CLS ตอนที่ 241: เงาร่างจักรพรรดิใต้พิภพ
ขณะที่เฉิงเฟิงรับกระดาษนี้ เขาก็ได้ก้มหัวลงอ่านหัวข้อบนกระดาษ นี่เป็นช่วงเวลาที่เขาขาดการตื่นตัวที่สุด เพราะความสนใจของเขากำลังรวมอยู่ที่กระดาษ ไม่ได้สังเกตอยู่ที่ตัวเขา
ในช่วงเตรียมตัวนี้ อี้เทียนหยุนก็ได้เปิดพลังทุกอย่างออกในพริบตา!
“เปิดใช้งานโหมดคลั่ง หมวดพลังโจมตี!”
ทำให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นอีก 8 เท่าในทันที
1.5 ล้าน!
1.8 ล้าน!
2 ล้าน!
……
3 ล้าน!
3.5 ล้าน!
3.9 ล้าน!
ในที่สุด พลังรบของเขาก็หยุดลง และพริบตานี้เอง ร่างของเขาก็กระโจนเข้าไป เฉิงเฟิงที่รู้สึกผิดปกติก็ได้รีบเงยหน้ามองมาที่นี่
ในตอนนี้ มือทั้งสองข้างของอี้เทียนหยุนก็เปล่งแสง พลังของหมัดเยือกแข็งได้ปะทุออก ปล่อยความเย็นขีดสุดออกไป พริบตาก็แช่แข็งร่างของเฉิงเฟิงเอาไว้ แม้ว่าเวลาแช่แข็งจะไม่นานมาก แต่สำหรับเขาแล้ว ตราบเท่าที่สามารถแช่แข็งได้สองสามวิก็พอที่จะทำให้เขาเป็นผู้ชนะได้แล้ว!
“ตาย!”
ทันใดนั้น อี้เทียนหยุนที่กระโจนไปถึงด้านหน้าของเฉิงเฟิงก็ได้เรียกกริชกระดูกมังกรโลหิตออกมา พร้อมกับแทงใส่ตำแหน่งหัวใจของเขาอย่างโหดเหี้ยม จนก่อให้เกิดคลื่นแหวกอากาศตามหลัง เทียบกับบรรพชนอสูรโลหิตใช้เมื่อก่อนหน้าแล้วแข็งแกร่งกว่าไม่รู้กี่เท่า กระทั่งภาพเงามังกรโลหิตขนาดยักษ์ยังปรากฏขึ้น พร้อมกับพุ่งผ่านร่างของเฉิงเฟิงตรงตำแหน่งหน้าอก!
“บังอาจ!”
เฉิงเฟิงคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว พยายามต่อต้านพลังแช่แข็งของอี้เทียนหยุนพร้อมกับทำลายมันออกมา อึดใจต่อมา เขาก็ปะทุออกมาเต็มพิกัด ร่างทั้งร่างเปล่งแสงสีทองออกมา พูดได้ว่าในพริบตานี้ ร่างของเขาได้ถูกปกคลุมไว้ด้วยทองคำหนึ่งชั้น ทำให้คลื่นพลังวิญญาณธาตุทองก่อตัวขึ้น สร้างเป็นเขตสุญญากาศรอบๆ ร่างของเขา
ด้วยเวลาที่กระชั้นชิด ทำให้เขาต้องรับมือกับอาวุธนี้ด้วยมือเปล่า อี้เทียนหยุนไม่ได้ประหลาดใจ ไม่สนใจว่าเขาจะต้านรับได้หรือไม่ ยังคงเสือกแทงกริชในมือออกไปอยู่ดี
“เคร้ง…..”
เมื่อกริชกระดูกมังกรโลหิตแทงเข้าไป ก็พบกับโล่พลังวิญญาณธาตุทองที่ต้านรับอยู่ผิวหน้า ขณะเดียวกัน เสียงบาดหูที่เหมือนกับโลหะปะทะกันก็ดังออกมา อี้เทียนหยุนพลังรู้สึกถึงแรงต้าน แต่ภายใต้พลังที่กดขี่ของเขา ก็ยังคงแทงเข้าไปได้อยู่ดี
หลังจากแทงทะลุโล่ป้องกันเข้าไปในรวดเดียว เฉิงเฟิงก็รีบหลบไปยังด้านหลังอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับยื่นมือออกมารับการโจมตีนี้เอาไว้ ยังไงก็ตาม ภายใต้พลังที่กำลังปะทุ ทำให้ความเร็วของอี้เทียนหยุนเหนือกว่าของเขามาก ทำให้กริชยังคงไล่ตามเขาต่อไป
เฉิงเฟิงคำรามออกมา ไม่คิดเลยว่ากริชกระดูกมังกรโลหิตนี้จะแทงเปิดฝ่ามือที่ยื่นออกไปต้านรับของเขาจนเปิดออก พร้อมกับแหวกฝ่าช่องว่างนั้น จนแทงเข้าใส่หน้าอกของเขา เฉิงเฟิงไม่คิดกริชเล่มนี้จะแทงเขาเข้า แต่ภายใต้พลังที่บ้าคลั่งของอี้เทียนหยุน ทำให้กริชแทงทะลุร่างของเขาไปอย่างง่ายดาย!
“ฉึก…..”
กริชกระดูกมังกรโลหิตกลายร่างเป็นมังกรโลหิต พร้อมกับพุ่งเสียบร่างของเขาราวกับมีดผ่าเนย ถึงยังไงกริชกระดูกมังกรโลหิตก็เป็นถึงศาสตราจิตวิญญาณขั้นสูง เมื่อรวมกับพลังที่น่าสะพรึงของเขา ทำให้พบเทพสังหารเทพ พบพุทธะสังหารพุทธะ!
“สารเลว!” เฉิงเฟิงกัดลิ้นตัวเอง ทำให้ร่างที่เป็นสีทองเริ่มมีแสงสีแดงเปล่งออกมา เขาทำการเผาไหม้แกนโลหิตในร่าง เพื่อระเบิดพลังทั้งหมดออกมา! ทำให้ไม่ว่าจะเป็นในด้านความเร็ว หรือว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกขั้นใหญ่
ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่ได้โจมตีสวนกลับ แต่เลือกที่จะหลบไปยังด้านข้างอย่างรวดเร็ว ในสถานการณ์ที่ไร้อาวุธ หรือเสียเปรียบนั้น เขาทำได้เพียงหลบไปก่อน จากนั้นค่อยว่ากันทีหลัง
หลังจากระเบิดพลังออกมา อี้เทียนหยุนก็ได้ใช้ดวงตาประเมินตรวจสอบพลังรบของเฉิงเฟิง ทำให้พบว่าในตอนนี้ เฉิงเฟิงได้มีพลังรบอยู่ที่ 3,450,000 ทั้งยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นในพริบตานี้ ทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นด้วย ด้วยความเร็วของเขาในตอนนี้ ทำให้เร็วกว่าอี้เทียนหยุนแล้ว
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาจะต้องหนีออกไปจากระยะโจมตีของเขาได้อย่างแน่นอน และในพริบตานี้ อี้เทียนหยุนก็ได้เปลี่ยนแผนการอย่างรวดเร็ว ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ราวกับสายฟ้า ซัดกริชออกไปราวกับลูกศรโลหิต ตัดเอาแขนสีทองสว่างออกไป หลังจากหมุนอยู่หลายรอบก็ได้หล่นลงพื้น จากนั้นแสงสีทองก็ได้หม่นแสงลงอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้ เฉิงเฟิงได้หนีออกมาแล้ว เพียงแต่ก็ได้เสียแขนไป โชคดีที่เขาหลบมาเร็ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เพียงแค่เสียแขนไปเท่านั้น แต่กระทั่งร่างก็ยังต้องถูกผ่าครึ่ง! ทำไมขนาดใช้เคล็ดวิชากายทองคำแล้วยังจะถูกคนหั่นเป็นสองซีกได้อีก
ถ้าไม่ใช่เพราะเฉิงเฟิงมั่นใจเกินไป และใส่ชุดเกราะล้ำค่าเอาไว้ ผลลัพธ์ที่ออกมาคงไม่น่าสมเพชขนาดนี้
“อ๊ากกก!” เฉิงเฟิงร้องออกมา ตอนนี้เสียแขนไปข้างแล้ว แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาเจ็บปวดได้ยังไง ยังไงก็ตาม เขาก็ได้ห้ามเลือดอย่างรวดเร็ว หลังจากยืนได้มั่นคงแล้ว เขาก็ได้หยิบยามายัดเข้าปาก คราวนี้ไม่ได้หยิบยาผิด ถึงยังไงก็ไม่มีผลของเม็ดยาโชคร้ายแล้ว
หลังจากกินยาเข้าไป เลือดก็หยุดไหลอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเป็นเม็ดยาช่วยชีวิต
แต่อี้เทียนหยุนก็ไม่ได้หยุดโจมตี เขาได้ทำการถีบเท้า ก่อเกิดเป็นปราณสีโลหิต พุ่งออกไปอีกครั้ง พร้อมๆ กับมังกรโลหิตที่ทะยานออกไป ปกคลุมทั่วทั้งห้องโถงแห่งนี้!
“หาที่ตาย!” ในสายตาของเฉิงเฟิงเต็มไปด้วยจิตสังหาร ไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย ทันใดนั้นในมือของเขาก็ปรากฏแผ่นหยกขึ้น ดูแล้วพิเศษอย่างมาก จากนั้นเขาก็ได้ทำการขยี้แผ่นหยกนั้นอย่างแรง
อึดใจต่อมา ร่าง เงาก็ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา นี่คือร่างเงาของราชา เป็นร่างเงาของจักรพรรดิ! ทำให้อี้เทียนหยุนรู้สึกราวกับเผชิญหน้ากับจักรพรรดิโดยตรง ความรู้สึกนี้ เขารู้สึกว่าแข็งแกร่งกว่าราชาวิญญาณเซวียนเทียนเสียอีก
เขาใช้ดวงตาประเมินตรวจสอบอย่างรวดเร็ว ทำให้ข้อมูลปรากฏขึ้นตรงหน้า
ร่างเงาของจักรพรรดิใต้พิภพ : ระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุด, คงอยู่ 10 วินาที, พลังรบ 6.5 ล้าน!
พลังรบ 6 ล้านนี้เป็นเพียงแค่ค่าเริ่มต้นเท่านั้น ยามต่อสู้ พลังรบจะต้องแข็งแกร่งกว่านี้อย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่จักรพรรดิแห่งอาณาจักรใต้พิภพตัวจริง แต่เป็นพลังที่ใส่เอาไว้ในหยก ก่อเกิดเป็นเครื่องรางคุ้มภัย ตราบเท่าที่บดขยี้แผ่นหยก ก็สามารถปลดปล่อยพลังที่ผนึกเอาไว้ออกมา
นี่เป็นแค่การปรากฏตัวชั่วคราวเท่านั้น ทั้งเวลายังไม่นานมาก แค่ 10 วินาทีเท่านั้น แต่ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับนี้ เพียง 10 วินาทีก็เพียงพอให้หลบหนี หรือต้านรับการโจมตีได้อย่างเหลือเฟือแล้ว
“จักรพรรดิใต้พิภพ…..” สีหน้าของอี้เทียนหยุนจมลง นี่เป็นราวกับกำแพงหนาที่ยากจะก้าวข้าม ทำให้เขาไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ กระทั่งหายใจยังลำบาก พลังนี้เมื่อเทียบกับพลังที่ที่ระเบิดออกมาจนขีดสุดของตนแล้ว ยังเหนือกว่าตั้ง 2 ล้าน
ในสายตาของร่างเงาจักรพรรดิ เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งราชา พร้อมกับฟาดฝ่ามือขนาดใหญ่เข้าใส่เขา
“ฝ่ามือเทพใต้พิภพ!”
ฝ่ามือขนาดยักษ์ตบลงมายังเขาอย่างโหดเหี้ยม จากความว่างเปล่าเปลี่ยนเป็นฝ่ามือยักษ์ในพริบตา ปกคลุมทั่งทั้งตำหนักขนาดใหญ่นี้เอาไว้ ทำให้อี้เทียนหยุนไม่มีทางที่จะหลบไปไหนได้ นอกเสียงจากจะหนีออกไปจากตำหนักนี้ แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ เขาไม่มีเวลาพอที่จะหนีออกไป ทำได้เพียงต้านรับเอาไว้เพียงเท่านั้น
ส่วนจะให้โจมตีนั้น เป็นไปไม่ได้ เงาร่างจักรพรรดิก็เหมือนกับกำแพงหนาที่ขวางอยู่ตรงหน้าเฉิงเฟิง ทำให้ไม่มีทางโจมตีได้ เขาในตอนนี้มีเพียงแต่ต้านรับเอาไว้ให้ได้สิบวินาที จากนั้นค่อยโจมตีได้อีกครั้ง!