CLS ตอนที่ 299: ข้าต้องการ 2 ชีวิต!
พลังของเหลยหยุนไม่ได้ผิดไปจากที่อี้เทียนหยุนคาด ถ้าเหลยหยุนไม่แข็งแกร่ง คงเป็นไปไม่ได้ที่จะปลุกปั่นเผ่าภูต และได้รับการยอมรับจากอาณาจักรใต้พิภพ
ที่สำคัญเหลยหยุนยังถือว่าอยู่ในช่วยวัยฉกรรจ์ การที่มีพลังถึงระดับนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เหลยหยุนในวัย 30 ปี ก็เป็นถึงนักสลักอาคมระดับต้าซือ ยิ่งกว่านั้นยังมีพลังถึงระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 7 เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าอีกฝ่ายนับว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง
แต่ว่าอัจฉริยะคนนี้กลับกลายเป็นคนทรยศ ถือเป็นความโชคร้ายของเผ่าภูตจริงๆ
นอกจากเหลยหยุนแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกคน ซึ่งคนผู้นี้ก็มีพลังระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 6 ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับเหลยหยุน โดยที่เขาก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นต้าเฉินของอาณาจักรใต้พิภพที่ติดตามมาเพื่อช่วยเหลยหยุนทำลายค่ายกล ทั้งยังคอยควบคุมเหลยหยุนอีกทางหนึ่ง แม้ว่าเหลยหยุนจะเข้าร่วมกับอาณาจักรใต้พิภพแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่เชื่อใจเต็มที่ ดังนั้นจึงได้ส่งคนของตัวเองมาเข้าร่วมการทำลายเผ่าภูตนี้ด้วย
สามารถพูดได้ว่าคนสำคัญของกลุ่มนี้มีอยู่ด้วยกันสองคน หนึ่งคือเหลยหยุน และอีกคนก็คือต้าเฉิน แต่เรื่องนี้สำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องสำคัญ ต่อให้เหลยหยุนจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาจะแข็งแกร่งได้เท่ากับบรรพชนของวังเสินเหวินยังงั้นเหรอ?
“ไม่ยอมออกมาอย่างงั้นเหรอ? คิดว่าค่ายกลสัมผัสพิศวงจะกักขังข้าได้หรือไง?” เหลยหยุนหัวเราะเยาะ ทันใดนั้นก็ทำการกระทืบเท้าอย่างแรง ขณะที่ในมือมีสายฟ้าวิ่งพล่าน กระโจนเข้ามายังที่นี่อย่างรวดเร็ว
“เปรี้ยง!”
สายฟ้าในมือเขาระเบิดออกมา วิ่งทะลุผ่านต้นไม้ทั้งหลายตรงเข้ามาที่นี่ด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะระเบิดออกโดยที่ไม่ให้พวกเขาได้ทันตั้งตัว
สีหน้าเย่ชิงเสวียนพลันเปลี่ยนไป แต่ในขณะที่จะสะบัดแส้เพื่อทำลายสายฟ้านี้ ก็ได้มีมือใหญ่ห้ามเธอไว้เสียก่อน พร้อมกันนั้นก็ยื่นมือออกไป ปะทะกับสายฟ้าที่พุ่งเข้ามา!
“ดูเหมือนว่าค่ายกลสัมผัสพิศวงจะใช้กับเขาไม่ได้ผลนะ” อี้เทียนหยุนเหวี่ยงแขนออกไปเบาๆ ราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่
พวกเขาเห็นฝ่ามือของอี้เทียนหยุนปะทะกับสายฟ้าที่พุ่งเข้ามาโดยที่ไม่เป็นอะไร กระทั่งขนสักเส้นยังไม่บาดเจ็บ แม้ว่าพลังของสายฟ้าจะไม่รุนแรงมาก แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน แต่เมื่อปะทะกับฝ่ามือของอี้เทียนหยุนกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
“มีผู้ช่วยจริงๆ สินะ ทั้งดูเหมือนจะไม่อ่อนแอเท่าไหร่?” เสียงของเหลยหยุนลอยมา พร้อมกับนำผู้คนเดินตรงมาที่นี่
เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถเห็นพวกเขาจริงๆ ไม่อย่างงั้นคงไม่มีทางโจมตีมาได้ถูก หรือไม่งั้นก็เพราะว่าอาณาเขตแห่งนี้ถูกพวกเขาทำลายแล้ว ดังนั้นลืมเรื่องการลอบสังหารไปได้เลย
“เหลยหยุนคุ้นเคยกับที่นี่ ดังนั้นค่ายกลสัมผัสพิศวงจึงไม่ได้ผลกับเขา แต่ก็แค่กับอาณาเขตเล็กๆ เท่านั้น ก่อนหน้านี้ที่ค่ายกลสัมผัสพิศวงเสียหาย เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ต่อให้ค่ายกลจะถูกซ่อมแซมแล้ว แต่เขาก็ยังสามารถสัมผัสถึงสิ่งต่างๆ รอบๆ ได้อยู่ ดังนั้นการจะลอบสังหารเขาคงจะเป็นไปไม่ได้” สีหน้าของเย่ชิงเสวียนดำคล้ำลง ผลลัพธ์นี้เป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง การเผชิญหน้าตรงๆ กับเหลยหยุนถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก
เหลยหยุนมีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งมาก ทั้งยังเป็นถึงนักสลักอาคมระดับต้าซือ แม้ว่าค่ายกลจะไม่ถูกทำลาย แต่ก็ไม่ส่งผลอะไรกับอีกฝ่าย
“ใจเย็น ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าไม่เคยคิดที่จะลอบโจมตีสักหน่อย” อี้เทียนหยุนส่งยิ้มสบายๆ ออกมา ขณะที่ในมือปรากฏคันศรน้ำค้างแข็งเทวะขึ้น พร้อมกับปลดปล่อยความเย็นสุดขั้วออกมา ทำให้เย่ชิงเสวียนที่อยู่ใกล้ๆ พลันตาเป็นประกาย เธอก็เป็นผู้ฝึกตนธาตุน้ำแข็งเช่นกัน ดังนั้นจึงสัมผัสถึงมันได้อย่างดี
หลังจากคันศรน้ำค้างแข็งเทวะปรากฏ เขาก็พลันยกคันศรขึ้นน้าวสายอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปรากฏศรน้ำค้างแข็งเทวะขึ้นในมือของเขา เขาทำการจ่าย 5,000 ค่าความคลั่งเพื่อใช้งานน้ำค้างแข็งพิโรธในทันที!
“ไป!”
นัยน์ตาทั้งสองข้างของอี้เทียนหยุนปรากฏแสงเย็นชา ก่อนที่จะปล่อยศรน้ำค้างแข็งเทวะออกไป ทุกที่ที่ศรผ่าน ล้วนแต่กลายเป็นน้ำแข็ง ก่อนที่จะเข้าใกล้เหลยหยุนด้วยความเร็วขีดสุด!
เหลยหยุนหน้าเปลี่ยนสี พร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง “หลบเร็ว!”
เหลยหยุนหลบออกด้านข้างเป็นคนแรก แต่ต้าเฉินที่อยู่ใกล้ๆ กลับหลบได้ไม่เร็วเท่า เพราะทันทีที่เสียงของเหลยหยุนดังออกมา ก็ปรากฏว่าศรน้ำค้างแข็งเทวะได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาแล้ว ขณะที่พวกเขากำลังจะหลบนั้น น้ำค้างแข็งพิโรธก็ได้ทะลุผ่านร่างของพวกเขา ก่อนที่จะระเบิดร่างพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ!
“ปัง!”
พายุหิมะที่น่าสะพรึงพลันถูกยิงขึ้นฟ้าไปพร้อมๆ กัน ก่อให้เกิดเป็นพายุหิมะขึ้นรอบๆ หลังจากที่พายุสงบลง ที่อาณาเขตไกลออกไปกลับปรากฏเป็นดินแดนน้ำแข็งขนาดใหญ่ เหมือนกับว่าพายุหิมะเมื่อกี้นี้ได้ทำการแช่แข็งที่แห่งนี้ไว้
“ติ๊ง ท่านสังหารต้าเฉินของอาณาจักรใต้พิภพ มู่หยุน สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 390,000, ค่าความคลั่ง 4,600, ค่าความชั่ว 200, ได้รับวิชา เคล็ดวิชาใต้พิภพ, ฝ่ามือพลิกสวรรค์, ได้รับไอเทม กระบี่เยว่เทียน, รองเท้าศึกเทียนอวี่, เม็ดยาค่าประสบการณ์ 100,000”
“ติ๊ง ท่านสังหารผู้ทรยศเผ่าภูตสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 240,000, ค่าความคลั่ง 3,100, ค่าความชั่ว 100, ค่าความชำนาญในการสลักอาคม 400, ได้รับ……”
“ติ๊ง ท่านสังหาร…..”
เพียงแค่ดอกเดียว เขาก็สังหารคนส่วนใหญ่รวมไปถึงต้าเฉินจนร่างระเบิดไป นี่เป็นเรื่องที่ธรรมดาอยู่แล้ว ศรดอกนี้อี้เทียนหยุนได้ใช้โหมดคลั่งหมวดพลังโจมตียิงออกไป เมื่อระเบิดออก จึงทำให้พวกเขาพากันร่างแหลกกระจัดกระจาย ต่อให้ไม่ตายก็ต้องถูกทำให้เป็นประติมากรรมน้ำแข็ง
“นี่ นี่มันร้ายกาจขนาดนี้เชียว!?”
ผู้เชี่ยวชาญของเผ่าภูตที่ติดตามอยู่ข้างหลังพลันได้สติ ไม่คิดว่าศรดอกนี้จะก่อให้เกิดดินแดนน้ำแข็งขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง แต่จากความเย็นที่ยังสัมผัสได้ ก็ทำให้พวกเขารู้แล้วว่าศรดอกนี้นั้นน่าสะพรึงขนาดไหน ถ้าพวกเขาโดนเข้าไป จะต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย!
เย่ชิงเสวียนตกใจจนตาโต ก่อนหน้านี้เธอรู้อยู่แล้วว่าอี้เทียนหยุนต้องร้ายกาจมาก แต่ไม่คิดว่าจะร้ายกาจขนาดนี้
อึดใจต่อมา อี้เทียนหยุนที่สีหน้าเย็นชาก็ได้ยกคันศรน้ำค้างแข็งเทวะขึ้น ก่อนจะยิงศรเบี่ยงออกไปอีกด้าน ก่อให้เกิดลำแสงสีฟ้าตัดทะลุผ่านไป
“เคร้ง!”
ศรถูกเบี่ยงออกไป ในขณะเดียวกันก็ปรากฏร่างของคนที่มีสายฟ้าวิ่งพล่านปรากฏขึ้น ไม่รู้ว่าเหลยหยุนเข้ามาถึงตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ถึงจะลอบเข้ามาได้ แต่ก็ถูกอี้เทียนหยุนมองเห็น ทั้งยังโจมตีสวนกลับไป!
“เปรี๊ยะ เพล้ง…..” บนร่างเหลยหยุนปรากฏชั้นน้ำแข็งเกาะ แต่ก็ถูกสายฟ้าที่วิ่งพล่านอยู่ทั่วร่างทำลายไป โชคดีที่เขารับเอาไว้ทัน ไม่อย่างนั้นศรน้ำแข็งคงจะทะลุร่างของเขาไป!
“เจ้าเป็นใครกัน เป็นคนของสำนักไหน!?” หลังจากเหลยหยุนสูดหายใจหนักๆ เขาก็จ้องมาที่อี้เทียนหยุนเขม็ง ไม่กล้าผ่อนคลาย ถ้าต้องเจอกับศรแบบเมื่อกี้อีกล่ะก็ นั่นคงเป็นปัญหาแล้ว
“ก็ต้องเป็นคนของเผ่าภูตอยู่แล้วสิ มีอะไร?” อี้เทียนหยุนส่งยิ้มสบายๆ ออกไป
“เป็นไปไม่ได้! เจ้าไม่ใช่คนของเผ่าภูต!” เหลยหยุนถลึงตาใส่เขา “เผ่าภูตให้เจ้าเท่าไหร่ถึงทำให้เจ้ายอมช่วย! ข้าจะให้เจ้าสองเท่า ไม่สิ สามเท่าก็ได้ มากกว่าที่เผ่าภูตจ่ายให้เจ้าเสียอีก!”
“เจ้ามีปัญญาจ่ายอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนแสร้งเป็นสนใจกับข้อเสนอของเขา
“แน่นอน เบื้องหลังข้ามีอาณาจักรใต้พิภพอยู่ เจ้าต้องการอะไร ข้ามีให้เจ้าทุกอย่าง!” เมื่อเหลยหยุนเห็นอี้เทียนหยุนมีท่าทางตื่นเต้นก็พลันแสดงสีหน้าดีใจออกมา
เผ่าภูตคนอื่นต่างพากันหน้าเปลี่ยนสี มนุษย์คนนี้คิดจะเปลี่ยนข้างอย่างงั้นเหรอ? พวกเขารีบพากันหันไปมองเย่ชิงเสวียน แต่ปรากฏว่าเย่ชิงเสวียนยังคงมีสีหน้าไม่ใส่ใจ เหมือนกับไม่กังวลเลยสักนิด
“ตกลง ข้าต้องการ 2 ชีวิต หนึ่งคือชีวิตของเจ้า อีกหนึ่งคือชีวิตของจักรพรรดิใต้พิภพ ถ้าเจ้าให้สองสิ่งนี้กับข้า ข้าจะทำตามคำสั่งของเจ้าในทันที!” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มไม่แยแส