมุ่งหน้าไปสู่พระอาทิตย์

 

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องควรเฉลิมฉลอง!

 

ขณะที่ลูกบอลไฟพุ่งขึ้น อักขระเวทย์บนกําแพงเมืองก็ยิ่งหมองลง

 

ในที่สุด ลิงยักษ์ทุ่งน้ําแข็งที่สูงเท่าอาคารสามชั้น ก็กระโดดขึ้นไปบนกําแพงและเริ่มทุบหน้าอกตัวเอง!

 

“ครืน!”

 

เกิดหายนะไปทั่วทุกแห่ง

 

กําแพงเมืองส่วนหนึ่งฟังและถล่มลงมา เผยให้เห็นถนนหนทางและบ้านเรือนในเมือง!

 

“กิน”

 

เมื่อลิงยักษ์น้ําแข็งเห็น มันก็ลูบแขนของมัน คว้าเอาทหารคนหนึ่งขึ้นมาแล้วเริ่มกัดกิน

 

“อ้า… ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากตาย!”

 

แม้ว่าทหารจะแขนหัก เขาก็ยังมีชีวิตและร้องขอความช่วยเหลือ

 

แต่ว่า ไม่มีใครแสดงท่าที่ใดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

พวกมันยังมึนงงจากการสั่นสะเทือนอยู่

 

“อมิตตาพุทธ!”

 

ในตอนนี้เอง เงาสีขาวเงาหนึ่งแวบผ่านมา

 

ลิงยักษ์น้ําแข็งหยุดสิ่งที่มันกําลังทําอยู่มองที่มือของมัน อาหารที่มันกัดกินอยู่นั้นหายไปนานแล้ว

 

“ขอบพระคุณที่ช่วยชีวิต พระคุณเจ้า!”

 

บนกําแพงเมือง พระคุณเจ้าคงหมิงวางทหารคนนั้นลงช้าๆ มองลิงยักษ์น้ําแข็งแล้วเขาก็โกรธขึ้นมา

 

“โอ้ว! โอ้ว!”

 

ลิงยักษ์น้ําแข็งไม่ได้สนใจอะไรนัก มันทุบกําปั้นกับหน้าอกตัวเองอีกครั้งและพุ่งไปหาพระคุณเจ้าคงหมิง

 

“ลิงยักษ์เร้นกาย นิ่งดุจขุนเขา!”

 

พระคุณเจ้าคงหมิงประกบมือเข้าด้วยกันก่อนจะผลักออกจากตัวประกายสีทองอ่อนจางปรากฏขึ้นในฝ่ามือของเขา

 

“วิ่ง วิ่ง!”

 

เมื่อประกายสีทองในฝ่ามือปรากฏชัดเจนขึ้น ในที่สุดมันก็เปลี่ยนเป็นเครื่องหมายหนึ่งจากนั้นเขาก็ผลักมันออกไป

 

“โอ้ก! โอ้ก!”

 

ลิงยักษ์ร้องออกมาอย่างน่าสงสารแล้วถอยกลับไปราวกับถูกทับด้วยภูเขาสักลูก ไม่ช้า ก็มีเปลวไฟสีทองปรากฏขึ้นบนร่างของมัน และเพียงไม่กี่วินาที มันก็ถูกเปลวไฟนั่นลุกท่วมตัว

 

“แกว๊ก! แกว๊ก!”

 

นกเพลิงน้ําแข็งที่มีเกล็ดน้ําแข็งสามชิ้นบนหางปรากฏขึ้น มันบินไปทางลิงยักษ์น้ําแข็งอย่างรวดเร็ว

 

“ฝูบ!”

 

เปลวไฟสีทองมอดไป ลิงยักษ์น้ําแข็งนอนอยู่บนพื้นหายใจอ่อนแรง มันมีสภาพที่น่าหัวเราะและยังขนไหม้เกรียม

 

แต่ว่า พระคุณเจ้าคงหมิงไม่ได้หัวเราะไปด้วย

 

“สัตว์ร้ายทุ่งน้ําแข็งที่มีระดับการฝึกตนที่ขอบเขตรวมธาตุ? และไม่เพียงแค่ตัวเดียว! พวกมันมาจากไหนกัน?”

 

เขารู้สึกไม่แน่ใจ เขาถือสร้อยประคําเอาไว้ในมือ เดินไปทางกําแพงเมืองที่ถล่มลงมาแล้วท่อคาถาหกคํา

 

“เหวิง! มา! หนี! เป้ย! หมี่! หง!”

 

“ครืน!”

 

แถวของอักขระสีทองปรากฏขึ้นบนกําแพงที่พังลงมา ในไม่ช้ามันก็ขยับไปที่ตรงกลาง เกิดเป็นห่วงโซ่อักขระปกคลุมกําแพงที่ครั้งหนึ่งเคยตระหง่านอยู่

 

“วิ้ง วิ้ง!”

 

ไม่เพียงแค่นั้น แต่ตัวอักขระสีทองกลับปรากฏขึ้นทั่วทุกกําแพง พวกมันแสดงความแข็งแกร่งและศักดิ์สิทธิ์ออกมา

 

“ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเรา!”

 

นายทหารหลายคนพุ่งมาข้างหน้าและกล่าวขอบคุณเขา

 

“อมิตตาพุทธ”

 

พระคุณเจ้าคงหมิงส่ายหน้า “ข้าเพียงแค่กระตุ้นพลังที่ถูกกักเอาไว้ในกําแพง ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเราจัดเตรียมเอาไว้เมื่อนานมาแล้วเท่านั้น มันเพียงทนการเปลี่ยนแปลงของค่ายกลและรับการจู่โจมของพวกสัตว์จากภายนอกได้อีกชั่วยามเดียวแล้ว!”

 

เขาไม่สามารถร่ายค่ายกลปกปักษ์ใหม่ที่ครอบคลุมทั้งเมืองได้ด้วยตัวเองคนเดียว

 

แต่ว่ากับกําแพงนี้จะต่างกันออกไป ด้วยส่วนประกอบลับ” ที่บรรพบุรุษของพวกเขาใส่เอาไว้เมื่อนานมาแล้ว มันเป็นมรดกที่หลงเหลือเอาไว้ให้ทายาทในกรณีฉุกเฉิน ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจึงยังสามารถจับจองภูมิประเทศอันได้เปรียบ

 

แต่ถึงอย่างนั้น หากไม่มีแหล่งพลังงานที่สําคัญที่สุด ค่ายกลย่อมอยู่ไม่ได้นาน

 

“ที่นี่นั้นห่างไกลและไม่สามารถเทียบกับอาณาจักรต้าเฉียนได้ เพื่อที่จะคงค่ายกลเอาไว้ พวกเราจําต้องใช้แหล่งพลังงาน หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องมีโลหิตเป็นบัดพลี

 

พระคุณเจ้าคงหมิงกําสร้อยประคําเอาไว้ในมือหนึ่งพลิกมันไปเรื่อยๆ “บาปกรรม! ล้วนเป็นบาปกรรมทั้งสิ้น!”

 

“ดูเหมือนจะเกิดเรื่องวุ่นวายที่ข้างนอก!”

 

ภายในค่ายกลนกเพลิง ฟางหยวนดูลําบากใจ สีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่จู่ๆเขาก็หัวเราะออกมา “ข้ารู้แล้ว ท่านมันบ้าและไม่สนใจเมืองของตัวเองด้วยซ้ํา ไม่อย่างนั้นท่านจะใช้พลังจากทั้งเมืองมาต่อกรกับข้าได้อย่างไร! ท่านไม่กลัวว่าศิษย์และครอบครัวของเจ้าจะถูกสัตว์ร้ายจากทุ่งน้ําแข็งโจมตีหรือไร?”

 

“นั่นจะยังไม่เกิดขึ้นตอนนี้ บรรพบุรุษของเราทิ้งบางอย่างเอาไว้ในกําแพงเพื่อซื้อเวลาให้พวกเราเมื่อเกิดเหตุร้ายกะทันหัน…”

 

เจ้าเมืองมีสีหน้าจริงจัง “นอกจากนี้ นี่คือเวลาที่ข้าต้องใช้ในการสังหารเจ้า! นกเพลิง!”

 

“แกว๊ก! แกว๊ก!”

 

ตรงหน้าฟางหยวน นกเพลิงทําตามที่เจ้าเมืองสั่งและมีความรับรู้ราวกับมนุษย์ เผชิญหน้ากับฟางหยวน มันเปิดจะงอยปากออก

 

“ครืน!”

 

“ครืน!”

 

เปลวไฟสีแดงแผดเผา อุณหภูมิสูงจนทําให้พื้นดินหลอมเหลว เกิดเป็นแอ่งของเหลวเหนียว

 

“ท่านเสียสติไปแล้วจริงๆ และคงไม่มีอะไรที่ข้าจะช่วยท่านได้แล้ว”

 

ขณะที่เปลวไฟลุกท่วมเงาร่างของฟางหยวน แต่กลับไม่สามารถเผาร่างของเขาได้ ร่างจริงของเขาปรากฏขึ้นที่อีกด้านขณะที่ส่ายหน้าและถอนหายใจ “ท่านเจ้าเมือง ท่านจะแพ้ให้แก่ความละโมบโลภมากของตัวท่านเองต่อไปอีกหรือ?”

 

“แน่นอน บอกเรื่องนี้แก่เจ้าไปก็ไม่มีประโยชน์ นี่เป็นเพราะเหตุผลเดียวที่ข้าสู้กับเจ้า!”

 

ในค่ายกล หมอกสะกดปรากฏขึ้นบางๆ และกระจายออกไป

 

“และเหตุผลนั้นก็คือ… เจ้าต้องการฉวยโอกาสจากข้า! นั่นหมายความว่าเจ้ามันสมควรตาย!”

 

ขณะที่มายาภาพของเขาปรากฏอยู่ทุกที่ร่างจริงของฟางหยวนกลับไปปรากฏที่ตรงหน้าเจ้าเมือง

 

เมื่อเชิญหน้ากับความตาย กระทั่งนกหงเฟิ่งก็ยังนิ่งงันไป!

 

Carefree Path of Dreams

Carefree Path of Dreams

CPoD, 逍遥梦路
Score 7.4
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Carefree Path of Dreamsนี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตสันโดษอยู่บนภูเขา ปลูกพืช เลี้ยงปลา และฝันถึงความฝันของเขา เอ๋? จู่ ๆ ข้าก็ออกไปพิชิตทั่วหล้าและกลายเป็นผู้ครองโลกเหรอ? หรือว่าข้ายังอยู่ในความฝันกันแน่?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset