Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ – ตอนที่ 860: ชิ้นส่วนของแผนที่แผ่นดินทั้งแปด

ตอนที่ 860: ชิ้นส่วนของแผนที่แผ่นดินทั้งแปด

ทุก ๆ คนที่อยู่ในที่นี่เข้าใจ ข่าวเกี่ยวกับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลทำให้พวกเขาต้องกดดันอย่างมาก ถ้ามันเป็นไปได้ พวกเขาก็คงไม่อยากที่จะได้ยินมัน

“ตอนนี้เจี้ยนเฉินก็ได้เอาพยัคฆ์ปีกเทวะเข้าไปที่อาณาเขตของเผ่าพันธุ์ทะเลกับเขาแล้ว พวกเราทั้งหมดควรจะทำอย่างไรดี ? ” สมาชิกของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบพูดเสียงทุ้ม

คนหลายคนที่อยู่ที่นี่เริ่มเคร่งเครียด ด้วยความแข็งแกร่งของทวีปเทียนหยวนในตอนนี้ ดินแดนของเผ่าพันธุ์ทะเลนั้นเป็นเขตต้องห้ามอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าพวกเขาจะรวมกำลังกันทั้งหมดทวีป พวกเขาก็คงไม่สามารถที่จะกำจัดหนึ่งในสี่ยอดจอมยุทธที่มีระดับเหนือกว่าเซียนจักรพรรดิในครั้งโบราณกาลได้ แม้ว่าพวกเขาร่วมมือกับทวีปสัตว์เทวะ พวกเขาก็ยังคงไม่สามารถที่จะต่อต้านเผ่าพันธุ์ทะเลได้

ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบเป็นตระกูลเก่าแก่ที่เหลือรอดมาตั้งแต่ครั้งโบราณ พวกเขามีบันทึกจำนวนมากในตระกูล ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ถึงความแข็งแกร่งและความน่ากลัวของคนที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิขึ้นไปเป็นอย่างดี

“ข้ารู้สึกว่ามันทะแม่ง ๆ ในเมื่อเทพเจ้าแห่งท้องทะเลยังมีชีวิตอยู่ ทำไมพวกเราไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับนางเลยแม้เวลาจะผ่านมานานมากแล้ว มันยังทำให้คนอื่น ๆ เชื่อว่า นางได้ตายไปแล้วด้วยความชรา” ชายชราวิเคราะห์

หลังจากพูดจบ หลายคนก็มองเหม่อ ก่อนที่สายตาของพวกเขาจะเริ่มฉุกคิด

ชายวัยกลางคนกล่าว “ข้าคิดว่านั่นก็มีเหตุผล เมื่อเทพเจ้าแห่งท้องทะเลยังมีชีวิตอยู่ ทำไมนางถึงเก็บตัวอยู่อย่างนั้น ? มันไม่สมเหตุสมผลเลย บางทีนางอาจกำลังปิดบังบางอย่างอยู่หรือเปล่า ? หรือนางได้หลับไปแล้วเพิ่งตื่นขึ้นมาอย่างนั้นหรือ ? “

“เซียนราชามีอายุขัยได้ถึง 6,000 ปี ในขณะที่เซียนจักรพรรดิมีอายุขัยถึง 10,000 ปี ด้วยความแข็งแกร่งของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิขึ้นไปนั้น อายุขัยของนางก็น่าจะนานมากกว่า แต่ตอนนี้มันก็ผ่านมานานมากแล้วตั้งแต่ครั้งโบราณกาลนั่น ไม่ว่านางจะมีอายุยืนมากเท่าไร นางก็ไม่น่าจะยังมีชีวิตอยู่ได้”

“บางทีอาจจะเป็นสายพลังงานวิญญาณของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลหรือเปล่าที่เหลืออยู่ ? “

“ถ้ามันเป็นแค่สายพลังงานวิญญาณ ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว”

คนจากตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบทั้งหมดถกเถียงความคิดและมุมมองของพวกเขา

“เทพเจ้าแห่งท้องทะเลนี้ได้ช่วยเจี้ยนเฉินเอาไว้ตอนหน้าสิ่วหน้าขวาน ข้าคิดว่านางคงรู้ถึงการมีอยู่ของพยัคฆ์ปีกเทวะเช่นกันและจะเอามันไปอย่างแน่นอน ทวีปสัตว์เทวะต้องการมันด่วนมากกว่าพวกเรา ดังนั้นมันอาจจะสร้างความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์ทะเลและพวกสัตว์อสูรก็เป็นได้ ทำไมพวกเราไม่เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้และก็ให้พวกเขาทำลายกันให้ย่อยยับไปเองล่ะ ? ใครจะไปรู้ พวกเราอาจจะได้อะไรที่เหลือมาจากงานนี้ก็ได้”

“เจ้าพูดถูก และพวกเราสามารถใช้ทวีปสัตว์เทวะเพื่อพิสูจน์ถึงสถานการณ์ของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลได้ด้วยเช่นกัน”

..

ในตอนนี้ เสียงที่เต็มไปด้วยโทสะคำรามออกมาจากภูเขาบางลูกที่มีพลังธรรมชาติอยู่มากมาย “หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ นังตัวแสบ ข้าลุ่มหลงเจ้าอย่างมากและเจ้ากลับทำกับข้าแบบนี้ เจ้าหยุดข้าไม่ให้สังหารเจี้ยนเฉิน เจ้าผีเน่ากับโลงผุ ช่างเหมาะสมกันดีเหลือเกิน ข้าขอบอกเลย ! ข้า ไป่เจี้ยน จะทำให้เจ้าทั้งสองคนต้องเสียใจในภายหลังแน่ ! “

“เจี้ยนเฉินไอ้ชั่ว ไอ้เลวทราม เจ้าเอาคนรักของข้าไป ข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนเจ้าต้องร้องขอความตาย เจ้าหนีไปที่เผ่าพันธุ์ทะเลแล้วยังไง ? ข้าจะไม่ให้สหายหรือครอบครัวของเจ้ารอดไปได้ ข้าจะไปฆ่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีให้หมด”

“แค่ก แค่ก ไป่เจี้ยน ใจเย็น มีผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเจียงหยางคุ้มครองครอบครัวของเจี้ยนเฉินอยู่ เจ้าต้องไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามและจำไว้ว่าอย่าไปปะทะกับพวกเขาซึ่ง ๆ หน้า พวกเราจะไปทำให้ตระกูลผู้พิทักษ์โกรธไม่ได้” เสียงที่อ่อนแอของไป่ยี่เฟยดังออกมาจากในถ้ำ

“ท่านพ่อ ข้ารู้ ข้ารู้ ว่าข้าควรจะทำอะไร” ไป่เจี้ยนพูดด้วยตาแดงก่ำและลมหายใจยุ่งเหยิง ความเดือดดาลของเขานั่นถึงขีดจำกัด

เจียนหยาง ซู อวี้หยุนจ้องอย่างเหม่อลอยไปนอกหน้าต่างในอาคารไปที่ประตูหลักของตระกูลเจียงหยางในเมืองลอร์ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

“คงเอ๋อ เจ้าอยู่ที่ไหนกันนะ..” เจียนหยาง ซู อวี้หยุนพูดอย่างทุกข์ทรมาน ในหลายปีที่ผ่านมานี้ นางไม่เคยก้าวออกไปจากเมืองลอร์เลยและกำลังรอให้ลูกของนางกลับมาอย่างเงียบ ๆ แม้ว่านางเองยังไม่รู้เลยว่านางพูดประโยคข้างต้นไปมากมายเท่าไรแล้ว

“เห้อ ผ่านไปอีกแล้วหลายปีตอนนี้ อายุขัยของคงเอ๋อก็สั้นลงไปด้วยเหมือนกัน น่าเสียดายที่โลกกว้างใหญ่เกินไป เราหาเขาไม่พบเลย” เจียนหยาง ซู หยวนเซียวถอนหายใจออกมาอย่างเศร้าโศก เขารู้สึกทุกข์ทรมานมาก

กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีก็ประสบกับความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาในสี่ปีที่ผ่านมานี้ กำพงเมืองเดิมได้ถูกทำลายและการก่อสร้างด้วยทังสเตนก็เริ่มไปแล้วด้วย ภายใต้การทำงานอย่างหนักของคนงานนับพันลูกบาศก์ทังสเตนยาวด้านละ 1 เมตรก็กองกันเป็นชั้น ๆ กลายเป็นกำแพงเมืองที่สูงกว่า 30 เมตร หลังจากสี่ปีที่ผ่านมานี้ การก่อสร้างกำเมืองเมืองของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้ลุล่วงมาถึงสามในสี่ส่วนแล้ว

ในขณะเดียวกัน การสร้างเมืองของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนั้นก็ยิ่งใหญ่มากจนทำให้ส่วนใหญ่ของทวีปสั่นไหวและเป็นที่สนใจในองค์กรที่ทรงพลังหลายองค์กร

สามปีที่ผ่านมากนี้ โหยวเยว่และไป๋เหลียนค่อย ๆ วางมือจากการบังคับบัญชาและให้เวลาในการฝึกฝนมากขึ้น

พื้นฐานของพวกเขาได้พัฒนาไปมากจากสมบัติสวรรค์ที่เจี้ยนเฉินได้ทิ้งไว้ให้ การฝึกฝนของพวกเขานั้นเร็วกว่าคนทั่วไปมากและด้วยคำแนะนำอย่างส่วนตัวจากเซียนผู้คุมกฎทั้งสอง ไป๋ไฮ่และเจียเต๋อไท่พวกเขาได้กลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษแล้ว

หมิงตง เถี่ยต้า เจ้าอ้วนน้อย หวังยี่เฟิง ตู่กูเฟิง และคนอื่น ๆ ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝึกฝน พวกเขาไม่ออกมาเลย ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาก้าวหน้าขึ้นมากขนาดไหนแล้ว

ในห้องที่สูงที่สุดของตระกูลหวงกู่ หัวหน้าตระกูลยืนอยู่อย่างนอบน้อมด้านหน้าประตูเหล็กบานใหญ่

“ขอรายงานท่านบรรพชน ข้าได้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาแล้ว ลูกศิษย์ของท่านที่รับเข้ามาใหม่ หวงหลวนได้ถึงระดับเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 3 แล้ว นางทำงานอย่างหนักในการฝึกฝนภายใต้คำแนะนำของบรรพชนตระกูลหวง หวงเทียนป้า”

“เซียนปฐพีวัฏจักรที่ 3 ความเร็วช้าไปนิด ถ้ายังเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มันจะใช้เวลาอย่างน้อยสิบกว่าปีกว่านางจะไปถึงระดับเซียนสวรรค์ ดูเหมือนมันจะถึงเวลาแล้วที่ข้าจะเอานางกลับมา เมื่อนางอยู่ข้าง ๆ ข้าเท่านั้น ความเร็วในการฝึกฝนของนางจึงจะเพิ่มขึ้นและเมื่อถึงตอนนั้นนางจะสำเร็จเซียนสวรรค์ในเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” เสียงที่ทรงพลังและเก่าแก่ดังออกมาจากประตูโลหะ เขาคือบรรพชนของตระกูลหวงกู่

..

เมืองแจ๊สอยู่ลึกลงไปใต้อาณาเขตของเผ่าพันธุ์ทะเลและเป็นเมืองที่เป็นที่รู้จักกันดีในรัศมีหมื่นกิโลเมตร มันกินบริเวณกว้างใหญ่และมีประชากรจำนวนมาก มันเป็นเมืองที่พลุกพล่านมาก

นูบิสและเจี้ยนเฉินค่อย ๆ มองเห็นผู้คนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากเมือง 10 กิโลเมตร พวกเขาเกือบทั้งหมดเป็นสมาชิกของเผ่าพันธุ์ทะเลที่มีผมยาวสีฟ้าและผิวหนังสีฟ้า อย่างไรก็ตาม นอกเหนือไปจากนี้ ยังมีพวกที่เหมือนมนุษย์จากทวีปเทียนหยวนอีกด้วย

“เมืองแจ๊สนั้นเป็นเมืองราชา เฉพาะนักรบวิญญาณทะเลที่เหนือกว่า 13 ดาวเท่านั้นถึงจะบินเข้ามาได้ ถ้านักรบถึงขั้น 13 ดาวแล้วละก็ เขาก็จะสามารถบินเข้าไปทางอากาศได้และไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อที่จะเข้าไปในเมือง” ไคยะจ้องไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยตาที่เป็นประกายอย่างสนใจ

เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ไกล ๆ เมื่อนางพูดจบ เขาก็พบว่าทุก ๆ คนที่เข้าไปในเมืองจำเป็นต้องจ่ายเหรียญผลึกที่ต่างกันให้กับทหาร

เจี้ยนเฉินดึงสมบัติสวรรค์ร้อยปีออกมาจากแหวนมิติแล้วพูด “คุณหนูไคยะ พวกเราใช้เหรียญผลึกที่มีหมดไปแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่จะใช้สมบัติสวรรค์ในการแลกเปลี่ยนเหรียญผลึกกับคุณหนู ? “

ไคยะยิ้มอย่างแจ่มใสและดึงเอาถุงเงินเล็กที่ตุงออกมาจากแหวนมิติของนาง “นักรบ นี่คือเหรียญผลึกชั้นดี 100 เหรียญ ถือซะว่าเป็นของขวัญจากข้า โปรดเก็บสมบัติสวรรค์ไว้เถอะท่านนักรบ”

หลังจากที่คิดอย่างเงียบ ๆ เจี้ยนเฉินก็รับถุงเงินมาจากไคยะ “เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ข้าทั้งสองก็ติดหนี้คุณหนูไคยะแล้ว พวกเราจะชดใช้คืนให้ในอนาคตแน่ถ้าพวกเรามีโอกาส”

เจี้ยนเฉินและนูบิสแยกจากไคยะที่นอกเมือง พวกเขาจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นเหรียญผลึกชั้นดี 100 เหรียญก่อนจะหายไปในฝูงชน

“คุณหนู ท่านรู้จักนักรบ 2 คนนั้นงั้นหรือ ? ทำไมท่านถึงใจกว้างให้เหรียญผลึกชั้นดีไปถึง 100 เหรียญกับพวกเขา ? นั่นไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลย” องครักษ์ถามอย่างงุนงงหลังจากที่เจี้ยนเฉินและนูบิสจากไป

ไคยะดูพวกเขาทั้งสองหายไปในฝูงชน “ข้าได้ฝึกฝนวิชาเปิดจิตโดยกำเนิดมา ดังนั้นข้าสามารถมองลึกเข้าไปในตัวคนอื่นได้ ข้าเชื่อโดยสัญชาตญาณว่าเขาทั้งสองคนนี้ไม่ธรรมดา การผูกมิตรกับพวกเขาในตอนนี้อาจจะนำสิ่งที่ดีมาให้กับเผ่าของเราในอนาคตก็ได้”

“แต่..”

“ไม่มีแต่ พวกเราเข้าไปในเมืองกันเถอะ”

ภายในเมืองแจ๊ส เจี้ยนเฉินและนูบิสเตร็ดเตร่ไปในถนนที่พลุกพล่าน เพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตา นูบิสได้เปลี่ยนผมสีทองของเขาและเสื้อให้เป็นสีฟ้า ในขณะที่เจี้ยนเฉินยังคงเหมือนเดิม

มันใกล้จะถึงการประมูลครั้งใหญ่ที่เมืองแจ๊สจะจัดทุก ๆ 100 ปี ดังนั้นจึงได้ยินคนพูดถึงมันไปทั่วบนถนน

“เห็นชัดว่าจะมีสมบัติจำนวนมากปรากฎขึ้นมาในการประมูลครั้งนี้ มันดึงดูดคนจากเผ่าใหญ่ใหญ่มากทีเดียว ดังนั้นมันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดแน่ในระหว่างพวกเขาถ้าพวกเขามา”

“ข้าได้ยินมาว่าจะมีวิชาของเซียนระดับตี้ถึง 3 อันด้วยในการประมูลครั้งนี้ ข้าอยากรู้ว่ามันจริงหรือไม่”

วิชาเซียนเทียบเท่ากับทักษะการต่อสู้ระดับเซียนจากทวีปเทียนหยวนและเป็นแค่ชื่ออีกชื่อหนึ่งเท่านั้น วิชาเซียนแบ่งเป็น 4 ระดับในเผ่าพันธุ์ทะเล ระดับเทียน ระดับตี้ ระดับซวน และระดับหวง ตามลำดับ ระดับเทียนเป็นระดับที่ทรงพลังที่สุดเทียบเท่ากับทักษะการต่อสู้ระดับเซียนบนทวีปเทียนหยวน ในขณะที่ระดับหวงนั้นเป็นระดับที่ต่ำที่สุดเทียนเท่ากับทักษะการต่อสู้ระดับมนุษย์

“ไม่ใช่จะมีแค่วิชาเซียนระดับตี้เท่านั้นนะ ข้าได้ยินมาว่าจะมีวิชาเซียนระดับเทียนด้วยในการประมูล แต่ดูเหมือนมันจะยังไม่สมบูรณ์ มีเพียงแค่สามในสิบส่วนเท่านั้น”

“ยังมีปรอทเหลวในการประมูลครั้งนี้ด้วย มันเป็นสสารจากทะเลแห่งความสิ้นหวังและกำเนิดมาจากโลก มันหายากมากและศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับเผ่าพันธุ์ทะเล แค่หยิบมือเดียว ก็ทำให้คนที่มีความสามารถธรรมดาได้รับความสามารถที่หาได้ยากในรอบพันปีเลยทีเดียว”

“ข้าได้ยินมาว่าจะมียาเม็ดจิตวิญญาณธาตุแสงระดับ 8 ในการประมูลครั้งนี้ด้วย มันมาจากทวีปเทียนหยวนที่ห่างไกลและเป็นยาที่มีค่ามากสำหรับใช้รักษา มันมีค่าควรเมืองเลยทีเดียว”

“มีข่าวลือว่าจะมีชิ้นส่วนของแผนที่แผ่นดินทั้งแปดในการประมูลด้วย มันถูกทิ้งไว้โดยจักรพรรดิที่เป็นถึงระดับ 17 ดาวของแผ่นดินทั้งแปดเมื่อหมื่นปีก่อน มันเป็นกุญแจเพื่อใช้ในการเปิดห้องศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด ภายในห้องนั้นมีตำนานของจักรพรรดิแผ่นดินทั้งแปดและสิ่งของของเขาทั้งหมด”

“มีชิ้นส่วนแผ่นที่ของแผ่นดินทั้งแปดอยู่ 8 ส่วน ข่าวลือว่ากันว่าชิ้นส่วนทั้งเจ็ดได้ปรากฎขึ้นแล้วตอนนี้ในมือของเผ่าใหญ่ทั้งเจ็ด ดูเหมือนว่านี่จะเป็นชิ้นส่วนสุดท้าย”

..

เจี้ยนเฉินและนูบิสเดินไปตามถนนและสังเกตขนบธรรมเนียมประเพณีของเผ่าพันธุ์ทะเลในขณะที่เขาฟังผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกัน

“จักรพรรดิแปดอะไรสักอย่างนี้เป็นถึงจอมยุทธ 17 ดาว ตามการแบ่งความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์ทะเล เขาน่าจะเป็นเซียนจักรพรรดิ แผนที่ที่ถูกทิ้งไว้โดยเซียนจักรพรรดิ น่าสนใจ น่าสนใจ” นูบิสพึมพำในขณะที่เขาลูบคาง ท่าทางสนใจอย่างมากเกิดขึ้นในตาของเขา

เมื่อเจี้ยนเฉินกำลังจะบอกให้นูบิสอย่าทำตัวเด่น เสียงของจื่อหยิงก็ดังขั้นมาในหัวของเขา

“นายท่าน ข้าเจอวัตถุดิบอื่นที่จะใช้ทำกระบี่ม่วงฟ้าแล้ว มันอยู่ 10 กิโลเมตรข้างหน้า”

Related

Chaotic sword god

Chaotic sword god

Comment

Options

not work with dark mode
Reset