CLS ตอนที่ 263: พลังรบ 20 ล้าน!
พลังรบของบรรพชนป้าเหลยพลันพุ่งทะยาน สูงกว่าพลังรบแรกเริ่มของตนถึง 3 เท่า ยิ่งกว่านั้น ตัวเลขนี้ยังไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา ยังคงจะเพิ่มได้อีก! อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยพลังของเขาในตอนนี้ก็ได้สร้างแรงกดดันให้กับอี้เทียนหยุนแล้ว
“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นคนของอาณาจักรใต้พิภพหรือขุมอำนาจไหน แต่ในเมื่อเจ้ากล้าฆ่าเทียนเหลย เจ้าก็ต้องตาย!” บรรพชนป้าเหลยพูดออกมาอย่างโกรธแค้น น้ำเสียงราวกับสายฟ้าที่ผ่าลงมากลางแจ้ง
มีศิษย์หลายคนที่ยังคงอยู่ติดตามสถานการณ์ พวกเขาเห็นถึงพลังที่น่าหวาดกลัวของบรรพชนป้าเหลย แต่ก็ตกใจกับพลังของอี้เทียนหยุนเช่นกัน ในตอนที่บรรพชนเทียนเหลยถูกกระบี่เล่มนั้นผ่าครึ่ง เป็นภาพที่พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!
นี่คือบรรพชนของพวกเขา บรรพชนที่ร้ายกาจไร้เทียมทาน แต่กลับมาถูกเด็กหนุ่มคนหนึ่งฆ่า นี่มันยากเกินกว่าที่พวกเขาจะเชื่อได้?
อี้เทียนหยุนมองไปยังเขาอย่างเย็นชา บรรพชนป้าเหลยคนนี้มีพลังมากพอแล้วจริงๆ แต่ก็แค่ตอนนี้เท่านั้น
“ใช่ สำหรับข้าแล้ว วังเสินเหวินก็ต้องถูกกำจัดทิ้งวันนี้เช่นกัน!” เขาถือกระบี่หนักชิงเทียนขึ้นขวาง พร้อมกับรวบรวมพลังเอาไว้
“งั้นมาดูกันว่าใครจะถูกฆ่าตายก่อน!” บรรพชนป้าเหลยรวบรวมพลังเสร็จแล้ว เขาทำการแทงหอกในมือเข้ามา ภายใต้พลังของสายฟ้าที่เขาถือครองอยู่ มันได้ช่วยเพิ่มพลังให้กับเขาอย่างมาก ราวกับกลายเป็นสายฟ้า พลังทุกอย่างของเขาถูกรวมอยู่ในหอกเล่มนี้ แทงทะลุมายังที่นี่
“ประกายแสงสำเนียงอัสนี!”
“เปรี้ยง!”
พร้อมๆ กับเสียงฟ้าผ่า เขาทะยานเข้ามาพร้อมกับหอกในมือ ตัวหอกพลันเปลี่ยนเป็นมังกรสายฟ้า พุ่งทะยานเข้าใส่เขา ราวกับต้องการฉีกกระชากเขาทั้งเป็น
อี้เทียนหยุนในตอนนี้ไม่ได้เลือกที่จะทำการป้องกัน แต่กลับตวัดกระบี่หนักชิงเทียนออกไป พุ่งเข้าใส่บรรพชนป้าเหลย พร้อมกับฟันฉับลงไปอย่างแรง!
“ชิงเทียนสะบั้น!”
สายฟ้าโจมตีมาถึงตรงหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับกระบี่หนักในมือที่ฟันฉับออกไป ปะทะกับมังกรสายฟ้า ฟันลงบนร่างของบรรพชนป้าเหลย
“เคร้ง!”
เสียงปะทะกันดังมา อาวุธทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน ส่งเป็นเสียงดังลั่น ยังไงก็ตาม คราวนี้อี้เทียนหยุนเป็นฝ่ายที่ถูกทำให้ถอยออกมา พลังของบรรพชนป้าเหลยแข็งแกร่งมาก ยิ่งค่ายกลบนร่างยิ่งเปล่งแสงแสบตา ราวกับรวมเข้ากับความโกรธ ระเบิดเป็นพลังโจมตีที่ร้ายกาจเข้าใส่เขา
“ตายซะ!”
พริบตาที่การโจมตีถูกรับเอาไว้ได้ บรรพชนป้าเทียนก็พุ่งทะยานออกมาอีกครั้ง พริบตาก็มาปรากฏขึ้นใกล้ๆ ในจังหวะนี้ อี้เทียนหยุนยังคงไม่ยอมแพ้ หมุนตัวฟันกระบี่หนักชิงเทียนออกไป กะฟันร่างบรรพชนป้าเหลยออกเป็นสองส่วน!
“เคร้ง!”
แต่กระบวนท่านี้ยังคงถูกบรรพชนป้าเหลยป้องกันเอาไว้ได้ แต่คราวนี้อี้เทียนหยุนไม่ได้ถูกทำให้กระเด็นออกมาไกลนัก ภายใต้การโจมตีครั้งที่สอง ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ยังไงก็ตาม การเพิ่มขึ้นของพลังในคราวนี้กลับไม่มีความหมายอะไรต่อบรรพชนป้าเหลยแม้แต่น้อย
หลังจากป้องกันได้อีกครั้ง บรรพชนป้าเหลยก็เข่นฆ่ามาถึงตรงหน้า แทงหอกในมือออกมา ปลดปล่อยหัวมังกรสายฟ้าออกมา ทำให้หัวมังกรพุ่งขย้ำเข้าใส่เขา แต่ในขณะที่กำลังจะลงมืออยู่นั้น เกราะชิงเทียนก็พลันเปล่งแสงออกมา พร้อมกับก่อตัวเป็นโล่หนา ต้านทานการโจมตีนี้เอาไว้ ทำให้คมหอกที่กลายเป็นหัวมังกรไม่สามารถขยับมาข้างหน้าได้อีกแม้แต่น้อย!
ในช่วงวิกฤตนี้ เกราะชิงเทียนก็ได้สร้างการป้องกันขึ้น ก่อตัวเป็นโล่หนา ป้องกันการโจมตีนี้ไว้
“นี่มันอะไรกัน?” บรรพชนป้าเหลยรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถแทงต่อไปได้ ด้วยพลังที่แข็งแกร่งของตน กลับถูกป้องกันเอาไว้ได้อย่างไม่คาดคิด
โดยไม่รอให้เขาได้คิด อี้เทียนหยุนได้ฟันกระบี่ออกไปอีกครั้ง บรรพชนป้าเหลยก็ได้ทำการป้องกัน ก่อให้เกิดเสียงปะทะกันดังสนั่น “เคร้ง” คราวนี้บรรพชนป้าเหลยเป็นฝ่ายถูกทำให้ถอยกลับไปบ้างแล้ว
ภายใต้การปะทะพลังกันคราวนี้ พลังของอี้เทียนหยุนได้แข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายเล็กน้อย ภายใต้พลังที่เพิ่มขึ้น ทำให้เขาเหนือกว่าบรรพชนป้าเหลยนิดหน่อย!
“อีกครั้ง!”
อี้เทียนหยุนคำรามออกมา เหวี่ยงกระบี่หนักชิงเทียนในมือลงไปอีกครั้ง ขณะเดียวกัน บรรพชนป้าเหลยก็ได้โจมตีออกมาเช่นกัน แต่ก็ถูกโล่ของเกราะป้องกันไว้ ภายใต้เอฟเฟ็กของเกราะชิงเทียน ทำให้เขาไม่สามารถแทงเข้ามาได้
ภายใต้การปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง พลังโจมตีของอี้เทียนหยุนก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนต่อสู้ได้สูสีกับบรรพชนป้าเหลยอย่างไม่คาดคิด ในตอนนี้ สีหน้าของศิษย์ที่มองอยู่ได้พากันเปลี่ยนสี ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ร้ายกาจถึงขนาดต่อสู้ได้สูสีกับบรรพชนที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาได้?
บรรพชนของพวกเขามีพลังถึงระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุด ซึ่งอีกแค่ครึ่งก้าวก็จะเข้าสู่ระดับวิญญาณเที่ยงแท้แล้ว ทำไมถึงได้แพ้ต่อเด็กหนุ่มคนนี้?
“เคร้ง!”
หลังจากการโจมตีนี้ บรรพชนป้าเหลยก็ถูกส่งกระเด็นไป ในมือที่กำลังกุมด้ามหอกเริ่มสั่น การโจมตีของศัตรูเริ่มร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่การโจมตีของเขากลับไม่สามารถสร้างความเสียหายให้อีกฝ่ายได้แม้แต่น้อย ด้วยมีโล่คอยป้องกัน ทำให้เขาไม่สามารถโจมตีอีกฝ่ายได้ง่ายนัก
นี่ทำให้เขาพลันรู้สึกหวาดกลัว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาต้องถูกลากถ่วงจนตายอย่างแน่นอน แต่ไม่มีใครรู้ว่าอี้เทียนหยุนไม่ต้องการลากถ่วงเช่นกัน โล่ป้องกันนี้มีเวลาจำกัด ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะทำการโจมตีอย่างบ้าคลั่ง เพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเอง
“เป็นแค่เด็กรุ่นหลังแท้ๆ ช่างสามหาวนัก!” บรรพชนป้าเหลยคำรามกร้าวออกมา พร้อมกับเกิดการระเบิดขึ้นบนร่าง ตามมาด้วยเลือดที่ไหลอาบร่างท่อนบน ย้อมให้ร่างท่อนบนกลายเป็นสีชมพูอ่อน พลังของเขาได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ร่างกายขยายใหญ่ขึ้น ปลดปล่อยพลังสายฟ้าออกมาถึงขีดสุด
ถ้าก่อนหน้านี้ดูเหมือนกับเทพสายฟ้าแล้ว ตอนนี้ยิ่งดูเหมือนกับเทพสายฟ้ายิ่งกว่า
“ท่านบรรพชนเลือกที่ผลาญแกนโลหิตแล้ว ครั้งนี้เขาทุ่มสุดตัวจริงๆ……”
“หวังว่าท่านบรรพชนจะสังหารเจ้าสารเลวนี้ได้ ไม่อย่างนั้น วังเสินเหวินของเราคงต้องจบสิ้นแน่แล้ว!”
“บรรพชนปลดปล่อยพลังสมบูรณ์แบบแล้ว เขาจะต้องบดขยี้เจ้าเด็กนั่นได้อย่างแน่นอน!”
ผู้จัดการพวกนี้เชื่อมั่นในตัวบรรพชนของพวกเขาอย่างสุดใจ และความจริงก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ภายใต้การผลาญแกนโลหิตกับการปลดปล่อยพลังของค่ายกลบนร่าง พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้นใหญ่ นี่เหมือนกับผลของเม็ดยาคลุ้มคลั่ง แต่ผลของเม็ดยากลับมีขีดจำกัด นี่เป็นปัญหาของเม็ดยา ใช่ว่าจะแก้กันได้ง่ายๆ
ถ้าพลังฝึกตนต่ำ ผลลัพธ์ที่แสดงออกมาก็ต่ำ แต่ถ้าระดับฝึกตนสูง ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะสูงตาม
“ดีมาก เจ้าทำให้ข้าต้องใช้ทุกอย่างออกมา ข้าเข้าใจพลังอันเล็กจ้อยของเจ้าแล้ว ถึงเวลาต้องจบทุกอย่างเสียที!” บรรพชนป้าเหลยจับหอกในมือแน่น นัยน์ตามีสายฟ้าแล่นพล่าน พลังรบเพิ่มขึ้นช่วงใหญ่ จากพลังรบ 16 ล้าน เพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้าน!
เพราะการผลาญแกนโลหิตและการปลดปล่อยค่ายกล ทำให้พลังรบของเขาพุ่งขึ้นถึง 20 ล้าน ราวกับเปิดใช้งานโหมดคลั่งก็ไม่ปาน
อี้เทียนหยุนสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน ซึ่งแรงกดดันนี้มีขนาดใหญ่กว่าก่อนหน้านี้มาก นี่หมายความว่าความต่างระหว่างทั้งสองใหญ่ขนาดนี้เชียว? ซึ่งการจะเติมเต็มความต่างนี้ ตอนนี้เหมือนจะยากอยู่บ้าง
แต่ถึงจะกดดัน เขาก็ไม่ขลาดกลัว!