ตอนที่ 762: การเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์อสูร
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งห้าถูกกระแทกลอยถอยหลังไปพร้อมกับที่พวกเขากระอักเลือดออกมาจากการโจมตีของเจี้ยนเฉิน ในขณะที่เมฆซึ่งทำให้เขาลอยอยู่บนอากาศก็ได้หายไป มันทำให้พวกเขาลอยโค้งตกลงไปเป็นทางกว่าห้าสิบเมตร และกระแทกที่พื้นอย่างแรง
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งห้าไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือนกับนักสู้ การตกลงมาสูงกว่าสามสิบเมตรนั้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ตายแต่กระดูกของพวกเขาเกือบทั้งหมดก็หัก ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้พวกเขาไม่มีกำลังที่จะพูด และใบหน้าที่ซีดของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงจากการตกลงมา มันเจ็บเกินทน ในตลอดชีวิตพวกเขาไม่เคยได้รับความเจ็บปวดแบบนี้มาก่อน
เจียนฉินจ้องอย่างเลือดเย็นไปที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งห้าที่นอนเจ็บปวดอย่างมากอยู่ที่พื้น แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกสงสารเลย ด้วยความคิดของเขา กระบี่พลังเซียนธาตุแสงทั้งห้าก็ได้มาควบรวมอยู่ในมือของเขา ด้วยการเหวี่ยงเพียงครั้งเดียว กระบี่ทั้งห้าก็หลายเป็นลำแสงสีขาวและพุ่งไปทางคนทั้งห้านั้นด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
ในครั้งนี้ คนทั้งห้านั้นไม่มีกำลังที่จะต่อต้านได้แล้ว พวกเขาได้แต่มองกระบี่ทั้งห้าที่พุ่งมาที่หน้าอกของพวกเขาอย่างทำอะไรไม่ได้ ในตอนนั้นเอง พวกเขาไม่เคยรู้สึกถึงความตายที่ใกล้เคียวขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในวัตถุเซียนและไม่สามารถตายได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเจอมันกับตัวเองแบบนี้ พวกเขาก็ยังคงรู้สึกกลัวมากที่จะต้องตาย
กระบี่พลังเซียนธาตุแสงพุ่งไปเหมือนมีดร้อน ๆ พุ่งผ่านเนย มันทะลุไปที่หน้าอกของคนทั้งห้านั้นอย่างไม่ปราณี อย่างไรก็ตาม ในตอนก่อนที่ปลายกระบี่ที่แหลมคนนั้นกำลังจะทะลุตัวของพวกเขาไป เสาแสงขนาดใหญ่ห้าเสาก็ได้พุ่งลงมาจากท้องฟ้า และคลุมคนทั้งห้าไว้ก่อนที่จะหายไปพร้อมพร้อมกับพวกนั้น ในขณะที่กระบี่ที่เจี้ยนเฉินควบคุมอยู่นั้นได้ไปพุ่งชนเข้ากับพลังงานของเสาแสงนั่นในตอนที่เสานั้นปรากฏขึ้นมาพอดี
ในพริบตาเดียว คนทั้งห้านั้นได้หายไปตรงที่ขอบเหวแห่งความตาย สิ่งที่เหลือทิ้งไว้มีเพียงจุดแสงขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ 5 อันที่ลอยอยู่กลางอากาศ
“วัตถุจิตวิญญาณนี้แข็งแกร่งมาก เขาสามารถช่วยชีวิตของคนเหล่านั้นเอาไว้ได้ในวินาทีแห่งความเป็นความตาย และเวลามันช่างเหมาะเจาะมาก ข้าสงสัยจริงจริงว่าวัตถุจิตวิญญาณนั้นแข็งแกร่งขนาดไหนในมิตินี้” เจี้ยนเฉินคิดในขณะที่เขามองไปที่ที่คนทั้งห้านั้นได้หายไป ความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุจิตวิญญาณของเขาได้เพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็มาถึงที่ข้างหน้าจุดแสงนั้นที่ลอยอยู่กลางอากาศ เขาดึงจี้หยกโบราณออกมาจากอกเสื้อของเขาและดูดจุดแสงนั้นทั้งหมด พวกมันถูกเรียกว่าคะแนน และมันเหมือนกับเหรียญที่ได้รับจากการฆ่าคู่เข้าแข่งขันคนอื่นในการชุมนุมทหารรับจ้าง สิ่งที่แตกต่างกันเพียงอย่างเดียวก็คือเหรียญนั่นจับต้องได้ ในขณะที่จุดแสงนั้นเป็นสิ่งที่บอบบางที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยวัตถุเซียน ทุก ๆ คนจะเริ่มด้วย 1 คะแนน และมันจะเพิ่มขึ้นได้โดยการฆ่าคนอื่น ในขณะที่จี้หยกโบราณนั้นใช้สำหรับเก็บคะแนน
ในพริบตาเดียว ครึ่งวันได้ผ่านไป ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินได้เดินทางมามากกว่าหลายร้อยกิโลเมตรแล้วด้วยเมฆของเขาอย่างปกติและพบกับร่องรอยการต่อสู้หลายที่ มีเลือดค่อนข้างมากในบางที่ บ่งบอกถึงว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงได้มาเจอกันและต่อสู้กันในที่เหล่านี้
ภายในครึ่งวัน เจี้ยนเฉินยังพบกับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงอีกบางกลุ่ม หนึ่งในนั้นมี 7 คน เขาพบแม้แต่คนที่เดินทางคนเดียวเหมือนเขาอีก 2 คน สุดท้ายคะแนนของเจี้ยนเฉินที่มีอยู่ 8 คะแนนก็เพิ่มมากขึ้นเป็นมากกว่า 40 คะแนน
เจี้ยนเฉินบินไปบนเมฆที่ควบรวมมาจากพลังเซียนธาตุแสง เขาขยายขอบเขตการรับรู้ของเขาไปถึงขีดสุด ครอบคลุมกว่ายี่สิบกิโลเมตรเพื่อหาคู่เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ
ในตอนนั้นเอง เจี้ยนเฉินได้หยุดเล็กน้อย เขาจ้องเขม็งไปในที่ไกลไกล คิ้วของเขาขมวด
เขามองเห็นว่าห่างออกไป 30 กิโลเมตรนั้น มีเมฆดำลอยอยู่ไกลไกล ข้างหน้าเมฆดำ มีเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงหลายคนบนเมฆขาวที่กำลังแสดงท่าทีหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดและกำลังบินหนีเพื่อเอาชีวิตรอดอยู่ เมฆดำที่กำลังไล่ตามด้านหลังของพวกเขานั้นไม่ใช่เมฆดำซะทีเดียว แต่มันเป็นเหมือนฝูงสัตว์สีดำ สัตว์อสูรที่บินได้ที่มีจำนวนรวมมากมายจนยากที่เอาชนะได้
“สัตว์อสูรอีการะดับ 4 แบบนั้นมันไม่เยอะไปหน่อยหรือ ? ” เจี้ยนเฉินมองไปที่ฝูงสัตว์อสูรนั่นและความตกตะลึงก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา เขาฆ่าสัตว์อสูรระดับ 4 มาก็มากในชีวิตเขา แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับพวกมันในจำนวนที่มากมายขนาดนี้
ในตอนนี้ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ถูกไล่ตามมาจากสัตว์อสูรอีกาได้พบเจี้ยนเฉินเข้า พวกเขาเปลี่ยนทิศทางและมุ่งหน้าไปที่เจี้ยนเฉินเพื่อต้องการที่จะลากเขาเข้าไปเกี่ยวด้วย
เมื่อเห็นดังนั้น มุมปากของเจี้ยนเฉินก็แสดงท่าทีเย้ยหยันลาง ๆ เขาไม่ได้ล่าถอยแต่เขากลับมุ่งไปข้างหน้าแทน เมฆใต้เท้าของเขาบินด้วยความเร็วคงที่ไปที่ฝูงอีกานั่น
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ถูกไล่มาโดยอีกาทั้งหมดแสดงท่าทียินดีเมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งที่เจี้ยนเฉินกำลังจะทำ
“คนผู้นี้ไม่รู้ซะแล้วว่าอีกาพวกนี้มันแข็งแกร่งเพียงใด ไม่เพียงแต่เขาจะไม่หนีเท่านั้น แต่เขายังกำลังบินมาทางพวกเราอีก เขาอยากตายอย่างนั้นหรือ ? “
“เจ้าโง่ นี่อาจจะคิดว่าอีกาพวกนี้เป็นระดับ 1 และง่ายที่จะกำจัด แต่ถึงแม้แต่มันจะเป็นระดับ 1 แต่มันก็มีถึงหลายพันตัวหรืออาจจะหลายหมื่นเลยก็ได้ มันไม่ง่ายที่จะจัดการมันได้เลย นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องจริงที่ว่าพวกมันทั้งหมดเป็นระดับ 4 และบางตัวในพวกนั้นเป็นระดับ 5 อีกด้วย”
“แม้แต่คารา ลี่เว่ยผู้ที่เป็นที่หนึ่งท่ามกลางเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ถ้าต้องเจอกับฝูงอีกาที่เยอะมากมายถึงขนาดนี้ นางคงมิรอดเป็นแน่ ทำไมคนผู้นี้ถึงได้มั่นใจนักว่าเขานั้นแข็งแกร่งกว่าคารา ลี่เว่ย ? “
“อะไรก็ช่างเถอะ เมื่อเขาไม่รู้ว่ามันอันตรายและบินเข้ามาแบบนี้ เราจะใช้เขาถ่วงเวลาพวกอีกาไว้ซักพัก จะได้มีเวลาให้พวกเราหนี”
“พวกเจ้าพูดถูกแล้ว ข้าหวังว่าคนผู้นี้คงจะไม่อ่อนแอคนเกินไปและทำให้พวกอีกาวุ่นวายอยู่กับเขาได้ซักพัก ดังนั้นเราจะได้มีเวลาในการตามหาเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงคนอื่น ๆ ด้วย เมื่อมีคนเพียงพอแล้ว บางทีเราอาจจะต่อต้านฝูงอีกานี้ได้”
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทุกคนเย้ยหยัน ในเวลาเดียวกันนี้ พวกเขาเริ่มที่จะรวบรวมพลังเพื่อเตรียมพร้อมที่จะพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงในเวลาที่อีกาข้างหลังไปสนใจคนผู้นั้น เหตุผลที่คนพวกนี้เตรียมการไว้ก่อนเพราะพวกเขามั่นใจว่าคนที่กำลังบินเข้ามานี้จะไม่สามารถถ่วงเวลาอีกาไว้ได้นานนัก
ในไม้ช้า เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงก็ได้อยู่ใกล้เจี้ยนเฉิน ในการที่จะโน้มน้าวเจี้ยนเฉิน คนผู้หนึ่งก็ตะโกนออกมาจากที่ไกลไกล “ท่านกรุณาช่วยพวกเราด้วย เราจะร่วมมือกันด้วยกำลังทั้งหมดที่พวกเรามีเพื่อฆ่าอีกาพวกนี้” ในขณะที่เขากำลังพูด พลังเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ทรงพลังก็ได้มารวมกันตรงหน้าของเขา เขาดูเหมือนที่จะเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปสู้ตายกับพวกอีกานั่น
เจี้ยนเฉินไม่ได้มองไปแม้แต่ที่พวกเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงนั่นและมุ่งความสนใจไปที่กลุ่มดำดำของอีกาที่ด้านหลังของพวกเขา พลังเซียนธาตุแสงรอบ ๆ ได้เริ่มที่จะมารวมตัวรอบ ๆ เจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินไม่สนใจในอันตรายและต้องการที่จะไปสู้กับพวกอีกา เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทุกคนก็เย้ยหยันในใจ ในขณะที่พวกเขาบินผ่านเจี้ยนเฉินไป พลังเซียนธาตุแสงที่พวกเขาได้รวมรวมไว้ก็ย้ายมาอยู่ที่รอบ ๆ เท้าของเขา และเพิ่มความเร็วในการบินของพวกเขาให้สูงขึ้นเพื่อที่จะพุ่งผ่านเจี้ยนเฉินไปในพริบตาและหนีไปให้ไกล
เจี้ยนเฉินหลับตาลงอย่างช้า ๆ และเริ่มที่จะใส่พลังของเขาลงในพลังเซียนธาตุแสงที่เขาได้รวบรวมมา มันเหมือนกับว่าเขาไม่เห็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงพวกนั้นที่กำลังพุ่งผ่านเขาไปเหมือนกระแสลมแรงเลย
ทันใดนั้นเอง พลังเซียนธาตุแสงที่เคยสงบนิ่งรอบ ๆ ตัวเขาก็ดูรุนแรงขึ้น เส้นแสงที่มองเห็นได้เริ่มพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง ทั้งหมดไหลมารวมอยู่ข้างหน้าเจี้ยนเฉิน ในตอนนี้เอง พลังเซียนธาตุแสงในรัศมี 5 กิโลเมตรก็เริ่มบ้าคลั่งเหมือนพายุ และสร้างพายุกรรโชกแรงไปรอบ ๆ
แม้ว่าฝูงอีกาจะไม่ได้แข็งแกร่งมากและเป็นเพียงระดับ 4 เท่านั้น แต่พวกมันก็มีจำนานมากเกินไป ดังนั้นแม้แต่เจี้ยนเฉินยังจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังในการเผชิญหน้ากับพวกมัน
เมื่อรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของพลังเซียนธาตุแสงรอบ ๆ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่กำลังหนีอยู่ทั้งหมดก็ถึงกับนิ่งอึ้ง ความตกตะลึงเกิดขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหยุด พวกเขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความประหลาดใจจากที่ซึ่งไกลออกไปหลายกิโลเมตรกลางอากาศ
“เขาเคลื่อนย้ายพลังเซียนธาตุแสงในรัศมี 5 กิโลเมตรได้ด้วยตัวของเขาเองเท่านั้น ! มันเป็นไปได้อย่างไรกัน….”
“ความเร็วในการรวบรวมพลังเซียนธาตุแสงนั่นเร็วเกินไป มันไม่ใช่อะไรที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 จะทำได้ บางทีเขาอาจจะเป็นระดับ 7 หรือเปล่า ? “
“คนผู้นั้นเป็นใครกันแน่ ? เขาแข็งแกร่งจริง ๆ แม้แต่คารา ลี่เว่ยก็อาจจะยังไม่เยี่ยมยอดเท่านี้เลย”
“แม้แต่ความเร็วของคารา ลี่เว่ยในการรวบรวมพลังเซียนธาตุแสงยังไม่ถึงระดับนี้เลย”
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงร้องออกมาอย่างประหลาดใจในที่ไกล ๆ ตอนนี้สายตาที่พวกเขามองเจี้ยนเฉินได้เปลี่ยนไปอย่างมาก
ฝูงอีกาอยู่ห่างน้อยกว่าสามร้อยเมตรจากเจี้ยนเฉินแล้วตอนนี้ พวกมันบินมาทางเขาและกำลังจะถาโถมเข้าไปที่เขา
ในเวลาเดียวกัน บอลพลังเซียนธาตุแสงอันทรงพลังได้มารวมตัวที่รอบ ๆ ตัวของเขา มันเปล่งแสงสว่างจ้าสีขาวเหมือนกับดวงอาทิตย์ ทำให้ทุก ๆ อย่างรอบ ๆ ดูจางลงไปหมด
“ระเบิดธาตุแสง ! ” ด้วยน้ำเสียงเย็นชาภายในลูกบอลพลังเซียนธาตุแสง พลังเซียนธาตุแสงก็เริ่มกระจายออกและรวมเป็นเม็ดขนาดเท่าเม็ดถั่วเหลืองลอยอยู่รอบ ๆ เจี้ยนเฉิน แต่ละเม็ดนั้นมีพลังมหาศาลและแหลมคม
เมื่ออีกาอยู่ห่างจากเจี้ยนเฉิน 50 เมตร เจี้ยนเฉินก็ยื่นมือออกไปภายในกลุ่มเม็ดพลังเซียนธาตุแสงนั้น เม็ดพลังเหมือนลูกธนูที่แหลมคมนับไม่ถ้วนได้พุ่งไปที่อีกาเหมือนแสงสีขาวเล็ก ๆ หลาย ๆ เส้น
เมื่อเม็ดพลังปะทะกับอีกา มันก็ทะลุเป็นรูก่อนที่จะพุ่งต่อไปที่อีกาตัวข้างหลัง พลังของเม็ดพลังไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
แต่เม็ดพลังนั้นมีพลังมหาศาลที่สามารถจะทำอันตรายให้แก่เซียนสวรรค์และทำให้เซียนปฐพีได้รับบาดเจ็บหนักได้ แม้ว่าอีกาจะมีร่างกายของสัตว์อสูร แต่มันก็ยังเป็นเพียงระดับ 4 ต่อหน้าเม็ดพลังเล็ก ๆ แล้ว ขนของมันที่ปกติก็เป็นวัตถุที่แข็งแกร่งมากแม้แต่ต่อหน้านักสู้ ไม่สามารถที่จะป้องกันอะไรได้และบอบบางเหมือนเต้าหู้ในตอนนี้
เม็ดพลังนับไม่ถ้วนทะลุผ่านกลุ่มอีกาที่หนาแน่น พวกที่อยู่ข้างหน้าโดยพลังพุ่งผ่านทะลุเป็นรูตามร่างกายและร่วงลงจากท้องฟ้าในขณะที่พวกมันถูกหยุดอย่างกะทันหัน เลือดสีแดงสดและขนสีดำปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเหมือนประหนึ่งว่าฝนเลือดกำลังจะเริ่มตกลงมาจากฟ้า
Related