CLS ตอนที่ 185: เหอเชียนหาน
“ติ๊ง ท่านทำภารกิจต่อเนื่องขั้นที่ 2 “เอาชนะการประลองรอบที่ 2” สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 500,000, ความชำนาญในการสลักอาคมเพิ่มขึ้น 1,000!”
หลังจากเอาชนะการประลองรอบที่สองมาได้ ระบบก็ประกาศรางวัลออกมาทันที แม้ค่าประสบการณ์ที่ได้จะสูง แต่ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือค่าความชำนาญ อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา การสร้างค่ายกลชั้น 1 ของเขานั้น แท้จริงแล้วกลับไม่ได้มอบค่าประสบการณ์อะไรให้กับเขาเลย
ที่จริงเขาสร้างค่ายกลชั้นสูงก็ได้ แต่เขาชอบที่จะตบหน้าคน ทั้งยังต้องตบอย่างรุนแรงด้วย! ยิ่งทำเป็นถ่อมตัวเท่าไหร่ เสียงวิจารณ์ก็จะยังยิ่งมาก อย่างนี้ถึงจะสะใจ
“เยี่ยม ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป การทำให้ความชำนาญในการสลักอาคมเข้าสู่ขั้นสูงก็ไม่ใช่เรื่องยาก” ดวงตาของอี้เทียนหยุนเป็นประกาย
หลี่เทียนหลงเห็นผู้คนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เขาก็รู้สึกปลื้มปีติอย่างมาก จนต้องเผยรอยยิ้มออกมา “จิตวิญญาณนักสู้ของพวกเจ้าทำให้ข้ามีความสุขอย่างมาก แม้จะพึ่งผ่านการต่อสู้เมื่อกี้มา แต่ก็ยังคงพร้อมที่จะต่อสู้ในรอบต่อไป นี่ทำให้ข้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก”
อยู่ๆ ก็เปลี่ยนหัวข้อ ทำให้หลายคนไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ทุ่มสุดตัว หลังจากผ่านการประลองรอบที่แล้ว คนส่วนใหญ่ก็เริ่มเผยให้เห็นถึงความอ่อนล้า ดังนั้น การประลองรอบนี้จึงเป็นการทดสอบพลังที่เหลืออยู่ของทุกคนด้วย
บางคนที่พลังเหลือไม่มากพอที่จะสร้างค่ายกลชั้นสูง ซึ่งอาจจะมีสิทธิ์ล้มเหลวได้ ดังนั้นอาจจะเปลี่ยนมาสร้างค่ายกลที่ลดระดับลงมา เพราะถึงยังไงในรอบที่สองนั้น คนอื่นๆ ก็ล้วนแต่สูญเสียพลังวิญญาณไปมากพอๆ กัน ดังนั้น รอบนี้จึงเป็นการวัดว่าพลังวิญญาณของใครเหลือมากที่สุด
“จากนี้จะขอประกาศกฎการให้คะแนน ค่ายกลชั้น 1 ไล่จากต่ำไปสูงได้ 1, 2 และ 3 คะแนน, ค่ายกลชั้น 2 จากต่ำไปสูง เป็น 4, 5 และ 6 คะแนน, ค่ายกลชั้น 3 เป็น 5, 8 และ 10 คะแนน, ค่ายกลชั้น 4 เป็น 20, 40 และ 60 คะแนน…..”
เมื่อไปถึงชั้นที่ 4 คะแนนก็กระโดดพรวดขึ้นไป เพียงขั้นต่ำก็ได้ถึง 20 คะแนนแล้ว! ขั้นกลางที่ยากขึ้นมาก็กลายเป็น 40 คะแนน ส่วนขั้นสูงนั้นได้ไปถึง 60 คะแนน ไม่ว่าตรงหน้าจะมีคะแนนมากเพียงไหน แค่อันนี้อันเดียวก็เติมเต็มทุกสิ่งแล้ว
“ทั้งนี้ยังมีการแบ่งแยกความยากเข้าไปด้วย ถ้าใครสามารถสร้างค่ายกลซ้อนทับขึ้นมาได้ แน่นอนว่าคะแนนที่ได้ก็จะต่างไปจากนี้ นี่เป็นเพียงคะแนนพื้นฐานเท่านั้น หากมีคนสร้างค่ายกลซ้อนทับขึ้นมาจริงๆ ถึงตอนนั้นเราค่อยมาพูดถึงเรื่องคะแนนกันอีกครั้ง แต่แน่นอนว่าคะแนนนั้นจะต้องมากเกินกว่าที่พวกเจ้าคิดอย่างแน่นอน!”
หลี่เทียนหลงมองไปที่พวกเขาพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมา “ดังนั้น ขอให้พวกเจ้าทุกคนทำให้เต็มที่ ยิ่งค่ายกลชั้นสูงเท่าไหร่ยิ่งดี จากนั้นเรามาดูกันว่า สุดท้ายนี้ใครจะได้อันดับไหน!”
นี่เป็นเพียงแค่รอบที่สามเท่านั้น จำนวนที่เหลือไม่มากไม่น้อย นี่ไม่ใช่การประลองยุทธ์ เมื่อสูญเสียพลังวิญญาณไปแล้วไม่สามารถกินยาเพื่อฟื้นฟูได้ ทั้งเม็ดยาฟื้นฟูพลังวิญญาณนั้นหายากมาก ราคาจึงค่อนข้างแพง
ดังนั้น การจะใช้ในการแข่งขันนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่
ผู้เข้าแข่งขันพากันพยักหน้า พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดีว่าพวกเขาต้องทำให้เต็มที่ หากไม่ทำตอนนี้แล้ว จะให้ไปทำตอนไหน
“ติ๊ง ท่านรับภารกิจต่อเนื่องขั้นที่ 3 “ชนะการประลองรอบที่ 3” สำเร็จ เมื่อสำเร็จจะได้รับค่าประสบการณ์ 500,000, ความชำนาญในการสลักอาคมเพิ่มขึ้น 1,000!”
รางวัลเหมือนครั้งก่อนหน้า ไม่มีอะไรเปลี่ยน แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
“ดีมาก ในเมื่อทุกคนเข้าใจแล้ว ข้าก็จะไม่ขอพูดมากอีก เวลาในรอบนี้ก็ไม่มากไม่น้อย 5 ชั่วยาม ภายใน 5 ชั่วยามนี้ ขอให้ทุกคนทำให้เต็มที่!” หลี่เทียนหลงพูด
เวลา 5 ชั่วยามนี้ถือว่านานมาก ต่อให้รอบก่อนๆ จะสูญเสียพลังวิญญาณไป ในรอบนี้ก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ทัน เพียงแค่พักผ่อนชั่วครู่ รอให้พลังวิญญาณฟื้นคืน หลังจากนั้นก็สร้างค่ายกลอีกครั้งด้วยความระมัดระวัง นี่คือวิธีการในรอบนี้
หลังจากนาฬิกาทรายอันยักษ์พลิกกลับ เวลา 5 ชั่วยามก็เริ่มนับถอยหลัง หมายความว่าการประลองรอบนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว!
หลังจากเริ่มการแข่งขัน บางคนก็เริ่มสร้างค่ายกลในทันที ในขณะที่บางคนกำลังนั่งสมาธิ เลือกที่จะพักก่อน
“ครั้งนี้ถ้าเจ้าเก่งจริง ก็ลองสร้างค่ายกลชั้น 1 อีกทีสิ?” หลินหลี่มองมาที่อี้เทียนหยุนอย่างเย็นชา เขาไม่เชื่อว่าอี้เทียนหยุนจะยังสร้างค่ายกลชั้น 1 อยู่อีก
ค่ายกลชั้น 1 นั้นให้คะแนนน้อย ต่อให้เป็นค่ายกลซ้อนทับเองก็เถอะ ยิ่งกว่านั้น ค่ายกลชั้น 4 ยังมีคะแนนก้าวกระโดดกว่าค่ายกลชั้นอื่นๆ ถ้าเขาคิดจะสร้างค่ายกลชั้น 1 สามชั้นซ้อนเหมือนรอบแรก อย่างมากก็ได้เพียงแค่ 10 คะแนนเท่านั้น
“ข้าสร้างค่ายกลชั้นไหนเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?” อี้เทียนหยุนไม่สนใจเขา แต่กลับเลือกที่จะนั่งขัดสมาธิ พร้อมกับหลับตาลงเพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณที่เสียไป เขาไม่คิดจะสร้างค่ายกลในทันที
หลินหลี่แทบสำลักอากาศเพราะความโกรธ ถ้าที่นี่ไม่ได้มีคนอยู่เยอะล่ะก็ เขาคงระเบิดไปแล้ว
หลังจากนั้น เขาก็ไม่คิดจะพูดอะไรอีก เริ่มนั่งขัดสมาธิเช่นกัน เขาไม่คิดจะสร้างค่ายกลในทันที ก่อนหน้านี้เขาเผาผลาญพลังวิญญาณไปมาก ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะนั่งขัดสมาธิฟื้นฟูพลังวิญญาณ หลังจากฟื้นฟูได้สักหน่อย จากนั้นค่อยสร้างค่ายกลที่ชั้นสูงที่สุดออกมา อย่างนี้ถึงจะมีประสิทธิภาพที่สุด
พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้ว 2 ชั่วยาม คนส่วนมากเริ่มสร้างค่ายกลกันแล้ว ขณะที่บางคนเลือกที่จะสร้างค่ายกลหลังจากผ่านไปแล้ว 3 ชั่วยาม และหลินหลี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เลือกจะสร้างค่ายกลหลังจากไปแล้ว 3 ชั่วยาม
การลงมือของเขาได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนอย่างรวดเร็ว พวกเขาอยากจะดูว่าหลินหลี่จะสร้างค่ายกลชั้นไหนออกมา
หลังจากพักผ่อนมาแล้ว 3 ชั่วยาม ต่อให้จะล้มเหลว พวกเขาก็ยังมีเวลาพอที่จะสร้างค่ายกลได้อีก 1 ครั้ง
ก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนที่แสดงออกมาได้ค่อนข้างดี จึงดึงดูดความสนใจของทุกคนอยู่บ้าง และครั้งนี้ คนที่โดดเด่นที่สุดกลับไม่ใช่หลินหลี่ แต่เป็นหญิงสาวที่อยู่ใกล้ๆ
“ดูนั่นเร็ว คนที่ตระกูลหัวเชิญมา เหมือนว่าจะสร้างค่ายกลแปลกๆ ออกมา?”
“ใช่ ของคนอื่นมีแสงสีทอง แต่ของเธอกลับเป็นสีแดง ดูแล้วไม่น่าใช่ค่ายกลธรรมดา?”
……
หลายคนพากันเบนสายตาไปยังหญิงสาวคนนั้น ค่ายกลที่เธอกำลังสร้างในตอนนี้ไม่ธรรมดาอย่างมาก แสงที่เปล่งออกมาเห็นได้ชัดว่าต่างจากของคนอื่น ทำให้สายตาของทุกคนต่างเบนมาที่ร่างของเธอมากขึ้น และมากขึ้น ถึงยังไงนี่ก็คือค่ายกลที่มีความพิเศษ
ในตอนนี้ บนหน้าผากของหญิงสาวนางนี้เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดพราย เธอกัดฟันพร้อมกับจับพู่กันในมือแน่น ในขณะที่วาดค่ายกล ซึ่งอีกไม่นานก็เสร็จ ทำให้แสงสีแดงยิ่งมายิ่งจับตาผู้คน
อี้เทียนหยุนก็เบนสายตาไปทางเธอเช่นกัน รูปร่างของผู้หญิงคนนี้ยังห่างจากคำว่างดงามนัก แต่ก็ดูนวลตา ดูเป็นคนสะอาดสะอ้านคนหนึ่ง ดูแล้วรู้สึกสบายตา มือเรียวยาวของเธอวาดค่ายกลบนกระดาษด้วยความเร็วไม่เร็วไม่ช้า
“ถ้าข้าจำไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้น่าจะชื่อว่า เหอเชียนหาน?” ก่อนหน้านี้อี้เทียนหยุนได้ยินคนตะโกนชื่อเธอ เธอเป็นคนที่ตระกูลหัวเชิญมา ไม่รู้ว่ามาจากไหน ดูแล้วความสามารถดีทีเดียว
เธอคือคนที่ได้ 15 คะแนนเท่ากันกับหลินหลี่
“นี่น่าสนใจมาก ค่ายกลชั้น 3 แบบซ้อนทับ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นแบบดัดแปลงอีก หายากมาก” หลี่เทียนหลงตาเป็นประกายขึ้นมา ครั้งนี้เขาเป็นผู้ตัดสินเต็มตัว ดังนั้นเขาจึงขึ้นมาอยู่บนเวทีนี้แต่เริ่มแล้ว เมื่อเขาเห็นค่ายกลที่เหอเชียนหานกำลังสร้าง เขาจึงรู้สึกสนใจขึ้นมา
แสงสีแดงที่เปล่งออกมานี้ไม่ใช่อะไร แต่เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าค่ายกลนี้มีธาตุไฟแฝงอยู่ ถ้าค่ายกลนี้ถูกสลักลงไปยังอาวุธแล้วล่ะก็ มันจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งธาตุไฟให้กับอาวุธชิ้นนั้น ถือว่าเป็นค่ายกลชั้น 3 ขั้นสูงได้เลย แต่นี่ไม่ใช่เพียงค่ายกลชั้น 3 ธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นค่ายกลชั้น 3 แบบซ้อนทับ! เมื่อสร้างชั้นที่ 2 ขึ้น อย่างน้อยมันก็จะทำให้ธาตุไฟแข็งแกร่งขึ้นอีกระดับ
ค่ายกลซ้อนทับทั้งหายากและล้ำค่าอย่างมาก อาวุธทุกชนิดสามารถสลักค่ายกลลงไปได้เพียงชนิดเดียวเท่านั้น ดังนั้น จึงควรเลือกค่ายกลที่ให้ประโยชน์สูงสุด ไม่เพียงแต่ค่ายกลซ้อนทับจะดีกว่าเท่านั้น แต่ยังหายากอีกด้วย ทำให้ราคาจึงสูงตามไปด้วย
ตอนนี้การแสดงของเหอเชียนหานโดดเด่นอย่างมาก ดูแล้วเมื่อเสร็จออกมาคงจะเป็นค่ายกลชั้น 3 สองซ้อนทับ คะแนนที่ได้ก็จะเทียบเท่ากับค่ายกลชั้น 4 ในทันที นั่นหมายความว่า หลังจากสร้างเสร็จ เธอจะได้รับ 20 คะแนน!
สำหรับเรื่องคะแนนไม่ต้องพูดถึง ทุกคนเห็นได้จากท่าทีของหลี่เทียนหลง ยังไงพวกเขาก็มั่นใจได้เล็กน้อยว่า ระดับของเหอเชียนหานนี้ต้องไม่ต่ำอย่างแน่นอน!