CLS ตอนที่ 259: ค่ายกลสังหารเทพ
ด้วยเป็นสำนักที่เชี่ยวชาญด้านค่ายกลเป็นเฉพาะ การที่จะมีค่ายกลใหญ่สักสองสามชนิดเป็นเรื่องที่ธรรมดาอย่างมาก ค่ายกลสายฟ้าสวรรค์นี้มีพลังที่แข็งแกร่งมาก สายฟ้าที่ฟาดลงมานี้ สามารถโจมตีได้ถึงระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 5 ที่ 6 แต่กับเขากลับไม่มีแรงกดดันแม้แต่น้อย เหมือนกับแค่ชาๆ นิดหน่อยเท่านั้น
เขาทำการดูดกลืนสายฟ้าเข้าไปในร่างในทันใด เปลี่ยนให้เป็นค่าประสบการณ์กองใหญ่ แน่นอนว่าสิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้ก็คือค่าประสบการณ์สำหรับเลื่อนระดับ แล้วอย่างนี้เขาจะพลาดได้ยังไง
“ไม่ เป็นไปไม่ได้! เจ้าต้องตาย เจ้าต้องตาย!” ผู้อาวุโสคนนี้สั่งการค่ายกลอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ค่ายกลปล่อยสายฟ้าออกมาไม่หยุด ฟาดเปรี้ยงลงบนร่างของเขา
“เปรี้ยง เปรี้ยง!”
“จงกลายมาเป็นค่าประสบการณ์ของข้าซะ!”
อี้เทียนหยุนยื่นมือออกไป ดูดกลืนสายฟ้าเข้ามาในร่าง เปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์ให้กับตน
“ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 580,000, 590,000, 570,000…..”
ค่าประสบการณ์ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ค่าประสบการณ์ 58 เท่า จากการใช้งานบัตรค่าประสบการณ์ต่างๆ รวมกับบัตรค่าความชำนาญอีก 5 เท่า พร้อมกับโหมดคลั่งที่เพิ่มค่าความชำนาญให้อีก 2 เท่า รวมเป็นค่าความชำนาญ 7 เท่า!
ยังไงก็ตาม ถ้าต้องการเพิ่มค่าความชำนาญในการสลักอาคมนั้น จำเป็นต้องใช้บัตรค่าความชำนาญเท่านั้นถึงจะได้ผล ส่วนโหมดคลั่งหมวดค่าความชำนาญนั้นไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ เพราะมันเพิ่มความชำนาญให้แค่กับวิชายุทธ์และอาวุธเท่านั้น
“ติ๊ง วิชามหาเวทดูดดาวของท่านได้เลื่อนเป็นระดับปฐพีขั้นสูง!”
ในตอนนี้เอง วิชามหาเวทดูดดาวของเขาก็ได้เลื่อนเข้าสู่ระดับปฐพีขั้นสูง ทำให้พลังในการดูดกลืนพลังจากภายนอกเพิ่มขึ้นในทันที จากแต่เดิม 6 เท่า เพิ่มขึ้นเป็น 8 เท่า!
“ครืน ครืน!”
ราวกับพายุยักษ์ ทำการดูดกลืนสายฟ้ารอบๆ จนม้วนเป็นวง กระทั่งเมฆดำบนฟ้ายังถูกเขาดูดกลืนเข้ามา ยังไงก็ตาม มันก็ยังมีขีดจำกัดของเคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬอยู่ ดังนั้นค่าประสบการณ์ที่ได้จึงมีขีดจำกำ ถึงยังไงค่าประสบการณ์ที่ได้ก็มาจากเคล็ดวิชาเทพอุดรทมิฬ ไม่ใช่มหาเวทดูดดาว
วิชามหาเวทดูดดาวนั้นเป็นวิชาที่ใช้ในการดูดกลืนพลังจากภายนอก ไม่ว่าเจ้าจะย่อยสลายได้หรือไม่ก็ยังต้องดูดเข้ามาอยู่ดี
หลังจากนั้น ค่ายกลสายฟ้าสวรรค์นี้ก็ไม่สามารถปลดปล่อยสายฟ้าออกมาได้อีก เพราะหินพลังวิญญาณได้หมดพลังลงแล้ว ดังนั้น หลังจากดูดกลืนได้สักพัก ก็ไม่มีสายฟ้าเหลืออยู่อีก
“อะไรกัน ไม่มีแล้ว?”
อี้เทียนหยุนมองไปยังผู้อาวุโสที่อยู่ห่างออกไป ทำให้พวกเขาตกใจจนขี้ขึ้นสมอง กระทั่งค่ายกลสายฟ้าสวรรค์ที่แข็งแกร่งก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?
“มันไม่ใช่คน กระทั่งค่ายกลยังไม่ส่งผล นี่มันพลังอะไรกันแน่!?”
พวกเขาพากันตกใจ นี่เป็นค่ายกลสายฟ้าสวรรค์ที่พวกเขาภาคภูมิใจ ขอแค่ไม่ใช่สุดยอดผู้เชี่ยวชาญมาเอง ค่ายกลสายฟ้าสวรรค์ก็สามารถจัดการได้ แต่กับเด็กหนุ่มคนนี้กลับคาดไม่ถึงว่าจะไม่ได้ผล
“ตาย!”
อี้เทียนหยุนยกคันศรน้ำค้างแข็งเทวะขึ้นน้าวสาย พร้อมกับปล่อยออกไปอย่างรวดเร็ว “ฟิ้ว” ศรน้ำแข็งสามสายถูกยิงออกไป ฝ่ายตรงข้ามอยากหลบก็หลบไม่พ้น พลันถูกศรน้ำแข็งพวกนี้ทะลุร่าง กลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งไป!
“ติ๊ง ท่านสังหารผู้อาวุโสวังเสินเหวิน ได้รับค่าประสบการณ์ 1.1 ล้าน, ค่าความคลั่ง 15,000, ค่าความชั่ว 200, ค่าความชำนาญในการสลักอาคม 2,500! ได้รับวิชาดัชนีตัดชีพจร, เทพวิชาเฉวียนเยว่, ได้รับสมบัติ กระดาษยันต์เทวะ, พู่กันอวี้หลิง!”
“ติ๊ง ท่านสังหารผู้จัดการวังเสินเหวินสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 560,000, ค่าความคลั่ง 11,000, ค่าความชั่ว 150, ค่าความชำนาญในการสลักอาคม 1,000! ได้รับวิชาดัชนีตัดชีพจร, เทพวิชาเพลิงพิโรธ, ได้รับสมบัติ กระดาษยันต์เทวะ, พู่กันอวี้หลิง!”
“ติ๊ง ท่านสังหาร….”
ศรสามดอกจัดการผู้อาวุโสและผู้จัดการที่ควบคุมค่ายกลทั้งสามทิ้งโดยที่พวกเขาไม่มีแรงแม้แต่จะต้าน ค่ายกลสายฟ้าสวรรค์นี้ยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่ก็ต้องใช้เวลาในการรวบรวมพลังงานสักพัก หลังจากนั้นถึงจะใช้ออกมาได้
“แหลกไปซะ!”
อี้เทียนหยุนควบคุมมังกรดำกระทืบลงไปยังพื้นอย่างแรงจนพื้นแตกเป็นหลุมขนาดใหญ่หลายหลุม เขาสั่งให้มังกรดำกระทืบพื้นอย่างต่อเนื่อง จนทั่วทั้งบริเวณกลายเป็นโพลง เมฆดำที่อยู่บนฟ้าก็สลายหายไปจนหมด นั่นหมายความว่าค่ายกลสายฟ้าสวรรค์นี้ได้ถูกทำลายแล้ว
ในเมื่อต้องทำลายวังเสินเหวินทิ้งอยู่แล้ว งั้นก็ทำลายสิ่งก่อสร้างทุกอย่างของที่นี่ทิ้งไปด้วยเลยดีกว่า หลังจากเขาทำลายค่ายกลสายฟ้าสวรรค์ทิ้งแล้ว เขาก็ทำการเข่นฆ่าต่อไป ไม่เพียงแต่ไล่สังหารเหล่าผู้อาวุโสพวกนี้เท่านั้น เขายังทำการเก็บกวาดสมบัติที่เห็นทั้งหมดไม่ปล่อยทิ้งไว้
ทำยังไงถึงจะหาเงินและทรัพยากรได้เร็วที่สุด? แน่นอนว่าย่อมต้องปล้นฝ่ายตรงข้าม ข้าวของของอาณาจักรใต้พิภพและวังเสินเหวินมีนั้นมหาศาล ถ้าขุมอำนาจอื่นได้เห็นล่ะก็ พวกเขาจะต้องตาวาวอย่างแน่นอน
ขณะที่เขาทำลายล้างนั้น ศิษย์ที่อยู่ที่นี่ก็พากันวิ่งหนีเช่นกัน ปกติศิษย์วังเสินเหวินก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่อยู่แล้ว เพราะถึงยังไงคนที่ฝึกสลักอาคมก็มีจำนวนน้อย ดังนั้นการกวาดล้างจึงไปอย่างง่ายดาย ส่วนมากล้วนแต่หนีไป การสังหารศิษย์พวกนี้ไม่ได้ให้ค่าประสบการณ์กับเขาเท่าไหร่อยู่แล้ว ทั้งศิษย์บางคนของวังเสินเหวินยังไม่รู้เรื่อง จึงถือเป็นผู้บริสุทธิ์
มีเพียงแต่พวกชั้นสูงขึ้นไปเท่านั้น พวกนี้จึงจะเป็นคนบาปที่แท้จริง!
“หืม ทำไมถึงมีกลิ่นอายที่ผิดปกติล่ะ?”
อี้เทียนหยุนรู้สึกไม่ถูกต้อง ความรู้สึกถึงวิกฤตกระเพื่อมขึ้นในใจเขา แม้ว่าระดับของเขาจะไม่อ่อนแอ แต่ก็ไม่ได้ไร้เทียมทาน ดังนั้นจึงต้องจัดการเรื่องราวด้วยความระมัดระวัง
ในตอนนี้เอง เขาพลันเปิดใช้งานเนตรสวรรค์ พร้อมกับมองไปยังบริเวณรอบๆ ทันใดนั้นก็พบเห็นค่ายกลที่ซ่อนอยู่ อาคารบ้านเรือนที่อยู่รอบๆ ถูกสร้างเป็นค่ายกลเชื่อมต่อกัน เป็นค่ายกลที่พิเศษอย่างมาก
“นี่คือค่ายกลสังหารเทพอย่างงั้นเหรอ?”
ค่ายกลสังหารเทพนี้ไม่ได้มีความสามารถในการสังหารเทพได้ดังชื่อของมัน แล้วค่ายกลสังหารเทพนี้คืออะไร? ค่ายกลสังหารเทพเปรียบได้กับวิชาระดับปฐพี ซึ่งผู้สร้างหวังที่จะให้สร้างมันให้กลายเป็นวิชาเทพ แล้ววิชาเทพคืออะไร วิชาเทพก็คือวิชาที่เหล่าผู้อาวุโสใช้ เป็นวิชาระดับปฐพีขั้นกลางขึ้นไปจนถึงสูง นี่จึงเรียกว่าวิชาเทพ
ยังไงก็ตาม ค่ายกลสังหารเทพนี้ทรงพลังมาก ดูจากพลังงานที่ส่งออกมาจากค่ายกลผ่านเนตรสวรรค์ เขาก็พลันเปิดใช้ดวงตาประเมินเรียกข้อมูลของมันขึ้นมาดูทันที
ค่ายกลสังหารเทพ: เป็นค่ายกลที่รวมพลังทุกอย่างแล้วยิงออกมาเพื่อทำลายล้างศัตรูทิ้งอย่างง่ายดาย หนึ่งอาทิตย์ใช้งานได้แค่หนึ่งครั้งเท่านั้น มีพลังเทียบเท่ากับระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุด!
ค่ายกลสังหารเทพนี้มีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าค่ายกลสายฟ้าสวรรค์เสียอีก มันสามารถรวบรวมพลังทุกอย่างไว้ด้วยกันแล้วยิงออกมา ซึ่งมีอำนาจในการทำลายล้างมหาศาล ถ้าเดินเข้าไปแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ มีสิทธิ์ที่จะร่างแหลกเหลวลงกับที่ได้ในพริบตา
“น่าสนใจนี่ คิดจะล่อข้าเข้าไปในนั้นสินะ?” อี้เทียนหยุนมองไปข้างหน้า เขาสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ไม่ชัดเจนอยู่ด้านหน้า แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ตัว พร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมา “แต่ว่าน่าเสียดายที่พวกเจ้าต้องมาเจอกับข้า สำหรับข้าแล้ว ค่ายกลสังหารเทพนี้ ไม่ได้มีความหมายอะไรแม้แต่น้อย”
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็ขี่มังกรดำพุ่งเข้าไปทั้งอย่างนั้นเลย ผู้อาวุโสและผู้จัดการที่ซ่อนอยู่ในใจก็พลันตื่นเต้นขึ้นมา
“เยี่ยม มันเข้ามาแล้ว!” ในใจพวกเขาอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น ตราบเท่าที่อี้เทียนหยุนเหยียบเท้าเข้ามาในนี้ เขาจะต้องถูกค่ายกลสังหารเทพนี้ฆ่าตายอย่างไม่ต้องสงสัย!