CLS ตอนที่ 246: ต้าเฉินคนใหม่
ในขณะที่อี้เทียนหยุนกำลังหัวเราะ คนที่เหลือต่างก็พากันมองหน้ากัน สงสัยว่าเขาคงถูกธาตุไฟเข้าแทรก
“ท่านปู่ พวกเราจะปล่อยไปอย่างนี้เหรอ?” มู่เซียนเอ๋อถามอย่างกังวล
“นี่…. ไม่เป็นไรหรอก คงจะเพราะตื่นเต้นกับการฝึกฝนน่ะ สถานการณ์ของประมุขไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะจินตนาการได้ สามารถฝึกมาจนถึงขั้นนี้ได้ทั้งที่ยังเยาว์ คิดว่าคงจะต้องมีดีอยู่บ้างล่ะ” ผู้อาวุโสใหญ่แสร้งเป็นออกความเห็น แต่ก็ยังมองดูอยู่ห่างๆ
อี้เทียนหยุนไม่ได้สนใจสายตาของพวกเขา แต่กลับมุ่งความสนใจอยู่กับคันศรน้ำค้างแข็งเทวะ นี่ถือว่าเป็นอาวุธชั้นดี สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้จับของไร้ประโยชน์ออกมา
หลังจากจับรางวัลแล้วเสร็จ อี้เทียนหยุนก็เปิดหน้าต่างสถานะขึ้นดู ตรวจดูข้อมูลทุกอย่างของตัวเอง
ผู้เล่น: อี้เทียนหยุน
เลเวล: เลเวล 41 (ระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 1)
ค่าประสบการณ์: 0/ 100,000,000
ค่าความคลั่ง: 1,893,689
ค่าความดี: 630
ค่าความชั่ว: 3,556
วิชาบ่มเพาะ: เทพอุดรทมิฬ, วิชาลับเทพมังกร, เคล็ดวิชาเซวียนเทียน, เคล็ดวิชากลืนสวรรค์, เคล็ดวิชากายทองคำ
วิชายุทธ์: มหาเวทดูดดาว, ปีศาจโลหิตทะยานสวรรค์, วิชากระบี่ชิงหยุน, วิชาตัวเบาชิงเซวียน
อาวุธ: หมัดเยือกแข็ง, หอกปีศาจโลหิต, กระบี่ไร้สิ้นสุด, ขวานหุ่นเทียนเสิ้ง, กริชกระดูกมังกรโลหิต, คันศรน้ำค้างแข็งเทวะ
เครื่องสวมใส่: ชุดเกราะเทียนเสิ้ง, ผ้าคลุมเงา, ชุดเกราะหุ่นเทียนเสิ้ง(ระดับจิตวิญญาณขั้นต่ำ), รองเท้าศึกหุ่นเทียนเสิ้ง(ระดับจิตวิญญาณขั้นต่ำ),เกราะอสูรโลหิต
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์: โหมดคลั่ง, โชคดี, เทเลพอร์ท
สายเลือด: สายเลือดเทพมังกร
พรสวรรค์: เนตรสวรรค์
เครื่องประดับ: ค้อนหลอมเทวะ, กำไลพลัง, แหวนพลัง, เข็มขัดพลัง, กำไลปีศาจโลหิต
ความชำนาญ: สลักอาคมขั้นพื้นฐาน, หลอมศาสตราขั้นกลาง, กลั่นโอสถขั้นกลาง, ค่ายกลขั้นพื้นฐาน
จิปาถะ: เม็ดยาฟื้นฟู 8, กล่องของขวัญเลเวล 51, ชีวิต 1, เม็ดยาระเบิด, บัตรค่าประสบการณ์ 20 เท่า x2, ยันต์ป้องกันใต้พิภพ, บัตรค่าประสบการณ์ 30 เท่า, บัตรค่าความชำนาญ 5 เท่า, บัตรค่าความคลั่ง 5 เท่า, บัตรค่าความชั่ว 2 เท่า
สมบัติ: เตาหลอมเพลิงม่วงศักดิ์สิทธิ์, หยกโลหิต, แผนที่สมบัติมังกร, มุกหยก, หนังสือบัญชาการ, ปีกฟีนิกซ์, กุญแจคุกเผ่าภูต
ฉายา: ผู้พิทักษ์, ผู้กอบกู้
เปลวเพลิง: เปลวเพลิงนิรันดร์
“อะไรนะ ค่าประสบการณ์ 100 ล้าน?!”
เมื่ออี้เทียนหยุนเห็นหน้าต่างค่าสถานะ ก็พลันตกใจ โดยเฉพาะค่าประสบการณ์ที่ต้องการ 100 ล้านนั่นยิ่งเจิดจ้าเป็นที่สุด ก่อนหน้านี้ที่อยู่ในระดับก่อแกนวิญญาณต้องการค่าประสบการณ์แค่ 60 ล้าน พอตอนนี้อยู่ในระดับผันแปรวิญญาณกลับพุ่งพรวดเป็น 100 ล้าน!
ก่อนหน้านี้ 50 ล้านก็ว่ายากมากแล้ว ตอนนี้กลับต้องการค่าประสบการณ์ถึง 100 ล้าน ต่อให้ฆ่าคนแต่ละครั้งจะได้ค่าประสบการณ์ 1 ล้านก็จำเป็นต้องสังหารคนเป็นร้อยกว่าจะเลื่อนระดับได้ สามารถจินตนาการได้ถึงความน่าสะพรึงของมันได้เป็นอย่างดี โชคดีที่มีเขามีบัตรค่าประสบการณ์อยู่หลายใบ ถ้าเจอสัตว์อสูรจำนวนมากพอล่ะก็ เขาจะต้องสามารถเพิ่ม 1 เลเวลได้อย่างแน่นอน
เขารู้สึกหมดหนทางอยู่บ้าง ดูท่าคงต้องเดินไปทีละก้าวเท่านั้น ยิ่งตอนนี้ไม่มีภารกิจอะไรให้ทำอีก แต่ก็เพราะสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมาะที่จะทำภารกิจ ดังนั้นจึงไม่มีภารกิจเด้งขึ้นมา
หลังจากจับรางวัล เขาก็ไม่มีอะไรให้ทำอีก ดังนั้นวันนี้ก็ได้ล่วงเลยไป
พริบตาก็มาถึงวันถัดไป ตอนกลางคืนไม่ต้องพูดถึง ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะว่าถูกบังคับให้อยู่แต่ในห้อง ภายใต้สภาพนี้ พวกเขาจึงต้องอยู่อย่างนี้ไปสองวันเต็มๆ หลายคนก็กำลังคิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงไม่ให้พวกเขาออกไปกันสักที หรือว่าเฉิงเฟิงยังพักผ่อนไม่เพียงพอ?
การพักรักษาตัวเป็นเรื่องดี แต่การที่ขังพวกเขาไว้แต่ในห้องไม่แม้แต่ให้เดินออกไปข้างนอกอย่างนี้ ทำให้พวกเขาได้กลิ่นไม่ถูกต้อง คิดว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ในที่สุดก็ล่วงผ่านมาจนถึงวันที่สาม อย่างรวดเร็วพวกเขาก็ได้มารวมตัวกันในตำหนัก ผู้คุ้มกันแต่ละคนต่างก็มีสีหน้าจริงจัง พร้อมกับมองมาที่พวกเขาอย่างเย็นชา ในการพบปะ คนที่มาพบกับพวกเขาไม่ใช่เฉิงเฟิง แต่เป็นต้าเฉินคนใหม่ ดูแล้วคงเพิ่งจะมาถึงเมื่อเร็วๆ นี้เอง
“ต้องให้ทุกคนอุดอู้อยู่แต่ในห้องหลายวัน เป็นความผิดพลาดของอาณาจักรใต้พิภพของพวกเราเอง แต่ตอนนี้มีเรื่องจริงจังที่ต้องประกาศ!” อยู่ๆ หลินห้าวก็พลันระเบิดพลังระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 7 ออกมา ซึ่งมากกว่าเฉิงเฟิงถึง 2 ขั้น กระจายมันออกทั่วทั้งตำหนักแห่งนี้
แม้ว่าประมุขหลายคนจะมีพลังระดับผันแปรวิญญาณ แต่ภายใต้สภาวะนี้ พวกเขาก็ยังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันเล็กน้อย เป็นถึงต้าเฉินของอาณาจักร แน่นอนว่าระดับจะต้องไม่ต่ำอย่างแน่นอน แต่ต่อให้จะมีระดับเท่ากัน แต่วิชาที่ฝึกย่อมต่างกัน ยามปลดปล่อยออกมาจึงเห็นได้ถึงความต่างอย่างชัดเจน
คำพูดของหลินห้าวทำให้ดวงตาของหลายคนเป็นประกาย ในที่สุดก็มีเรื่องประกาศสักที ก่อนหน้านี้พวกเขาก็รู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้องอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้พวกเขาอยู่แต่ในห้องตั้งหลายวัน ทั้งยังดูแลพวกเขาราวกับเป็นนักโทษในคุก ซึ่งนี้ออกจะเป็นเรื่องที่ทำเกินไป
“เชื่อว่าทุกคนคงสังเกตเห็นอะไรบางอย่างได้ ข้าจะไขความกระจ่างให้กับทุกคนเอง ต้าเฉินของพวกเรา เฉิงเฟิง ไม่รู้ว่าถูกใครลอบสังหารไป!” น้ำเสียงของหลินห้าวเย็นชาถึงที่สุด ทำให้อุณหภูมิในตำหนักลดลงไปหลายระดับในทันที
ซึ่งความจริงก็คือความเย็นนี้ถูกปล่อยออกมาจากร่างของเขา ซึ่งมีผลทำให้อุณหภูมิในตำหนักแห่งนี้ลดลง เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญธาตุน้ำแข็ง ที่สามารถแช่แข็งได้ทุกสิ่ง!
ข่าวนี้ราวกับระเบิดที่ทุ่มลงมายังที่แห่งนี้ หลายคนพลันแสดงสีหน้าตื่นตระหนก นี่คือเฉิงเฟิงนะ ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณ จะบอกว่าตอนนี้ตายไปแล้วอย่างงั้นเหรอ? ที่สำคัญเลยก็คือ เขาเป็นถึงต้าเฉินของอาณาจักรใต้พิภพ ใครกันที่กล้าลอบสังหารเขา?
“นี่ นี่…..” พวกผู้อาวุโสใหญ่พากันเผยสีหน้าตกใจ พร้อมกับเหลือบไปยังอี้เทียนหยุน ในใจพลันคาดเดาถึงสาเหตุที่อี้เทียนหยุนออกไปเมื่อหลายวันก่อน ที่แท้ก็ไปลอบสังหารเฉิงเฟิงนี่เอง!
แต่เฉิงเฟิงมีระดับผันแปรวิญญาณเลยนะ เขาทำได้ยังไง? นี่ไม่ได้หมายความว่าระดับของอี้เทียนหยุนเหนือกว่าเฉิงเฟิงอย่างงั้นเหรอ?
ยังไงก็ตาม สีหน้าของพวกเขาก็กลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ทั้งยังไม่หันไปมองอี้เทียนหยุอีก ความลับนี้ไม่สามารถเปิดเผยออกมาได้ ถ้าคนอื่นรู้เข้า วังเทียนจี๋ของพวกเขาจะต้องถึงจุดจบอย่างแน่นอน สังหารต้าเฉินของอาณาจักรใต้พิภพ ไม่ว่าสำนักไหน ก็ต้องพบกับความพิโรธของอาณาจักรใต้พิภพ!
พร้อมกันนั้น อวี่ชีเชียนก็ได้หน้าเปลี่ยนสี พร้อมกับนึกไปถึงชายชุดดำเมื่อค่ำวันนั้น “เป็นเขา…..”
“ศิษย์พี่ ท่านเป็นอะไร?” จ้าวอวี่เห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดีจึงได้ถามขึ้น
“ไม่มีอะไร ก็แค่คิดอะไรบางอย่างเท่านั้น ใครกันนะที่ร้ายกาจขนาดนั้น กล้าสังหารกระทั่งเฉิงต้าเหริน…..” อวี่ชีเชียนไม่ได้เอ่ยถึงเจ้าคนลามกนั่น ยิ่งกว่านั้น เรื่องนี้มันใหญ่เกินไป เธอจึงไม่กล้าพูดออกมา
หนานเฟิงหยุนก็หน้าเปลี่ยนสีเช่นกัน ความสัมพันธ์ของเขาและเฉิงเฟิงนั้นเป็นไปด้วยดี จะบอกว่าตายแล้ว? เขาได้ส่งของกำนัลไปมากมายเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับเฉิงเฟิง แต่ไม่คิดว่าจะมาตายไปอย่างกะทันหันอย่างนี้ แล้วอย่างนี้ใครจะช่วยหนุนหลังวังเสินเหวินของพวกเขากัน?
แล้วยังเรื่องผู้เชี่ยวชาญเผ่าภูตอีก? ตอนนี้กลัวว่าจะกลายเป็นเมฆที่ลอยล่องไปซะแล้ว
หลินห้าวสังเกตสีหน้าของพวกเขา จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ข้าไม่รู้ว่าเฉิงต้าเหรินนั้นตายได้ยังไง ทั้งยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับพวกเจ้าหรือเปล่า ระหว่างการตรวจสอบ พวกเจ้าจึงไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ แม้เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า แต่ระดับของพวกเจ้าก็ไม่ได้ต่ำ มีความสามารถพอที่จะแอบซ่อนคนร้ายไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น!”
สีหน้าของประมุขนับไม่ถ้วนพากันเปลี่ยนสี ต้าเฉินที่มาใหม่นี้ คงไม่ใช่ว่าคิดจะลงทัณฑ์เพื่อบีบบังคับให้สารภาพหรอกใช่ไหม?
“วางใจได้ นี่เป็นแค่การคาดเดาของข้า ไม่ได้มีความหมายอื่น” หลินห้าวพูดอย่างจริงจัง “เรื่องนี้ข้าจะต้องสืบสวนให้กระจ่าง แต่ถ้ามีใครกล้าปิดบังข้าล่ะก็ ผลลัพธ์สุดท้ายจะต้องประสบกับความพิโรธของอาณาจักรใต้พิภพเราอย่างแน่นอน!”