CLS ตอนที่ 280: เกะกะ!
“สาวน้อยนางนี้ช่างซื่อสัตย์จริงๆ ให้เปล่ายังจ่ายค่าของให้”
อี้เทียนหยุนตรวจสอบของที่อยู่ในแหวนวงนี้ เธอนี่ช่างซื่อสัตย์จริงๆ ให้ของเธอยังยอมจ่ายค่าของกลับมา ยิ่งกว่านั้น ราคายังเพียงพอที่จะซื้อหินวิญญาณหยกทั้งสองก้อนนั้นด้วย ของที่เธอเตรียมมานั้นไม่พอจริงๆ นั่นล่ะ ค่าของที่เธอเตรียมไว้ จำกัดแค่ 500 ศาสตราจิตวิญญาณขั้นต่ำ
แต่เมื่อมีเขาเข้าร่วม ทำให้ราคาทั้งหมดของหินวิญญาณหยกทั้ง 6 ก้อนพุ่งขึ้นเป็น 850 ศาสตราจิตวิญญาณขั้นต่ำ การที่เธอมอบ 500 ศาสตราจิตวิญญาณขั้นต่ำทั้งหมดให้ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงจะคิดว่าเธอเป็นคนโง่อย่างแน่นอน
“ผู้หญิงคนนี้ยังอายุไม่เท่าไหร่ก็ออกมาหาตัวช่วยแล้ว….. ถ้าเกิดถูกคนจับไป ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง” อี้เทียนหยุนส่ายหัว คิดเล็กน้อย แล้วเดินออกมา
แม้ว่าการปลอมตัวจะทำให้เธอดูเหมือนอายุมาก แต่จากการตัดสินของอี้เทียนหยุนแล้ว ผู้หญิงคนนี้อย่างมากก็อายุไม่เกิน 20 ปี ที่สำคัญเลยคือเหมือนกับยังไม่คุ้นเคยกับโลกภายนอก ไม่รู้จักต่อรอง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนิสัยดี หรือเป็นเพราะใสซื่อเกินไปกันแน่
เพิ่งจะเดินออกมาก็เห็นว่าหลี่ห้าวกำลังมองไปที่ด้านนอก ไม่รู้ว่ากำลังมองอะไร
และเมื่อหลี่ห้าวเห็นอี้เทียนหยุนเดินออกมา เขาก็พลันแสยะยิ้มออกมา ไม่สนใจเขา แต่กลับเลือกที่จะเดินจากไป
“คงไม่ใช่ว่าส่งคนไล่ตามผู้หญิงคนนั้นไปหรอกนะ?”
อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว จากนั้นก็รีบตามไปอย่างรวดเร็ว คนพวกนี้จับตาดูเขาอย่างเข้มงวด ตราบเท่าที่มีใครติดต่อกับเขา พวกเขาจะต้องตามไปหาเรื่องอย่างแน่นอน การที่พวกเขาอยู่ในห้องส่วนตัวกันสองต่อสองเมื่อครู่นี้ หลี่ห้าวคงจะเดาว่าเขาต้องส่งของให้กับผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ ดังนั้นจึงได้ส่งคนตามเธอไปทันที แต่เมื่อขณะที่เขาตามออกไป ที่ด้านนอกกลับไม่เห็นเงาคนสักคน
เห็นได้ชัดว่าหลี่ห้าวหนีไปเร็วมาก คงจะไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าตนไปทางไหน
อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มแสยะออกมา “คิดจะเล่นเล่ห์กับข้าอย่างงั้นเหรอ ยังอ่อนนัก!”
เขาไม่สนใจหลี่ห้าว แต่ตัดสินใจตามไปทางที่ผู้หญิงคนนั้นไป ผู้หญิงคนนั้นตอนนี้เพิ่งจะได้หินวิญญาณหยกไป จึงได้รีบร้อนจากไป ไม่ได้คิดที่จะอยู่ต่อแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าเป็นสถานการณ์ที่เหมือนมีของสำคัญ จึงได้จากไปอย่างรวดเร็ว
“ไปทางไหนนะ…….”
อี้เทียนหยุนหรี่ตาม พร้อมกับใช้ดวงตาประเมินสำรวจรอบๆ ทันที เขาไม่คิดจะใช้ดวงตาในการค้นหาเธอ แต่จะค้นหาพลังวิญญาณ เมื่อใช้ร่วมกับดวงตาประเมิน ทำให้ผลลัพธ์ของมันยิ่งน่าตื่นตะลึงขึ้นไปอีก อย่างรวดเร็วเขาก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นได้ออกนอกเมืองไปแล้ว พร้อมกับขึ้นขี่อินทรียักษ์ เตรียมจะบินไปจากที่นี่
แต่ก็ยังไม่เร็วพอ เพียงผู้หญิงคนนี้เพิ่งจะออกนอกประตูเมืองไป ก็พลันถูกจับตัวได้ในทันที
คนที่หลี่ห้าวส่งออกไปก็ไม่ได้ช้า ไล่ตามเธอได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับขวางผู้หญิงคนนั้นไว้
“นี่ ไม่ทราบว่าคุณหนูคนนี้กำลังจะไปที่ไหนอย่างงั้นเหรอ?” ขณะที่หญิงสาวเตรียมจะจากไป ลูกน้องของหลี่ห้าวก็พลันมาขวางหน้าเธอไว้ พร้อมกับจับอินทรียักษ์ของเธอไว้ ทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
“หญิงสาวพลันหน้าเปลี่ยนสี พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “พวกเจ้าจะทำอะไร ข้าไม่รู้จักพวกเจ้า!”
“เจ้าย่อมไม่รู้จักเราอยู่แล้ว แต่เจ้าต้องรู้จักเจ้าหนูนั่นแน่ แค่นี้ก็พอแล้ว” สวี่เฟิงพูดขึ้น “ข้าว่าเจ้ารีบส่งของที่ได้จากเจ้าหนูนั่นมาแต่โดยดีดีกว่า ไม่ว่าเจ้าจะได้อะไรจากมัน ให้ส่งมาให้หมด! ไม่อย่างนั้น…… ฮี่ฮี่ อย่ามาโทษหากพวกเราไม่เกรงใจ!”
พวกเขาตอนนี้อยู่นอกเมือง ไม่อยู่ในพื้นที่ป้องกันของตำหนักซิงเฉิน ดังนั้นพวกเขาจะทำอะไร จึงไม่จำเป็นต้องสนใจตำหนักซิงเฉิน
“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าพูดถึงอะไร เขาไม่ได้ให้อะไรข้าทั้งนั้น!” หญิงสาวสีหน้าเหมือนซีดลงไป เห็นได้ชัดว่ากำลังร้อนใจ
“ไม่ได้ให้อย่างงั้นเหรอ ถ้างั้นก็ให้พวกเราค้นดู แค่นี้ก็รู้แล้ว” สวี่เฟิงยิ้มอย่างชั่วร้าย พร้อมกับเตรียมขยับเข้าไปหารถบิน พร้อมกับให้เพื่อนอีกสองคนคอยอยู่รอบๆ เทียบกับเธอแล้ว ระดับของพวกเขาแข็งแกร่งกว่า
หญิงสาวสีหน้าจมลง ในมือพลันปรากฏยันต์ขึ้นสองใบ พร้อมกับปาออกไปด้านข้าง โดยที่ไม่รอให้สวี่เฟิงเข้ามาใกล้ ทันใดนั้นเสียง “ตูม” ก็ดังขึ้น ยันต์ทั้งสองระเบิดออกกลางอากาศ ปล่อยคลื่นอัดอากาศที่น่าสะพรึงสองลูก ทำการระงับไม่ให้มีสิ่งไหนเข้ามาใกล้บริเวณรอบๆ
แรงระเบิดมีพลังพอๆ กับระดับหลอมรวมขั้นสูงสุด คนที่เข้ามาขวางเธอทั้งสามคนพลันถูกระเบิดจนปลิวออกไป พร้อมกับรับบาดเจ็บหนัก ไม่คิดเลยว่าหญิงสาวคนนี้เพียงแค่เริ่มลงมือก็เล่นของหนักซะแล้ว
“ไป!”
หญิงสาวรีบสั่งให้อินทรียักษ์ออกตัว หลังจากอินทรียักษ์ร้องออกมา มันก็มันพลันกระพือปีกบินขึ้นไป แต่เพิ่งจะบินมาได้ไม่ไกล ก็พลันมีฝ่ามือขนาดใหญ่ตบลงมา ฝ่ามือนับไม่ถ้วนฟาดลงมาบนร่างของอินทรียักษ์ตัวนี้ “ตูม” ทำให้อินทรียักษ์ตัวนี้ถูกตบจนกลายเป็นกองเลือดไปโดยตรง กระทั่งเสียงร้องก่อนตายยังไม่ทันได้เปล่งออกมา
“เสี่ยวอิง!” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่เพราะด้วยอินทรียักษ์ได้ตายไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถบินต่อไปได้อีก เธอจึงทำได้เพียงกระโดดลงมาจากรถบินโดยไว ก่อนที่จะลงถึงพื้นอย่างปลอดภัย
“นี่คือยันต์ระเบิดเทวะอย่างงั้นเหรอ!?” หลี่ห้าวที่บินอยู่มองมาที่เธออย่างเย็นชา “เจ้าเป็นคนของเผ่าภูต!”
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น ไม่ยอมพูด เธอสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าสะพรึงของหลี่ห้าว ทำให้เธอรู้สึกกลัวจนไม่สามารถขยับได้
“ต่อให้ไม่พูดก็เปล่าประโยชน์ ยันต์ระเบิดเทวะนี้เป็นยันต์ที่มีความพิเศษเฉพาะ ไม่มีใช้กันในโลกภายนอกทั่วไป ยิ่งกว่านั้น พลังของมันยังน่าสะพรึงกลัวอีกด้วย นอกจากเผ่าภูตแล้ว ก็ยากที่จะมีใครสร้างยันต์ชนิดนี้แล้วออกมาทรงพลังอย่างนี้ได้…..” หลี่ห้าวมองเธออย่างหยาบช้า จากนั้นก็พลันหัวเราะออกมา “ไม่คิดว่าจะมาเจอคนของเผ่าภูตอยู่ที่นี่ กลับไปกับข้า เพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ของเจ้ากำลังรอเจ้าอยู่มากมายในที่ของข้า!”
พูดจบ หลี่ห้าวก็พลันยื่นมือมา ส่งพลังระดับผันแปรวิญญาณออกมา พร้อมกับแรงกดดันมหาศาลเข้าใส่ผู้หญิงคนนี้ อึดใจต่อมา หญิงสาวคนนี้ก็พลันดึงยันต์ออกมา พร้อมกับแปะเข้าที่ร่างของตน ก่อนที่จะกลายเป็นสายลมหอมหนึ่งพุ่งเข้าไปทางประตูเมือง
เธอต้องการเข้าไปหลบในเมือง เพื่อจะให้ตำหนักซิงเฉินปกป้องเธอ
“อย่างโง่น่า ซ่อนไปก็เปล่าประโยชน์! ทุกคนรู้ว่าพวกเรามีสิทธิ์ทำยังไงกับเผ่าภูตก็ได้ เจ้าคิดว่าตำหนักซิงเฉินจะกล้าช่วยเจ้าอย่างงั้นเหรอ?” หลี่ห้าวหัวเราะ พร้อมกับร่างที่บินมา หวังจะจับผู้หญิงคนนี้ให้เร็วที่สุด พริบตา เขาก็โผล่ขึ้นขวางหน้าเธอ พร้อมกับยื่นมือไปทางเธอ ด้วยพลังที่ปล่อยออกมา ทำให้สะกดผู้หญิงคนนี้ ทำให้เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้!
เพราะระดับที่ต่างกันมากเกินไป เพียงแค่แรงกดดันที่ปล่อยออกมาก็เหมือนกับถูกกดทับด้วยน้ำหนักมากกว่า 10,000 จิน ทำให้ไม่สามารถขยับได้
“คนของอาณาจักรใต้พิภพ…. เจ้าต้องตายเยี่ยงสุนัข!” หญิงสาวร้องออกมา พร้อมกับหยิบยันต์ขึ้นมา จากนั้นก็แปะเข้าที่หัวของตน เห็นได้ชัดว่าต้องการฆ่าตัวตาย
“คิดฆ่าตัวตาย อย่าได้หวัง!” หลี่ห้าวแค่นเสียงออกมา พร้อมกับยื่นมือเข้าไปอย่างรวดเร็ว หวังจะขโมยยันต์แผ่นนี้
ยังไงก็ตาม ยังไม่ทันที่มือของเขาจะไปถึง ก็พลันมีพลังมหาศาลส่งมาจากด้านหลังของเขา “ปัง” พร้อมกับถีบเขาจนกระเด็น กลิ้งหลุนๆ ไปหลายสิบตลบ ขณะที่ส่วนหลังยุบลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ ไม่รู้ว่ากระดูกหักไปกี่มากน้อย
“เกะกะ” ในตอนนี้เอง ก็ได้มีเด็กหนุ่มเดินออกมาจากประตู ขณะที่ใบหน้าแสดงความดีใจออกมาอยู่หลายส่วน “สาวน้อย อย่าได้รีบร้อนอย่างนั้น อย่ามาตายเพราะไอ้ลูกสำส่อนนี่ มันไม่คุ้ม”
“เจ้า เป็นเจ้า!” เมื่อหญิงสาวเห็นอี้เทียนหยุนก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา