CLS ตอนที่ 186: ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง
ค่ายกลของคนอื่นเป็นยังไงนั้น หลายคนไม่ให้ความสนใจ ตอนนี้พวกเขากำลังให้ความสนใจไปยังหลินหลี่ ด้วยการแสดงออกของเหอเชียนหาน ทำให้ตำแหน่ง 3 อันดับแรกยิ่งดูสับสนขึ้นไปอีก
อี้เทียนหยุนสนใจเธอ ระดับของเธอไม่ต่ำเลย ไม่รู้ว่ามาจากสำนักไหน
“ระดับของเธอดีมาก ไม่รู้ว่าเชิญมาจากไหน? หรือว่าจะเป็นตระกูลหัวฝึกขึ้นมา?”
“ตระกูลหัวสามารถฝึกนักสลักอาคมที่มีพรสวรรค์ขนาดนี้ได้ด้วยเหรอ? อายุของเธอก็ดูไม่มากนะ ประมาณ 20 ปีเอง ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน”
“เธอไม่ใช่คนที่ตระกูลหัวฝึกมา แต่เป็นแขกจากวังเทียนจี๋”
“วังเทียนจี๋? วังเทียนจี๋ที่ตกต่ำนั่นน่ะนะ?”
ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าเหอเชียนหานมาจากไหน ไม่คิดว่าวังเทียนจี๋ที่ตกต่ำจนใกล้จะจบนั้น ตอนนี้จะมาปรากฏตัวที่นี่ ทั้งยังช่วยตระกูลหัวลงแข่งด้วย
“วังเทียนจี๋?” อี้เทียนหยุนอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าเหอเชียนหานจะเป็นคนจากวังเทียนจี๋ที่มีโชคชะตากับตน
แต่ถ้าคิดให้ดีๆ แล้ว วังเทียนจี๋ที่ตกต่ำลง หากต้องการทรัพยากรเพื่อพัฒนาแล้วล่ะก็ การที่พวกเขาติดต่อกับตำหนักซิงเฉินถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
พร้อมกับเวลาที่ล่นลงไป ค่ายกลที่พวกเขาสร้างก็ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่าง ในช่วงวิกฤตนี้ มือของเหอเชียนหานเริ่มสั่นน้อยๆ เห็นได้ชัดว่าพลังในร่างเริ่มไม่มั่นคงแล้ว เกิดความรู้สึกขึ้นว่าไม่รู้จะวาดยังไงต่อ
เห็นได้ชัดว่าค่ายกลนี้ของเธอยังอยู่ในช่วงทดลอง เธอเลือกที่จะสร้างค่ายกลนี้แทนที่จะสร้างค่ายกลที่เหมาะกับความสามารถ เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้เธอทุ่มสุดตัว เพราะเธอไม่ต้องการตำแหน่งที่ต่ำ ดังนั้นจึงต้องทุ่มทุกอย่างที่มีออกไป
ข้อผิดพลาดที่ปรากฏขึ้นทำให้เธอไม่รู้ว่าจะวาดต่อยังไง ถ้าครั้งนี้ทำพลาด ทุกอย่างก็ถือว่าจบ
“เธอใกล้จะจบแล้ว มือเริ่มสั่น ไม่มั่นคงอย่างมาก!”
“นี่คือจังหวะแห่งความล้มเหลว ถ้าพลาด เธอคงทำได้เพียงสร้างค่ายกลชั้น 2 ออกมาเท่านั้น”
“ถ้าสร้างค่ายกลชั้น 2 ออกมา อย่างนั้นคงต้องพลาดสามอันดับแรกอย่างแน่นอน!”
พวกเขาพากันส่ายหัว นี่เป็นเพราะระดับของเธอยังไม่เพียงพอ จึงต้องเผชิญกับโชคชะตาที่ยากลำบาก ตอนนี้เวลาใกล้จะหมดแล้ว ไม่เพียงพอที่จะสร้างค่ายกลชั้น 3 ให้เสร็จอย่างแน่นอน
เจ้าตระกูลหวังที่เห็นสถานการณ์นี้ก็พลันเผยรอยยิ้มพึงใจออกมา เขาไม่อยากให้คนอื่นเด่นเกินหน้าเกินตาหลินหลี่
“จบแล้ว….” เหอเชียนหานมองเส้นสายอาคมที่ค่อยๆ พร่าเลือนไปจากสายตา ตอนนี้เธอไม่เห็นเส้นทางที่จะเดินหน้าต่อ
“ใจเย็น ค่ายกลนี้จุดหลักอยู่ตรงการเชื่อมต่อภายใน การซ้อนทับของค่ายกลทำได้ดีแล้ว เพียงแต่พลังธาตุไฟที่ซ้อนทับกันกำลังทำปฏิกิริยาต่อกันเท่านั้นเอง”
ในตอนนี้เอง ก็ได้มีเสียงส่งผ่านมายังหูของเธอ เธอหันไปมอง และก็พบว่า นี่ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่สร้างค่ายกลชั้น 1 หรอเหรอ? หลังจากได้ฟัง เธอก็ราวกับได้รับการตื่นรู้ ความกังวลใจพลันสลายไป
อึดใจต่อมา มือที่จับพู่กันของเธอก็เริ่มมั่นคง ไม่มีร่องรอยของความสั่นเทาอีก พร้อมกับวาดเสริมเติมเส้นต่ออย่างบ้าคลั่ง แต่ละครั้งที่จรดพู่กันลงไปดูมั่นคง อย่างรวดเร็ว ค่ายกลชั้น 3 สองซ้อนทับก็เสร็จสมบูรณ์แบบด้วยมือของเธอ!
“เสร็จแล้ว!” เหอเชียนหานตะโกนออกมา น้ำเสียงราวกับได้รับการปลดปล่อย!
“เยี่ยม!” เจ้าตระกูลหัวที่อยู่ใกล้ๆ ลุกขึ้นพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น
จากนั้น หลี่เทียนหลงก็เดินเข้าไปดู หลังจากมองดูได้นิดหน่อย เขาก็พยักหน้าอย่างพอใจ แล้วพูดขึ้นว่า “เยี่ยม การเสริมธาตุไฟเข้าไปในค่ายกลสองซ้อนทับนี้ ทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้นจริงๆ ข้าให้เจ้า 25 คะแนน 3 คะแนนให้แก่ความคิดสร้างสรรค์ที่เสริมธาตุไฟเข้าไป ค่ายกลสองซ้อนทับของเจ้านี้แข็งแกร่งกว่าค่ายกลสองซ้อนทับทั่วไป ขอให้เจ้าพยายามต่อไป!”
“ขอบคุณท่านเจ้าตำหนักหลี่!” เหอเชียนหานพูดด้วยความเคารพ จากนั้นก็หันไปยังอี้เทียนหยุนที่นั่งขัดสมาธิอยู่อีกด้าน แล้วพูดเบาๆ ว่า” ขอบคุณคุณชายมาก ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ข้าคงต้องล้มเหลวแล้ว”
“เกรงใจเกินไปแล้ว นั่นเพราะว่าฝีมือของเจ้าดีอยู่แล้ว ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย” อี้เทียนหยุนยิ้ม ไม่คิดจะรับความดีนี้ใส่ตัว
ดวงตาที่ใสกระจ่างของเหอเชียนหานมองมายังร่างของเขา ยังเด็กแถมยังเก่งกาจ นี่ทำให้เธอรู้สึกตกใจจริงๆ
“ดูเร็ว ค่ายกลที่หลินหลี่สร้าง!” เจ้าตระกูลหวังในตอนนี้ตาเป็นประกาย เขาฝากความหวังทุกอย่างไว้ที่หลินหลี่ ตราบเท่าที่เขาชนะได้อันดับหนึ่ง เกียรติยศทุกอย่างจะเป็นของตระกูลหวัง ไม่ใช่ตระกูลจู้
จู้เทียนหงที่มั่นใจในตัวอี้เทียนหยุน เมื่อชำเลืองไปทางหลินหลี่ ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
เหตุการณ์เริ่มดึงดูดสายตาของผู้คน พริบตาทุกคนก็ถูกหลินหลี่ดูดเข้าไป ค่ายกลที่เขาสร้างเริ่มเป็นรูปร่างอย่างรวดเร็ว มันกำลังปลดปล่อยกลิ่นอายออกมา ทำให้ทุกคนรู้ว่าค่ายกลที่เขาสร้างเป็นค่ายกลชั้น 4 ขั้นกลาง!
นี่ไม่ใช่ค่ายกลชั้น 4 ธรรมดา แต่ดูเหมือนค่ายกลชั้น 4 ที่ดัดแปลงขึ้น นั่นหมายความว่าคะแนนของเขาจะต้องไม่ต่ำกว่า 40 คะแนนอย่างแน่นอน!
ถ้าอี้เทียนหยุนสร้างได้เพียงค่ายกลชั้น 1 สามชั้นซ้อน การประลองครั้งนี้ เขาจะเป็นฝ่ายชนะ ถึงยังไงค่ายกลชั้น 1 สามชั้นซ้อนนั้น อย่างมากก็ได้เพียงแค่ 10 คะแนน ห่างกันถึง 30 แต้ม ไม่ใช่ความต่างที่เขาจะเติมเต็มได้?
“บ้าไปแล้ว ด้วยอายุขนาดนี้แต่สามารถสร้างค่ายกลชั้น 4 ออกมาได้ นี่มันช่างไม่ธรรมดาจริงๆ!”
“แม้ว่าจะดูเหมือนยังไม่ชำนาญนัก แต่สามารถสร้างค่ายกลชั้น 4 ออกมาได้ นั่นก็หมายความว่าเขามีระดับเทียบเท่าอาจารย์สลักอาคมชั้น 4!”
พวกเขาพากันร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ ความเจิดจรัสของเหอเชียนหานเมื่อก่อนหน้าถูกกดทับในทันที ระดับของทั้งสองไม่สามารถเอามาเทียบกันได้ นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลินหลี่ หลังจากกลิ่นอายปะทุออกมา เมื่อใดที่ค่ายกลชั้น 4 เสร็จสมบูรณ์ เขาก็จะขึ้นนำในทันที!
ในขณะเดียวกัน อี้เทียนหยุนยังไม่เริ่มลงมือโดยไม่คาดคิด เขายังคงนั่งฟื้นฟูพลังอยู่เช่นเดิม มองไปที่ค่ายกลชั้น 4 ที่หลินหลี่สร้างอย่างใจเย็น สีหน้าของอี้เทียนหยุนยังคงสงบ ไม่มีท่าทางตกใจแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม อี้เทียนหยุนก็พลันลุกขึ้น ภายใต้แรงกดดัน เขาก็เริ่มทำการสร้างค่ายกล ภายใต้กระบวนการที่คุ้นเคย เขาก็สร้างค่ายกลชั้น 1 ที่ทำให้ผู้คนตกใจอีกครั้ง!
นี่เขาคิดจะท้าทายสวรรค์หรือยังไง? ค่ายกลชั้น 1 คิดจะสู้กับค่ายกลชั้น 4 อย่างน้อยต้องเป็นค่ายกลชั้น 1 4-5 ชั้นซ้อน? ถึงจะสามารถเอาชนะได้ นี่มันจะท้าทายสวรรค์เกินไปหรือเปล่า การค่ายกลชั้น 1 4-5 ชั้นซ้อน ความยากของมันยากกว่าการสร้างค่ายกลชั้น 4 นี่เขาคิดหาเรื่องใส่ตัวหรือยังไง?
ผู้ชมตกใจกับความสามารถของหลินหลี่ ขณะเดียวกันก็ตกใจกับค่ายกลชั้น 1 ของอี้เทียนหยุน นี่หรือว่าอี้เทียนหยุนคิดจะสร้างแต่ค่ายกลชั้น 1 จริงๆ? นี่เขาไม่คิดจะสร้างค่ายกลแบบอื่นเลยหรือไง อุตส่าห์มีสมาธิน่าตกใจขนาดนี้แล้ว ถ้าใช้มันสร้างค่ายกลชั้นสูง ผลลัพธ์จะต้องไม่แย่อย่างแน่นอน
แต่อี้เทียนหยุนยังคงทำอะไรเอาแต่ใจ ยังคงเลือกที่จะสร้างค่ายกลชั้น 1!
หลินหลี่ก็มองมาจากด้านข้าง สายตาของเขาเผยให้เห็นถึงความรังเกียจ “ค่ายกลชั้น 1 ดูเหมือนว่าเจ้าจะบ้าจริงๆ คิดจะล้มข้าด้วยค่ายกลชั้น 1 อย่างงั้นเหรอ? ปัญญาอ่อนเกินไปแล้ว ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสร้างค่ายกลซ้อนทับได้หลายชั้นขนาดนั้น!”
“ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง?” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ