CLS ตอนที่ 296: เก็บกวาด
อี้เทียนหยุนที่อยู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นทำให้พวกเขาตกใจกลัว ไม่รู้ว่าอี้เทียนหยุนปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่
“ใครกัน…. หืม? ไม่ใช่เผ่าภูตนี่?” เมื่ออู๋เผิงเห็นอี้เทียนหยุนก็ทำการมองสำรวจเขาตั้งแต่บนลงล่าง จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้ามาจากไหน หรือว่าจะหลงเหมือนกับพวกเรา แต่บังอาจทำให้ข้าตกใจ…. พวกเจ้าจัดการมันซะ”
อยู่ๆ ก็มาทำให้พวกเขาตกใจ ดังนั้นอู๋เผิงจึงไม่พอใจอย่างมาก แค่หลงทางก็ไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีไอ้งั่งโผล่มาอีก ทั้งยังหลงทางเหมือนกันด้วย แต่การที่มาทำให้เขาตกใจ โทษของมันคือตาย!
“ครับ ท่านอู๋!” ผู้ทรยศแห่งเผ่าภูตรีบตอบรับทันที พร้อมกับหันมาอย่างโกรธเกรี้ยว “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใครมาจากไหน แต่จงเสียใจซะเถอะ วันนี้เจ้าจะ….”
“ปัง!”
ผู้ทรยศแห่งเผ่าภูตคนนี้พลันปลิวกระเด็นไป หลังจากกระตุกอยู่ไม่กี่ทีก็ไร้ซึ่งลมหายใจ
“ติ๊ง ท่านสังหารผู้ทรยศแห่งเผ่าภูตสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 350,000, ค่าความคลั่ง 3,600, ค่าความชั่ว 200, ค่าความชำนาญในการสลักอาคม 800! ได้รับท่าเท้าเทียนหลิง, เพลงหมัดเทียนหลิง, ได้รับพู่กันเทียนหลิง(ระดับจิตวิญญาณขั้นกลาง), กระดาษยันต์ทรราช(หายาก)”
สังหารทิ้งในพริบตา ไม่มีการอ่อนข้อแม้แต่น้อย
“อืม เมื่อกี้เจ้าพูดอะไรนะ?” อี้เทียนหยุนมองไปยังศพที่กองกับพื้น แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “โทษที เผอิญข้าได้ยินพวกเจ้าพูดตั้งแต่ต้น ได้ยินว่าพวกเจ้ากำลังหลงทางอยู่ ไอ้ข้าก็คิดจะช่วยนำทางพวกเจ้าออกไปจากที่นี่ แต่ใครจะคิดว่าพวกเจ้ากลับคิดจะฆ่าข้า….. เมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าคงต้องฆ่าพวกเจ้าทิ้งแล้วล่ะ!”
อึดใจต่อมา เขาก็พุ่งเข้าใส่ในทันที พร้อมกับยกเท้าถีบใส่ผู้ทรยศแห่งเผ่าภูต กระทั่งทหารของอาณาจักรใต้พิภพก็ถูกถีบกระเด็นไปเช่นกัน หลังจากถูกลูกถีบของจนหน้าวัดพื้นไปครั้งหนึ่ง ก็ไม่มีใครที่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
“หยุดมือซะ!”
หลังจากอู๋เผิงเห็นฉากนี้ เขาก็ทะยานเข้ามาด้วยความโกรธ พร้อมกับชักดาบอสูรโลหิตฟันลงมาที่นี้ ลำแสงสีโลหิตถูกยิงขึ้นไปบนฟ้า พร้อมกันนั้นก็ปรากฏภาพโครงกระดูกนับไม่ถ้วนที่ถือดาบอสูรปรี่เข้ามา จนป่าแห่งนี้กลายเป็นแน่นขนัด ไม่รู้ว่าดาบอสูรโลหิตนี้ควบแน่นแกนโลหิตไว้มากมายแค่ไหน ถึงได้แสดงพลังออกมาได้ถึงขนาดนี้
การโจมตีนี้ถือได้ว่ารุนแรงอย่างมาก นอกจากลำแสงสีโลหิตนี้จะโจมตีอี้เทียนหยุนแล้ว ลำแสงสีโลหิตนี้ยังสาดซัดไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่สามารถทำให้ต้นไม้ต้นนั้นเกิดรอยขีดข่วนได้แม้แต่น้อย ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้เปลือกแข็งมาก คิดจะตัดมันจำเป็นต้องใช้แรงไม่ใช่น้อยๆ ถ้าคิดจะตัดจริงๆ ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่
“มหาเวทดูดดาว!”
อี้เทียนหยุนยื่นมือออกไป ทำการดูดกลืนลำแสงโลหิตที่มีภาพกองทัพโครงกระดูกอยู่ข้างในเข้ามา เปลี่ยนให้เป็นค่าประสบการณ์เข้าไปในร่างของเขา การโจมตีนี้สำหรับเขาแล้ว ไม่ได้มีความท้าทายแม้แต่น้อย
“ถ้าไม่หยุดแล้วจะทำไม?”
อี้เทียนหยุนหัวเราะ จากนั้นร่างของเขาก็เข่นฆ่าไปจนถึงด้านหน้าของอีกฝ่าย ความเร็วของเขาหากเทียบกับอู๋เผิงคนนี้แล้วเหนือกว่ามาก ด้วยมือเปล่าๆ แต่ไม่ใช่หมัดที่ไร้พลังอย่างแน่นอน เขาทำการปลดปล่อยพลังของสายเลือดเทพมังกรออกมา ในช่วงพริบตาที่ต่อยหมัดนี้ออกไป!
“เปรี้ยง!”
อู๋เผิงถูกซัดจนปลิว ก่อนที่จะกระแทกใส่ต้นไม้ใหญ่ ภายใต้แรงกระแทกที่รุนแรงนี้ ทำให้เปลือกของต้นไม้มีรอยแตกเล็กน้อย ส่วนที่หน้าอกของอู๋เผิงในตอนนี้ ได้ปรากฏเป็นหลุมยุบลงไป ภายใต้พลังหมัดที่ป่าเถื่อน มีน้อยคนนักที่ต้านทานได้
“แค่ก…..”
อู๋เผิงตกลงมาที่พื้น พร้อมกับนั้นก็กระอักเลือดออกมา ขณะที่สติของเขาก็เริ่มพร่าเลือน
“ถึงว่าทำไมถึงแข็งนัก ที่แท้ก็สวมชุดเกราะดีๆ ไว้นี่เอง” อี้เทียนหยุนรู้สึกเจ็บมือเล็กน้อย แต่หมัดนี้ของเขาก็น่าสะพรึงจริงๆ ขนาดยังไม่เปิดใช้งานโหมดคลั่ง ก็เล่นเอาอู๋เผิงอยู่ในสภาพครึ่งตายแล้ว
แต่ต่อให้สวมชุดเกราะระดับจิตวิญญาณขั้นสูงไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะด้วยหมัดที่มีพลังจนทำให้เขาอยู่ในสภาพครึ่งตาย ต่อให้เป็นของระดับจิตวิญญาณขั้นสูง พลังที่แข็งแกร่งของเขาก็สามารถเจาะทะลุเข้าไปได้อยู่ดี
“ทะ ท่านอู๋…..” ผู้คุ้มกันและผู้ทรยศเผ่าภูตที่เหลืออยู่ต่างก็พากันตัวสั่น มองมาที่อี้เทียนหยุนด้วยท่าทางตื่นตระหนก “เจ้า เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังสังหารใคร เขา เขาเป็นถึงท่านอู๋แห่งอาณาจักรใต้พิภพ เจ้าได้ตอแยอาณาจักรใต้พิภพเข้าให้แล้ว!”
“ต่อให้เจ้าพูดอะไรมาก็เปล่าประโยชน์ คิดจะใช้อาณาจักรใต้พิภพมาขู่ข้า คิดว่าข้าตาบอดหรือไงถึงได้ไม่รู้ว่าเครื่องแบบที่พวกเจ้าใส่อยู่เป็นของขุมอำนาจไหน?” อี้เทียนหยุนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “ท่านนักบุญหญิงของข้า ทำไมเจ้าถึงไม่ลงมืออีก?”
น้ำเสียงของเขาเพิ่งจบลง แสงสีเงินก็เปล่งประกายออกมา ผู้คุ้มกันทั้งหลายต่างก็ถูกแช่แข็งกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งในพริบตา พร้อมกันนั้นก็มีแส้สีเงินถูกเหวี่ยงออกมา “เปรี้ยง” ทำลายรูปปั้นน้ำแข็งพวกนั้น! แค่ลงมือก็โหดเหี้ยมกันสุดๆ ไม่มีใครคิดว่านี้จะเกิดจากน้ำมือของผู้หญิง ช่างสังหารได้เลือดเย็นนัก!
ส่วนผู้ทรยศของเผ่าภูตนั้นยังไม่ได้ตายไป พวกเขาถูกแช่แข็งครึ่งร่าง ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ด้วยพลังที่ความเย็นที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถแช่แข็งพวกเขาได้ในพริบตา!
“ท่าน ท่านนักบุญหญิง….” เมื่อผู้ทรยศเผ่าภูตเห็นเย่ชิงเสวียนปรากฏตัว พวกเขาก็พลันหวาดกลัวจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง
“ยังมีหน้ามาเรียกข้าว่านักบุญหญิงอีกเหรอ? พวกเจ้าคิดว่าตัวเองยังมีสิทธิ์ที่จะเรียกข้าแบบนี้อีกอย่างงั้นหรือไง?” เย่ชิงเสวียนมองไปที่พวกเขาพร้อมกับพูดอย่างดูถูกว่า “วางใจเถอะ คนทรยศอย่างพวกเจ้า ข้าจะกำจัดทิ้งให้หมด ถือเป็นการชำระล้างครั้งใหญ่ให้กับเผ่าภูต!”
“ทะ ท่านนักบุญหญิง นี่ นี่จะโทษพวกเราไม่ได้! เป็นผู้อาวุโสเหลยหยุนที่ปลุกปั่นพวกเรา ยิ่งกว่านั้น ถ้าหากพวกเราไม่ติดตามเขา พวกเราก็จะต้องตาย…..” ผู้ทรยศเผ่าภูตคนนี้ส่งเสียงอ้อนวอนออกมาไม่หยุด เขายังไม่อยากตาย
“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่ออย่างงั้นเหรอ?” เย่ชิงเสวียนสะบัดแส้สีเงินในมืออย่างแรง ฟาดใส่ร่างผู้ทรยศเผ่าภูตคนนั้นจนปลิวกระเด็นไป พร้อมกับท่อนล่างที่แตกเป็นเสี่ยงๆ
หลังจากถูกแช่แข็ง ทำให้ร่างกายกลายเป็นเปราะบางมาก เพียงแค่ถูกแส้สีเงินฟาดลงไป ก็ทำให้ร่างกายแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว
ผู้ทรยศเผ่าภูตคนนั้นร้องโหยหวนออกมา พร้อมกับเลือดที่สาดกระจายออกมาไม่หยุด ก่อนที่จะตกลงพื้นพร้อมกับดิ้นทุรนทุราย
“ชิหยุนอัน มีความสัมพันธ์อันดีกับเหลยหยุน ช่วยจัดการเรื่องราวให้กับเหลยหยุนอยู่หลายครั้ง กระทั่งช่วยเหลยหยุนทำเรื่องชั่วร้าย ลงโทษคนในเผ่าเดียวกัน แม้แต่ตอนที่เหลยหยุนเข้าร่วมกับอาณาจักรใต้พิภพ ก็ติดตามเหลยหยุนไปโดยไม่ลังเล แถมยังช่วยจับกุมผู้ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นของเผ่าไปอีกด้วย” เย่ชิงเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ในเมื่อข้าคือนักบุญหญิงของเผ่าภูต แน่นอนว่าข้าจะต้องไม่ทำเรื่องที่ผิดต่อคนในเผ่า และจะไม่ปล่อยผู้ทรยศไปอย่างเด็ดขาด!”
หลังจากชิหยุนอันได้ฟัง หน้าก็กลายเป็นซีดขาว ความผิดของเขาถูกสาธยายออกมา ต่อให้อยากจะปฏิเสธ ก็ไม่มีทางปฏิเสธได้
“อ๊ากกก!”
เย่ชิงเสวียนฟาดแส้ลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า มอบความสุขให้ชิหยุนอันอย่างสาสม มอบความตายที่ทรมารให้กับเขา
หลังจากที่สังหารชิหยุนอันแล้ว นัยน์ตาคู่งามของเย่ชิงเสวียนก็ไม่ได้มีร่องรอยแห่งความสุข มีแต่ความเจ็บปวดที่คงอยู่ จริงอยู่ที่ชิหยุนอันเป็นคนทรยศ แต่ไม่มีใครอยากจะฆ่าเผ่าเดียวกันหรอก โดยเฉพาะเผ่าภูตที่มีประชากรไม่มากด้วยแล้ว ไม่มีใครหวังให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
อี้เทียนหยุนยืนมองอยู่ข้างหลังโดยไม่พูดอะไร เขารู้ว่าในใจของเย่ชิงเสวียนต้องรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วก็ทำได้เพียงแค่เผชิญหน้ากับมันเท่านั้น