CLS ตอนที่ 310: ชั่วช้า
“ปล่อยตัวทุกคนอย่างงั้นเหรอ?” เย่ชิงเสวียนตกใจ
“ใช่แล้ว ปล่อยทุกคน เมื่อเป็นอย่างนี้ ทุกคนก็จะเอาแต่หาทางหนีกันให้วุ่น เมื่อถึงตอนนั้น ความวุ่นวายก็จะบังเกิด เป็นโอกาสดีที่พวกเราจะได้ทำลายคุกใต้พิภพนี้ทิ้งเสีย ดูสิว่าคราวนี้พวกมันจะยังทำชั่วได้อีกไหม!” สายตาของอี้เทียนหยุนเป็นประกายชั่วร้าย “กุญแจในคุกนี้พวกเราไม่มี แต่พวกผู้คุ้มกันย่อมต้องมีอย่างแน่นอน”
เนื่องจากผู้ฝึกตนที่ถูกขังในกรงนี้มีพลังค่อนข้างต่ำ ดังนั้นพวกผู้คุ้มกันที่รับหน้าที่ดูแลคุกส่วนนี้ย่อมต้องมีกุญแจอยู่กับตัวอย่างแน่นอน
“วิธีนี้ดีมาก แต่การปล่อยให้พวกเขาวิ่งมั่วๆ อย่างนั้น อาจจะทำให้พวกเขาถูกฆ่าเอาได้…..” เย่ชิงเสวียนคิดว่าวิธีนี้ออกจะโหดร้ายอยู่บ้าง จริงอยู่ว่าวิธีนี้อาจจะสร้างความวุ่นวายได้ แต่พวกเขาก็ต้องพบกับหายนะอยู่ดี
เนื่องเพราะพลังไม่สูงพอ เพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อแกนวิญญาณก็พร้อมที่จะจัดการพวกเขาได้อย่างไม่หนักแรงแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่โหดเหี้ยมอย่างมาก
“ข้าพูดตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะใช้วิธีการโหดร้ายอย่างนั้นกับพวกเขา” อี้เทียนหยุนส่ายหัว “ก่อนจะปล่อยทุกคนออกมา แน่นอนว่าย่อมช่วยเหลือเผ่าภูตออกมาก่อน เพราะถ้าปล่อยทุกคนออกมาก่อน มันจะเป็นการแจ้งเตือนแก่ฝ่ายศัตรู หลังจากจัดการปัญหาของเราแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยปล่อยผู้ฝึกตนที่เหลือออกมา ซึ่งผู้ฝึกตนพวกนี้ แน่นอนว่าย่อมเป็นศัตรูกับอาณาจักรใต้พิภพ เมื่อนั้น จำนวนของฝ่ายเราก็จะมีมากกว่าอีกฝ่าย!”
อี้เทียนหยุนยิ้มอย่างเย็นชา ที่นี่ขังผู้ฝึกตนไว้มากมายนัก สามารถจินตนาการได้เลยว่าหากผู้ฝึกตนทุกคนถูกปล่อยออกมา เมื่อนั้น ความขุ่นเคืองใจที่ได้รับจากอาณาจักรใต้พิภพจะต้องระเบิดออกมาอย่างแน่นอน
เขาทำได้เพียงปล่อยพวกเขาออกมาเท่านั้น ส่วนหลังจากนี้พวกเขาจะเป็นยังไงนั้น เขาไม่มีสิทธิ์ไปจัดการ
“นี่…. ถ้าอย่างนั้น พวกเรารีบไปจากที่นี่กันเลยแล้วกัน เขตกักกันวิญญาณอยู่ไม่ไกลจากนี้แล้ว” เย่ชิงเสวียนพาอี้เทียนหยุนเดินชิดกำแพงไปตามทาง รอบๆ มีหัวหน้าผู้คุ้มกันระดับก่อแกนวิญญาณอยู่ ดังนั้น การลอบเข้าไปนี้จึงไม่มีทางที่จะถูกอีกฝ่ายพบได้
อย่างราบรื่น โดยไร้ซึ่งอุปสรรค ในที่สุดพวกเขาก็ลอบผ่านออกมาได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับเข้าใกล้เขตใหม่ ที่นี่ก็เป็นเหมือนกับเขตก่อนหน้า ในนี้มีห้องขังอยู่มากมาย เพียงแต่ผู้ฝึกตนที่ถูกขังอยู่ในนี้ต้องได้รับการคุ้มกันเป็นพิเศษ
พวกเขาไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงใช้ชีวิตอยู่ในนี้เท่านั้น
ในขณะที่พวกเขากำลังเตรียมจะผ่านเขตนี้ไป ทันใดนั้น ประตูด้านหน้าก็เปิดออก พร้อมกับมีผู้ฝึกตนระดับก่อแกนวิญญาณเดินออกมา ยังไงก็ตาม เพิ่งจะเดินออกมาได้แค่ไม่กี่ก้าว ลำแสงสีแดงก็ปรากฏวาบขึ้นใกล้ๆ พร้อมกับแทงทะลุเข้าไปในหน้าอกของเขา
“ฉึก!”
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อแกนวิญญาณคนนั้นดิ้นสักพัก จากนั้นก็ไร้ซึ่งลมหายใจ
“ติ๊ง ท่านสังหารผู้คุ้มกันคุกใต้พิภพสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 270,000, ค่าความคลั่ง 3,400, ค่าความชั่ว 200, ได้รับวิชากรงเล็บคุกปีศาจ, สับให้แหลก, ได้รับไอเทม กระบี่เป้าลี่, เม็ดยาฟื้นฟู”
นอกจากผู้คุ้มกันคนนี้ก็ไม่มีใครอีก เขาทำการลากร่างอีกฝ่ายเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรีบปิดประตูลง หลังจากปิดประตูเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ทำการเดินแนบชิดกำแพงเพื่อไปยังเขตต่อไปอย่างรวดเร็ว
“ความสามารถของเจ้าช่างเชี่ยวชาญนัก…..” เย่ชิงเสวียนรู้สึกพูดไม่ออก ความสามารถในการลอบสังหารนี้ถือเป็นระดับชั้นหนึ่งเลยทีเดียว ขณะที่เธอเพิ่งจะรู้ตัว อี้เทียนหยุนก็ทำการจัดการอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว
“ก็แค่งั้นๆ ….. แต่ถ้ามีคนเกิน 3-4 คน อย่างนั้นพวกเขาคงทำได้แค่หลบไปก่อน!” ก่อนหน้านี้อี้เทียนหยุนก็อยากจัดการกับผู้คุ้มกัน 5 คนนั้นเหมือนกัน ที่นี่มีห้องอยู่มากมาย หลังจากสังหารพวกนั้นแล้ว เขาสามารถลากอีกฝ่ายเอาไปซ่อนไว้ข้างในได้ ทำให้ยากที่จะหาเจอ
แต่เนื่องจากพวกเขามีคนมาก เขาจึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถจัดการพวกเขาทั้งห้าได้ในทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องฆ่าโดยที่ไม่เกิดเสียงด้วย ถ้าเกิดพวกเขาสังเกตเห็นล่ะก็ ผู้คุ้มกันพวกนั้นจะต้องทำการแจ้งออกไปอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น แผนการของพวกเขาก็จะยากลำบากขึ้น เพราะงั้น ถ้ามีกันแค่คนสองคนแบบนั้นจะจัดการง่ายกว่า เพราะเขามั่นใจว่าจะสามารถจัดการอีกฝ่ายได้โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว ไม่ให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสแจ้งไปให้ผู้คุ้มกันคนอื่นๆ รู้
“ไม่มีปัญหา!” เย่ชิงเสวียนพยักหน้า เธอก็มีความตั้งใจแบบนี้เช่นกัน
ถ้าอี้เทียนหยุนไม่จัดการผู้คุ้มกันคนนั้นก่อน เย่ชิงเสวียนก็จะเป็นคนลงมือเอง ผู้คุ้มกันพวกนี้ล้วนแต่เป็นสวะมาเกิด แต่ละคนล้วนแต่เป็นพวกที่ใจคอโหดเหี้ยม เห็นได้ชัดจากค่าความชั่วที่ได้มาหลังจากสังหาร มีผู้ฝึกตนมากมายต้องรับเคราะห์จากฝีมือพวกมัน ดังนั้นค่าความชั่วที่ได้จึงมากเป็นธรรมดา
หลังจากวางแผน พวกเขาก็เริ่มการกำจัดในทันที หลังจากส่งสัมผัสวิญญาณออกไป เมื่อพบว่าห้องไหนมีผู้คุ้มกันอยู่ พวกเขาก็จะเปิดประตูเข้าไปจัดการอีกฝ่ายในทันที มีแต่ทำอย่างนี้ การหลบหนีของพวกเขาจึงจะปลอดภัยขึ้น ทั้งยังช่วยให้ผู้ฝึกตนที่พวกเขาจะปล่อยหลังจากนี้มีโอกาสรอดมากขึ้นด้วย
หลังจากเดินมาได้สักพัก พวกเขาก็มาเจอกับเส้นทางที่มีการขวางกั้นไม่ให้เข้าไป
“เตรียมตัวไว้ เขตถัดไปนี้ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่…..” เย่ชิงเสวียนเคยมาที่นี่มาก่อน แต่ว่าหลังจากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เธอไม่แน่ใจ
หลังจากนั้น ขณะที่พวกเขาทำการเดินเข้าไปยังเส้นทางที่นำไปยังเขตถัดไป กลิ่นของเลือดที่เข้มข้นก็โชยออกมา พร้อมกับเสียงร้องโหยหวนที่ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
พวกเขาพากันยื่นหัวออกไปดู ที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขาคือกรงขังแต่ละกรง ในนั้นมีผู้ฝึกตนที่ต้องประสบกับเรื่องราวที่บ้าคลั่ง บ้างก็ถูกทรมานด้วยเครื่องมือต่างๆ ไม่ก็ต้องถูกเล่นงานด้วยพิษร้ายนานาชนิด ที่กำลังกัดกร่อนร่างกายของพวกเขาไม่หยุด
อี้เทียนหยุนกวาดตามองพวกเขา ผู้ฝึกตนพวกนี้ล้วนแต่มีระดับที่ไม่ต่ำเลย แต่ละคนล้วนมีพลังไม่ต่ำกว่าระดับก่อแกนวิญญาณ ส่วนพวกที่มีพลังสูง มีพลังถึงระดับผันแปรวิญญาณเลยด้วยซ้ำ!
“ที่นี่เป็นที่คุมขังไว้เพื่อทรมาน ไม่รู้ว่าท่านบรรพชนอยู่ในนี้ด้วยหรือเปล่า!?” ในใจเย่ชิงเสวียนรู้สึกเครียด สายตาเธอมองกวาดไปด้านหน้า แต่ก็ไม่เห็นว่ามีห้องขังไหนที่มีร่างท่านบรรพชนอยู่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอวางใจ คงต้องไปดูที่เขตอื่น
ยังไงก็ตาม การที่ต้องมาเห็นคนจำนวนมากถูกทรมานอย่างนี้ก็ทำให้ในใจของเธอบีบรัด คนของอาณาจักรใต้พิภพรพวกนี้จะโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ทรมานพวกเขาเพื่อเค้นความลับจากปากของอีกฝ่าย หลังจากที่อีกฝ่ายอ่อนกำลัง ก็จะใช้วิชาครวญวิญญาณเข้าไปซ้ำ
วิชาครวญวิญญาณนี้ไม่ได้ใช้งานง่ายขนาดนั้น ถ้าหากใช้ตอนที่พลังวิญญาณของอีกฝ่ายยังแข็งแกร่งอยู่ ก็ยากที่จะได้ความลับอะไรมาก
“เจ้าพวกสารเลวนี่! นั่นมันผู้อาวุโสใหญ่ของวังเฉาเทียน(พลิกสวรรค์)….. นั่นก็ผู้อาวุโสของวังฟ่านเทียน(นิพพาน), นั่นก็ผู้อาวุโสวังเลี่ยนตาน(กลั่นโอสถ)…. แล้วยังมีบางคนที่เป็นผู้อาวุโสจากตระกูลใหญ่ ที่แท้พวกเขาก็ถูกจับตัวมาเพื่อเค้นความลับนี่เอง!” เย่ชิงเสวียนกัดริมฝีปากแน่น หวังว่าตัวเองจะสามารถเข้าไปสังหารพวกมันได้
มีบางขุมอำนาจที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเผ่าภูต นี่ทำให้เธอโกรธเป็นอย่างมาก
ในตอนี้เอง อี้เทียนหยุนก็ได้ยื่นมือเข้ามาปลอบเธอ ขณะที่สายตาเต็มไปด้วยจิตสังหารไม่ต่างกัน “หลังจากช่วยพวกบรรพชนได้ พวกเราจะสังหารพวกมันทิ้งให้หมด ทำลายคุกใต้พิภพแห่งนี้ทิ้งซะ!”
“อืม!” เย่ชิงเสวียนพยักหน้ารับแรงๆ แล้วพูดว่า “ด้านหน้าเป็นเขตกักกันวิญญาณแล้ว เผ่าภูตของพวกเราจะต้องถูกขังอยู่ในนั้น ไม่มีทางเป็นที่อื่นอย่างแน่นอน!”
“ที่นี่คงต้องปล่อยไปก่อน เมื่อถึงเวลา พวกเราจะทำลายคุกใต้พิภพนี้ทิ้งอย่างแน่นอน!” อี้เทียนหยุนได้เห็นถึงความโหดเหี้ยมของอีกฝ่ายมาตลอดทาง แต่กลัวว่านี่จะเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งเพียงเท่านั้น