Crazy Leveling System – ตอนที่ 224

CLS ตอนที่ 224: ที่มาของคำว่าเทียนเฉวียน

 

หลังจากมู่เซียนเอ๋อพาอี้เทียนหยุนไปเอาสมุนไพรก็ได้กลับมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเริ่มการกลั่นโอสถในทันที ซึ่งกระบวนนี้ไม่มีใครไปรบกวนเขา อาจจะเป็นเพราะไม่กล้ารบกวน หรืออาจจะคอยระวังว่าจะมีคนทรยศเหลืออยู่

 

พวกเขาต่อสู้กันในตำหนักหลัก ส่วนด้านนอกเป็นที่ที่เหล่าศิษย์เอาไว้ใช้ฝึก ทำให้ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าประมุขของพวกเขานั้นกำลังบาดเจ็บหนัก รวมถึงถูกขังไว้ในห้องลับ

 

“ฟู่ เสร็จเรียบร้อย นี่ยาทาสมานกล้ามเนื้อ หลังจากนี้ใช้ทาแขนทาขา หลังจากนี้สักพักก็จะดีขึ้น” อี้เทียนหยุนส่งกล่องที่ข้างในเต็มไปด้วยขี้ผึง

 

หลังจากผู้อาวุโสใหญ่รับมาก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ต้องขอบคุณเจ้ามากจริงๆ ถ้าเจ้าทำไม่ได้ พวกเราคงต้องออกไปซื้อที่ตำหนักซิงเฉินถ่ายเดียว”

 

ที่ตำหนักซิงเฉินมียาทาสมานกล้ามเนื้อขายอยู่ ถึงยังไงที่นั่นก็มีอาจารย์กลั่นโอสถชั้น 4 อยู่แล้ว ถ้าไม่มีแม้กระทั่งอาจารย์กลั่นโอสถชั้น 4 คงไม่สามารถเปิดตำหนักที่มีมูลค่ามหาศาลขนาดนั้นได้ ไม่เพียงแต่อาจารย์กลั่นโอสถชั้น 4 เท่านั้น อาจารย์หลอมศาสตราชั้น 4 ก็มีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีอำนาจที่แข็งแกร่งรอบด้านพอที่จะไม่เกรงกลัวสำนักใหญ่

 

“ไม่เป็นไร ทั้งในฐานะผู้สืบทอดของราชาวิญญาณเซวียนเทียน หรือในสมาชิกวังเทียนจี๋ การช่วยเหลือครั้งนี้สมควรแล้ว” อี้เทียนหยุนยิ้ม มองไปยังประมุขที่นอนอยู่บนเตียง สีหน้าของเขาดีขึ้นมาก ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานมากนัก ก่อนที่จะลุกออกจากเตียงแล้วเดินด้วยตัวเองได้

 

“ติ๊ง ท่านทำภารกิจ “ช่วยเหลือและรักษาประมุข” สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 1 ล้าน, ค่าความคลั่ง 10,000, ค่าความชอบของประมุขเพิ่มขึ้น 100, ค่าความชอบของผู้อาวุโสใหญ่เพิ่มขึ้น 100, ค่าความชอบของมู่เซียนเอ๋อเพิ่มขึ้น 100, ค่าความชอบของเหอเชียนหานเพิ่มขึ้น 100, ค่าความดี 100!”

 

ภารกิจนี้ดีนัก พริบตาก็เพิ่มค่าความชอบของทุกคนขึ้นมาก และที่สำคัญเลยก็คือค่าความดีที่เพิ่มขึ้นมา 100! นี่คือสิ่งที่เชื่อมต่อกับทุกการกระทำของเขา แน่นอนว่ายิ่งสูงยิ่งดี และเมื่อถึงตอนนั้น ถึงเขาไม่ได้เปิดโชคดีขึ้นมา เขาก็ยังจะเหมือนกับมีโชคดีเปิดใช้งานอยู่ตลอด

 

“ผู้สืบทอดราชาวิญญาณเซวียนเทียน……” ประมุขที่นอนอยู่บนเตียงยิ้มคลุมเครือออกมา จากนั้นก็ชี้นิ้วมายังเขาแล้วพูดขึ้นว่า “น้องชาย ระดับพลังของข้าถูกทำลายแล้ว ไม่สามารถดำรงตำแหน่งประมุขได้อีก ตอนนี้ข้าอยากให้เจ้ารับตำแหน่งประมุขอย่างเป็นทางการ และจะให้ผู้อาวุโสใหญ่คอยช่วยเจ้า เจ้าเต็มใจที่จะรับตำแหน่งประมุขนี้ไว้ไหม?”

 

คำขอที่อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมาของประมุข ทำให้อี้เทียนหยุนตกใจ กระทั่งเหอเชียนหานและคนอื่นๆ ก็เช่นกัน นี่มันออกจะกะทันหันเกินไป จะให้อี้เทียนหยุนเป็นประมุขอย่างงั้นเหรอ! การจะเป็นประมุขได้นั้น นอกจากระดับพลังจะต้องสูงแล้ว ที่สำคัญเลยก็คือตัวตนที่สูงศักดิ์ รวมถึงค่าชื่อเสียงที่ดีงาม

 

อี้เทียนหยุนเพิ่งจะเข้าร่วม ชื่อเสียงอะไรก็ไม่มี แล้วอย่างนี้ใครหน้าไหนจะเชื่อฟัง? ผู้อาวุโสใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ราวกับเห็นด้วยกับความคิดของประมุข

 

“นี่…. ข้าไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับการสนับสนุนจากศิษย์จำนวนมาก ไม่มีทางที่พวกเขาจะเชื่อฟัง แล้วอย่างนี้จะรับตำแหน่งประมุขได้ยังไง?” อี้เทียนหยุนส่ายหัว การจะให้เขาเป็นประมุขนั้นไม่ใช่ปัญหา เขาไม่ได้รังเกียจ เพราะนี่จะทำให้ความสัมพันธ์ของสองสำนักเชื่อมถึงกันได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งยังจะทำให้การหลอมรวมกันหลังจากนี้ง่ายขึ้นไปด้วย

 

“นี่เป็นเพราะพวกเราคิดว่าเจ้าในฐานะผู้สืบทอดของราชาวิญญาณเซวียนเทียนนั้นเหมาะสม ส่วนเรื่องชื่อเสียงนั้น เจ้าคงไม่รู้ว่าชื่อของราชาวิญญาณเซวียนเทียนนั้นมีชื่อเสียงอย่างสูงมากในวังเทียนจี๋แห่งนี้ เจ้าในฐานะผู้สืบทอดจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะรับตำแหน่งประมุขนี้ ส่วนเรื่องต่างๆ ในวังเทียนจี๋นี้ มีผู้อาวุโสใหญ่คอยช่วย เจ้าจะไม่มีปัญหาอย่งแน่นอน”

 

เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่าต้องทำยังไง อี้เทียนหยุนนั้นเหมาะสมมาก เพียงแค่ฐานะผู้สืบทอดของราชาวิญญาณเซวียนเทียนก็รับตำแหน่งประมุขนี้ได้อย่างสะดวกดายแล้ว

 

พูดไปแล้วตอนนี้สถานการณ์ของวังเทียนจี๋ก็อันตรายมาก นอกจากผู้อาวุโสใหญ่แล้วก็ไม่มีผู้อาวุโสอื่นอีก ผู้อาวุโสสองคนถูกอี้เทียนหยุนฆ่า เหลือเพียงแต่ผู้อาวุโสใหญ่ที่ยังอยู่ ส่วนระดับบรรพชนนั้นไม่มีอยู่ตั้งแต่แรก แรงสนับสนุนจากด้านบนจึงไม่มีอยู่

 

นี่หมายความว่าพวกเขาเหลือแค่ผู้อาวุโสใหญ่เพียงคนเดียวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ นี่สอดคล้องกับสถานการณ์ของวังเทียนจี๋ที่ตกต่ำลง ไม่แปลกเลยที่จะถูกดูถูก นอกจากเหล่าตระกูลต่างๆ แล้ว ผู้อาวุโสกลับมีอยู่น้อยนิด ช่างน่าอนาถจริงๆ

 

อี้เทียนหยุนเงียบไป จากนั้นก็บอกความจริงออกไป “ที่จริงแล้วข้ามาจากอาณาจักรตี้จิ่ง เป็นผู้อาวุโสของขุมอำนาจชั้น 2 ซึ่งข้าไม่คิดที่จะเข้าร่วมกับขุมอำนาจอื่น สิ่งที่ข้าต้องการคือการรับศิษย์จากสำนักอื่น หรือผู้ฝึกตนอื่นเข้าร่วม เพื่อขยายขุมอำนาจชั้น 2 ของพวกเรา วังเทียนจี๋ในตอนนี้ตกต่ำลง ถ้าให้ข้ารับตำแหน่งประมุข ข้าจะต้องรวมสองสำนักเข้าด้วยกัน ส่วนที่ว่าใครจะเป็นประมุขนั้น ข้าคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องพูด”

 

คำสารภาพของอี้เทียนหยุนทำให้พวกเขาตกใจ ไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนจะพูดออกมา แต่ถึงตอนนี้จะไม่พูด แต่หลังจากนี้ก็ต้องพูดอยู่ดี เป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บเป็นความลับจากพวกเขา

 

“คำว่าหลอมรวมนี้ของเข้า แน่นอนว่าต้องรวมเข้ากับฝ่ายเจ้า ส่วนวังเทียนจี๋ของพวกเรานั้นต้องหายไป….” ประมุขส่ายหัวพร้อมกับพูดปฏิเสธ “นี่แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ วังเทียนจี๋ของพวกเราก่อตั้งมาหลายปี ต่อให้ตอนนี้จะตกต่ำ แต่จะให้หายไปอย่างนี้ไม่ได้”

 

“งั้นก็แยกเป็นสองสำนัก ผู้หญิงให้เข้าร่วมสำนักของข้า ส่วนผู้ชายก็ให้อยู่ที่นี่ คอยดูแลวังเทียนจี๋” อี้เทียนหยุนคิดหาวิธีให้นิกายเทียนเฉวียนยังคงมีแต่ศิษย์หญิงต่อไป ส่วนศิษย์ผู้ชายนั้น ให้อยู่ในวังเทียนจี๋อย่างนี้ต่อไปก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

 

“หืม นิกายของเจ้ารับเฉพาะศิษย์หญิงอย่างงั้นเหรอ?” พวกเขาตกใจ แม้ว่าอาณาจักรเทียนจิ่งจะมีสำนักแบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าที่อาณาจักรตี้จิ่งจะมีแบบนี้ด้วย

 

“ใช่แล้ว รับเฉพาะศิษย์หญิง ด้วยเหตุนี้ จึงง่ายต่อการยกระดับการฝึกฝน” อี้เทียนหยุนพูด

 

“ไม่ได้…..” ประมุขส่ายหัว จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “ใช่แล้ว สำนักของเจ้าชื่ออะไร?”

 

“นิกายเทียนเฉวียน หรือจะเรียกตำหนักเทียนเฉวียนก็ได้ เพราะว่ายกระดับขึ้นเป็นขุมอำนาจชั้น 2 จึงได้เรียกว่านิกาย” อี้เทียนหยุนตอบ

 

“นิกายเทียนเฉวียน ตำหนักเทียนเฉวียน….. เทียนเฉวียน!” ประมุขพูดออกมาอย่างตกใจ “นี่ นี่เจ้ารู้ไหมว่าเทียนเฉวียนนี้เป็นชื่อของใคร?”

 

“……” อี้เทียนหยุนตาโต ในสมองผุดความคิดมากมายขึ้น

 

“ดี เทียนเฉวียนก็คือชื่อของราชาวิญญาณเซวียนเทียน ชื่อของเขาคือเหอเทียนเฉวียน!” ประมุขพูดออกมาอย่างประหลาดใจ “ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ตำหนักเทียนเฉวียนแห่งนี้จะต้องเป็นสำนักที่ราชาวิญญาณเซวียนเทียนก่อตั้งขึ้นอย่างแน่นอน เพราะราชาวิญญาณเซวียนเทียนไม่พอใจวังเทียนจี๋อย่างมาก ดังนั้นจึงออกจากสำนักไป พร้อมกับไปก่อตั้งสำนักข้างนอก….. แต่ทำไมถึงรับแต่ศิษย์หญิงล่ะ”

 

“ไม่ เหมือนว่าเจ้าตำหนักคนแรกจะเป็นผู้ชาย นี่อาจจะเป็นสำนักที่ราชาวิญญาณเซวียนเทียนสร้างขึ้นจริงๆ ก็ได้ เรื่องนี้จำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “งั้นก็หมายความว่าพวกเราล้วนแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าเป็นอย่างนั้น ไม่ทราบว่าประมุขต้องการจะรวมสองสำนักเข้าด้วยกันไหม?”

 

นี่มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะรวมสำนักเข้าด้วยกัน ถ้าต้องการขยายสำนัก การจะมีเพียงแค่ศิษย์หญิงนั้นไม่ถูกต้อง หลังจากนี้ยังไงก็ต้องรับศิษย์ชายเข้ามาเพื่อความก้าวหน้าอยู่ดี

 

“ถ้าเป็นอย่างนี้ มันก็ต้องรวมเข้าด้วยกันแน่นอนอยู่แล้ว!” ประมุขยิ้มออกมา เพราะในตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว

Crazy Leveling System

Crazy Leveling System

อ่านนิยายCrazy Leveling System ปมเพาะไม่ได้เพราะเส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ? ไม่ใช่ปัญหา! เพราะมีระบบเพิ่มเลเวล แสนบำคลั่งอยู่ เจ้าแค่หภารกิจ สังหารสัตว์อสูร ดูดกลืนพลังวิญญาณของคนอื่น หลอมยา หรือสลักอาคม แค่นี้เจ้าก็ได้ค่าประสบการณ์แล้ว! อะไรนะ! ค่าประสบการณ์ที่ได้มันต่ำไปอย่างงั้นเหรอ? อย่าได้กลัว เพราะข้มีปัตร ประสบการณ์ x2 หรือแม้กระทั่งปัตรประสบการณ์ x10 แค่นี้ค่าประสบการณ์ของเจ้าก็จะฟุง ทะยานราวกับพลุระเบิดแล้ว! น่าชัน อัจฉริยะ นายน้อยตระกูลใหญ่ จักรพรรดิผู้ครองอาณาจักร หรือกระทั่งอัจฉริยะที่ฟันปี จะมีสักครั้งอย่างงั้นเหรอ? เมื่ออยู่ต่อหนีระบบเพิ่มเลเวลแสนบำาคลั่งนี้ พวกมันลัวนถูกทิ้ง ห่างไปไกล! "เฮ้ย นี่ข้เลเวลอัพอีกแล้วเหรอ?" อี้เทียนหยุนที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าเลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้น อีกครั้ง.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset