ตอนที่ 1014: ความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ (2) “พลังงานดั้งเดิม มันเป็นพลังงานดั้งเดิมจริง ๆ ความแข็งแกร่งนี้เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ” ไคเซอร์กลัวมาก เขารู้สึกเป็นอันตรายถึงชีวิตเป็นครั้งแรกจากแสงสีขาวที่ดูธรรมดานั้น ไคเซอร์ไม่สนใจเจี้ยนเฉินที่อยู่ห่างไปไม่กี่นิ้วอีกต่อไป เขาดูเหมือนจะลืมความเจ็บปวดรุนแรงจากแขนของเขา เขามองไปที่ทิศทางที่แสงสีขาวพุ่งมาด้วยท่าทางที่เคร่งเครียดมาก แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แม้ว่าเขาจะทรงพลังมาก เขายังแม้แต่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่เซียนจักรพรรดิ ไคเซอร์ก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าจอมยุทธที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิที่อยู่ตรงหน้าเขานี้เลย นี่เป็นเพราะพวกเขาคงเป็นจอมยุทธที่มาจากขอบเขตที่แตกต่างออกไป พลังที่พวกเขาใช้ไม่ใช่พลังเซียนที่คนธรรมดาใช้ แต่เป็นพลังงานดั้งเดิมที่อยู่ในระดับที่สูงกว่า “ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าจอมยุทธที่แอบโจมตีข้าเป็นใค ร? ไปโปรดแสงตัวออกมาได้หรือไม่ ? ” ไคเซอร์คำรามออกมา เขาข่มความตกใจเอาไว้และมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ในเวลาเดียวกัน ชั้นเกล็ดสีหมึกก็ปรากฏขึ้นบนร่างของเขา มันปกคลุมร่างของเขาทุกตารางนิ้ว และร่างกายของเขาก็ขยายออกอย่างเห็นได้ด้วยตา เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดสูง 10 เมตรอย่างรวดเร็ว หัวของเขายังเป็นมนุษย์อยู่ แต่แขนขาของเขากลายเป็นกรงเล็บคม ในขณะที่หนามขรุขระก็ยื่นออกมาจากหลังของเขา หนานแต่ละอันยาว 3 เมตรและมันก็เปล่งประกายไปด้วยแสงเย็นชา ไคเซอร์กลายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งมังกร นี่เป็นร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา เจี้ยนเฉินและฮุสตันทั้งคู่ลืมหนี พวกเขาลอยอยู่กลางอากาศด้วยความตกใจจากคำพูดของไคเซอร์ ‘เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ’ คำนี้ดังอยู่ในหัวของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง จิตใจของพวกเขาปั่นป่วน และพวกเขาก็สงบใจเอาไว้ไม่ได้ “เลว ! เจ้าเป็นคนเลว ! เจ้ารังแกพี่ใหญ่ของเสี่ยวหลิงและทำให้เขาเป็นแบบนี้ เสี่ยวหลิงจะสั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้าเพื่อพี่ใหญ่” ในตอนนี้ เสียงของเด็กหญิงที่ยังไม่เติบโตก็ดังออกมา เด็กหญิงในชุดขาวที่มีผมเปียสองข้างที่ดูเหมือนมีอายุสิบเอ็ดหรือสิบสองปีก็ปรากฎออกมาข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน นางมองไปที่ไคเซอร์อย่างโกรธเกรี้ยว นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวหลิงปรากฏตัวออกมาโดยไม่บิดบังตัวเอง ดังนั้นไคเซอร์และฮุสตันจึงสังเกตเห็นนางได้ทันที อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งคู่ก็อึ้งไปพร้อมกันเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นเด็กหญิงที่เด็กขนาดนี้ แต่พวกเขาก็กลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ความตกใจมากและความเหลือเชื่อกระจายอยู่ในหัวใจของพวกเขา ในขณะที่พวกเขาไม่สามารถสัมผัสในตอนที่นางปรากฎออกมาได้เลยด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา “เสี่ยวหลิง เจ้าน่ะเอง เจ้าออกมาจากเมืองทหารรับจ้าง” เจี้ยนเฉินจ้องมองไปที่เสี่ยวหลิงด้วยความตกใจ เขาเข้าใจทันทีว่านางคือจอมยุทธที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิและโจมตีไคเซอร์ก่อนหน้านี้ ความโกรธของเสี่ยวหลิงลดลงอย่างมากทันทีเมื่อนางได้ยินเสียงของเจี้ยนเฉิน นางหันไปและมองเขาด้วยความห่วงใย “พี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงทนดูพี่ใหญ่ถูกคนเลวรังแกไม่ได้ ถ้าเสี่ยวหลิงไม่ทำอะไร คนเลวนั้นอาจจะฆ่าพี่ใหญ่ นายท่านห้ามไม่ให้เสี่ยวหลิงออกมาจากเมืองหลายปีแล้ว แต่เพื่อช่วยพี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงจะไม่สนใจคำสั่งของนายท่าน” ไคเซอร์ได้ยินทุกคำจากเสี่ยวหลิง สายตาของเขาเป็นประกายทันที และเขาก็มองไปที่นางด้วยความสงสัย เขาร้องออกมา “เจ้าคือจิตวิญญาณม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างงั้นหรือ ? “ “ข้าไม่คิดเลยว่าจิตวิญญาณม่านพลังจะออกมาจากม่านพลังป้องกัน ดูเหมือนว่าข่าวลือจะไม่เป็นจริงไปเสียทั้งหมด” ฮุสตันร้องออกมาในตอนที่เขาเห็นเสี่ยวหลิงที่เหมือนเด็ก ในความเป็นจริงแล้ว เสี่ยวหลิงเป็นวิญญาณที่โลกได้ให้กำเนิดมา นางไม่ใช่จิตวิญญาณม่านพลังที่ไหน นางแค่สามารถควบคุมพลังของม่านพลังในเมืองทหารรับจ้างได้ หลายปีที่ผ่านมา เจ้าเมืองโมเทียนหยุนได้มอบหมายให้นางปกป้องและข่มผนึกที่อยู่ให้เมืองเอาไว้ ดังนั้นนางจึงไม่ออกมาจากที่นั่นเลยเป็นเวลาหลายปี นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผู้คนถึงเข้าใจผิดว่านางนั้นเป็นจิตวิญญาณที่เกิดมาจากม่านพลัง เดากันว่านางนั้นมีความเชื่อมโยงกับม่านพลังและไม่สามารถออกไปจากเมืองทหารรับจ้างได้ ท่าทางของเสี่ยวหลิงเปลี่ยนไปเมื่อนางได้ยินเสียงของไคเซอร์ นางมองไปที่ไคเซอร์ด้วยสายตาที่ซุกซนของนางและพูดออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าคนเลว เจ้ารังแกพี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงจะสั่งสอนเจ้าแทนพี่ใหญ่เอง” ในขณะที่นางพูด เสี่ยวหลิงก็เหวี่ยงแขนออกไปและแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นมาทันที มันพุ่งไปที่ไคเซอร์ด้วยความเร็วแสง นี่เป็นพลังงานดั้งเดิมที่มีแต่ผู้ที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิขึ้นไปเท่านั้นที่จะควบคุมได้ มันไม่มีพลังแห่งการมีอยู่หรือกลิ่นอายที่น่าตกใจในตอนที่มันถูกยิงออกมาจากมือของเสี่ยวหลิง และมันก็ไม่ได้มีคลื่นพลังงานอะไรที่น่ากลัวด้วย มีเพียงพลังแห่งการมีอยู่ที่ลึกซึ้งและความลึกลับเท่านั้นที่ไหลเวียนอยู่ภายในนั้น พลังงานดั้งเดิมเป็นพลังงานใหม่อย่างสิ้นเชิง มันเหนือกว่าความเข้าใจของคนในทวีปเทียนหยวน พวกเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังและความน่ากลัวของมันจากสิ่งที่พวกเขาเห็น แม้ว่านางจะแค่เหวี่ยงแขนธรรมดาธรรมดา แต่การโจมตีของเสี่ยวหลิงก็ทำให้ไคเซอร์รู้สึกเหมือนว่าเขาไม่สามารถที่จะหลบได้ไม่ว่าเขาจะทำยังไงก็ตาม เช่นนั้นเขาจึงรับการโจมตีตรง ๆ ร่างที่ทรงพลังของไคเซอร์อ่อนนุ่มเหมือนเต้าหู้ต่อหน้าพลังงานดั้งเดิม พลังงานดั้งเดิมสลายเกล็ดของเขาเมื่อพลังสัมผัสโดนและเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเลือด “อ๊าก ! ” ไคเซอร์ร้องออกมาอย่างทุกข์ทรมาน อาการบาดเจ็บจากพลังงานดั้งเดิมนั้นไม่ได้ดูธรรมดาเหมือนที่เห็น ความเจ็บปวดนั้นหนักหนาถึงขนาดที่เซียนจักรพรรดิยังไม่สามารถทนได้ “นี่คือพลังงานดั้งเดิมอย่างนั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินคิดในขณะที่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้ เขามองดูแสงสีขาวที่เข้าไปโจมตีไคเซอร์ เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงพลังแห่งการมีอยู่ที่ลึกลับแต่ลึกซึ้งจากมัน “มีความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างพลังงานดั้งเดิมจากเสี่ยวหลิง และจากอาวุธและชุดเกราะของรุยจินกับของคนอื่น ข้ารู้สึกได้ว่าพลังงานดั้งเดิมของเสี่ยวหลิงนั้นบริสุทธิ์มากกว่าโดยไม่มีสิ่งเจือปนเลย ในขณะเดียวกันพลังงานดั้งเดิมจากสิ่งของของรุยจินและคนอื่นนั้นก็มีพลังที่ยิ่งใหญ่ที่นำมาจากธรรมชาติด้วย” เจี้ยนเฉินคิด “พลังงานดั้งเดิม นี่คือพลังงานดั้งเดิม เป็นพลังงานดั้งเดิมที่บริสุทธิ์อะไรเช่นนี้” ในเวลาเดียวกัน มารราคะ แลงคีรอส เฮยยู่ และรุยจินก็สัมผัสได้ถึงการปรากฏขึ้นมาของพลังงานดั้งเดิมด้วยเช่นกัน พวกเขาตกใจและหยุดต่อสู้ทันที จากนั้น พวกเขาก็พุ่งไปหาเสี่ยวหลิงราวกับสายฟ้า
ตอนที่ 1014: ความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ (2)
“พลังงานดั้งเดิม มันเป็นพลังงานดั้งเดิมจริง ๆ ความแข็งแกร่งนี้เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ” ไคเซอร์กลัวมาก เขารู้สึกเป็นอันตรายถึงชีวิตเป็นครั้งแรกจากแสงสีขาวที่ดูธรรมดานั้น
ไคเซอร์ไม่สนใจเจี้ยนเฉินที่อยู่ห่างไปไม่กี่นิ้วอีกต่อไป เขาดูเหมือนจะลืมความเจ็บปวดรุนแรงจากแขนของเขา เขามองไปที่ทิศทางที่แสงสีขาวพุ่งมาด้วยท่าทางที่เคร่งเครียดมาก แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
แม้ว่าเขาจะทรงพลังมาก เขายังแม้แต่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่เซียนจักรพรรดิ ไคเซอร์ก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าจอมยุทธที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิที่อยู่ตรงหน้าเขานี้เลย
นี่เป็นเพราะพวกเขาคงเป็นจอมยุทธที่มาจากขอบเขตที่แตกต่างออกไป พลังที่พวกเขาใช้ไม่ใช่พลังเซียนที่คนธรรมดาใช้ แต่เป็นพลังงานดั้งเดิมที่อยู่ในระดับที่สูงกว่า
“ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าจอมยุทธที่แอบโจมตีข้าเป็นใค ร? ไปโปรดแสงตัวออกมาได้หรือไม่ ? ” ไคเซอร์คำรามออกมา เขาข่มความตกใจเอาไว้และมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ในเวลาเดียวกัน ชั้นเกล็ดสีหมึกก็ปรากฏขึ้นบนร่างของเขา มันปกคลุมร่างของเขาทุกตารางนิ้ว และร่างกายของเขาก็ขยายออกอย่างเห็นได้ด้วยตา เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดสูง 10 เมตรอย่างรวดเร็ว หัวของเขายังเป็นมนุษย์อยู่ แต่แขนขาของเขากลายเป็นกรงเล็บคม ในขณะที่หนามขรุขระก็ยื่นออกมาจากหลังของเขา หนานแต่ละอันยาว 3 เมตรและมันก็เปล่งประกายไปด้วยแสงเย็นชา
ไคเซอร์กลายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งมังกร นี่เป็นร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา
เจี้ยนเฉินและฮุสตันทั้งคู่ลืมหนี พวกเขาลอยอยู่กลางอากาศด้วยความตกใจจากคำพูดของไคเซอร์ ‘เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ’ คำนี้ดังอยู่ในหัวของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง จิตใจของพวกเขาปั่นป่วน และพวกเขาก็สงบใจเอาไว้ไม่ได้
“เลว ! เจ้าเป็นคนเลว ! เจ้ารังแกพี่ใหญ่ของเสี่ยวหลิงและทำให้เขาเป็นแบบนี้ เสี่ยวหลิงจะสั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้าเพื่อพี่ใหญ่” ในตอนนี้ เสียงของเด็กหญิงที่ยังไม่เติบโตก็ดังออกมา เด็กหญิงในชุดขาวที่มีผมเปียสองข้างที่ดูเหมือนมีอายุสิบเอ็ดหรือสิบสองปีก็ปรากฎออกมาข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน นางมองไปที่ไคเซอร์อย่างโกรธเกรี้ยว
นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวหลิงปรากฏตัวออกมาโดยไม่บิดบังตัวเอง ดังนั้นไคเซอร์และฮุสตันจึงสังเกตเห็นนางได้ทันที อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งคู่ก็อึ้งไปพร้อมกันเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นเด็กหญิงที่เด็กขนาดนี้ แต่พวกเขาก็กลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ความตกใจมากและความเหลือเชื่อกระจายอยู่ในหัวใจของพวกเขา ในขณะที่พวกเขาไม่สามารถสัมผัสในตอนที่นางปรากฎออกมาได้เลยด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา
“เสี่ยวหลิง เจ้าน่ะเอง เจ้าออกมาจากเมืองทหารรับจ้าง” เจี้ยนเฉินจ้องมองไปที่เสี่ยวหลิงด้วยความตกใจ เขาเข้าใจทันทีว่านางคือจอมยุทธที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิและโจมตีไคเซอร์ก่อนหน้านี้
ความโกรธของเสี่ยวหลิงลดลงอย่างมากทันทีเมื่อนางได้ยินเสียงของเจี้ยนเฉิน นางหันไปและมองเขาด้วยความห่วงใย “พี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงทนดูพี่ใหญ่ถูกคนเลวรังแกไม่ได้ ถ้าเสี่ยวหลิงไม่ทำอะไร คนเลวนั้นอาจจะฆ่าพี่ใหญ่ นายท่านห้ามไม่ให้เสี่ยวหลิงออกมาจากเมืองหลายปีแล้ว แต่เพื่อช่วยพี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงจะไม่สนใจคำสั่งของนายท่าน”
ไคเซอร์ได้ยินทุกคำจากเสี่ยวหลิง สายตาของเขาเป็นประกายทันที และเขาก็มองไปที่นางด้วยความสงสัย เขาร้องออกมา “เจ้าคือจิตวิญญาณม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างงั้นหรือ ? “
“ข้าไม่คิดเลยว่าจิตวิญญาณม่านพลังจะออกมาจากม่านพลังป้องกัน ดูเหมือนว่าข่าวลือจะไม่เป็นจริงไปเสียทั้งหมด” ฮุสตันร้องออกมาในตอนที่เขาเห็นเสี่ยวหลิงที่เหมือนเด็ก
ในความเป็นจริงแล้ว เสี่ยวหลิงเป็นวิญญาณที่โลกได้ให้กำเนิดมา นางไม่ใช่จิตวิญญาณม่านพลังที่ไหน นางแค่สามารถควบคุมพลังของม่านพลังในเมืองทหารรับจ้างได้
หลายปีที่ผ่านมา เจ้าเมืองโมเทียนหยุนได้มอบหมายให้นางปกป้องและข่มผนึกที่อยู่ให้เมืองเอาไว้ ดังนั้นนางจึงไม่ออกมาจากที่นั่นเลยเป็นเวลาหลายปี นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผู้คนถึงเข้าใจผิดว่านางนั้นเป็นจิตวิญญาณที่เกิดมาจากม่านพลัง เดากันว่านางนั้นมีความเชื่อมโยงกับม่านพลังและไม่สามารถออกไปจากเมืองทหารรับจ้างได้
ท่าทางของเสี่ยวหลิงเปลี่ยนไปเมื่อนางได้ยินเสียงของไคเซอร์ นางมองไปที่ไคเซอร์ด้วยสายตาที่ซุกซนของนางและพูดออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าคนเลว เจ้ารังแกพี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงจะสั่งสอนเจ้าแทนพี่ใหญ่เอง” ในขณะที่นางพูด เสี่ยวหลิงก็เหวี่ยงแขนออกไปและแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นมาทันที มันพุ่งไปที่ไคเซอร์ด้วยความเร็วแสง
นี่เป็นพลังงานดั้งเดิมที่มีแต่ผู้ที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิขึ้นไปเท่านั้นที่จะควบคุมได้ มันไม่มีพลังแห่งการมีอยู่หรือกลิ่นอายที่น่าตกใจในตอนที่มันถูกยิงออกมาจากมือของเสี่ยวหลิง และมันก็ไม่ได้มีคลื่นพลังงานอะไรที่น่ากลัวด้วย มีเพียงพลังแห่งการมีอยู่ที่ลึกซึ้งและความลึกลับเท่านั้นที่ไหลเวียนอยู่ภายในนั้น
พลังงานดั้งเดิมเป็นพลังงานใหม่อย่างสิ้นเชิง มันเหนือกว่าความเข้าใจของคนในทวีปเทียนหยวน พวกเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังและความน่ากลัวของมันจากสิ่งที่พวกเขาเห็น
แม้ว่านางจะแค่เหวี่ยงแขนธรรมดาธรรมดา แต่การโจมตีของเสี่ยวหลิงก็ทำให้ไคเซอร์รู้สึกเหมือนว่าเขาไม่สามารถที่จะหลบได้ไม่ว่าเขาจะทำยังไงก็ตาม เช่นนั้นเขาจึงรับการโจมตีตรง ๆ
ร่างที่ทรงพลังของไคเซอร์อ่อนนุ่มเหมือนเต้าหู้ต่อหน้าพลังงานดั้งเดิม พลังงานดั้งเดิมสลายเกล็ดของเขาเมื่อพลังสัมผัสโดนและเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเลือด
“อ๊าก ! ” ไคเซอร์ร้องออกมาอย่างทุกข์ทรมาน อาการบาดเจ็บจากพลังงานดั้งเดิมนั้นไม่ได้ดูธรรมดาเหมือนที่เห็น ความเจ็บปวดนั้นหนักหนาถึงขนาดที่เซียนจักรพรรดิยังไม่สามารถทนได้
“นี่คือพลังงานดั้งเดิมอย่างนั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินคิดในขณะที่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้ เขามองดูแสงสีขาวที่เข้าไปโจมตีไคเซอร์ เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงพลังแห่งการมีอยู่ที่ลึกลับแต่ลึกซึ้งจากมัน
“มีความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างพลังงานดั้งเดิมจากเสี่ยวหลิง และจากอาวุธและชุดเกราะของรุยจินกับของคนอื่น ข้ารู้สึกได้ว่าพลังงานดั้งเดิมของเสี่ยวหลิงนั้นบริสุทธิ์มากกว่าโดยไม่มีสิ่งเจือปนเลย ในขณะเดียวกันพลังงานดั้งเดิมจากสิ่งของของรุยจินและคนอื่นนั้นก็มีพลังที่ยิ่งใหญ่ที่นำมาจากธรรมชาติด้วย” เจี้ยนเฉินคิด
“พลังงานดั้งเดิม นี่คือพลังงานดั้งเดิม เป็นพลังงานดั้งเดิมที่บริสุทธิ์อะไรเช่นนี้”
ในเวลาเดียวกัน มารราคะ แลงคีรอส เฮยยู่ และรุยจินก็สัมผัสได้ถึงการปรากฏขึ้นมาของพลังงานดั้งเดิมด้วยเช่นกัน พวกเขาตกใจและหยุดต่อสู้ทันที จากนั้น พวกเขาก็พุ่งไปหาเสี่ยวหลิงราวกับสายฟ้า