CLS ตอนที่ 244: หลบหลีก
“คุณหนูอวี่ อย่าเพิ่งใจร้อน ข้ากำลังจะไปแล้ว” เมื่ออี้เทียนหยุนเห็นอวี่ชีเชียน ก็ได้แต่เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา ใครจะคิดเล่าว่าเป็นห้องของอวี่ชีเชียน? ตอนนี้กำลังมีการตรวจค้นกันอยู่ ดังนั้นให้ซ่อนอยู่บนหลังคาจึงไร้ประโยชน์ มีเพียงแต่ซ่อนในห้องเท่านั้นถึงจะได้ผล
เพราะพลังของฝ่ามือเทพใต้พิภพ ทำให้เขาไม่สามารถซ่อนตัวได้ จึงทำได้เพียงหลบหลีกไม่ให้คนเห็น ส่วนไอ้เรื่องให้สู้นั้น คงจะเป็นเรื่องยาก เพราะต่อให้เร็วยังไง ถ้าถูกพบเข้า มันง่ายที่จะเกิดปัญหา
เขาไม่ต้องการลากผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณคนอื่นเข้ามา ดังนั้นจึงต้องระวังเรื่องหลักฐานให้ดี
“กำลังจะไปแล้วอย่างงั้นเหรอ แท้จริงแล้วเจ้าเป็นใครกันแน่!” สายตาของอวี่ชีเชียนเย็นชา กระบี่ในมือยังชี้มาที่เขา ไม่ได้ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย
กลางค่ำกลางคืนอย่างนี้ยังออกมาส่งเสียงดังข้างนอก แน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนดี แล้วอย่างนี้อวี่ชีเชียนจะกล้าวางใจได้ยังไง ดังนั้นจึงได้ชี้ไปที่เขา
“ข้า…..” ร่างของอี้เทียนหยุนกระพริบวาบ จากนั้นก็มาโผล่ที่ด้านหลังของอวี่ชีเชียน จับมือทั้งสองข้างของเธอไว้ ทำให้หลังของเธอแนบเข้ากับตัวเขา “คุณหนูอวี่ อย่าขยับ”
อวี่ชีเชียนตกใจ เธอไม่ทันรู้ตัว อี้เทียนหยุนก็มาโผล่ที่ข้างหลังของเธอแล้ว ทั้งยังควบคุมเธอไว้อย่างสมบูรณ์แบบ! ไม่ว่าเธอจะขัดขืนยังไงก็ไม่เป็นผล ไม่สามารถหลุดไปจากเงื้อมมือของอี้เทียนหยุนได้ ถูกจับกุมไว้อย่างแน่นหนา
อี้เทียนหยุนถูกฝ่ามือเทพใต้พิภพเข้าไป ทำให้เลือดลมเดินไม่สะดวก ไม่สามารถใช้ความสามารถออกมาได้ ทำให้ไม่สามารถใช่ความสามารถซ่อนตัวได้ มีเพียงแต่รอให้ผลข้างเคียงของพลังนี้หายไปเสียก่อน
พลังของฝ่ามือเทพใต้พิภพยังส่งผลต่อเขาอยู่ แล้วอย่างนี้จะให้เขาซ่อนตัวได้ยังไง? นอกเสียจากจะรอให้ผลลัพธ์ของมันหายไปก่อน เขาถึงจะกลับมาซ่อนตัวใหม่ได้
“เจ้า เจ้าจะทำอะไร!” อวี่ชีเชียนรู้สึกว่าข้างหลังร้อนราวกับไฟ กลิ่นของชายหนุ่มโชยเข้าจมูกของเธอ ทำให้เธอทั้งโกรธและอับอาย แต่ไม่ว่าจะสะบัดยังไงก็สะบัดไม่หลุด ถูกฝั่งตรงข้ามจับกุมโดยสมบูรณ์
และที่น่ารังเกียจที่สุดคือร่างของเธอต้องแนบชิดกับอีกฝ่าย ทำให้เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
อี้เทียนหยุนกลัวว่าอวี่ชีเชียนจะลงมือโดยไร้เหตุผล ดังนั้นจึงตัดสินใจทำอย่างนี้ ถ้าไม่ทำให้ตัวติดกัน เขาก็กลัวว่าอวี่ชีเชียนจะเตะสวนใส่เขา ถ้าอย่างนั้นคงเป็นการเอาชีวิตของเขาไปแล้ว
ระดับของอวี่ชีเชียนไม่สูงนัก แต่จะดีจะชั่วยังไงก็มีระดับหลอมรวม ถ้าถูกเตะหลายเท้าเขา นั่นไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างแน่นอน
“คุณหนูอวี่ ข้าจะไม่พูดมาก ขอแค่ท่านยอมอยู่นิ่งๆ ไม่ลงมือก็พอ ข้าแค่อยากจะขอซ่อนตัวอยู่ในนี้จริงๆ” อี้เทียนหยุนไม่ได้มีความคิดอื่น ที่เขาเข้ามาในห้องนี้เพราะว่าเป็นห้องที่ใกล้ที่สุด เขาจึงเข้ามาซ่อนตัวในนี้ ไม่ได้คิดจะทำเรื่องลามกอย่างแน่นอน
“งั้น เจ้าก็ยังไม่คิดจะออกไปอย่างงั้นเหรอ!” อวี่ชีเชียนหน้าแดง ทั้งโกรธทั้งอาย ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอได้ใกล้กับผู้ชายขนาดนี้ ยิ่งกว่านั้น ตำแหน่งที่ยืนยังเหมือนกับกำลังโอบกอดกันอีก
ถ้ามีคนอื่นมาเห็น แล้วเธอจะแก้ต่างได้ยังไง
“ถ้าเจ้าไม่ตะโกนให้คนช่วย ข้าก็จะไม่ลงมือ” อี้เทียนหยุนพูด
“ก็ได้!” อวี่ชีเชียนมองไปที่เขาอย่างโมโห พร้อมกับกัดริมฝีปากแน่น
อี้เทียนหยุนก็ปล่อยเธออย่างรวดเร็ว พร้อมกับหลบไปด้านข้าง แต่เพิ่งจะหลบออกมา อวี่ชีเชียนก็ได้แทงกระบี่เข้ามา พร้อมกับร้องออกมาด้วยความโมโห “เจ้าคนลามก!”
อี้เทียนหยุนยื่นมือออกไปรับ พร้อมกับจับคมกระบี่เอาไว้ เขาในตอนนี้อยู่ในระดับก่อแกนวิญญาณขั้นสูงสุด แข็งแกร่งกว่าอีกฝ่าย 1 ระดับ แต่ก็ถือว่าต่างกันคนละโลก ตราบเท่าที่ไม่จงใจให้คนอื่นฆ่า หรือไม่ได้ตั้งตัว อีกฝ่ายก็ไม่มีทางสังหารเขาได้อย่างแน่นอน
“คุณหนูอวี่ ข้าก็บอกแล้วว่าจะไม่ลงมือ เจ้ายังคิดจะทำอะไรอีก” อี้เทียนหยุนพูดอย่างหมดหนทาง “เจ้าอยู่นิ่งๆ เถอะ ข้าไม่ทำอะไรเจ้าอย่างแน่นอน!”
อวี่ชีเชียนแค่นเสียงออกมา จากนั้นก็ปล่อยกระบี่ที่ถูกจับไว้ พร้อมกับหลบไปอีกฝั่ง ดวงตาที่งดงามจับจ้องมาที่เขาด้วยความโกรธ เมื่อกี้นี้ถูกเขาเอาเปรียบไป แล้วจะให้เธอหายโกรธง่ายๆ ได้ยังไง เมื่อเห็นว่าระดับของอี้เทียนหยุนแข็งแกร่งเกินไป เธอก็ไม่คิดจะลงมืออีก
“เจ้าเป็นใครกันแน่ แล้วออกมาทำอะไรข้างนอก?” อวี่ชีเชียนคิดแล้วถามขึ้น
“เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ พูดอีกอย่างคือ พรุ่งนี้เจ้าจะรู้อย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องกังวล” อี้เทียนหยุนส่งยิ้มให้กับเธอ เขาไม่ได้เผยใบหน้าที่แท้จริงออกไป ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้สนิทกับอวี่ชีเชียน ดังนั้นจึงไม่ต้องให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา
เขาสร้างเรื่องเอาไว้ขนาดนั้น แล้วเขาจะกล้าแสดงใบหน้าที่แท้จริงของตนออกมาได้ยังไง
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก…..” เสียงเคาะประตูดังมา “มีใครอยู่ข้างในไหม ขอเข้าไปตรวจหน่อย!”
เสียงผู้คุ้มกันดังมาจากข้างนอก ดูเหมือนจะมีการตรวจตราเกิดขึ้น ถ้ามีคนหายตัวไป งั้นคงจะเป็นเรื่องใหญ่
อวี่ชีเชียนตกใจ จากนั้นก็มองไปยังอี้เทียนหยุน อี้เทียนหยุนพยักหน้าให้เธอ เป็นสัญญาณว่าให้เธอไปเปิดประตู
อวี่ชีเชียนลังเล แต่ก็ลุกไปเปิดประตู ถ้าเธอไม่เปิดประตูให้เข้ามาตรวจ อีกฝ่ายจะต้องไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
เมื่อเธอเปิดประตูออกไป ผู้คุ้มกันก็ได้พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้น เราจำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบข้างใน ขอรบกวนด้วย!”
“ดึกขนาดนี้ พวกเจ้ายังจะตรวจอะไรอีก?” อวี่ชีเชียนขมวดคิ้ว เธอไม่ได้บอกไปว่าอี้เทียนหยุนอยู่ข้างใน
ที่จริงแล้วเธอก็ไม่พอใจอาณาจักรใต้พิภพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้น ดึกขนาดนี้แล้วยังจะเข้ามาตรวจอีก นี่มันการดูแลแบบไหนกัน
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ถ้าเจ้าไม่ยอมให้เข้าไปตรวจ งั้นก็อย่ามาโทษหากพวกเราไม่เกรงใจ!” ผู้คุ้มกันคนนั้นระดับไม่ต่ำเลย แต่ถึงจะระดับต่ำก็ยังคงจะแสดงท่าทางโอหังแบบนี้อยู่ดี
อาณาจักรใต้พิภพมีชื่อเสียงเพียงพอ การขัดขืนการตรวจสอบก็เท่ากับต่อต้านอาณาจักรใต้พิภพ!
“ไม่ได้ นี่มันห้องของข้า พวกเจ้าจะตรวจสอบอะไร…..” อวี่ชีเชียนต่อต้าน
“ค้น!” ผู้คุ้มกันพุ่งเข้ามาในทันที ผ่านประตูเข้ามาโดยไม่สนใจอวี่ชีเชียน
“เจ้า…..”
อวี่ชีเชียนตกใจ จากนั้นก็รีบหันกลับไปอย่างไว แต่ก็พบว่าข้างหลังไม่มีใครอยู่ จึงได้โล่งอก เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้โล่งใจ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเจ้าคนลากมกนั่นเลยแท้ๆ
หลังจากพวกเขาตรวจค้นสักพัก เมื่อไม่พบว่ามีใครอยู่ ก็พากันจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา ทั้งยังสบถออกมาราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่าง
ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ไปตรวจยังห้องผู้อาวุโสใหญ่ที่อีกฝั่งเช่นกัน พวกเขาทำการเคาะประตูแล้วพูดขึ้นว่า “เปิดประตูเร็วเข้า นี่คือการตรวจสอบ!”
“เราจะทำยังไงดีท่านปู่ ทำไมอยู่ๆ พวกเขาถึงได้มาตรวจกะทันหันอย่างนี้ ถ้าพบว่าท่านประมุขไม่อยู่ล่ะก็ มันจะต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอน!” สีหน้ามู่เซียนเอ๋อกังวล อี้เทียนหยุนออกไปนานแล้ว ยังไม่กลับมาเลย
“คงต้องถ่วงเวลาไว้ก่อน ไม่รู้ว่าท่านประมุขจะกลับมาเมื่อไหร่…..” พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มีการตรวจสอบเกิดขึ้น แต่ก็รู้ว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
“ปัง!”
โดยไม่รอให้พวกเขาได้คิดอะไรต่อ ประตูก็ถูกโจมตีให้เปิดออกอย่างโหดร้าย ผู้คุ้มกันเข้ามาพบพวกเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “ทำไมถึงไม่เปิดประตู…. แล้วประมุขของพวกเจ้าล่ะ!”
“ท่านประมุขของพวกเรา…..” สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่จมลง ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ยังไงดี
“มีเรื่องอะไร? กำลังหลับสบายอยู่เชียว มีแต่ปัญหาจริงๆ” ไม่รู้ว่าอี้เทียนหยุนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเดินหาวออกมา เผชิญหน้ากับพวกเขาอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากผู้คุ้มกันเห็นเขา ก็แค่นเสียงออกมา “ถือว่าดีไป ถ้าไม่อยู่ล่ะก็ เจ้ามีปัญหาใหญ่แน่!”
จากนั้นผู้คุ้มกันก็หมุนตัวเดินจากไปโดยไม่คิดที่จะอยู่ให้นานกว่านี้ ตราบเท่าที่คนยังอยู่ การตรวจสอบของพวกเขาก็ถือว่าเสร็จสิ้น
หลังจากพวกเขาจากไป อี้เทียนหยุนก็ตาเป็นประกาย แน่นอนว่าเขาใช้เทเลพอร์ทเพื่อเข้ามายังที่นี่ โชคดีที่อยู่ไม่ไกล ทำให้เทเลพอร์ทกลับมาได้ง่าย ที่เขาซ่อนอยู่ในห้องอวี่ชีเชียน เหตุผลใหญ่ก็เพื่อใช้รอเวลาให้เทเลพอร์ทนับถอยหลังเสร็จ จากนั้นก็จะได้หลบเข้ามาที่นี่ได้อย่างปลอดภัย!