CLS ตอนที่ 183: เมื่อคะแนนไม่ถึง ก็ต้องเอาจำนวนเข้าว่า!
อี้เทียนหยุนยังคงสร้างค่ายกลชั้น 1 ต่อไป พูดได้ว่าเป็นไปตามคาด พวกเขารู้สึกว่าอี้เทียนหยุนทำเป็นแค่ค่ายกลชั้น 1 ทั้งยังเอาแต่ฝึกทำค่ายกลชั้น 1 อย่างบ้าคลั่ง ทำให้สร้างค่ายกลชั้น 1 แบบซ้อนทับออกมาได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้รับอันดับ 1 ในรอบที่แล้ว?
รอบแรกแสดงออกมาได้ดี พอรอบที่สองก็คิดจะทำแบบเดิม เห็นได้ชัดว่าเป็นการนำหายนะมาให้ตัวเอง นอกจากจะสร้างค่ายกลชั้น 1 แบบซ้อนทับด้วยความเร็วที่มากขึ้น ไม่อย่างนั้นอย่าได้หวังว่าจะได้คะแนนเหนือกว่าคนอื่นๆ อย่างเช่นรอบแรก ค่ายกลชั้น 1 แบบซ้อนทับที่เขาสร้าง ใช้เวลาไปเกือบจะ 1 ชั่วยามเต็มๆ
ถ้าเป็นอย่างนี้ คะแนนที่เขาจะได้ก็เพียงแค่ 5 คะแนนเท่านั้น ขณะที่เขาได้เพียง 5 คะแนน คนอื่นๆ กลับสร้างค่ายกลชั้น 3 ได้มากกว่า 2-3 ชิ้น ทำให้ได้รับคะแนน 15 คะแนน ด้วยช่องว่างที่กว้างขนาดนี้ เขาไม่สามารถตามทันได้อย่างแน่นอน
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าอี้เทียนหยุนอาจจะสร้างค่ายกลซ้อนทับเหมือนรอบแรก แต่ภายหลังพวกเขากับพบว่าตัวเองคิดผิด อี้เทียนหยุนในตอนนี้กำลังสร้างค่ายกลชั้น 1 จริงๆ ไม่ใช่ค่ายกลซ้อนทับ ความเร็วในตอนนี้ของเขาไม่เร็วแต่ก็ไม่ช้า ถ้ายังคงความเร็วไว้แบบนี้ต่อไป เมื่อหมดเวลา อย่างมากเขาก็สร้างออกมาได้แค่ 5-6 ชิ้น ได้คะแนนแค่ 5-6 คะแนน ซึ่งนับว่าต่ำมาก
หลังจากหลี่เทียนหลงที่อยู่บนเวทีสังเกตเห็น ตอนแรกเขาก็อ้าปากค้าง จากนั้นก็ส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ เขาคิดว่าระดับของอี้เทียนหยุนจะต้องสูงมากแน่ๆ ดังนั้นจึงเลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้อเป็นกรณีพิเศษ แต่ไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนจะสร้างออกมาแค่ค่ายกลชั้น 1 นี่มันช่างน่าผิดหวังจริงๆ
“หรือว่าข้าจะคิดผิด?” หลี่เทียนหลงคิดว่าคนที่สามารถสร้างค่ายกลซ้อนทับออกมาได้ แม้จะเป็นเพียงแค่ค่ายกลชั้น 1 อย่างน้อยก็ต้องมีความสามารถพอที่จะสร้างค่ายกลชั้น 4 ออกมาได้ แต่การจะสร้างอย่างต่อเนื่องนั้น หมายความว่าต้องมีพลังวิญญาณมากพอ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถทำจนเสร็จได้
เพราะการสร้างค่ายกลชั้น 1 สามชั้นซ้อนนั้นสูญเสียพลังวิญญาณมากกว่าค่ายกลชั้น 3 ธรรมดา แต่ถึงจะสร้างค่ายกลชั้น 1 สามชั้นซ้อนออกมาจริงๆ มันก็เทียบได้กับค่ายกลชั้น 3 หนึ่งชิ้นเท่านั้น
มีหลายคนชื่นชอบเขา แต่ตอนนี้เหมือนจะผิดหวัง ดูเหมือนว่าเขาจะเพียงแค่มีพื้นหลังที่ดีเท่านั้น ด้วยอายุขนาดนี้ จากนี้ไป โอกาสของเขาจะต้องมีอีกมากอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้กลัวว่าเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว
สีหน้าของอี้เทียนหยุนยังคงสงบ ไม่ได้รับผลกระทบจากผู้คนรอบข้างแม้แต่น้อย เขาใส่ใจในการสร้างค่ายกลชั้น 1 นี้เป็นพิเศษ และหลังจากนั้น สายตาของเขาก็ระเบิดแสงแห่งความยินดีออกมา พร้อมกับรอยยิ้มที่แขวนบนใบหน้า “เสร็จสักที ข้ารู้สึกว่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้า อันนี้ดีกว่ามาก…..”
และหลังจากนั้น พู่กันในมือของเขาก็พลันเปล่งแสงเจิดจ้าออกมา ความเร็วในการวาดของเขาพลันเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า!
“!”
ภายใต้แสงเจิดจ้าของพู่กันบนมือเขา ค่ายกลบนกระดาษก็แล้วเสร็จไปทีละชิ้นอย่างรวดเร็ว นี่คือค่ายกลชั้น 1! ความเร็วที่เขาทำออกมาเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้แล้ว เร็วกว่ากันตั้งหลายเท่า ถ้าเขายังใช้ความเร็วแบบนี้ต่อไป คะแนนของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งแน่
สถานการณ์ของเขาถูกคนอื่นสังเกตเห็นอย่างรวดเร็ว พวกเขามองมือที่เคลื่อนไหวของอี้เทียนหยุน มันไวมากจริงๆ ไวจนพวกเขามองตามไม่ทัน นี่เขาสามารถสร้างค่ายกลชั้น 1 ได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ
เมื่อวาดเสร็จก็หยิบกระดาษขึ้นมา หลังจากวาดเสร็จอีกครั้งก็หยิบกระดาษขึ้นมาอีกครั้ง
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป เขาก็วาดค่ายกลออกมาได้ 5-6 ชิ้นแล้ว เมื่อเทียบกันแล้ว คนอื่นยังทำไม่เสร็จเลยสักชิ้นเดียว ขณะที่คนอื่นยังทำไม่เสร็จ เขาก็ทำเสร็จไป 5-6 ชิ้น นี่หมายความว่าเขาได้คะแนนเทียบเท่ากับการสร้างค่ายกลชั้น 3 หนึ่งชิ้นเลยทีเดียว!
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมอยู่ๆ ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นล่ะ!”
“ใช่ นี่มันจะเร็วเกินไปไหม? เร็วจนน่ากลัวจริงๆ!”
“พริบตาก็วาดออกมาได้ 7-8 อัน สวรรค์ ค่ายกลชั้น 3 ที่คนอื่นสร้างยังไม่ทันจะเสร็จเลยด้วยซ้ำ!”
……
พวกเขาพากันตกใจ ราวกับเห็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ นี่เหมือนกับรอบแรกเลย พวกเขาดูถูกอี้เทียนหยุนเกินไป ตอนนี้ดูแล้ว ถ้าเขายังคงความเร็วแบบนี้ต่อไป มันจะไม่เป็นการคว้าอันดับหนึ่งไปอย่างง่ายดายอย่างงั้นเหรอ!
หลินหลี่ก็สังเกตเห็นเหตุการณ์นี้เหมือนกัน ในใจที่มีความสุขของเขาตอนนี้พลันดิ่งลงไปถึงตาตุ่ม นี่ไม่อาจเอาสามัญสำนึกไปวัดได้จริงๆ การวาดค่ายกลชั้น 1 ด้วยความเร็วขนาดนี้ มันจะไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือไง?
นี่สมกับหัวข้อการประลองนี้ที่เรียกว่า “ความเร็ว” จริงๆ!
หลี่เทียนหลงก็ตกใจจนต้องลุกจากเก้าอี้เลยทีเดียว เขามองไปที่อี้เทียนหยุนที่วาดค่ายกลออกมาด้วยความเร็วแสนบ้าคลั่ง ในปากก็อดไม่ได้ต้องพึงพำออกมา “เร็วมาก นี่มันความสามารถอะไรกัน ทำไมถึงได้ทำได้เร็วขนาดนี้?”
“ขอโทษด้วย กระดาษข้าหมดแล้ว ขอกระดาษเพิ่มหน่อย” อี้เทียนหยุนพลันชูมือขึ้น พร้อมกับบอกผู้จัดการที่อยู่ใกล้ๆ เอากระดาษมาให้ตนเพิ่ม
ตอนนี้เขาใช้กระดาษที่ได้รับมาหมดแล้ว กระดาษที่ได้รับมานั้นไม่ถือว่ามาก แต่ก็เกินสิบชิ้น ซึ่งก็ถูกเขาใช้จนหมด โดยปกติแล้ว กระดาษสิบชิ้นนี้ เพียงพอแล้วที่จะใช้ในเวลา 1 ชั่วยาม
แต่ไม่คิดเลยว่าจะถูกใช้จนหมด ตอนนี้เวลายังเหลือกว่าครึ่ง ยังวาดต่อได้!
“ได้!” ผู้จัดการที่ค่อยๆ ได้สติจากการตกใจก็ได้ส่งกระดาษชุดใหม่ให้กับเขาอย่างรวดเร็ว
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็ลงมือวาดอีกครั้ง เสียงพู่กันตวัดลงบนกระดาษช่างรื่นหูจริงๆ ทันใดนั้นค่ายกลชั้น 1 อีกชิ้นก็แล้วเสร็จ ไม่มีความยากแม้แต่น้อย
“ผิดปกติเกินไปแล้ว นี่มันความเร็วอะไรกัน?”
“แม้จะแค่คะแนนเดียว แต่ถ้าทำด้วยความเร็วขนาดนี้ ต้องแซงพวกเราแน่ๆ!”
“ที่แท้ค่ายกลชั้น 1 ก็ทำแบบนี้ได้ด้วย…. ข้าตัดสินใจผิดจริงๆ”
ผู้เข้าแข่งขันรอบๆ พากันส่ายหัว ไม่สามารถเทียบได้ ในความคิดของพวกเขา ค่ายกลชั้น 1 จะไปได้คะแนนสูงได้ยังไง มันสามารถพูดได้ว่า เมื่อคะแนนไม่ถึง ก็ต้องเอาจำนวนเข้าว่า!
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงได้วาดได้เร็วอย่างนี้!?” หลินหลี่มีสีหน้าน่าเกลียด ความเร็วในมือเขาลดลงเล็กน้อย แต่ใครจะรู้ อยู่ๆ ก็มีเสียง “ปัง” กระดาษในมือเขาพลันมีไฟลุกขึ้นมา หมายความว่าค่ายกลชั้น 3 ที่เขาวาดนี้ ล้มเหลว
“โทษที นี่เจ้าจงใจออมมือให้ข้าอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนเงยหน้าขึ้นไปมอง พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเฉยชา
หลินหลี่โมโหจนแทบจะลุกเข้าไปต่อย แต่ก็ได้แต่เก็บความโกรธไว้ ความล้มเหลวเมื่อกี้นี้เพราะเขาถูกเรื่องนี้รบกวน ทำให้เขาไม่เต็มใจที่ตอบกลับไป พร้อมกับตั้งใจวาดค่ายกลของตนต่อ ต่อให้จะล้มเหลว แต่ถ้าดึงคะแนนกลับมาได้สักคะแนนก็ยังดี
และแล้วเวลาก็ผ่านไป อีกไม่นานก็ครบ 1 ชั่วยาม เมื่อทรายในแก้วร่วงลงจนหมด ผู้จัดการที่อยู่ใกล้ๆ ก็ตะโกนขึ้นมาทันทีว่า “หยุดมือได้!”
ในตอนนี้ ทุกคนต่างพากันหยุดมือ วางพู่กันในมือลง!
ในตอนนี้ บนมือของอี้เทียนหยุนมีกระดาษที่วาดค่ายกลปึกใหญ่ เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ที่มีแค่ไม่กี่แผ่นแล้ว ของเขาดูหนากว่ามากจริงๆ…..
กระดาษค่ายกลปึกหนานี้ ดูแล้วให้ความกดดันไม่น้อย เพียงแค่มองผ่านๆ ก็รู้ได้ว่ามีอย่างน้อย 20-30 ชิ้น แบบนี้ก็ได้เหรอ?