ตอนที่ 553: พบปะคนรู้จักอีกครั้ง
ขอรับ หัวหน้า ไคเอ้อตอบก่อนถอยทัพกลับเข้าไปในลาน สายตาของทหารกลุ่มใหญ่อาจจะเห็นผ่านส่วนต่าง ๆ ของกำแพงที่หักลง เป็นพวกเขาที่เดินเข้ามาในบ้านอย่างช้า ๆ
ไคเอ้อ ฉิงเฟิง โม่เทียน และชาร์คัส ทั้งหมดยื่นอยู่ที่ประตูกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาในความสันโดษเงียบ อย่างหนึ่งคือมีท่าทีดุดันแต่ปราศจากความกังวลให้เห็น
ไม่ไกลเกินไป มีใบหน้าที่ทรุดโทรมของหยุนหลีซึ่งได้สังเกตเห็นการมาถึงของกำลังเสริมจากอาณาจักรวายุคราม ดวงตาที่แสดงความสุขของเขา หยุนหลีได้เริ่มคิดช่วยเหลือตัวเอง อย่างไรก็ตาม ด้วยผ้าที่ยังคงติดอยู่ในปากของเขา ทำให้เขาพูดไม่ได้ มิฉะนั้นเขาคงจะตะโกนออกเสียงดังแล้ว
ทหาร 500 คนจากเมืองเทียนหลงมาหยุดใกล้ลานของครอบครัวไค ในขณะที่ชายวัยกลางคน 3 คนมาข้างหน้า สามคนนี้ถูกเรียกว่า คาตาต้า คาตาเฟยและหยุนหลง ที่ได้รับคำสั่งจากเจ้าเมืองเทียนหลงให้ไปช่วยเหลือ
เห็นร่างที่ถูกมัดตรึงของหยุนหลี ดวงตาของหยุนหลงเป็นประกายด้วยความโกรธ “บังอาจ กลุ่มทหารรับจ้างกระทำต่อเจ้าเมืองในลักษณะที่ไม่อาจยกโทษได้เช่นนี้ได้อย่างไร ?”
คาตาต้าถอนหายใจยาว “ไม่คิดเลยว่า กลุ่มทหารรับจ้างที่จับเจ้าเมืองมา แท้จริงจะเป็นกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนี่เอง ที่มันทำให้สถานการณ์ค่อนข้างยุ่งยาก” หยุนหลง คาตาต้า ใช้เวลาอยู่นาน ก่อนจะกล่าว “พี่หยุนหลง ให้เรารออีกหน่อย ก่อนให้ข้อสรุป สองปีที่ผ่านมา ข้าเคยเจอหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีและเรียนรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเขา เขาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป โปรดอนุญาตให้คาตาเฟยและข้าจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ หัวหน้าเจี้ยนเฉินไม่ได้เป็นคนหุนหันพลันแล่นและประมาท ถ้าเขาปฏิบัติต่อเจ้าเมืองเช่นนี้ แน่นอนมันย่อมมีเหตุผล
ดี ข้าจะปล่อยให้เจ้าจัดการ ข้าหวังว่าหัวหน้าจะเป็นอย่างที่เจ้าพูด หยุนหลงกล่าวออกด้วยน้ำเสียงนิ่ง
ด้วยรอยยิ้ม คาตาต้าใช้เวลาลงจากสัตว์อสูรของเขาและก้าวเข้าไปในลาน รอยยิ้มกับทุกคน เขากล่าว ข้าคงต้องรบกวนทุกคน กรุณาแจ้งหัวหน้าเจี้ยนเฉิน ข้า คาตาต้า มาเยี่ยมเยือนเจ้า คาตาต้านั้นไม่ได้มีท่าทีที่โกรธเลย แต่ค่อนข้างที่จะมอบรอยยิ้มให้กับทุกคน
ฮ่าฮ่า มันเป็นเวลาถึง 2 ปี ล่าสุดที่ได้พบคาตาต้า เจ้ายังไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย” เป็นเพียงไคเอ้อที่ตอบ เสียงเดียวอาจจะได้ยินจากด้านหลังเขา เป็นเจี้ยนเฉินในชุดคลุมสีขาวจากห้องของเขา ด้านหลังเขา คือ หมิงตง ตู่กูเฟิง ศิษย์พี่อัน หยุนเจิ้ง
ตระหนักถึงเจี้ยนเฉิน คาตาเฟยยิ้มออกมา ก่อนที่จะป้องมือขึ้นในการอวยพร ใช่ ข้ายังไม่เปลี่ยนแปลงเลย แต่เจี้ยนเฉิน เจ้ากลับเปลี่ยนไม่น้อย ข้าแทบไม่รู้จักเจ้าในตอนนี้ ตามที่เขาพูด ดวงตาของคาตาต้ากวาดผ่านเจี้ยนเฉิน แม้กระทั่งตัวเขายังไม่อาจที่จะบอกระดับความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน หมิงตง ศิษย์พี่อัน หรือหยุนเจิ้ง พวกเขาดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เมื่อคาตาต้าเห็นพวกเขาทั้งสี่ ดวงตาของพวกเขาก็สั่นไหวไปด้วยความสับสน
คาตาต้าใช้วิธีการยืนยันเพียงมองรอบกายหมิงตงและคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ในระดับเซียนปฐพี แต่เขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าเขาซึ่งเป็นเซียนปฐพีด้วยกัน
ผลลัพธ์เช่นนั้น มันสร้างความตกตะลึงเป็นอย่างมาก สองปีที่ผ่านมา กลุ่มทหารรับจ้างอัคนียังแข็งแกร่งไม่เพียงพอด้วยซ้ำที่จะเทียบเคียงเขาได้ นอกเหนือจากเจี้ยนเฉิน คนอื่นต่างก็ไม่อาจที่จะประจักษ์ชัด แต่ทว่า อย่างไรก็ตาม ภายในเวลาเพียง 2 ปี เซียนปฐพีถึง 4 คนได้ปรากฏตัวขึ้น ณ ที่แห่งนี้ นี่มันเป็นข่าวที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ฮ่าฮ่า หัวหน้าเจี้ยนเฉิน พี่น้องเหล่านี้ ทั้งสี่ ต้องเป็นสหายของเจ้า คาตาต้าหัวเราะออกมา
รับรู้ว่าคาตาต้าใช้เวลาที่จะพยายามแยกแยะความสัมพันธ์ระหว่างสี่คนหลังเขาและตัวเอง เจี้ยนเฉินยิ้ม พวกเขาเป็นสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของข้า
คาตาต้าสามารถเพียงเม้มปากตัวเองด้วยความเจ็บปวดอย่างเงียบ ๆ หากกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมีเพียงแค่เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาคงสามารถควบคุมสถานการณ์โดยง่าย นอกจากนี้เดิมทีเขาคิดว่ามันจะเป็นงานที่ง่าย แต่ขณะนี้มันตรงข้ามกันนัก ด้วยการครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ คาตาต้าและคนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกว่า พวกเขามีจำนวนไม่เพียงพอสำหรับงานนี้
บนใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของคาตาต้ากลับถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ หัวหน้าเจี้ยนเฉิน ข้าไม่คิดว่า กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะเติบโตมากใน 2 ปี ข้านั้นประทับใจอย่างแท้จริง
เจี้ยนเฉินยิ้มตอบ มีความปรารถนาที่จะไม่เลี่ยงปัญหากับคาตาต้า เขากล่าว “คาตาต้า เจ้าคงต้องมาเมืองเวค เพื่อช่วยหยุนหลี ข้ากล่าวถูกต้องหรือไม่ ? “
ยามเมื่อเห็นว่า เจี้ยนเฉินเริ่มที่จะกล่าวขึ้น คาตาต้าใช้เวลาเตรียมตัวครู่หนึ่ง เขาคิด ก่อนจะพยักหน้าลงอย่างหนัก ถูกต้อง เรามาที่นี่ เมืองเวค ในนามของเจ้าเมืองเทียนหลง
ใบหน้าของคาตาต้าเคร่งขรึมขึ้นมา ขณะที่เขายังคงกล่าวกับเจี้ยนเฉินอย่างตรงไปตรงมา “เจี้ยนเฉิน ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นระหว่างเจ้ากับเจ้าเมืองเวค ? แต่ทว่าการกระทำเช่นนั้นต่อเจ้าเมืองนั้น ทำให้เจ้าเมืองเทียนหลงไม่พอใจ”
เวลาที่ผ่านมา กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของข้าได้รับลูกสัตว์อสูรระดับ 5 แต่ทว่ากลับมีผู้ร้ายคนหนึ่งลอบเข้ามาขโมยและฆ่าผู้อาวุโสของกลุ่มทหารรับจ้างของข้า และมันน่าเสียดายนักที่ข้าพบว่า ผู้ร้ายลึกลับแท้ที่จริงแล้วเป็นเจ้าเมืองหยุนหลี เจี้ยนเฉินกล่าวอธิบายด้วยน้ำเสียงเย็นชา
คาตาต้าใช้เวลาคิด เงียบลงครู่หนึ่ง ก่อนจะพูด เจี้ยนเฉิน แม้ว่าสิ่งที่เจ้าพูดจะเป็นความจริง ทว่าเจ้าเมืองเวคนั้นก็เป็นหนึ่งในขุนนางของอาณาจักรวายุคราม เจ้าไม่สามารถกระทำกับเขาในลักษณะเช่นนี้ได้ แม้ว่าเขาจะเป็นคนร้ายจริง เจ้าควรให้อาณาจักรวายุครามจัดการกับเขา ทำไมไม่ปล่อยเขาตอนนี้ ?
เจี้ยนเฉินส่ายศีรษะของเขาโดยไม่ลังเล คาตาต้า ข้ารู้ว่าเจ้ามาเพื่อช่วยหยุนหลี แต่ทว่าการตัดสินใจของข้านั้นมันไม่มีใครที่จะสามารถเปลี่ยนใจได้ มันจะดีที่สุดสำหรับเจ้าที่จะกลับไป
เจี้ยนเฉิน เจ้าคิดถึงผลกระทบที่จะตามมาหรือไม่ ? คาตาต้ากล่าวขึ้น
ผลกระทบอะไรข้าไม่ได้คำนึงถึงมัน อย่างไรก็ตาม ข้าจะต้องจัดการกับเขาให้ถึงที่สุด เจี้ยนเฉินตอบกลับ
กับท่าทีของเจี้ยนเฉิน คาตาต้าได้แต่ลอบถอนหายใจอยู่ในใจของเขา ท่าทีของเจี้ยนเฉินนั้นหมายถึงว่ามันไม่มีจุดใดที่จะสามารถโน้มน้าวเขาได้
หยุนหลงก้าวไปข้างหน้าพลางกล่าวว่า “กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีปล่อยเจ้าเมืองทันที หาไม่แล้ว เจ้าคงจะต้องไม่ยินดีกับผลที่จะตามมาในอนาคต” หยุนหลงไม่คิดเสียเวลาเจรจากับเจี้ยนเฉินหรือจะอ่อนโยนอย่างคาตาต้า แม้กระทั่งเซียนปฐพี 4 คน เขาก็ไม่มีความกลัวใด ๆ สำหรับพวกเขาทั้งหมด กับเมืองเทียนหลงที่สนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง เขาเป็นตัวแทนของอาณาจักรวายุคราม ส่วนอีกฝั่งเป็นแค่กลุ่มทหารรับจ้างเล็ก ๆ เท่านั้น
คำกล่าวของหยุนหลงทำให้คิ้วของเจี้ยนเฉินขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ เจี้ยนเฉินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “อะไรนะ ? ดูเหมือนจะต้องดูว่ากลุ่มทหารรับจ้างของข้าจะสามารถจัดการกับผลที่ตามมาเช่นนี้ได้หรือไม่”
หยุนหลงมีร่องรอยเย้ยหยัน “หากเจ้าตายก็อย่าได้โทษข้า อนุญาตให้ข้าได้สั่งสอนกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของเจ้า” กับหยุนหลง รูปดาบสีเงินที่ส่องประกายเกิดขึ้นในมือของเขา เขาส่งลำแสงสีขาวไปทางเจี้ยนเฉิน นอกจากนั้นมันกลายเป็นเงาเลือนรางไปทางเจี้ยนเฉิน
เห็นแสงสีขาว เจี้ยนเฉินประหลาดใจเล็กน้อย ดูเหมือนเขาจะเป็นเซียนปฐพีธาตุแสง
นั่นเป็นสิ่งที่ดี ในเมื่อเจ้าเป็นเซียนธาตุแสง อนุญาตให้ข้าดูสิ่งที่เจ้ามี หลังจากเจี้ยนเฉินพูด หมิงตงทะยานออก กลายเป็นแสงสีฟ้าที่ขยายไปทางหยุนหลง ปัง
เมื่อประกายแสงสีขาวนวลของพลังเซียนธาตุแสง เข้ามาสัมผัสกับพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ เสียงระเบิดอาจจะได้ยิน เป็นระลอกของพลังงานที่เพิ่มขึ้นและแตกออกเหมือนน้ำเข้าไปในพื้นที่โดยรอบ พื้นหินอ่อนเริ่มแตกหัก ปรากฏรอยแตกคล้ายใยแมงมุมอีกครั้ง
ด้วยการหยุดมันเพียงครั้งเดียว หมิงตงยืนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่หยุนหลงนั้นต้องถอยกลับด้วยท่าทีไม่อาจเชื่อและตกตะลึงบนใบหน้าของเขา จ้องมองที่หมิงตง
“เจ้าได้มาถึงวัฏจักรที่ 6 ของเซียนปฐพี” หยุนหลงกล่าวอย่างไม่อาจเชื่อ
คำพูดของเขา เป็นเหตุให้คาตาต้า หยุนหลง และคาตาเฟยตกตะลึงเป็นอย่างมาก เซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าเซียนปฐพีทั้งหมด พวกเขาใช้เพียงอีกขั้นเดียวก็จะกลายเป็นเซียนสวรรค์ ขณะที่ด้วยความแข็งแกร่งของคาตาต้า หยุนหลง และคาตาเฟย ก็ยังไม่อาจที่จะเทียบเคียงกับกับบุคคลเช่นนี้ได้
อะ-อะไรนะ เซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 นั่นเป็นไปไม่ได้ หยุนหลง ได้แต่ตกตะลึง เมื่อเทียบกับเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 เซียนปฐพีวัฏจักรที่ 2 นั้นไม่อาจเทียบเคียงได้
หัวเราะออกมา หมิงตงตอบ “แล้วยังจะพยายามบอกอีกหรือไม่ว่า กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของเราจะจัดการกับผลที่ตามมาเช่นความแข็งแกร่งของเจ้าอย่างไร หืม เจ้าช่างยโสโอหังจริง ๆ”
ใบหน้าของหยุนหลงเป็นขาวซีดสลับเขียว ก่อนหน้านี้ เขาได้ดูแคลนกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะมีเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6
Related