ตอนที่ 969: ต่อสู้กับพันธมิตรพิชิตอัคนี
“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ ข้ามีเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องใช้ประตูมิติ พวกเราค่อยคุยกันหลังจากนี้” เจี้ยนเฉินพูดอย่างสงบ แม้ว่าเขาควรจะดีใจมากที่ได้กลับมาที่แผ่นดินเกิด ทวีปเทียนหยวน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีก็ทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขา
ฉินหยุนหลงสูดลมหายใจเข้าลึกและสงบใจลงอย่างช้า ๆ ในตอนี้ สายตาที่เขามองไปที่เจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และเขาก็พูดออกมา “เจี้ยนเฉิน เจ้ากำลังหมายถึงเรื่องกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีใช่ไหม?”
เจี้ยนเฉินพยักหน้าแล้วถาม “เกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มทหารรับจ้าง ? พวกเขาก็ไม่ได้มีอะไร ทำไมพวกเขาถึงถูกไล่ออกมาและเอาเมืองอัคนีไปด้วย ? ใครอยู่เบื้องหลังของพันธมิตรพิชิตอัคนีกัน ? “
“มันเป็นหนึ่งในองค์ชายของจักรวรรดิเฟยลี่ ไป่เจี้ยน” ฉินหยุนหลงพูด
“ไป่เจี้ยน เขาน่ะเอง” จิตสังหารระเบิดอยู่ในตาของเจี้ยนเฉิน มันน่ากลัวมาก
“ถ้างั้นแล้วกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้ ? ” เจี้ยนเฉินถามต่อ
ฉินหยุนหลงถอนหายใจเบา ๆ แล้วตอบกลับ “กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้กระจัดกระจายไป บางส่วนหนีไป อีกส่วนหนึ่งก็ได้เข้าร่วมกับพันธมิตรพิชิตอัคนี ในขณะที่พวกที่เหลือไปที่อาณาจักรเกอซุน กลุ่มเพื่อนของเจ้าทั้งหมดสบายดี พวกเขาถูกพาออกไปโดยเซียนราชาจากตระกูลผู้พิทักษ์”
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจที่ได้ยินว่าโหยวเยว่และคนอื่นสบายดี อย่างไรก็ตาม จิตสังหารที่ยังอยู่ในแววตาของเขานั้นน่ากลัว เขาขบฟันแล้วพูดออกมา “ข้าต้องการที่จะยืมประตูมิติเพื่อไปที่เมืองอัคนี ข้าอยากจะดูว่าพันธมิตรพิชิตอัคนีทำอย่างไรในการที่เอาเมืองของข้าไป”
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็มาถึงที่ประตูมิติโดยมีผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่พามา เขาผ่านประตูมิติและไปยังเมืองอัคนี
เมื่อเจี้ยนเฉินจากไป ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ก็ยืนอยู่อย่างมึนงง ความตกตะลึงเกิดขึ้นในแววตาของพวกเขา ในขณะที่ปรึกษาจักรพรรดิที่เป็นเซียนสวรรค์กำลังล้อมพวกเขาอยู่
“แปลกจริง เจี้ยนเฉินเป็นเซียนราชาหรือยังนะ ? พลังแห่งการมีอยู่ของเขานั้นเป็นระดับเซียนราชาจริง ๆ แต่ทำไมเขาถึงต้องใช้ประตูมิติของพวกเรา ? ” ผู้พิทักษ์จักรพรรดิถามอย่างสงสัย
ผู้พิทักษ์จักรพรรดิอีก 3 คนพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้น พวกเขาว่ามันแปลกมาก
ที่ปรึกษาจักรพรรดิรอบ ๆ พวกเขาก็ตกตะลึงเช่นกันเมื่อเขาได้ยินคำพูดของผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ความมึนงงฉายอยู่ในตาของพวกเขา และในตอนนี้เอง พวกเขาทั้งหมดก็ดูเหมือนจะสงสัยสิ่งที่พวกเขาได้ยิน ผู้พิทักษ์จักรพรรดิเจี้ยนเฉินเป็นเซียนสวรรค์เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเอง แต่ทำไมในตอนนี้เขาถึงได้เป็นเซียนราชา พวกเขายากที่จะเชื่อเรื่องนี้
ในขณะเดียวกัน เจี้ยนเฉินไม่รู้เลยว่าเขาได้สร้างความตกใจให้กับคนในอาณาจักรฉินหวงไปมากแค่ไหน เขามาถึงห่างออกไป 10 กิโลเมตรจากเมืองพิชิตอัคนี
จากไกลไกล เจี้ยนเฉินเห็นกำแพงเมืองสีดำที่ยิ่งใหญ่และหรูหรา พวกตั้งตระหง่านอยู่เหมือนมังกรที่กำลังขดตัวและเปล่งประกายไปด้วยกลิ่นอายที่มองไม่เห็นซึ่งสามารถทำให้วิญญาณของคนที่เห็นมันตกตะลึงได้
ประตูเมืองเปิดกว้างอยู่ในขณะที่คนกลุ่มใหญ่ที่อยู่ในเครื่องแต่งกายของทหารรับจ้างก็กำลังหลั่งไหลเข้าออกเมือง บางคนเดินเท้า บางคนขี่อยู่บนหลังสัตว์อสูร รอยเท้าจำนวนมากประทับอยู่ที่พื้นเบื้องล่าง
เมืองพิชิตอัคนีในตอนนี้จอแจ ไม่เพียงแต่คนหลายล้านจะอาศัยอยู่ในเมืองเท่านั้น แต่ยังมีร้านค้าอยู่เต็มเมืองไปหมด เสียงดังวุ่นวายมากบนถนน ทำให้เมืองมีชีวิตชีวา
เจี้ยนเฉินมองขึ้นไปและหยุดอยู่ที่คำสองคำที่อยู่บนป้ายที่แขวนเอาไว้บนกำแพง ‘เมืองพิชิตอัคนี’ จิตสังหารเริ่มที่จะปั่นป่วนภายในร่างของเขาและไหลออกมาจากร่างของเขาอย่างควบคุมไม่ได้ มันพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมืองที่อยู่ตรงหน้าเขาที่สร้างมาจากทังสเตน ทังสเตนทั้งหมดเป็นของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี คนที่อยู่ในเมืองและธงที่อยู่ที่กำแพงควรจะเป็นของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป มันกลายไปเป็นของคนอื่นในตอนนี้
เจี้ยนเฉินยากที่จะเก็บกดความโกรธไว้เมื่อเขาคิดถึงเกี่ยวกับเรื่องกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีที่เขาได้ทุ่มเทเงินทองและกำลังในการสร้างขึ้นมา แต่ในตอนนี้มันกลับถูกเอาไปโดยคนอื่น กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้สร้างเมืองนี้มาอย่างยากลำบาก
“อ้าก ! ” เจี้ยนเฉินคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า มันเหมือนฟ้าร้องและระเบิดออกไปบนท้องฟ้า เสียงนี้พอที่จะผ่านชั้นหินไปได้ ไม่เพียงแต่มันจะกระจายไปทั่วท้องฟ้าเท่านั้น มันยังทำให้ทั้งเมืองสั่นไหวเล็กน้อย และทำให้ชั้นฝุ่นหนาตลบอบอวลไปในอากาศ
ยามของพันธมิตรพิชิตอัคนีที่อยู่บนกำแพงเมืองอุดหูอย่างแน่นในขณะที่พวกเขาลงไปดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้นอย่างทรมาน เสียงคำรามที่น่ากลัวนั้นบาดหูมากสำหรับพวกเขาทั้งหมด และทำให้เลือดไหลออกมาเป็นทางจากหูของพวกเขา
คนนับไม่ถ้วนภายในกำแพงเมืองก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แก้วหูของคนที่อ่อนแอหลายล้านคนถูกทำลายไปด้วยเสียงคำราม ทำให้พวกเขาได้รับควาทุกข์ทรมาน บางคนถึงกับเป็นลมไปเลย
ในพริบตาเดียว เมืองก็ตกอยู่ในความโกลาหล ถนนเต็มไปด้วยผู้คนที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น
เสียงคำรามของเจี้ยนเฉินทำให้คนหลายล้านของพันธมิตรหมดสภาพไป คนที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนมากมาย นี่คือความยิ่งใหญ่ของเซียนราชา
โฮ้ก !
ในเวลาเดียวกัน เสียงคำรามบาดหูของเสือก็ดังออกมา มันเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่มหาศาล เหมือนว่ามันเป็นนายเหนือหัวที่กำลังดูแคลนทุกคนอยู่
เสือขาวที่อยู่บนไหล่ของเจี้ยนเฉินยืนขึ้นมา มันคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้าเลียนแบบเจี้ยนเฉิน มันส่งเสียงที่ไม่เหมาะกับขนาดของตัวเองออกมาเลย แม้ว่ามันจะไม่ได้ดังมากเท่ากับเจี้ยนเฉิน แต่เสียงคำรามของมันก็มีระดับของการทะลุทะลวงที่เจี้ยนเฉินไม่มี มันเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามที่สุดยอด
สัตว์อสูรนับไม่ถ้วนเริ่มที่จะร้องครวญครางออกมาอย่างเวทนาในเมือง ทั้งหมดทรุดลงไปที่พื้นในขณะที่พวกมันสั่นเทาและความกลัวก็ท้วมท้นไปในดวงตาของพวกมัน ทหารรับจ้างที่อ่อนแอที่ยังมีสติจากเสียงคำรามของเจี้ยนเฉินก็ถูกทำให้หมดสติไปด้วยเสียงคำรามของเสือขาว
พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลได้มากกว่ายี่สิบดวงได้ปรากฏขึ้นที่วังที่กึ่งกลางของเมือง เซียนผู้คุมกฎที่ทำสมาธิอยู่ด้านในทั้งหมดรู้ตัว และบินออกมาด้านนอกทันที
พันธมิตรพิชิตอัคนีถูกสร้างขึ้นมาจากกลุ่มทหารรับจ้างระดับสูงมากกว่า 16 กลุ่ม และมีเซียนผู้คุมกฎเป็นอดีตหัวหน้าของกลุ่มคนเหล่านี้ทั้งนั้น
เซียนผู้คุมกฎมาถึงที่ประตูเมืองด้วยความเร็วดุจสายฟ้า พวกเขามองไปที่เจี้ยนเฉินที่ลอยอยู่สูงกลางอากาศ พวกเขาทั้งหมดเคร่งเครียดมาก
ด้วยระดับการฝึกฝนของพวกเขาในตอนนี้ พวกเขาสัมผัสได้เลยถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน พลังมหาศาลจากเจี้ยนเฉินทำให้พวกเขาสั่นไปด้วยความกลัว พวกเขาทั้งหมดเข้าใจเลยว่า คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าพวกเขาต้องเป็นเซียนราชาแน่
อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นไม่เคยเห็นเจี้ยนเฉินมาก่อน แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินชื่อนี้ แต่พวกเขาก็จำเจี้ยนเฉินไม่ได้
“ข้าขอถามชื่อของผู้อาวุโสได้หรือไม่ ? ทำไมท่านต้องสร้างปัญหาให้กับพันธมิตรพิชิตอัคนีด้วย ? พันธมิตรของพวกเราดูเหมือนจะไม่เคยไปทำให้ท่านโกรธเลย” เซียนผู้คุมกฎพูดอย่างระมัดระวัง
จิตสังหารไหลออกมาจากเจี้ยนเฉินในขณะที่เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่เซียนผู้คุมกฎ เขาคำรามออกมา “เจ้าเอาเมืองของข้าและไล่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีออกไป ! พวกเข้าคิดว่าข้าเป็นใครกัน ! ? “
เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดมีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินแบบนี้ บางคนเข้าใจและตะโกนออกมาทันที “เจ้าคือหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี เจี้ยนเฉิน ! “
“อะไรนะ ! ? เขาคือเจี้ยนเฉินที่ตระกูลผู้พิทักษ์ตามหามานานหลายปีนั้นน่ะหรือ ? นี่ไม่ได้ความว่าเสือที่อยู่บนไหล่ของเขาเป็นพยัคฆ์ปีกเทวะอย่างนั้นหรือ ! ? “
“เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้ ว่ากันว่าเจี้ยนเฉินเป็นแค่เซียนผู้คุมกฎเท่านั้น และเขาพึ่งจะตัดผ่านได้ไม่นาน ทำไมเขาถึงได้กลายเป็นเซียนราชาเร็วนัก…”
“แม้ว่าพรสวรรค์ของเจี้ยนเฉินนั้นจะสุดยอด แต่ความเร็วในการฝึกฝนของเขาไม่น่าจะอยู่ในระดับที่น่ากลัวขนาดนี้ เขาไม่ใช่เจี้ยนเฉินแน่”
เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดตะโกนออกมาด้วยความตกใจ พวกเขาจ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างเหลือเชื่อ แต่สายตาของพวกเขาเกือบทุกคนก็เพ่งไปที่เสือขาวที่อยู่บนไหล่ของเจี้ยนเฉิน ตาของพวกเขาลุกไหม้ไปด้วยความโลภ
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินมืดครึ้มและเขาก็จ้องไปที่เซียนผู้คุมกฎและมองผ่านพวกเขาไปช้า ๆ เขามองหาไป่เจี้ยนไม่เจอ ดังนั้นเขาจึงคำรามออกมา “หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี เจี้ยนเฉินอยู่ที่นี่แล้ว ไป่เจี้ยนอยู่ที่ไหน ! ? ออกมารับความตายซะ ! “
เสียงของเจี้ยนเฉินสะท้อนไปรอบ ๆ มันทำให้มิติสั่นไหวในขณะที่เสียงของเขาเดินทางไปไกลเกินกว่าร้อยกิโลเมตร
“อะไรนะ ! หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีกลับมาแล้วหรือ ? “
“นั่นคือหัวหน้าเจี้ยนเฉิน หัวหน้าเจี้ยนเฉินกลับมาแล้ว”
..
ภายในเมืองพิชิตอัคนี ทหารรับจ้างบางคนที่ยังมีสติตะโกนออกมา พวกเขาเต็มไปด้วยอารมณ์เพราะว่าพวกเขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมาก่อน มันเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีล่มสลายลง และพวกเขาก็เข้าร่วมกับพันธมิตรพิชิตอัคนีและกลายเป็นส่วนหนึ่งในนั้น
เซียนผู้คุมกฎแน่ใจถึงตัวตนของเจี้ยนเฉินเมื่อเขายืนกรานออกมาแบบนั้น พวกเขาทั้งหมดตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่กลัวเจี้ยนเฉินในตอนแรกถ้าเขาเป็นแค่เซียนผู้คุมกฎ แต่เจี้ยนเฉินที่อยู่ตรงหน้านี้เปล่งประกายไปด้วยกลิ่นอายของเซียนระดับราชา นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาวิตก
“หืม หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนียังไม่ทันอายุถึง 50 ปีเลย น่าประทับใจมากที่เขาเป็นถึงเซียนผู้คุมกฎด้วยอายุเท่านี้ แต่ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นเซียนราชาแล้วจริงจริง พลังแห่งการมีอยู่นี้อาจจะเป็นของปลอมและไม่ใช่ความแข็งแกร่งของเขาจริง ๆ ” เซียนผู้คุมกฎสงสัย
“ใช่ ไม่มีเซียนผู้คุมกฎที่อายุน้อยขนาดนี้หรอก พลังแห่งการมีอยู่ของเขาต้องเป็นของปลอมและความแข็งแกร่งของเขาต้องไม่เยี่ยมยอดเท่าที่พวกเราเข้าใจแน่ พวกเราไปจัดการเขาพร้อมกัน อย่าไปกลัวการหลอกลวงนี้ อย่าไปกลัวเขา” เซียนผู้คุมกฎอีกคนตะโกนออกมา หลังจากนั้น เขาก็จับอาวุธเซียนของเขาและพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินพร้อมสหายอีก 3 คน
สายตาของเจี้ยนเฉินเย็นชา ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิปรากฏขึ้นที่มือของเขาทันทีและเขาก็แทงออกไป 4 ครั้งไปที่สี่จอมยุทธ
เซียนผู้คุมกฎทั้งสี่คำรามออกมาพร้อมกันและโจมตีออกไปแรงที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ อาวุธเซียนของพวกเขาแทงผ่านมิติรอบ ๆ ไปและพุ่งไปที่เจี้ยนเฉิน ในขณะที่มันเปล่งประกายไปด้วยพลังงานมหาศาล
ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉินปะทะกับอาวุธเซียนทั้งสี่ เซียนผู้คุมกฎธรรมดาจะไปทนการโจมตีของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 ได้อย่างไร ? พวกเขาทั้งสี่หยุดทันทีและเริ่มที่จะกระอักเลือดออกมา พวกเขาหน้าซีดลงทันที
ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิพุ่งต่อไปอย่างไม่ลดกำลัง มันตัดผ่านหัวของพวกเขาเหมือนมีดร้อนที่ตัดผ่านเนย และฟันหัวของพวกเขาและกำจัดวิญญาณออกไป เลือดพุ่งขึ้นกลางอากาศเหมือนดอกไม้บาน
เซียนผู้คุมกฎทั้งสี่ถูกสังหารอย่างง่ายดายโดยไม่มีทางต่อต้านเลย
เซียนผู้คุมกฎคนอื่น ๆ มีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงเมื่อพวกเขาเห็นแบบนี้ พวกเขาโซเซถอยหลังไปในอากาศในขณะที่สายตาที่พวกเขามองไปที่เจี้ยนเฉินนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก
ในตอนนี้ ไม่มีใครกล้าที่จะสงสัยในความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินอีกแล้ว เขาเป็นเซียนราชาจริง ๆ