CLS ตอนที่ 257: เก็บกวาด
“ติ๊ง ท่านสังหารเฟิงยู่หลงสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 7,800, ค่าความคลั่ง 1,800, ค่าความชั่ว 50, ความชำนาญในการสลักอาคม 100, ได้รับวิชากระบี่เหินเมฆา, ท่าเท้าย่ำเมฆ”
แค่ลูกเตะเดียวก็สังหารเฟิงยู่หลงคนนี้ไปได้อย่างไม่ยากเย็น ระดับของเขาไม่ใช่อ่อนๆ การสังหารเขาก็เหมือนกับการบี้มดตัวหนึ่งเท่านั้น ถือเป็นการมอบโทษสูงสุดให้แก่เขา!
“เจ้า เจ้าสังหารพี่เฟิง!” เลี่ยวเหวินก็ทรยศสำนักเหมือนกัน เขามองมาที่อี้เทียนหยุนอย่างกรุ่นโกรธ “เจ้า เจ้าคิดจะก่อกบฏหรือไง!”
อึดใจต่อมา ร่างของอี้เทียนหยุนก็ไปปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา พร้อมกับหวดแข้งออกไป ฟาดเลี่ยวเหวินจนปลิว สังหารเขาโดยไม่ปรานี
“ติ๊ง ท่านสังหารเลี่ยวเหวินสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 6,500, ค่าความคลั่ง 1,500, ค่าความชั่ว 20, ค่าความชำนาญในการสลักอาคม 100…..”
“บาปที่ไม่ควรอภัย!”
เขาลงมือโดยไม่ปรานี บอกฆ่าเป็นฆ่า ไร้ซึ่งความเมตตา!
ความเร็วที่น่าสะพรึงนี้ทำให้ทุกคนไม่รู้ว่าเขาลงมือยังไง กระทั่งพวกผู้อาวุโสก็ยังมองไม่ออก ความเร็วนี้เร็วเกินไป เร็วจนพวกเขาไม่เชื่อว่าจะมีความเร็วขนาดนี้อยู่ หยางซีเสวี่ยมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสองตาเป็นประกาย เธอรู้ว่าอี้เทียนหยุนแข็งแกร่งมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่จัดการโจรสลัดพวกนั้นได้ตั้งแต่ตอนแรกหรอก
“บาปที่ไม่ควรอภัย!”
อี้เทียนหยุนไม่หยุดมือ ยังคงไล่หวดศิษย์ที่ทรยศสำนักอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายก็ตายสิ้นไม่เหลือหลอ! เขาไม่คิดจะสังหารคนเหมือนผักปลา แต่เมื่อได้เริ่ม เขาก็ไม่สามารถหยุดได้
“บาปที่ไม่ควรอภัย!”
“บาปที่ไม่ควรอภัย!”
“บาปที่ไม่ควรอภัย!”
เพียงแค่ทีเดียวก็มากพอที่จะจัดการพวกศิษย์ที่ทรยศสำนักพวกนี้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องลงมือซ้ำสอง
“หยุดให้ข้า!” ผู้อาวุโสเซียวเจี๋ยคำรามอย่างโกรธแค้น ระเบิดพลังระดับก่อแกนวิญญาณออกมา สังหารศิษย์พวกนี้ต่อหน้าเขา เท่ากับเป็นการตบหน้าเขาอย่างแรง แล้วอย่างนี้เขาจะไปทนได้ยังไง!
เขาไม่ทันจะลงมือ อี้เทียนหยุนก็มาปรากฏตรงหน้าเขาแล้ว พร้อมกับหวดแข้งออกมา “เปรี้ยง” ผู้อาวุโสเซียวเจี๋ยก็กระเด็นไปเช่นเดียวกัน เครื่องในที่อยู่ในร่างถูกเตะจนแตก กระแทกพื้นพร้อมกับร่างที่อ่อนยวบ ตายไปในทันที!
“คิดรังแกวังเทียนจี๋ของพวกเขา เท่ากับเป็นบาปที่ไม่อาจอภัย!” อี้เทียนหยุนมองไปยังคนที่เหลืออย่างเย็นชา “ยืนฟังพวกเจ้าพูดไร้สาระมาครึ่งค่อนวันแล้ว ตอนนี้ได้เวลาปัดกวาดสำนัก กำจัดขยะบางชิ้นทิ้งไป ไม่อย่างนั้น พวกเจ้าคิดจริงๆ หรือว่าวังเทียนจี๋ของเรารังแกได้ง่ายๆ? วังเทียนจี๋ของพวกเราก็มีศักดิ์ศรี ที่ไม่อาจก้าวล่วงเช่นกัน!”
“พูดได้ดี! แม้ว่าวังเทียนจี๋ของพวกเราจะตกต่ำ แต่พวกเขาก็ภูมิใจที่ได้เป็นศิษย์ของวังเทียนจี๋ พวกเราต้องปกป้องศักดิ์ศรีของสำนัก!” หยางอวี่พูดอย่างเดือดดาล “ทุกคน มาไล่พวกมันออกไปจากสำนักพวกเรากัน!”
ภายใต้การนำของหยางอวี่ พวกเขาก็ราวกับได้รับการฉีดเลือดไก่เข้าไป รวมตัวกันโถมเข้าใส่อีกฝั่ง รวมใจกันจัดการพวกนั้น
แม้ระดับของพวกเขาจะไม่สูง แต่ก็ใช่ว่าจะสู้ไม่เป็น!
อี้เทียนหยุนพลันตาเป็นประกาย มีศิษย์พวกนี้อยู่ สำนักก็มีหวังที่จะอยู่รอดแล้ว ถ้ามีคนทรยศสำนัก หรือเต็มไปด้วยพวกที่เห็นแก่ตัว สำนักก็ไม่อาจที่จะอยู่ได้นาน สุดท้ายก็ต้องพบกับจุดจบ
“ดี จัดการพวกมันด้วยกัน!” อี้เทียนหยุนพลันเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว พร้อมกับเข้าจัดการกับผู้อาวุโสอีกคน ผู้อาวุโสคนนี้คือคนที่มีพลังสูงที่สุด หลังจากจัดการเขา เรื่องก็เป็นอันจบ
“เจ้าอยากจะเป็นศัตรูกับวังเสินเหวินอย่างงั้นเหรอ พวกเจ้า พวกเจ้าเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วหรือไง!” ผู้อาวุโสคนนั้นเห็นอี้เทียนหยุนพุ่งเข้ามาก็หน้าซีดเซียว ผู้อาวุโสสหายของตนถูกอี้เทียนหยุนเตะครั้งเดียวจนตาย ทำให้เขารู้ว่าพลังของเด็กหนุ่มคนนี้ร้ายกาจแค่ไหน
“ไม่ เป็นพวกเจ้าต่างหากที่เบื่อที่จะมีชีวิตน่ะ!” อี้เทียนหยุนหวดแข้งออกไป กวาดผู้อาวุโสคนนี้กระเด็น ตายไปเช่นเดียวกับคนก่อนหน้า
“ท่านสังหารผู้อาวุโสวังเสินเหวินสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 240,000, ค่าความคลั่ง 3,200, ค่าความชั่ว 50, ค่าความชำนาญในการสลักอาคม 500…..”
ยามสังหารระดับผู้อาวุโส แน่นอนว่าเขาต้องเปิดใช้งานโหมดคลั่งหมวดค่าประสบการณ์ ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นการเสียของไปเปล่าๆ
คนอื่นๆ ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ต่างคนต่างพากันชักอาวุธของตนออกมา พร้อมกับพุ่งเข้าใส่ศิษย์ของวังเสินเหวิน บนอาวุธของแต่ละคนต่างสลักไว้ด้วยค่ายกลที่ตนเป็นคนสร้าง ทำให้ช่วยเพิ่มพลังรบให้พวกเขาอย่างมาก ยังไงก็ตาม ศิษย์ของวังเสินเหวินก็ไม่ได้แย่ เพียงแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสของพวกเขาตายหมดแล้ว ทำให้พวกเขาหมดกำลังใจ หมุนตัววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะไปกล้าต่อต้านได้ยังไง
ส่วนหลี่ห้วนที่บาดเจ็บหนักนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความกลัว เขาให้คนหามมาชมเรื่องสนุก แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถวิ่งหรือว่าหนีไปได้แล้ว
“ใครก็ได้ ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย……” หลี่ห้วนพยายามคลาน ขณะที่ร้องออกมา แต่เพราะอาการบาดเจ็บหนัก ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยการติดขัด
“อยากให้ข้าช่วยเจ้าไหม?” ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อี้เทียนหยุนมาปรากฏตรงหน้าของเขา พร้อมกับมองเขาด้วยใบหน้าที่ชั่วร้าย
“เจ้า ถ้าเจ้าฆ่าข้า ท่านประมุขจะต้องมาล้างแค้นให้พวกเขาแน่ๆ….. วังเทียนจี๋ของพวกเจ้าจะต้องถูกทำลาย! ไม่เพียงแต่สังหารนายน้อยของพวกเราเท่านั้น แต่ยังสังหารคนของพวกเราไปมากมาย….. การตายของข้า จะทำให้วังเทียนจี๋ของพวกเจ้าถูกฝังทั้งเป็น!” หลี่ห้วนสิ้นหวัง รู้ว่าตัวเองจบสิ้นแล้ว ต่อให้ขอร้องไปก็เปล่าประโยชน์ ดังนั้นจึงได้สาปแช่งออกมาแทน
“ใช่แล้ว แต่ว่าเสียใจด้วย คนที่จะฝังตามเจ้าไปไม่ใช่วังเทียนจี๋ของพวกเรา แต่เป็นประมุขของเจ้า ประมุขวังเสินเหวิน!” อี้เทียนหยุนยิ้มให้เขาอย่างเย็นชา จากนั้นก็ถอดหน้ากากร้อยแปลงออก เผยใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นออกมา
หลังจากหลี่ห้วนเห็นใบหน้านั้น สีหน้าของเขาก็กลายเป็นซีดขาว พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “เป็นเจ้า เป็นเจ้าได้ยังไง?”
อี้เทียนหยุนสวมหน้ากากกลับเข้าไปอีกครั้ง พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “ก็ต้องเป็นข้าอยู่แล้ว….. วางใจเถอะ ประมุขของเจ้าตายไปแล้ว เจ้าตายอย่างวางใจได้”
เสียงของเขาเพิ่งจะจบ เขาก็ถีบหลี่ห้วนจนกระเด็น
“ติ๊ง ท่านสังหารหลี่ห้วนสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์…..”
อย่างรวดเร็ว ที่นี่ก็เก็บกวาดแล้วเสร็จ ไม่เหลือศัตรูอยู่แม้แต่คนเดียว ตอนแรกทำตัวอวดดีเต็มที่ แต่ตอนนี้ล้วนถูกกำจัดสิ้น ศิษย์คนอื่นๆ หลังจากกำจัดพวกเขาก็มีสีหน้าไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ บางคนไม่เคยฆ่าใครมาก่อน นี่เป็นการสังหารคนครั้งแรก
แต่พวกเขาจะไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะถ้าไม่ทำ พวกเขาก็จะถูกฝ่ายตรงข้ามสังหาร พวกเขาไม่มีทางเลือก!
“ที่นี่พวกเจ้าจัดการไปแล้วกัน ข้าคงต้องขอตัวก่อน” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกายวาวโรจน์
“ผู้มีพระคุณจะไปไหนเหรอคะ?” หยางซีเสวี่ยรีบตะโกนถาม
“ไปจัดการบางสิ่ง เรื่องนี้จะปล่อยไว้นานไม่ได้ ไม่งั้นจะเป็นปัญหา” สถานที่ที่อี้เทียนจะไปนั้นง่ายมาก นั่นก็คือวังเสินเหวิน!
เมื่อคิดถึงเรื่องการเพิ่มระดับ ตอนนี้คงมีแต่ต้องกำจัดวังเสินเหวินเท่านั้น ไม่เพียงแต่จะขจัดเรื่องยุ่งยากไปได้แล้ว แต่ยังช่วยเพิ่มระดับให้กับเขาด้วย
หลังจากเขาจากไป หยางอวี่ก็ตบไหล่พี่สาวของตน แล้วพูดขึ้นว่า “พี่ ผู้อื่นไปแล้ว ท่านยังจะมองอะไรอีก? ไม่แปลกที่ท่านจะไม่สนใจผู้ชายคนอื่น หรือว่าท่านจะชอบเขา? น่าเสียดาย…. ข้าคิดว่าพี่ใหญ่ออกจะเหมาะแท้ๆ”
“ไสหัวไปเลย!” หยางซีเสวี่ยแค่นเสียงออกมา “ถ้าเจ้าคิดว่าพี่ใหญ่ของเจ้าดีนัก งั้นเจ้าก็ไปแต่งกับเขาเองเลยสิ!”
“ข้าก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ว่าข้าไม่ใช่ผู้หญิงนี่สิ!” หยางอวี่ก็ยอมรับเหมือนกัน!