ตอนที่ 948: การต่อสู้ในโถงศักดิ์สิทธิ์
เจี้ยนเฉินยากที่จะซ่อนความตื่นเต้นที่อยู่ในใจเอาไว้ได้ในขณะที่เขาจ้องไปยังโถงที่กำลังสั่นไหว เขารู้ว่าการโจมตีของเขาในขณะที่ใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดินั้นเท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6 หรือ 7 เป็นอย่างน้อย นอกเหนือไปจากนั้น นี่ยังเป็นแค่การโจมตีธรรมดาจากเขา ถ้าใช้ทุ่มกำลังทั้งหมด มันคงทรงพลังกว่านี้มาก
โฮก ! สัตว์อสูรดุร้ายตัวใหญ่หลายตัวพุ่งเข้ามาที่พวกเขาอย่างอันตราย
เจี้ยนเฉินจับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเอาไว้ในขณะที่เขามองกลับไปที่สัตว์อสูรแล้วพูด “พวกเราควรไปหยุดไทนิช พวกเราจะเสียเวลามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
“เจ้าพูดถูก พวกเราจะมาเสียเวลาไม่ได้แล้ว บางทีแค่เราให้ให้เวลาไทนิชมากกว่านี้อีกแค่ครึ่งชั่วยามก็อาจจะเพียงพอที่เขาจะควบคุมโถงได้อย่างสมบูรณ์แล้ว” นูบิสพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
เจี้ยนเฉินและนูบิสออกไปพร้อมกัน และมุ่งหน้าไปที่โถง พวกเขาไปถึงชั้นที่เก้าอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
ทางเข้าที่เพดานยังคงเหมือนเดิมเหมือนก่อนหน้านี้ มันไม่เปลี่ยนไปเลยในหลายปีที่ผ่านมา มันดูเหมือนจะรวมกับเพดานเป็นหนึ่งเดียว ทำให้มันยากที่จะสังเกตได้ด้วยตาเปล่า
เจี้ยนเฉินและนูบิสมาถึงที่ด้านล่างของทางเข้าในขณะที่พวกเขาจ้องขึ้นไปอย่างเคร่งเครียด ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิในมือของเจี้ยนเฉินเปล่งแสงสีดำออกมาอีกครั้งในขณะที่พลังบรรพกาลพุ่งเข้าไปในยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ เขากำลังสะสมพลังเพื่อใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขา
ทันใดนั้นเอง แรงกดดันที่มหาศาลก็เติมเต็มไปทั่วทั้งโถงและอากาศดูเหมือนจะหยุดนิ่งทันที มิติรอบ ๆ เจี้ยนเฉินเริ่มที่จะบิดเบี้ยวและเปลี่ยนเป็นภาพพร่ามัว
ถ้านี่เกิดขึ้นบนทวีปเทียนหยวน มิติก็คงจะพังทลายไปนานแล้วและไม่สามารถทำแรงกดดันที่มหาศาลนี้ได้
ชั้นแสงสีทองที่หนาแน่นออกมาจากตัวเจี้ยนเฉินเหมือนไฟที่กำลังลุกไหม้ คลื่นพลังงานมหาศาลเปล่งประกายออกมาจากนูบิสเช่นเดียวกันซึ่งทำให้มิติรอบ ๆ สั่นไหวเล็กน้อย ในตอนนี้เอง นูบิสได้ใช้ความแข็งแกร่งของชั้นสวรรค์ที่ 2 ของเขาทั้งหมด ในฐานะที่เป็นสัตว์อสูรโบราณ การโจมตีของเขาจึงเหนือกว่าระดับการฝึกฝนของเขา มันไม่ได้อ่อนแรงไปกว่าการโจมตีจากเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 เลย
“ลงมือเลย ! ” เจี้ยนเฉินตะโกนออกมาทันทีเมื่อเขาเห็นนูบิสสะสมพลังเสร็จ เขาเหวี่ยงยุทธภัณฑ์ราชาออกไปที่เพดานด้วยความเร็วแสง
ทันใดนั้นเอง ปราณกระบี่ที่ใหญ่มากก็พุ่งไปที่ทางเข้าอาคม แสงสีดำซึ่งเปล่งประกายไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง มันโจมตีไปที่เพดานอย่างป่าเถื่อน
ในเวลาเดียวกัน นูบิสก็โจมตีออกไปเช่นกัน เขาเหวี่ยงแขนของเขาอย่างรวดเร็วและคลื่นพลังงานก็เริ่มพุ่งออกมาจากร่างของเขา มันเปลี่ยนไปเป็นงูตัวยาวสีทองและโจมตีไปที่เพดาน
บู้ม !
เจี้ยนเฉินและนูบิสโจมตีไปที่ทางเข้าด้วยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาพร้อม ๆ กันทำให้เกิดเสียงระเบิดดังบาดหูขึ้นมาทันที พลังงานที่รุนแรงกระหน่ำไปทุกทิศทางทำให้โถงสั่นไหวทุกครั้งที่พวกเขาโจมตีออกไป
ทั่วทั้งโถงสั่นไหวอย่างรุนแรงเหมือนกับเป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหวใหญ่ บนชั้นที่เก้า ชิ้นส่วนของเครื่องประดับที่เก็บไว้มานานนับไม่ถ้วนปีได้เปลี่ยนกลายเป็นผุยผง
หลังจากผ่านไปนาน รอยแตกเล็กมาก ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่ทางเข้าหลังจากพลังที่บ้าคลั่งสงบลง
แม้ว่าการโจมตีจะไม่สามารถทำลายทางเข้าได้ แต่นูบิสและเจี้ยนเฉินก็ยิ้มออกมาทั้งคู่
“เยี่ยมมาก ทางเข้าศูนย์ควบคุมของโถงไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนทางเข้าของโถงศักดิ์สิทธิ์ มันไม่จำเป็นต้องใช้เซียนจักรพรรดิในการทำลายมัน พวกเราสามารถผ่านเข้าไปได้ถ้าพวกเราโจมตีมันต่ออีกสักสองสามครั้ง” เสียงของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความยินดี
“พวกเรามาโจมตีต่อกันเถอะ” นูบิสพูด พลังงานเริ่มที่จะไหลออกมาจากร่างของเขาอีกครั้ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า น่าเสียดาย ช่างน่าเสียดายจริง ๆ ที่พวกเจ้าทั้งสองคนช้าไป” ในตอนนี้เอง เสียงหัวเราะดังไปทั่วทั้งโถง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหาที่มาของเสียง
“นั่นคือไทนิช เขาควบคุมโถงได้แล้วอย่างนั้นหรือ ? ” ท่าทางของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปและเขาก็เริ่มเคร่งเครียด
นูบิสก็แสดงท่าทางย่ำแย่ออกมาเช่นกัน “มันไม่ดีเลยตอนนี้ ถ้าไทนิชสามารถควบคุมโถงได้ เขาจะสามารถใช้มันจัดการกับพวกเราได้ โถงศักดิ์สิทธิ์นั้นแข็งแกร่งเท่ากับเซียนจักรพรรดิ แม้ว่าพวกเราจะพัฒนาไปอย่างมาก พวกเราก็ยังเทียบไม่ได้กับเซียนจักรพรรดิหรอก”
“ฮาฮาฮ่า ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่ ผู้คุมกฎเผ่าเต่า ร่างกายของเจ้าไม่ได้ถูกจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดยึดไป แต่นี่ก็เหมาะเลย เจ้าจัดการง่ายกว่าจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดเยอะ” เสียงของไทนิดังขึ้นมาจากทุกที่อีกครั้งและเพดานก็เปิดออกมาทันที ไทนิชลดตัวลงอย่างช้า ๆ ในขณะที่พลังงานที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าขดรอบ ๆ เขาอยู่
พลังนี้มหาศาล มันทรงพลังมากเสียจนแม้แต่ท่าทางของเจี้ยนเฉินยังเปลี่ยนไป นี่เป็นพลังของโถงศักดิ์สิทธิ์ บางอย่างที่เทียบเท่ากับเซียนจักรพรรดิ
เจี้ยนเฉินและนูบิสพุ่งถอยหลังกลับไปไกลจากไทนิช พวกเขาสามารถเห็นชั้นพลังของโถงศักดิ์สิทธิ์รอบ ๆ ตัวไทนิชที่ปกป้องเขาไว้อยู่ได้ มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้เขาบาดเจ็บเมื่อเขามีการป้องกันแบบนั้น
ไทนิชะลอยอยู่ 3 เมตรเหนือพื้นดิน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ในขณะที่สายตาของเขาที่มองไปที่พวกเจี้ยนเฉินนั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
ในตอนนี้เขาเหมือนราชาที่สูงส่งที่สามารถดูถูกทุกสิ่งได้
“ผู้คุมกฎเผ่าเต่า นูบิส ข้าไม่ได้วางแผนที่จะฆ่าพวกเจ้าทั้งสองแต่แรก แต่ในเมื่อพวกเจ้าไม่รู้ว่าอะไรดีชั่วและต้องการที่จะทำลายทางเข้าศูนย์ควบคุมของโถง มันก็ไม่ใช่ความผิดของข้าแล้วล่ะ” ไทนิชเหยียดออกมา ตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารและเขาก็โบกมือ สายพลังจากโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ควบแน่นมันมี มันพุ่งไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยความเร็วแสงในขณะที่มันกระเพื่อมไปด้วยพลังงานจำนวนมาก
ในพริบตา นูบิสก็หลบการโจมตี ในขณะที่เจี้ยนเฉินเหวี่ยงยุทธภัณฑ์จักรพรรดิในมือของเขาไปที่พลัง เขาโจมตีแรงออกไปมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เจี้ยนเฉินต้องการที่จะต่อต้านมันดูว่าพลังนั้นจะมากสักแค่ไหน
ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิปะทะเข้ากับพลังของโถงศักดิ์สิทธิ์ทำให้เกิดเสียงระเบิดดัง เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าพลังที่มหาศาลมากกระแทกเข้าไปที่ร่างของเขาอย่างรุนแรง และส่งเขากระเด็นถอยไป เขาลอยไปปะทะเข้ากับกำแพงของชั้นที่เก้า ทำให้ทั่วทั้งโถงสั่นไหวเบา ๆ
เจี้ยนเฉินถอนหายใจยาวออกมาจากจมูก จากการโจมตีนั้น อวัยวะของเขาทั้งหมดถูกสั่นไหว อย่างไรก็ตาม พลังส่วนใหญ่ได้ถูกลบล้างไปจากการโจมตีสวนไปของเขา อีกอย่าง ร่างบรรพกาลของเขานั้นแข็งแกร่งมาก การโจมนั้นจึงไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บมากนัก
“เป็นไปได้ยังไงกัน ? นี่ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าแม้แต่บาดเจ็บเลยหรือ ! ? ” ไทนิชจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยดวงตาที่เบิกกว้างในขณะที่ใบหน้าของเขาตกตะลึง
เจี้ยนเฉินยืนเฉยและเย้ยออกไป “ข้าสงสัยว่าเจ้าจะทรงพลังขึ้นมากเพียงใดหลังจากที่เจ้าควบคุมโถงได้แล้ว แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้เยี่ยมขนาดนั้น เจ้าไม่สามารถได้ควบคุมโถงได้อย่างสมบูรณ์ เจ้าสามารถใช้พลังของโถงบางส่วนเท่านั้น นี่เป็นเหตุว่าทำไมการโจมตีของเจ้าถึงอ่อนนัก มันไม่ได้ใกล้เคียงกับระดับของเซียนจักรพรรดิเลย มากที่สุดก็แค่ระดับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 8 หรือ 9 เท่านั้น”