ตอนที่ 1041: กับดักสังหารเซียนราชา (1)
ผู้คนมากขึ้นเรื่อย ๆ มารวมตัวกันอยู่รอบโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม ไม่เพียงแต่เซียนราชาเท่านั้นที่มา แต่เซียนผู้คุมกฎจำนวนมากก็มาเช่นกัน ยังมีเซียนสวรรค์และเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ที่ยืนอยู่บนแสงสีขาวนวลบางคนอีกด้วย
เมืองหลวงของทวีปเป็นสถานที่ที่จอมยุทธมารวมตัวกัน แม่น้ำน้ำหอมอยู่นอกเมืองแห่งเทพเจ้าซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจอมยุทธทั้งหมดจึงมาที่นี่ทันทีที่ผนึกคลายออก คนบางคนยังใช้ทักษะลับเพื่อสื่อสารกับจอมยุทธในตระกูลและสหายที่ทรงพลังของพวกเขาเพื่อที่จะรายงานสถานการณ์ในปัจจุบันนี้
“ถ้าเช่นนั้นสิ่งนี้ก็คือโถงศักดิ์สิทธิ์ที่เซียนจักรพรรดิสร้างขึ้นมาสินะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้มหัศจรรย์และบินได้สูงขนาดนี้” กวานหยูไค่และหยางหลิงมาถึงที่ด้านหลังของเจี้ยนเฉิน ในขณะที่พวกเขาประหลาดใจกับโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องแสงสลัว ๆ ออกมา
“วัตถุดิบที่ใช้สร้างโถงศักดิ์สิทธิ์นี้พิเศษจริง ๆ มันสามารถดูดซับแสงจันทร์แล้วเปลี่ยนไปเป็นพลังงานของตัวเองได้” เฮยยู่จ้องที่โถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยความทึ่ง
ตาของเจี้ยนเฉินแข็งทื่อเมื่อเขาได้ยินแบบนั้นและหลังจากที่เขาสังเกตมันอย่างดีดีสักพัก เขาก็เห็นว่าโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ดูดซับแสงจันทร์ยามค่ำคืนไปจริง ๆ แสงจันทร์นั้นจางมาก ถ้าเขาไม่สังเกตดีดี เขาก็คงสัมผัสถึงมันไม่ได้เลย
ความทรงจำที่มีมาแต่กำเนิดผุดเข้ามาในหัวของหงเหลียน “พวกเขาพูดถูก โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มนี้สร้างมาจากวัตถุดิบพิเศษที่มาจากดวงจันทร์จริง ๆ มีบันทึกในความทรงจำของข้าเกี่ยวกับวัตถุดิบนี้” หงเหลียนหยุดแล้วเงยหน้าขึ้นไปที่พระจันทร์บนท้องฟ้า “นี่เป็นเพราะเมื่อครั้งโบราณกาล เซียนจักรพรรดิของตระกูลฟีนิกซ์เทวะของข้าได้บินไปที่ดวงจันทร์ อย่างไรก็ตาม นางใช้เวลามากกว่านางฟ้าเฮายู่ นางใช้เวลาไปถึง 4,000 ปี”
เจี้ยนเฉินตะลึงทันทีเมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขามองไปที่พระจันทร์ที่อยู่บนท้องฟ้าอย่างไม่รู้ตัวและถอนหายใจออกมา “ข้าไม่คิดเลยว่าดวงจันทร์มันจะไกลขนาดนี้ มันใช้เวลาเป็นพันหรืออาจจะหลายพันปีสำหรับเซียนจักรพรรดิเพื่อที่จะไปให้ถึงที่นั่น นี่มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ “
“ดวงจันทร์เป็นสถานที่ที่คนยากจะไปถึงได้จริง ๆ แม้แต่ในครั้งโบราณกาลที่มีเซียนจักรพรรดิอยู่มากมาย ก็มีน้อยคนนักที่ยอมที่จะเสียเวลาขนานั้นเพื่อที่จะบินไปที่ดวงจันทร์ เพราะว่าประตูมิติไม่สามารถสร้างได้ในอวกาศ ทางเดียวที่จะไปถึงที่นั่นได้คือการบินไปอย่างช้า ๆ ” หงเหลียนพูด
“โถงศักดิ์สิทธิ์ต้องมีวิธีการฝึกฝนของนางฟ้าเฮายู่อยู่แน่ แม้ว่าจะมีเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้ แต่ถ้าให้มันกับคนในตระกูลที่เป็นหญิงที่มีพรสวรรค์เมื่อพวกเราเอามันมาได้ ความสำเร็จของคนผู้นั้นก็จะมีได้อย่างไม่จำกัด” ตาของจอมยุทธจากตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและเซียนราชาขององค์กรต่าง ๆ ก็ลุกโชนขึ้นมา ในขณะที่พวกเขาจ้องไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยความโลภอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าจะไม่สนใจเรื่องวัตถุดิบที่มีค่าที่ใช้ในการสร้างโถงศักดิ์สิทธิ์ แต่แค่วิธีการฝึกฝนก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คนจากตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบน้ำลายไหล
นี่เป็นวิธีการฝึกฝนที่เหนือกว่าระดับเซียน แม้แต่ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบที่มีมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาลยังไม่มีวิธีการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้เลย
ในตอนนี้เอง คนของตระกูลผู้พิทักษ์ก็เริ่มเคลื่อนไหวก่อนใครอื่น พวกเขาบินไปทางโถงศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับเซียนผู้คุมกฎบางคน มีเพียงชายวัยกลางคนจากอารามจิตพิสุทธิ์เท่านั้นที่ยังคงนิ่งอยู่
คนจากตระกูลผู้พิทักษ์ก็เหมือนพลุ ทันทีที่พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหว เซียนราชาจากตระกูลโบราณและจากองค์กรอื่น ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน พวกเขาเข้าไปใกล้โถงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว
เซียนผู้คุมกฎรอบ ๆ ทั้งหมดลังเล ในขณะที่พวกเขาลอยอยู่กลางอากาศ ต่อหน้าเซียนราชา พวกเขาก็ไม่มีอะไรที่จะเปรียบได้ แม้ว่าพวกเขาจะไปเจอสมบัติอยู่ตรงหน้า พวกเขาก็คงไม่สามารถเอาชนะเซียนราชาเพื่อเอาสมบัตินั้นมาเป็นของตัวเองได้ กลับกัน พวกเขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดที่กลัวความตาย หลังจากที่ลังเลสักพัก บางคนก็ทำตามที่ใจต้องการ ในขณะที่เขาบินไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์แม้ว่าจะมีอันตรายอยู่ข้างหน้าก็ตาม อย่างไรก็ตามการกระทำของเขาก็โน้มน้าวคนอื่นไปด้วย ซึ่งทำให้เซียนผู้คุมกฎมากกว่าเดิมบินไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยเช่นกัน แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 บางคนและเซียนสวรรค์ก็ยังตามหลังพวกเขาไป
“กวานหยูไค่ หยางหลิง มันอันตรายด้านใน พวกเจ้าทั้งสองควรจะรออยู่ที่ด้านนอกและไม่เข้าไปยุ่ง” เจี้ยนเฉินพูดกับทั้งสอง ก่อนที่จะบินไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับโหยวเยว่ที่อยู่ในแขนของเขา เฮยยู่และหงเหลียนก็ตามไปติด ๆ
“เห้อ ดูเหมือนความรุนแรงกำลังจะเกิดขึ้น ยังไงก็เถอะ นายใหม่ของโถงศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ดูเหมือนจะถูกกำหนดไว้แล้วล่ะ” เซียนราชาของอารามจิตพิสุทธิ์พูดออกมา เขามองไปที่ใกล้ ๆ เจี้ยนเฉิน เมื่อเขาเห็นเฮยยู่อยู่ด้านหลัง ความกลัวก็ปรากฏขึ้นมาในตาของเขา หลังจากนั้น เขาก็เปิดประตูมิติแล้วจากไป เขาไม่มีความคิดที่จะยุ่งกับเรื่องโถงศักดิ์สิทธิ์นี้
หัวหน้าตระกูลทั้งแปดลอยตัวใบหน้าซีดอยู่กลางอากาศ พวกเขาจ้องไปที่คนที่บินไปทางโถงศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงความเสียดายออกมา
“พวกเราได้รับบาดเจ็บหนัก พวกเราไม่มีความสามารถที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องโถงศักดิ์สิทธิ์ได้เลยแม้แต่น้อย” เซียนผู้คุมกฎของตระกูลทั้งแปดพูดออกมา ก่อนที่จะจากไปก่อนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียดาย
เซียนผู้คุมกฎคนอื่น ๆ ทั้งหมดลอบถอนใจ จากนั้น พวกเขาก็จากไปอย่างเสียใจเช่นเดียวกัน พวกเขากลับไปที่เมืองแห่งเทพเจ้า
เจี้ยนเฉินมาถึงที่ทางเข้าหลักของโถงศักดิ์สิทธิ์พร้อมทั้งฝูงชน โหยวเยว่ยังคงอยู่ในแขนของเขา เขาซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคน
ปัง! ปัง! ปัง…
เสียงอื้ออึงดังออกมาจากด้านหน้า คนของตระกูลผู้พิทักษ์ที่อยู่ด้านหน้าสุดได้เปิดแระตูที่ปิดอยู่ของโถงศักดิ์สิทธิ์ออก ประตูหินหนักเปิดออกอย่างช้า ๆ พร้อมกับเสียงอื้ออึงตามมาหลายเสียง ทันใดนั้นเอง สายลมเย็นก็พุ่งออกมาอย่างรุนแรงจากด้านใน มันหนาวเย็นไปถึงกระดูก ซึ่งสั่นไหวทุกคนที่อยู่ตรงนี้
“นี่คือพลังแสงจันทร์ ! ” เซียนราชาในกลุ่มคนของตระกูลผู้พิทักษ์ตะโกนออกมา
“พลังแสงจันทร์ไม่ใช่พลังเซียน ดังนั้นมันจึงมีลักษณะเฉพาะตัวที่แปลก ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนางฟ้าเฮายู่ถึงได้เป็นเซียนจักรพรรดิที่ทรงพลังที่สุดในตอนนั้น มันอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่เฉพาะตัวของพลังแสงจันทร์นี้มากกว่าที่จะเป็นความแข็งแกร่งของนางเอง” บางคนออกความเห็นออกมา
ทุกคนก้าวเข้าไปบนพื้นที่ทำมาจากผลึกจากดวงจันทร์ ในขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปที่ด้านในอย่างช้า ๆ หลังจากที่พวกเขาผ่านทางเข้าหลักไปแล้ว พื้นที่กว้างใหญ่มากก็ปรากฏขึ้นด้านหน้าพวกเขา ที่กึ่งกลางของพื้นที่มีแผ่นศิลาหินสูงร้อยเมตรตั้งอยู่ มีคำสลักอยู่อย่างชัดเจนที่มัน
“เซียนจักรพรรดิและเซียนราชาห้ามเข้าโถงศักดิ์สิทธิ์ ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าต้องยอมรับผลที่ตามมา ! “
เซียนราชาทั้งหมดทำท่าทางน่ากลัวออกมาเมื่อพวกเขาเห็นข้อความธรรมดานี้ แม้ว่าคำเตือนที่อยู่บนศิลาจะดูเต็มไปด้วยความมั่นใจและความเย่อหยิ่งที่กล้าดูถูกแม้กระทั่งเซียนจักรพรรดิ แต่ก็ไม่มีเซียนราชาคนไหนเพิกเฉย เจ้าของของโถงศักดิ์สิทธิ์คือนางฟ้าเฮายู่ นางเป็นเซียนจักรพรรดิในขั้นสูงสุด และเป็นคนที่อีกนิดเดียวก็จะก้าวผ่านเซียนจักรพรรดิไปได้
ในอีกมุมหนึ่ง เซียนผู้คุมกฎและเซียนสวรรค์ทั้งหมดก็ตื่นเต้น พวกเขาทั้งหมดยินดีในขณะที่พวกเขาขอบคุณสวรรค์ในใจกับความยุติธรรมนี้
“ข้าไม่คิดเลยว่าโถงศักดิ์สิทธิ์จะยอมแค่ให้คนที่ต่ำกว่าเซียนราชาเข้าไปและห้ามไม่ให้เซียนราชาและเซียนจักรพรรดิเข้าไป นางฟ้าเฮายู่ต้องวางกับดักไว้เพื่อจัดการกับเซียนราชาและเซียนจักรพรรดิด้านในแน่” เซียนราชาของตระกูลโบราณพูดออกมาพร้อมท่าทางหวาดกลัว
“หืม มันก็ผ่านยุคของนางฟ้าเฮายู่มาหลายหมื่นปีแล้ว กับดักต้องอ่อนลงกว่าแต่ก่อนแน่ พวกเราต้องกลัวทั้งที่มีคนมากขนาดนี้ด้วยหรือ ? ” ชายชราในชุดสีฟ้าตะโกนออกมาอย่างดังและกล้าหาญ
“นางฟ้าเฮายู่อาจจะเป็นเซียนจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดและมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวในตอนนั้น แต่มันก็ไม่ตลกไปหน่อยหรือที่พวกเราจะกลัวแค่ประโยคที่สลักไว้บนศิลานั่น ? ” ชายวัยกลางคนอีกคนเพิ่มเติม เขาแสดงท่าทางไม่ยอมแพ้ออกมา