CLS ตอนที่ 184: ชนะขาด
ผู้คนพากันมองไปที่ปึกกระดาษในมืออี้เทียนหยุน พลางรู้สึกตกใจอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นว่ามีนักสลักอาคมที่สร้างค่ายกลได้เร็วขนาดนี้ ความเร็วของเขาเร็วมากจริงๆ เร็วจนคนไม่อยากจะเชื่อ!
เพราะตอนแรกอี้เทียนหยุนทำเหมือนกับไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ตอนนั้นทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่ค่ายกลซ้อนทับ มาตอนนี้เขากลับสร้างค่ายกลชั้น 1 ธรรมดา ซึ่งท่าทางของเขาก็เหมือนกับไม่คุ้นชิน แม้ว่าจะทำสำเร็จ แต่ก็ช้ามากอยู่ดี
ทีนี้พอหลังจากทำความคุ้นชินไปสักระยะ ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นแบบพรวดพราด ค่ายกลชั้น 1 สามชั้นซ้อนก็เช่นกัน ถ้าเขาไม่มีความสามารถจริง เขาจะใช้เวลาแค่นั้นทำออกมาได้อย่างงั้นเหรอ
“ตอนนี้เรามานับคะแนนกัน!” หลี่เทียนหลงได้สติกลับมาหลังจากที่ตกใจไป เขาออกคำสั่งให้ผู้จัดการคนอื่นๆ เริ่มตรวจสอบจำนวน เพื่อที่จะคำนวณคะแนนออกมา
หลังจากพวกเขาเดินเข้ามา การนับคะแนนก็เริ่มขึ้น เริ่มนับคะแนนจากคนที่อยู่ด้านหน้าก่อน อย่างรวดเร็วก็มาถึงตาของหลินหลี่ หลังจากนับคะแนน ผู้จัดการก็พยักหน้าแล้วประกาศคะแนนออกมาว่า “ค่ายกลชั้น 3 ทั้งหมด 3 ชิ้น 15 คะแนน!”
“ค่ายกลชั้น 3 สองชิ้น, ค่ายกลชั้น 2 สองชิ้น รวมเป็น 14 คะแนน! ดี” คะแนนของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นถูกขานออกมา
“ค่ายกลชั้น 3 สองชิ้น, ค่ายกลชั้น 2 สองชิ้น และก็ค่ายกลชั้น 1 หนึ่งชิ้น, รวมทั้งหมด 15 คะแนน! หือ คะแนนของเจ้าดีนี่” นี่เป็นคะแนนของผู้เข้าแข่งขันอีกคน
คะแนนพวกนี้พอๆ กับหลินหลี่ ตามจริงแล้วหลินหลี่ควรจะได้ 20 คะแนน ไม่ควรจะมีใครแซงเขาได้
ตอนนี้หลินหลี่รู้สึกเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาควรจะได้ 20 คะแนน แต่ตอนนี้เขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนอื่นได้คะแนนเท่ากับตัวเขา นี่ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอกเหรอ? เขาเป็นถึงศิษย์วังเสินเหวิน ทำไมถึงได้คะแนนพอๆ กับพวกเขากัน
หลังจากคะแนนของคนส่วนใหญ่ถูกขานออกมา คะแนนที่ชนะขาดยังไม่ปรากฏออกมา ในที่สุดก็มาถึงตาของอี้เทียนหยุน ผู้จัดการรับกระดาษปึกนั้นมา หลังจากนับจำนวนดูแล้ว เขาก็ประกาศคะแนนออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “ค่ายกลชั้น 1 จำนวน 32 ชิ้น รวมเป็น 32 คะแนน….”
เมื่อคะแนนนี้ถูกประกาศออกมา ในใจทุกคนก็พลันสั่นสะท้านอย่างแรง นี่เป็นคะแนนที่เหนือกว่าที่สองอย่างขาดลอย ถ้าก่อนหน้านี้หลินหลี่ไม่พลาด อย่างมากเขาก็ได้แค่ 20 คะแนน ซึ่งยังห่างกันถึง 12 คะแนน เป็นระยะห่างของค่ายกลชั้น 3 ถึง 2 ชิ้น!
แล้วนี่จะให้หลินหลี่ถมช่องว่างนี้ได้ยังไง?
หลังจากทุกคนได้ยินประกาศนี้ก็พากันสูดหายใจดังเฮือก นี่มันจะท้าทายสวรรค์เกินไปหน่อยเหรอ? แม้ว่าค่ายกลชั้น 1 จะได้แค่ 1 คะแนน แต่เพียงเวลาสั้นก็สร้างออกมาได้ 32 ชิ้น นี่มันความชำนาญแบบไหนกัน
“เจ้าตระกูลหวัง ขอบคุณมากที่ออมมือให้! รอบนี้ ตระกูลจู้ของพวกเราเป็นฝ่ายชนะ” จู้เทียนหงก็ไม่ลืมที่จะเย้ยเจ้าตระกูลหวังกลับ ใครใช้ให้ก่อนหน้านี้พวกเขาเยาะเย้ยตัวเองก่อนล่ะ
ยังไงก็ตาม ในที่สุด ในใจเขาก็รู้สึกว่าอี้เทียนหยุนนี้ช่างน่าหวาดกลัวเสียจริง ทั้งยังมากไปด้วยความคาดไม่ถึง ตอนแรกก็ทำให้คนหวั่นใจ พอตอนหลังกลับเอาชนะขาด นี่มันอัจฉริยะชัดๆ!
“นี่เพิ่งจะรอบที่สองเท่านั้น! อย่าเพิ่งดีใจเร็วไปนัก!” เจ้าตระกูลหวังพูดออกมา ขณะที่พูดออกมานี้ ในใจเขาก็รู้สึกไม่มั่นใจเช่นกัน คะแนนของอี้เทียนหยุนในรอบที่ 2 นี้ห่างกันอยู่ 12 คะแนน แล้วแบบนี้จะไล่ตามได้ยังไง?
“ใช่ นี่แค่รอบที่สองเท่านั้น แต่ทั้งสองรอบนี้ ตระกูลจู้ของเราเป็นฝ่ายชนะ!” จู้เทียนหงพูดพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ
เจ้าตระกูลที่อยู่ใกล้ๆ ก็บ่นขึ้นในใจ ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเจ้าเองตอนที่เห็นอี้เทียนหยุนสร้างค่ายกลชั้น 1 ก็หน้าเปลี่ยนสีจนดูไม่ได้อยู่เลยไม่ใช่หรือไง
“ถ้ารอบต่อไปเป็นการแข่งขันเรื่องระดับของค่ายกลว่าของใครสูงกว่า ข้าว่าเขาก็คงสร้างค่ายกลชั้น 1 ต่อไปอยู่ดีนั่นแหละ? ถ้ามีความสามารถจริง ก็สร้างค่ายกล 4 ชั้นซ้อนออกมาเสียเลยสิ แล้วข้าถึงจะยอม!” เจ้าตระกูลหวังแค่นเสียงออกมา ต่อให้ตายก็จะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
ค่ายกลชั้น 1 สี่ชั้นซ้อน ความยากของมันสูงมาก กระทั่งสูงกว่าการสร้างค่ายกลชั้น 4 เสียอีก! ดังนั้น การทำอย่างนั้นก็เหมือนกับการทำงานที่ไม่ได้รับคำขอบคุณ ไม่มีใครเต็มใจทำ ด้วยความยากที่สูงขนาดนั้น กลัวว่าแม้แต่อาจารย์สลักอาคมชั้น 5 ก็ยังไม่กล้าทำ
ยิ่งซ้อนหลายชั้นเท่าไหร่ ความผิดพลาดก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้น สู้สร้างค่ายกลชั้น 4 ออกมาเลยไม่ดีกว่าเหรอ
“เขาสร้างค่ายกลชั้นสูงออกมาได้แน่ๆ ใครบอกกันว่าเขาสร้างเป็นแต่ค่ายกลชั้น 1?” จู้เทียนหงรีบปฏิเสธทันที เขาไม่เชื่อว่าอี้เทียนหยุนจะทำเป็นแค่ค่ายกลชั้น 1
“ก็ใช่ งั้นเรามาคอยดูกัน!” เจ้าตระกูลหวังก็ไม่เชื่อเช่นกัน ต่อให้สร้างค่ายกลชั้นสูงได้แล้วยังไง หลินหลี่ก็ทำได้เช่นกัน!
ที่นี่ยังคงมีเสียงดังขึ้นไม่หยุด อี้เทียนหยุนเป็นดั่งกับสัญลักษณ์แห่งความปีติ จู้อวี่เหว่ยและจู้อวี่เสวียนพากันตื่นเต้น ผู้อาวุโสอี้ของพวกเธอร้ายกาจที่สุด
“ผู้อาวุโสอี้ชนะแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังนำห่างอันดับสองไปไกล นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำได้ถึงขนาดนี้!”
“ใช่ ผู้อาวุโสอี้ร้ายกาจมาก ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญสลักอาคมที่ร้ายกาจขนาดนี้!”
จู้อวี่เหว่ยและจู้อวี่เสวียนสองพี่น้องตาเป็นประกาย มองไปที่อี้เทียนหยุนบนเวทีด้วยแววตาระยิบระยับ อัจฉริยะที่โดดเด่น ใครบ้างที่จะไม่ชอบ?
“เป็นไปไม่ได้ เจ้า ทำไมเจ้าถึงได้สร้างค่ายกลได้เร็วขนาดนี้?!” หลินหลี่ที่อยู่อีกด้านตกตะลึง ไม่เชื่อว่าจะมีคนที่ทำได้เร็วแบบนี้อยู่ อีกฝ่ายไม่ใช่คนของวังเสินเหวินสักหน่อย แล้วจะมาชนะตัวเขาได้ยังไง!
นี่ทำให้เขารู้สึกอับอายอย่างมาก เขาแบกรับเกียรติยศของวังเสินเหวินไว้บนบ่า นี่เขาจะต้องมาแพ้เด็กน้อยต่อหน้านักสลักอาคมทั้งหลายแบบนี้เหรอ?
“ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกให้ข้าตั้งใจสร้างค่ายกลชั้น 1ไปหรอกเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ข้าก็ตั้งใจสร้างค่ายกลชั้น 1 อย่างที่เจ้าบอกแล้วไง? ตอนนี้เจ้าแพ้แล้ว ข้าว่าเจ้ากลับเข้าครรภ์มารดา แล้วไปฝึกอีกสักหลายปีแล้วค่อยออกมาดีกว่า!”
คำพูดที่อี้เทียนหยุนพูดออกมาทำให้หลินหลี่แทบกระอักเลือดออกมา ใครจะไปคิดว่าอี้เทียนหยุนจะใช้ค่ายกลชั้น 1 เอาชนะเขาจริงๆ? นี่เท่ากับการยืมดาบสนองผู้ใช้ชัดๆ
อี้เทียนหยุนก็เป็นคนแบบนี้ ใครหาเรื่องเขา เขาจะเอาคืนมันผู้นั้นเป็นสิบเท่า!
หลังจากคะแนนประกาศออกมา หลี่เทียนหงก็พยักหน้าด้วยความพอใจ “ครั้งนี้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมาก สามารถสร้างค่ายกลชั้น 1 ด้วยความเร็วขนาดนี้ ทั้งยังความแม่นยำที่ไม่ผิดพลาดอีก ถ้าเปลี่ยนเป็นข้า ความเร็วที่ได้คงจะธรรมดากว่านี้”
หลี่เทียนหลงพูด ทำให้ผู้คนพากันโห่ร้องออกมา หลี่เทียนหงเป็นถึงอาจารย์สลักอาคม คำพูดที่ว่าความเร็วของเขาไม่เทียบเท่าอี้เทียนหยุนนี้ ทำให้พวกเขาตกใจจริงๆ
“นี่ช่างเหนือจากการคาดการณ์ของข้าจริงๆ แม้ว่าจะคะแนนน้อย แต่ก็ได้ความเร็วมาชดเชย ทำให้เอาคืนกลับมาได้สำเร็จ” จากนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่เทียนหลงก็หายไป แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ถ้างั้นตอนนี้ ก็ได้เวลาที่ทดสอบระดับที่แท้จริงของพวกเจ้าแล้ว จงทำให้เต็มที่ แสดงค่ายกลที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเจ้าออกมา ใครที่สร้างค่ายกลชั้นสูงที่สุด ซับซ้อนที่สุด ผู้นั้นจะได้รับคะแนนสูงที่สุด คะแนนในรอบนี้ไม่จำกัด!”
“นี่คือโอกาสที่จะคืนชีพอย่างแท้จริง ใครที่มีความสามารถก็จะได้อยู่ต่อ ส่วนคนที่ไร้ความสามารถก็จะถูกกำจัดไป!” หลี่เทียนหลงพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงหนักๆ
ครั้งนี้เป็นการทดสอบพลังที่แท้จริง ยิ่งค่ายกลชั้นสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้คะแนนสูงเท่านั้น ถ้าชั้นเท่ากัน ก็จะดูที่ความยาก ใครทำได้ยากกว่าก็จะชนะไป ตัวอย่างเช่นค่ายกลที่เพิ่มพลังให้กับอาวุธ ความยากอยู่ระดับกลางๆ คะแนนย่อมไม่ต่ำ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ดูกันที่ระดับความยากของค่ายกล
การทดสอบนี้ไม่เพียงแต่ดูระดับว่าใครสูงใครต่ำเท่านั้น แต่ยังดูไปถึงเนื้อในว่าใครมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน! บางคนรู้จักอักษรรูนหายาก ในขณะที่บางคนไม่รู้จัก นี่จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เอาชนะคนอื่นไปได้
เมื่อได้ยินอย่างนี้ สีหน้าที่ดำคล้ำของหลินหลี่ก็กลายมามีรอยยิ้มอีกครั้ง เขามีเบื้องหลังเป็นวังเสินเหวิน อี้เทียนหยุนจะมาเทียบกับเขาได้ยังไง!