CLS ตอนที่ 239: เปลี่ยน
ที่อาณาจักรใต้พิภพไม่ได้ส่งกองกำลังมาทำลายวังเทียนจี๋ให้สิ้นซากในทันทีเพราะอยากเห็นขุมกำลังที่วังเทียนจี๋ซ่อนเอาไว้ เมื่อพวกเขาไม่มั่นใจ พวกเขาก็ไม่กล้าลงมืออย่างเต็มที่ วิธีที่ดีที่สุดคือเสนอการให้อภัยโทษ เมื่อเป็นอย่างนี้ ขุมพลังของพวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น นี่จึงเป็นวิธีที่สุด
ตอนแรกพวกเขาให้พวกผู้อาวุโสรองกบฏ จากนั้นก็จะใช้พวกเขาเป็นหุ่นเชิด วังเทียนจี๋แม้จะตกต่ำ แต่ก็ยังแข็งแกร่งอยู่ ไม่มีใครไม่ชอบอำนาจ ยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี
แต่ใครจะคิดว่าผู้คุ้มกันเงาที่ส่งไปจะมาตายอย่างกะทันหัน ทำให้พวกเขาพากันตกใจ พลังที่อยู่ๆ ก็โผล่ออกมานี้ ทำให้พวกเขาเกิดความคิดขึ้น ถ้าควบคุมได้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ถ้าควบคุมไม่ได้ก็จำเป็นต้องกำจัดทิ้ง!
การสังหารพวกเขาไม่ใช่เรื่องยาก ทำลายให้สิ้นซากยิ่งไม่ใช่ปัญหา ปรมาจารย์ระดับผันแปรวิญญาณของพวกเขามีมาก แค่ส่งออกไปไม่มีคนก็จัดการได้แล้ว ไม่ว่าสำนักไหนก็ต้องถูกทำลาย แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ถ้าสามารถรับพวกเขาเข้ามา และนำมาใช้งานได้ นั่นจึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
“ข้าจะออกไปก่อน พวกท่านอยู่ที่นี่” อี้เทียนหยุนคิดแล้วพูดออกมา
“ทราบแล้ว ท่านประมุข” พวกเขาอยากจะถาม แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป อี้เทียนหยุนมีความคิดของตน ดังนั้นไม่ถามจะดีกว่า
หลังจากอี้เทียนหยุนเดินออกจากห้องมา ยามที่อยู่รอบๆ ก็พากันมองมาที่เขา เมื่อเห็นว่าเขาออกมาจึงได้เดินเข้ามาถามว่า “ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรอย่างงั้นเหรอ?”
“ไม่มีอะไร ก็แค่ออกมาเดินเล่น” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ห้ามออกมาเดินเล่นข้างนอก ได้โปรดกลับเข้าไปในห้องตัวเองด้วย” ยามคนนั้นตอบกลับอย่างเย็นชา และไร้เหตุผลยิ่ง
อี้เทียนหยุนช่วยไม่ได้ รู้สึกว่าการควบคุมอย่างนี้ออกจะเกินไป แค่จะออกไปเดินเล่นยังทำไม่ได้ เขาจึงทำได้เพียงแค่กลับเข้าห้องไป
“ท่านประมุข นี่…..” พวกเขาเห็นอี้เทียนหยุนกลับมาก็ให้รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
“พวกเขาห้ามออกไปข้างนอก ทำได้แค่อยู่ในนี้เท่านั้น” อี้เทียนหยุนมองไปยังเพดาน พร้อมกับกระโดดขึ้นไป จากนั้นก็ย่องออกไป หายไปจากห้องอย่างรวดเร็ว กระทั่งพวกเขาที่อยู่ในห้องยังมองไม่ชัด
“ท่านปู่ ตกลงแล้วประมุขฝึกวิชาอะไรกันแน่…..” มู่เซียนเอ๋อเห็นร่างอี้เทียนหยุนจากไปก็ถามขึ้นด้วยความตกใจอย่างมาก
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน…..” ผู้อาวุโสใหญ่ส่ายหัว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนที่ร้ายกาจอย่างนี้
หลังจากอี้เทียนหยุนจากมา เขาก็ใช้ความสามารถล่องหน ซ่อนตัวไปตามความมืดยามราตรี เมื่อสังเกตดูสถานการณ์รอบๆ ก็ทำให้เห็นว่ามีหลายร่างกำลังจับตามองที่นี่ แต่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่สามารถเห็นร่างของอี้เทียนหยุนได้
อี้เทียนหยุนมีพลังแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก ดังนั้นจึงไม่กังวลจะถูกหาเจอ ต่อให้เข้าไปประชิดตัวก็ตาม
สถานที่ที่เขาจะไป แน่นอนว่าต้องเป็นที่ของเฉิงเฟิง ไม่มีอะไรต้องพูดมาก เขาต้องจัดการปัญหานี้ ทั้งต้องจัดการให้สมบูรณ์ อภัยโทษมารดามันเถอะ
อย่างรวดเร็ว เขาก็หลบหลีกผู้สังเกตการณ์ทีละคนอย่างรวดเร็ว และเมื่อเขามาถึงตำหนักที่สูงที่สุดก็พลันได้ยินเสียงคำรามดังมา
“ไอ้ลูกสำส่อนนั่น ไม่คิดว่ามันจะเป็นถึงประมุข! ข้าไม่สามารถลงมือได้ตามใจ ไม่อย่างนั้นข้าคงสังหารมันทิ้งที่นี่ไปแล้ว วังเทียนจี๋อะไรนั่นก็แค่ขยะ!” เสียงของหนานเฟิงหยุนดังมาจากในห้อง เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอะไร ดังนั้นเสียงของเขาจึงดังมาก
พวกเขาก็ไม่สามารถออกจากห้องได้ตามใจเช่นกัน ถูกขังเอาไว้ในนี้ รอบๆ มีคนคอยจับตามองมากมาย ที่ต่างจากพวกเขาก็คงมีแต่ห้องพักที่ดูดีนี้ ทั้งการดูแลก็ไม่ได้แย่ เห็นได้ชัดว่าอาวุธของเขาที่ทำร้ายเฉิงเฟิงนั้นไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร
“ท่านประมุขโปรดอย่ากริ้ว ที่นี่ลงมือไม่ได้ แต่ว่าหลังออกไปพวกเราก็สามารถลงมือกับพวกเขาได้อยู่ดี!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดออกมา “ข้าได้ไปสืบมาแล้ว เจ้าหนูนั่นเป็นเข่อชิงของตำหนักซิงเฉิน ทั้งยังเป็นอาจารย์สลักอาคมชั้น 4 นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ”
“ยังเด็กแต่ก็เป็นถึงอาจารย์สลักอาคมชั้น 4 ไม่แปลกที่จะได้นั่งในตำแหน่งประมุขก่อนเวลาอย่างนี้….. แต่ข้าว่ามันจะต้องนั่งในตำแหน่งนี้ได้ไม่นานอย่างแน่นอน รอให้เรื่องนี้จบ เมื่อนั้นก็จะเป็นเวลาตายของมัน!” นัยน์ตาของหนานเฟิงหยุนเต็มไปด้วยจิตสังหาร ไม่คิดจะปกปิดแม้แต่น้อย
ตราบเท่าที่ไม่ใช่คนตาบอด ก็สามารถเห็นได้ว่าหนานเฟิงหยุนในตอนนี้กำลังอารมณ์เสียอย่างมาก ทั้งอยากกำจัดวังเทียนจี๋ให้สิ้นซากอีกด้วย
สายตาของอี้เทียนหยุนที่อยู่บนหลังคาเป็นประกายอย่างต่อเนื่อง ที่มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มแสยะเช่นกัน “คิดจะกำจัดพวกเราอย่างงั้นเหรอ แล้วข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะมีน้ำยาอะไร…..”
เขาไม่ได้ลงไปกำจัดพวกเขา ตอนนี้โอกาสยังไม่เอื้ออำนวย ดังนั้นลงมือตอนนี้คงไม่ดี ถ้าเผยพลังออกไป มันจะทำให้ไพ่ในมือของเขาน้อยลง
จากนั้นเขาก็จากที่นี่ไป ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ เพราะเป้าหมายในคืนนี้ของเขาไม่ใช่หนานเฟิงหยุน แต่เป็นเฉิงเฟิง!
อย่างรวดเร็ว เขาก็มาถึงสถานที่ที่อยู่ในส่วนลึก แม้ว่ารอบๆ จะมีผู้คุ้มกันมากมาย แต่เขาก็สามารถผ่านเข้ามาได้ง่ายๆ นอกจากจะให้ปรมาจารย์ผันแปรวิญญาณมาคุ้มกัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถจับเขาได้
“น่าจะเป็นที่นี่……”
ร่างของอี้เทียนหยุนกระพริบวาบ จากนั้นก็เข้ามาถึงข้างใน ขนาดยังไม่เข้าไปใกล้ยังได้ยินเสียงคำรามดังมา
“ข้าบอกให้ออกห่างจากข้าไม่ได้ยินหรือไง! ให้อยู่ห่างจากข้า 1 จ้าง(3.33 เมตร) อย่าเข้ามาใกล้ข้า!” เสียงของเฉิงเฟิงดังมา
ไม่คิดเลยว่าตอนนี้เขาจะกลายเป็นคนขี้ระแวงขนาดนี้ ถูกงูกัดครั้งหนึ่ง กลัวเชือกเปียกน้ำไปสิบปี ความกลัวนี้คงต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
สายตาอี้เทียนหยุนเป็นประกาย พร้อมกับหยิบหน้ากากร้อยแปลงมาสวม จากนั้นก็เปลี่ยนชุดเป็นสีดำ พร้อมกับปกปิดใบหน้าตัวเอง
เขาย่องผ่านเพดานไปอย่างรวดเร็วจนเข้าไปในห้องของเขา เพื่อสังเกตการณ์
“นี่เป็นข้อมูลที่เจ้าได้มาอย่างงั้นเหรอ?” เฉิงเฟิงรับกระดาษปึกใหญ่มา หลังจากเปิดดู เขาก็โยนกระดาษปึกนั้นใส่ผู้คุ้มกันเงาตรงหน้า “ขยะเอ๊ย! ไม่มีข้อมูลเป็นประโยชน์อะไรเลยสักนิด โดยเฉพาะวังเทียนจี๋นั่น กลับไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย!”
“ข้าไม่พบร่องรอยของผู้เชี่ยวชาญในวังเทียนจี๋จริงๆ เห็นแต่ตัวประมุขที่ถูกทำลายพลังฝึกตน แต่ไม่พบอย่างอื่นแม้แต่น้อย” ผู้คุ้มกันเงาคนนั้นกำลังเก็บกระดาษที่กระจัดกระจาย จะไม่ทำก็ไม่ได้
“ถ้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญ งั้นพวกเขาฆ่าผู้คุ้มกันเงาของพวกเราไปตั้งมากมายขนาดนั้นได้ยังไง!” สายตาของเฉิงเฟิงเต็มไปด้วยจิตสังหาร “สังหารผู้คุ้มกันเงาที่ข้าฝึกฝนมาไปตั้งหลายคน ข้ารอที่จะสังหารมันไม่ไหวแล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะเบื้องบนสั่งลงมาให้ทำการตรวจสอบให้กระจ่าง ข้าคงบดขยี้วังเทียนจี๋นั่นทิ้งแล้ว! ทั้งผู้คุ้มกันเงาทั้งหลายของข้า ทั่งหุ่นเชิดของข้า….. ยังจะมาให้อภัยโทษอะไรอีก ไม่ว่าอะไรก็ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น!”
ภายใต้ความโกรธ ทำให้เขาหยิบเก้าอี้ขึ้นฟาดใส่ผู้คุ้มกันเงาคนนั้น “เปรี้ยง” จนเก้าอี้แตกเป็นเสี่ยงๆ
“เอาล่ะ หยุดการตรวจสอบที่ไร้ประโยชน์ได้แล้ว ไปจับประมุขวังเทียนจี๋ขยะนั่นมาให้ข้า ข้าจะต้องทำให้ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นเผยตัวออกมาให้ได้! คิดว่าคราวนี้จะได้เจอผู้เชี่ยวชาญลึกลับคนนั้น แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับเจ้าหนูอวดดีนั่น!” เฉิงเฟิงพูดด้วยความโกรธ “ผู้เชี่ยวชาญของฝั่งตรงข้ามอะไรนั่น ข้าไม่เชื่อว่ามันจะแข็งแกร่งไปกว่าอาณาจักรใต้พิภพเรา! ต่อให้เป็นมังกร ก็ต้องจับตัวมันมาให้ได้!”
ดูเหมือนวันนี้จะไม่สบอารมณ์เขาอย่างมาก ทำให้จิตสังหารของเขาระเบิดออกมาอย่างท่วมท้น!