CLS ตอนที่ 195: คำเชิญ
หลังจากอี้เทียนหยุนรู้ว่ามีช่องทางอื่นที่เข้าไปได้ ในใจก็ให้รู้สึกมีความสุขอย่างมาก เอาไว้คราวหน้าค่อยกลับมาดูดกลืนพลังวิญญาณจากที่นี่อีกครั้ง ถ้ายังสามารถดูดกลืนได้อย่างนี้ต่อไป การจะทะลวงเข้าสู่ระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุดก็ไม่ใช่ปัญหา เมื่อถึงตอนนั้น ยามเมื่อเขาใช้ไอเท็มที่ช่วยเพิ่มระดับ เขาก็จะสามารถเข้าสู่ระดับผันแปรวิญญาณได้อย่างง่ายดาย
เขายังมีไอเท็มเพิ่มระดับที่ยังไม่ได้ใช้อยู่ มันมีผลเฉพาะกับระดับก่อแกนวิญญาณเท่านั้น แน่นอนว่าเขายังจะไม่ใช้มันในตอนนี้ แต่เขาจะใช้มันเมื่อเขาไปถึงระดับก่อแกนวิญญาณขั้นสูงสุดแล้วเท่านั้น ยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ ค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการใช้ไอเท็มเพิ่มระดับในตอนนั้น จะเป็นวิธีที่จะแสดงพลังของไอเท็มได้สูงสุด
ทั้งรางวัลที่ได้รับยามต่อสู้ข้ามระดับยังถือว่าดีมากอีกด้วย แต่ราคาที่ต้องจ่ายก็ถือว่ามากเช่นเดียวกัน
“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะไปหาคนอื่นก่อน จากนั้นค่อยกลับมาหาเจ้าอีกครั้ง เจ้าอย่าเพิ่งไปไหนเสียก่อนล่ะ เข้าใจไหม?” อี้เทียนหยุนพูดออกมา
“อืม ทราบแล้วท่านพี่” เริ่นจื่อโหรวพยักหน้า เธอไม่พูดมาก จากนั้นก็เลือกที่จะหาที่นั่ง พร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น เหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่
เธอพึ่งจะตื่นขึ้นจากการจำศีล ไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานเท่าไหร่ การที่ความทรงจำจะสับสนนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา หรือไม่ เธอก็อาจจะถูกโจมตีหรืออะไรสักอย่าง ทำให้ความทรงจำสับสนได้เช่นกัน ยังไงก็ตาม การที่จะทำให้ปรมาจารย์ระดับผันแปรวิญญาณบาดเจ็บได้นั้น เชื่อว่าฝั่งตรงข้ามต้องน่าสะพรึงมากอย่างแน่นอน
หลังจากดูว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว อี้เทียนหยุนก็ทำการมุดลงไปยังแอ่งน้ำนั้นอีกครั้ง ว่ายกลับไปยังที่เดิมอย่างรวดเร็ว จากนั้น เขาก็ไม่มีรีรอ พร้อมกับว่ายกลับทวนกระแสน้ำกลับไปยังถ้ำแรกที่เขาเข้ามา
ทันใดนั้นเขาก็กลับมาถึงที่เดิม พร้อมกับสำลักน้ำออกมาอย่างรุนแรง เพราะข้างนอกเป็นทะเลสาบ ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถบินเหมือนก่อนหน้าได้
เพิ่งจะเข้ามาถึง ในหูก็พลันได้ยินเสียงร้องออกมาว่า “คุณชายอี้ เจ้าได้ยินไหม? ตอนนี้ได้เวลาแล้ว รีบออกมาจากน้ำได้แล้ว!”
ผู้อาวุโสหยุนตะโกนเรียกเขาจากข้างบน เขาก็รีบลุกออกจากน้ำอย่างรวดเร็ว
“ในที่สุดเจ้าก็ออกมา หมดเวลาแล้ว เร็วเข้า” เมื่อผู้อาวุโสหยุนเห็นอี้เทียนหยุนว่ายอยู่ในน้ำ เขาก็พลันโล่งใจ
“ขอโทษด้วย พอดีเมื่อกี้กำลังอยู่ในภวังค์ฝึกตน” อี้เทียนหยุนหาข้ออ้าง
“คุณชายอี้ เจ้าดูดกลืนไปมากจริงๆ ถ้าเจ้ายังดูดกลืนอย่างนี้ต่อไปอีก ที่นี่จะต้องถูกเจ้าดูดจนแห้งอย่างแน่นอน” ผู้อาวุโสหยุนมีสีหน้าช่วยไม่ได้ ทั้งยังรู้สึกตกใจอยู่หลายส่วน
อี้เทียนหยุนหันกลับไปมอง แล้วก็พบว่าพลังวิญญาณในที่แห่งนี้เหลืออยู่ไม่มากจริงๆ ยิ่งทะเลสาบตรงทางเข้า แทบจะจับสัมผัสของพลังวิญญาณไม่ได้ ถ้าเขายังดูดกลืนอย่างนี้ต่อไป แน่นอนว่าจะทำให้ทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นเพียงทะเลสาบธรรมดาอย่างแน่นอน
“ข้าไม่ได้ดูดกลืนมากเท่าไหร่เลยนะ…..” อี้เทียนหยุนยักไหล่ ในใจรู้สึกว่าที่นี่ก็ไม่ได้เจ๋งอย่างที่คิด มิน่าถึงได้มีการจำกัดเวลา
สถานที่แห่งนี้ถูกเผาผลาญไปมากแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้เมื่อถูกเขาดูดกลืนซ้ำเข้าไปอีก ทำให้พลังวิญญาณของที่แห่งนี้แทบจะหมดไป ไม่รู้เมื่อไหร่พลังวิญญาณของที่แห่งนี้จะฟื้นฟูกลับมาอยู่ในจุดเดิม
“สระเทียนหลิงยี่แห่งนี้ถูกดูดกลืนพลังวิญญาณมาเป็นเวลานานตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ ความเร็วของเจ้าก็ถือว่าเร็วมาก ถึงกับทำให้พลังวิญญาณลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด” ผู้อาวุโสหยุนถอนหายใจ
ภายใต้การนำของผู้อาวุโสหยุน พวกเขาก็ออกมาจากที่นั่น จากนั้น ประตูหน้าก็ได้ปิดลง
“ผู้อาวุโสหยุน ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงถึงจะสามารถเข้าไปยังสระเทียนหลิงยี่ได้?” อี้เทียนหยุนถาม
“เจ้ายังอยากจะเข้าไปอีกเหรอ?” ผู้อาวุโสหยุนยิ้ม “ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างเจ้านี่แหละ การที่จะเข้าไปในนั้นก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงแค่ใช้ศาสตราจิตวิญญาณขั้นกลางก็สามารถแลกเวลาได้ 2 วันแล้ว ส่วนศาสตราจิตวิญญาณขั้นต่ำนั้น แลกเวลาได้เพียงครึ่งวันเท่านั้น”
“ราคานี้ถือว่าพอรับได้……”
อี้เทียนหยุนไม่สามารถหลอมศาสตราจิตวิญญาณขั้นกลางได้ แต่สำหรับศาสตราจิตวิญญาณขั้นต่ำนั้น ไม่มีปัญหา การที่เขาจะเอาออกมาสักสิบอันเพื่อแลกเวลา ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
“ราคานั้นไม่แพงก็จริง แต่พลังวิญญาณข้างในมีจำกัด อย่างมากก็อยู่ได้ต่อเนื่องแค่ 10 วันเท่านั้น” ผู้อาวุโสหยุนพูดออกมา “ตอนนี้ความเร็วในการฟื้นคืนของมันต่ำมาก เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน การที่จะให้มันฟื้นสภาพกลับเป็นเหมือนเมื่อก่อน จำเป็นต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน”
“ดูเหมือนว่าสภาพของสระเทียนหลิงยี่จะไม่ดีเท่าไหร่” อี้เทียนหยุนส่ายหัว ต่อให้เขาจะพบทางเข้าอื่น แต่ก็ไม่สามารถดูดกลืนเป็นเวลานานได้อยู่ดี
สิ่งที่มีค่าจริงๆ คงจะเป็นห้องลับที่สร้างจากหินวิญญาณหยก เชื่อว่าที่มาของพลังวิญญาณต้องเกี่ยวพันกับสิ่งนั้นอยู่ไม่มากก็น้อย
“เอาเถอะ ถ้าไม่มีขีดจำกัดก็คงจะมากเกินไป ถ้าไม่มีหนทางฟื้นฟูที่พิเศษ ก็ทำอะไรไม่ได้หรอก” ผู้อาวุโสหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “เพราะงั้น การที่คุณชายอี้ได้อยู่ในนั้นถึง 5 วัน ถือว่าเป็นรางวัลชิ้นใหญ่แล้ว คนอื่นล้วนแต่พากันอิจฉา”
อี้เทียนหยุนพยักหน้า รางวัลอันดับ 1 นี่ ถือว่าดีมากจริงๆ ดีกว่ารางวัลของคนอื่นๆ หลายเท่านัก
“ใช่แล้ว เจ้าตำหนักหลี่บอกข้าว่า ถ้าเจ้าออกมาแล้ว ให้มอบสิ่งนี้ให้กับเจ้า” พูดจบ ผู้อาวุโสหยุนก็หยิบตราส่งให้กับอี้เทียนหยุน “นี่คือตราแขกผู้ทรงเกียรติ ท่านหวังว่าเจ้าจะกลายเป็นแขกของตำหนักซิงเฉินได้ ฐานะนี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร”
อี้เทียนหยุนลังเลนิดหน่อย จากนั้นก็รับเอาไว้ “ก็ได้ ข้าจะเป็นแขก”
แม้ว่าทางฝั่งตระกูลจู้จะทำให้เขาไม่รู้สึกประทับใจอะไรด้วย แต่ทางฝั่งสาขาใหญ่นั้นต่างกัน อย่างน้อยทางนี้ก็ดีต่อเขา การที่สามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ ไม่นับว่าเป็นอะไร ถึงยังไง ในอาณาจักรเทียนจิ่งแห่งนี้ ฐานะของตำหนักซิงเฉินก็ถือว่าไม่ธรรมดา
“แขกผู้ทรงเกียรติอี้ ยินดีด้วยที่ได้เป็นพวกเดียวกัน” ผู้อาวุโสหยุนพูดแสดงความยินดี “จากนี้ไป เจ้าถือว่าเป็นแขกที่อายุน้อยที่สุดของตำหนักซิงเฉินเรา”
“นี่ถือว่าเป็นเกียรติกับข้าจริงๆ” อี้เทียนหยุนยิ้ม นี่ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไร มีนักสลักอาคมน้อยคนนักที่จะมีอายุเท่าเขา การที่ได้กลายเป็นแขกที่อายุน้อยที่สุด ถือเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก
“เจ้าตำหนักหลี่บอกว่า ถ้าเจ้าเต็มใจที่จะเป็นแขกของที่นี่ จะรังเกียจไหมที่ทางเราจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับขึ้นเย็นนี้?” ผู้อาวุโสหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม
“เรื่องนี้คงต้องขอโทษอย่างมาก ข้ายังมีเรื่องอื่นให้จัดการอยู่” อี้เทียนหยุนพูดด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง
“เอาเถอะ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าก็จะไม่รบกวนอะไรมาก แต่ถ้าเจ้ามีเวลาว่าง อาจจะเป็นเดือนหน้า” ผู้อาวุโสหยุนยิ้ม “ตอนนั้นจะมีงานเลี้ยงพิเศษขึ้น เหล่าขุมอำนาจชั้น 3 หลายสำนักจะมารวมตัวกัน ได้ยินว่าทางอาณาจักรใต้พิภพก็จะมาเช่นกัน นี่ถือเป็นโอกาสหายากมาก ดังนั้น แขกผู้ทรงเกียรติอี้ พอเป็นไปได้ไหมที่เจ้าจะเข้าร่วมงานนี้”
“อาณาจักรใต้พิภพ?” อี้เทียนหยุนหรี่ตา นี่ถือว่าเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก ทำให้เขาสนใจกับงานเลี้ยงพิเศษนี่ซะแล้ว
“ใช่แล้ว อาณาจักรใต้พิภพได้ส่งต้าเฉินมา(ประมาณนายกรัฐมนตรี ผมหาคำแปลเหมาะๆ ไม่ได้) เหมือนว่าจะมีเรื่องสำคัญอะไรจะประกาศ” ผู้อาวุโสหยุนคิด จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ดังนั้น แขกผู้ทรงเกียรติอี้ ถ้าเจ้ามาได้ก็อยากให้มา ถ้าไม่มาอาจจะเสียใจได้”
“ก็ได้ ถ้าตอนนั้นข้ามีเวลาว่า ข้าจะมา” อี้เทียนหยุนไม่ได้ยืนยัน ถ้าเป็นพรุ่งนี้เขาคงไม่ว่างอย่างแน่นอน แต่เดือนหน้านั้น อันนี้ต้องรอดูกันอีกที