ตอนที่ 957: เยือนศาลาเทพเจ้าอสรพิษ (4)
“พวกเราขอคารวะท่านผู้อาวุโสประจำศาลา” ผู้คนรอบ ๆ ทั้งหมดโค้งคำนับผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งหก ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพและความชื่นชม
ผู้อาวุโส 15 ดาวและ 16 ดาวก้าวถอยไปจากทางของผู้อาวุโสประจำศาลา
ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งหกบินออกมาด้วยใบหน้ามืดครึ้มในขณะที่พวกเขามองไปที่เจี้ยนเฉิน เมื่อคนทั้งสองจำเขาได้ แววตาของพวกเขาก็ปกคลุมไปด้วยจิตสังหารที่หนาแน่นทันที
“เจี้ยนเฉิน ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นเจ้า หืม พวกเราไม่ได้ไปตามหาเจ้า เจ้าก็มาเคาะประตูถึงที่ด้วยตัวเองเลยในวันนี้ เจ้าคิดว่าเจ้าจะต่อต้านศาลาเทพเจ้าอสรพิษได้ด้วยยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจ้าอย่างนั้นหรือ ? ” ผู้อาวุโสประจำศาลาพูดออกมาอย่างเย็นชา
ตาของผู้อาวุโสประจำศาลาคนอื่นหรี่เล็กลงเมื่อพวกเขาได้ยินว่าคนผู้นี้คือเจี้ยนเฉิน พวกเขามองหัวจรดเท้า หนึ่งในนั้นพูดออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง “ถ้างั้นเจ้าก็คือเจี้ยนเฉิน คนที่ขโมยสมบัติของศาลาเทพเจ้าอสรพิษและได้โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดไป”
“เจี้ยนเฉิน เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำอะไรโจ่งเจ้งในตอนนี้ได้เพียงเพราะเจ้าได้โถงศักดิ์สิทธิ์ไปอย่างนั้นหรือ ? เจ้าคิดว่าเราจะทำลายโถงของเจ้าในวันนี้ไม่ได้หรือไง ? ” ผู้อาวุโสประจำศาลาที่ค่อนข้างอารมณ์ร้อนตะโกนออกมา ตาของเขาดุร้าย
ผู้อาวุโสทั้งหมดที่อยู่รอบ ๆ มองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความตกตะลึงเมื่อพวกเขาได้ยินว่า เจี้ยนเฉินเป็นคนที่ได้โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดไป ความอิจฉาริษยาปรากฎอยู่ในดวงตาของพวกเขา
เจี้ยนเฉินลอยอยู่กลางอากาศอย่างสงบในขณะที่เขาเผชิญหน้าอยู่กับคนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ แม่ว่าเขาจะติดอยู่ในวงล้อม เขาก็ไม่วิตกกังวลแม้แต่น้อย
“ผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพ พวกท่านก็ว่าเกินไป ข้าไม่ได้มาเพื่อที่จะท้าทายเกียรติของศาลาเทพเจ้าอสรพิษของพวกท่านในวันนี้ แม้ว่าข้าจะมั่นใจมาก แต่ข้าก็ไม่เชื่อแน่นอนว่าข้าจะมีกำลังพอที่จะต่อต้านศาลาเทพเจ้าอสรพิษด้วยตัวคนเดียว” เจี้ยนเฉินยิ้มพร้อมป้องมือ
“หืม ทำไมเจ้าถึงกล้าพูดแบบนั้น ในตอนแรก เจ้าทำให้ทูตของพวกเราบาดเจ็บ จากนั้นเจ้าก็ทำร้ายผู้อาวุโสของพวกเรา เจ้าคิดว่าพวกเราถูกเหยียบย่ำได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ ? อย่าคิดว่าเจ้าจะดูถูกทุกคนได้ในตอนที่เจ้ามีโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดอยู่ในมือนะ” ผู้อาวุโสประจำศาลาตะโกนออกมา น้ำเสียงของเขาไม่เป็นมิตรแม้แต่น้อย
“คนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษไม่ยอมถูกเหยียบย่ำง่ายง่าย แต่ในเวลาเดียวกัน ข้าก็เหมือนกัน ข้าทำให้พวกเขาบาดเจ็บเพราะพวกเขาเข้ามารนหาที่เอง พวกท่านจะโทษคนอื่นไม่ได้” เจี้ยนเฉินพูดพร้อมยิ้ม
“หืม แก้ตัวได้ดี ถ้างั้นแสดงให้ข้าเห็นสิว่าเจ้ามีดีอะไร เจี้ยนเฉิน” สายตาของผู้อาวุโสประจำศาลาซึ่งชื่อชาลีเป็นประกายเย็นชา เขากำลังจะเข้าไปปะทะเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยังคงยิ้มอยู่กลางอากาศ รอยยิ้มของเขาทั้งเยือกเย็นและชั่วร้าย ทันใดนั้นเอง โถงศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฎขึ้นจากที่ใดไม่รู้ มันใหญ่โตและเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล มันลอยตระหง่านอยู่บนท้องฟ้า
“โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด ! ” เสียงร้องดังออกมาจากรอบ ๆ ทูตและผู้อาวุโสทั้งหมดจ้องไปด้วยความละโมบ ความต้องการครอบครองเป็นเจ้าของเกิดขึ้นในหัวของพวกเขา
เจี้ยนเฉินบินเข้าไปข้างในและหลอมรวมวิญญาณของเขาเข้ากับโถงศักดิ์สิทธิ์ เขากลายเป็นโถงศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่โถงศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นเขา เขาสามารถใช้พลังที่ซ่อนอยู่ด้านในได้ตามที่ต้องการ
ชาลีสงบลงทันทีเมื่อโถงศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นมา เขาจ้องเขม็งและเคร่งเรียด
“ผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพ ท่านกล้าที่จะสู้กับข้าในโถงศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ ? ” เสียงของเจี้ยนเฉินดังออกมาจากด้านใน มันดังมากและก้องไปทั่วรัศมีหลายร้อยกิโลเมตร
เจี้ยนเฉินไม่กลัวผู้อาวุโสประจำศาลาเลยเมื่อเขาอยู่ด้านในโถงศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าเจ้าศาลาของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลได้บอกเขาไว้ว่า มันจะดีที่สุดถ้าเขาไม่ไปทำให้ผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาเทพเจ้าอสรพิษโกรธ แต่เจี้ยนเฉินก็ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่เพราะพวกเขาก่อนหน้านี้ เขาต้องการที่จะแก้แค้นเรื่องก่อนหน้านี้เมื่อโอกาสมาถึง
เจี้ยนเฉินตัดสินใจที่ว่าจะหยามเกียรติของผู้อาวุโสประจำศาลาก่อนที่เขาจะมาที่นี่ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำร้ายพวกนั้นได้ แต่เขาก็เยาะเย้ยพวกนั้นได้
ผู้อาวุโสทั้งหกโกรธจนหน้าซีดหลังจากที่ได้ยินคำพูดเย้อหยิ่งจากเจี้ยนเฉิน ไฟโทสะเผาไหม้อยู่ในพวกเขา แต่ไม่มีใครกล้าที่จะสู้กับเจี้ยนเฉินในโถงศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ชาลีที่หุนหันพลันแล่นก็ยังไม่กล้า
ถ้าพวกเขาเข้าไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ จะมีแต่ความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ เพราะพวกเขาแข็งแกร่งในระดับเซียนราชาขั้นสูงสุดเท่านั้น พวกเขาจะไม่ได้เผชิญหน้ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 แต่เป็นเซียนจักรพรรดิแทน
“ผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพ พวกท่านกล้าหรือไม่ ? ” เสียงของเจี้ยนเฉินดังออกมาอีกครั้ง เขาอดไม่ได้ที่จะคิดย้อนกลับไปตอนที่กลุ่มของพวกเขาสามคนถูกไล่ล่าจากจอมยุทธของศาลาเทพเจ้าอสรพิษเมื่อหลายปีก่อนและพวกเขาเกือบจะต้องตาย
ในเวลานั้น พวกเขาอาจจะถูกจับตัวไว้โดยผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสอง ถ้าจอมยุทธของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลไม่ได้มาช่วยพวกเขาเอาไว้ในช่วงเวลาสำคัญนั้น เขาคงไม่ได้มายืนอยู่ที่นี่อย่างภาคภูมิ
“เจี้ยนเฉิน เจ้าอวดดีจริง ๆ ” ผู้อาวุโสประจำศาลาสบถออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว โดยปกติแล้ว เขาเป็นคนที่อยู่เหนือคนอื่น เขาสามารถจบชีวิตคนบางคนได้เพียงแค่สะบัดมือ เขาจะทนรับความอับอายเช่นนี้จากคนที่เป็นเหมือนมดก่อนหน้านี้ได้อย่างไร ?
“มาร่วมมือกันโจมตีโถงศักดิ์สิทธิ์กันเถอะ ทำลายมันซะ” ชาลีพูดอย่างโกรธเกรี้ยว คลื่นพลังงานมหาศาลได้ปรากฎขึ้นรอบ ๆ เขา
ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งหกคนเคลื่อนไหวด้วยกัน และโจมตีไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์หนักหน่วงที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้
ทันใดนั้นเอง คลื่นพลังงานที่เหลือที่เกิดขึ้นก็ทำลายล้างไปรอบ ๆ เหมือนพายุ ในขณะเดียวกัน โถงศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง การโจมตีจากผู้อาวุโสประจำศาลา 6 คนไม่สามารถที่จะทำลายโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่มันก็เพียงพอที่ทำให้โถงสั่นสะเทือน
โถงศักดิ์สิทธิ์ขยายขึ้นอย่างรวดเร็วจนกระทั่งสูง 1,000 เมตร มันใหญ่จนเหมือนเมฆดำบนท้องฟ้าและบดบังแสงอาทิตย์ไปจนหมด หลังจากนั้น มันก็ตกลงมาด้วยออร่าที่มหาศาลและกระแทกไปที่พวกเขาทั้งหมดอย่างรุนแรง
ผู้อาวุโสและทูตอยู่ที่ด้านใต้ของโถงศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับผู้อาวุโสประจำศาลาด้วย ผู้อาวุโสทั้งหมดเป็นเซียนราชา ในขณะที่ทูตมีตั้งแต่ระดับเซียนสวรรค์ไปจนถึงเซียนผู้คุมกฎ ถึงกระนั้น พวกเขาทั้งหมดก็หนีแตกกระจายไปรอบ ๆ
โถงศักดิ์สิทธิ์ร่วงลงมาเร็วมาก เร็วจนกระทั่งพวกเขาไม่สามารถที่จะหลบได้เลย พื้นผิวที่เย็นและหนักของโถงได้ปะทะเข้ากับพวกเขาอย่างรวดเร็ว และกดพวกเขาลงไปจากอากาศ
“ดัน ! ” ผู้อาวุโสประจำศาลาคำรามออกมา เขาวางมือทั้งสองไว้ที่ฐานของโถงศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะพยายามหยุดการหล่นของมัน
โชคร้ายที่โถงศักดิ์สิทธิ์นั้นหนักเกินไป มันหนักมากกว่าภูเขาหลายล้านเท่า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะหยุดมันได้ แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันก็ตาม
บู้ม !
โถงศักดิ์สิทธิ์กระแทกลงที่พื้นอย่างรุนแรง ในตอนนี้เอง ทั่วทั้งโลกดูเหมือนจะสั่นไหว พื้นดินรอบ ๆ สั่นไหวอย่างรุนแรงเหมือนว่าแผ่นดินไหวครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น
โถงศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่โตกระแทกลงที่พื้น ทำให้ครึ่งของโถงจมอยู่ในดิน มันทำให้เกิดหลุมลึก ในขณะที่ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งหก ผู้อาวุโสหลายคนและทูตก็ติดอยู่ในนั้น
“เจี้ยนเฉิน เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างมีชีวิตรอดวันนี้เลย” บางคนคำรามออกมาจากด้านใต้ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความโกรธจัด ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งหกขุดถ้ำจากใต้ดินเพื่อที่จะไปออกที่ข้าง ๆ โถง ผู้อาวุโสบางคนตามพวกเขาออกมาด้วย ไม่มีใครในกลุ่มเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บนอกเหนือจากที่ดูมอมแมม ในอีกทางหนึ่ง ทูตที่เป็นเซียนสวรรค์ได้รับบาดเจ็บหนักเบาต่างกันไป
ครึน ! โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดสั่นไหวเบา ๆ ที่พื้นและค่อย ๆ ลอยตัวขึ้นกลางอากาศ มันหันหน้าและลอยอยู่ห่างจากศาลาศักดิ์สิทธิ์ของศาลาเทพเจ้าอสรพิษเหมือนว่ามันกำลังท้าทายศาลา
“พวกท่านพูดจาใหญ่โตกันเสียจริง ถ้าข้าต้องการจะไปจากที่นี่ พวกเจ้าหยุดข้าไม่ได้หรอก มันจะเป็นไปได้ทางเดียวคือท่านเจ้าศาลาของพวกเจ้าออกมาด้วยตัวเองเท่านั้น” เสียงของเจี้ยนเฉินดังออกมาจากในโถงศักดิ์สิทธิ์ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจมาก
ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งหกลอยอยู่ไกลและมองหน้ากันและกัน หลังจากนั่น พวกเขาก็ขบฟันและคุกเข่าลงหนึ่งข้างพร้อมกัน พวกเขาตะโกนออกมา “พวกเราขอร้องให้ท่านเจ้าศาลาออกมาเพื่อลงโทษคนที่หยามเกียรติของศาลา”
เมื่อเจี้ยนเฉินซ่อนอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งหกไม่สามารถทำอะไรเขาได้
สักพักต่อมา ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นความตกใจและพวกเขาทั้งหมดก็ยื่นขึ้นทันที พวกเขามองไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดอย่างดุร้าย
“เจี้ยนเฉิน ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเจ้าถึงได้กล้ายั่วยุท่านเจ้าศาลาด้วยตัวเอง เจ้าได้บอกให้เจ้าศาลาของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลถ่วงเวลาเจ้าศาลาของพวกเราเอาไว้” ผู้อาวุโสประจำศาลาคำรามออกมา
เจี้ยนเฉินรู้ว่าเจ้าศาลาของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลอาจจะกำลังสู้อยู่กับเจ้าศาลาของศาลาเทพเจ้าอสรพิษในตอนที่เขาได้ยินแบบนั้น เขายินดีขึ้นมาทันที
“ยังไงก็เถอะ เจี้ยนเฉิน เจ้าชนะ เจ้าจะให้พวกเราทำเช่นไรเจ้าถึงจะหยุดในวันนี้ ? ” ผู้อาวุโสประจำศาลายอมแพ้ในที่สุด แม้ว่าพวกเขาจะไม่อยากที่จะทำแบบนี้ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น
“คำขอของข้านั้นง่ายง่าย หนึ่ง คืนของที่แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ได้ขโมยจากข้าไปเมื่อหลายปีก่อนคืนมา สอง ให้ข้าได้ต่อสู้จนตายไปข้างกับพวกเขาทั้งสี่โดยที่ไม่มีใครมาขัด” เจี้ยนเฉินพูด
ผู้อาวุโสประจำศาลาลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะตกลงในท้ายที่สุด
“สาม มี 3 คนที่ลอบโจมตีข้าในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล พวกนั้นคือ หลี่เฟิงซิน ซูเทียนซี และซูหยุนซี ข้าต้องการที่จะให้พวกท่านมอบทั้งสามคนนั้นให้กับเจ้า” เจี้ยนเฉินพูด
ใบหน้าของผู้อาวุโสประจำศาลาค่อนข้างน่ากลัว พวกเขามองหน้ากันและกันก่อนที่จะตกลงในที่สุด มีเฉพาะเจ้าศาลาของพวกเขาเท่านั้นที่จะสามารถทำลายโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดได้ แต่ในตอนนี้เขาก็วุ่นวายอยู่กับการรับมือกับเจ้าศาลาของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล และไม่สามารถช่วยพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย พวกเขาไม่สามารถทำอะไรเจี้ยนเฉินได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง และถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่ มันจะยิ่งทำให้ศาลาเทพเจ้าอสรพิษดูแย่ยิ่งขึ้นไปอีก เรื่องที่พวกเขาต้องให้ความสำคัญมากที่สุดคือการหยุดการแก้แค้นนี้และไล่คนเจ้าปัญหาไป
“เอาล่ะ พวกเราตกลง พวกเราจะส่งหลี่เฟิงซินให้กับกับเจ้า แต่ซูเทียนซีและโชวหยุนซีไม่ได้เป็นคนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ ถ้าเจ้าต้องการตัวสองคนนั้น เจ้าต้องไปที่ศาลาวิญญาณสวรรค์” ผู้อาวุโสประจำศาลาพูด